AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 78

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 78 “ความสุขที่ซ่อนเร้น!?...นางฟ้าที่เผยโฉม!?” 

“...ยะ...ยอม...ยอมแล้วครับ!!!...หยุดซะทีเถอะ...คะ...คุณแข็งแกร่ง” “งั้นจงมอบเอกสารนั่นมา” “เอ่อ--” “ส่งมา” “มัน...มันอยู่ที่เลขาของผม” “อยู่ที่ไหน?” “อ๊ากกกกกกกกกก~~” “นี่จ้ะ...แม่เอามาให้แล้ว...เขากำลังจะเตรียมหนีพอดีเทียว” “โธ่เอ๊ย~~...ใช้ไม่ได้เลยนะแก!!!” “อุ!!!...ผม...ผมโดนเข็มเสียบเท้าเลยหนีไม่ได้ครับ~~” “เจ้าหน้าที่ใกล้จะมาแล้ว...เราปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาเถิด” “ขอรับ”
“.......................................................” “ท่านแม่” “?” “วิชาซัดเข็มเมื่อสักครู่...ยังน่ากลัวเหมือนเช่นเคยนะขอรับ” “แต่ระดับนี้หลานป้อมก็คงทำได้แล้วล่ะกระมัง?” “แม้ยามนี้เธอกับอ๋อมจะกำลังพากเพียรฝึกฝนงานแม่บ้านแม่เรือนอยู่ก็ตาม...เอ่อท่านแม่...ข่าวที่ได้รับเมื่อเช้า...จะว่าอย่างไรดีขอรับ?” “หลานเอกคเชนทร์ประสบอุบัติเหตุขาหักน่ะหรือ?” “อย่างน้อยเราสมควรจะไปเยี่ยมเพื่อแสดงน้ำใจ” “...นั่นสินะ...ลูกเอ้พูดมีเหตุผล” “.........................................................” “ก็ดี...ไปเยี่ยมหลานเอกคเชนทร์กัน” ...................................................................................................................................................... “รีบหายไวๆแล้วกลับไปแต่งงานกับฉันซะที...อ๋อม” “...................................................” “ป้อมก็รอที่จะเป็นเจ้าสาวของพี่ชายอยู่นะคะ” “เว้ย!!...เขียนแบบนี้ได้ยังไงน่ะ?...ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยสักนิด” “แล้วทีพี่ฝนเขียนเล่า!!!” “...เอาเมจิคมานี่!!!” “ไม่ให้!!” “โอ๊ย~~...พอกันซะทีแล้วก็หยุดเขียนอะไรบ้าๆบอๆที่เฝือกของฉันด้วย!!!” ...โรคประสาทจะแดกห่-ผมตั้งแต่ยามเช้าวันรุ่งขึ้นทีเดียว!!!!...ทันทีที่รู้ข่าวว่าผมประสบเหตุตกบันไดขาหัก(ไม่รู้ใครเสือกปล่อยข่าว?)ทั้งอ๋อมและน้องป้อมก็รีบออกจากโยนกจัตุรัสมาเยี่ยมถึงโรงพยาบาลแล้วก็คอยเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ห่างร่วมกับฝน...อันที่จริงผมสมควรจะดีใจแต่ไปๆมาๆกลับเครียดยิ่งกว่าเก่าเพราะทั้งสามสาวแทบไม่เว้นเวลาโต้เถียงหรือบลั๊ฟใส่กันเลย... (ว่าแต่ที่บอกว่าขออนุญาตก่อนออกมานี่จะจริงหรือเปล่า?) “อะไรฟะ?...คนอุตส่าห์มาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง” “แต่ไม่เห็นจะต้องเขียนอะไรบนเฝือกฉันนี่นา” “ที่ไหนเขาก็ทำทั้งนั้น...อวยพรให้หายไวๆไง” “อ๋อม...เธอนี่มัน...เธอนี่มัน...” “โฮ่~~...เขินก็บอกมาเหอะ!!” “ฮึ่ย!!” “พี่ฝนก็เขียนแล้วยังจะมาพูดดี...ดูสิๆ...หายไวๆนะที่รักขา~~...ทั้งเลี่ยนทั้งคลื่นไส้ชะมัดเล้ย!!!” “ยัยตัวกะเปี๊ยกไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์น๊ะ!!” “หมาหวงก้าง~~” “พูดงี้มาเจอกันเลยดีกว่านังหนูอกแบน!!!” “กรี๊ดดดดดดดดด~~...เอาเซ่ๆ” “เสียมู้ดหมด...ที่นี่โรงพยาบาลนะโว้ย!!!” (อ๋อม...เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ!!) “ฉันเลือกห้องไม่ผิดจริงๆ” “...ศรเพทาย” “นึกอยู่แล้วว่าพวกเธอมาเมื่อไหร่เป็นได้เอะอะโวยวายแน่ฉันถึงจัดห้องพักเฉพาะที่อยู่ห่างๆชาวบ้านเขาไงล่ะ...รบกวนอาจารย์ด้วยนะคะ...เฮ่!!...ลุกไปนั่งตรงโซฟาโน่น...คุณหมอจะตรวจอาการ” “ค่า~~” “เชอะ!...ทำเป็นวางท่า” “เห็นด้วยค่ะ” “ฮะๆ...ความจริงผมไม่ต้องทำก็ได้เพราะคุณหมอรักษาได้เยี่ยมเลยเชียวละ!!...นี่ขนาดไม่ได้เชี่ยวชาญด้านกระดูกนะเนี่ย” “ชมเกินไปแล้วค่ะ...อย่างไรก็ต้องให้แผนกศัลยกรรมกระดูกรับผิดชอบอยู่แล้ว” ...กลืนไม่เข้าคายไม่ออกคือความรู้สึกของผมยามนี้...ทำไมคนที่รักษาผมจะต้องเป็นพี่เซคด้วยนะและวิธีที่เจ้าหล่อนทำเมื่อคืนก็ยังสร้างความข้องใจให้ผมอยู่ตลอดเพราะเท่าที่รู้มาว่าการรักษาขาหักส่วนใหญ่คือผ่าตัดไม่ใช่เหรอ?... (มันผ่านมาแล้วก็ป่วยการที่จะบ่นน่ะนะแต่เหมือนกับพี่เซคทำลงไปด้วยอารมณ์ความสะใจของตัวเองยังไงก็ไม่รู้?...เมื่อคืนนี่แม่คุณเล่นฉุดดึงกระดูกขาเราอย่างไม่รีรอเลยสักนิด...เจ็บเป็นบ้า!!!) “ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหมครับ?” “เอ่อ--...ก็ยังปวดๆอยู่แต่เบากว่าเมื่อคืน...หมอครับ...ผมอยากถาม” “?” “คือว่า...วิธีรักษาของพี่เซค...อ่า--...หมอศรเพทายน่ะ...มัน...” “อ้อ!!...ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับเพราะขาที่หักของคุณไม่ได้ร้ายแรงขนาดจะต้องผ่าตัด” “ไม่ร้ายแรง?” “คือร้ายแรงอย่างเช่นว่าถ้ามีเลือดออกมากหรือกระดูกที่หักแทงทะลุออกมานอกเนื้อนั่นแหละครับที่จะต้องทำการผ่าตัดโดยด่วน” “......................................................” “ส่วนเคสของคุณเอกคเชนทร์นั้นแค่กระดูกหักและเกยกันอยู่ภายใน...ดูมือผมนะครับ...มันมาซ้อนกันอย่างนี้” “อ๋อ~~” “ทั้งที่คุณขาหักแต่กลับบาดเจ็บน้อยมากถ้าเทียบกับรายอื่นที่เคยเจอ...ดูจากภาพเอ็กซ์เรย์ผมนี่ประหลาดใจมากเลย” ...แสดงว่าผมมีโอกาสที่จะหายเร็วและกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมทุกอย่างนับว่าสวรรค์ยังเข้าข้างจริงๆที่ไม่กลายเป็นคนพิการหรือแข้งขาบิดเบี้ยวไป...ใช่แล้วที่ลืมไปไม่ได้!!!!...ถ้าพี่แคทไม่กระโดดตามมาช่วยผมแล้วมันจะเป็นอย่างไรกันนะ?... (ไม่แน่ว่าเราอาจจะถึงตายเลยก็ได้ล่ะมั้ง?) “หยาดฝน...พี่สาวคนเก่งของเธอไปไหนทำไมยังไม่มา?” “ไปเรียนค่ะ...อีกเดี๋ยวก็จะมารับหนู” “ดี--...จะได้ไม่มีใครมาขวางหนูกับพี่อ๋อม” “หา?” “ทีนี้เราก็จะได้จู๋จี๋กับพี่ชายโดยไม่มีก้างขวางคอไงเคอะ” “หนอยแน่ะ~~...ไม่มีทางร้อก!!!” “เอาอีกแล้ว!!...เกรงใจคุณหมอเขามั่งจะได้มั้ยเนี่ย?” “หากมันรบกวนมากนักงั้นฉันจะพาบอลกลับโยนกทักษิณซะเดี๋ยวนี้!!!...ขืนอยู่กับพวกเธอสองพี่น้องต่อไปก็ไม่รู้ว่าบอลจะเจอเรื่องเจ็บตัวอะไรอีกบ้าง?” “พี่อ๋อมพูดแบบนี้...หมายความว่ายังไงกัน?” “ไม่ต้องแปล...ครั้งนี้ขาหักและครั้งต่อไปจะอะไรดี?...ต้องให้ถึงคอหักเลยใช่มั้ย?” “..................................................” “พี่ฝนกับพี่แคทเคยรับปากพวกเราอย่างแข็งขันว่าจะดูแลพี่ชายให้ดีที่สุดนี่คะแต่สุดท้ายพี่ชายก็ยังเจ็บตัวอีกจนได้...บอกตามตรงว่าป้อมชักไม่เชื่อมือพี่ๆสองคนซะแล้วสิ” “แต่หากเมื่อคืนพี่แคทไม่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วย...บอลอาจจะตายไปแล้วก็ได้” “หึ!!...อย่างไรซะบอลไปอยู่กับพวกฉันก็ปลอดภัยกว่าแน่ๆ” “ดูจะมั่นอกมั่นใจซะเหลือเกิน...เอาอะไรมาเป็นหลักประกันไม่ทราบคะ?” “พอทีๆ...พวกเธอหัดถามฉันมั่งเถอะ” “......................................................” “......................................................” “......................................................” “ผมจะนอนดูอาการที่นี่อีกคืนหนึ่งตามคำแนะนำของคุณหมอ...ศรเพทาย...ใช่ไหมครับ?” “อืม--...นี่คือคำสั่งของแพทย์” “ชิ!...ยัยซกมกแอบจิตหมายเลขหนึ่ง” “ได้ทีทำเป็นวางท่าใหญ่โตเชียวพี่เซค” “เลิกแขวะพี่สักทีแล้วก็ออกไปข้างนอกปล่อยให้คนไข้พักผ่อนบ้าง...ตั้งแต่พวกเธอมาที่นี่ก็เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันตลอด...มันรบกวนคนอื่นเข้าใจไหม?” “หล่อนไม่ต้องมาสั่งสอน!!” “เข้าใจแล้วๆ...ไปก็ไปสิคะ” “น้องฝนมากับพี่หน่อยนะ...มีอะไรจะคุยด้วย” “ค่ะ” “ถ้ามีอะไรก็กดปุ่มเรียกพยาบาลได้เลยนะครับ” “ครับ” “ยาแก้ปวดกับยาแก้อักเสบยังออกฤทธิ์อยู่...พักผ่อนให้มากๆล่ะ...คุณชายหก” (จะไปก็ยังไม่วายพูดสวนกลับประชดประชันเราอีกแฮะ!?...แล้วคนที่กระจายข่าวน่ะจะใช่คุณหมอจอมกวนนี่ด้วยหรือเปล่าหว่า?...อื๋อ?...ที่เขียนอยู่ตรงน่องด้านหลังนี่มัน...หายไวๆแล้วก็รีบไปมุดกระโปรงผู้หญิงซะ...ไอ้บ้ากามเสียงแปดหลอด) “ยะ...ยัยหมอซกมกแอบจิต!!!!...มัน...มันแอบเขียนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?” .............................................................................................................................................. “เอ๋!?...ก็เราขาหักอยู่ไม่ใช่เหรอแล้วไหงถึงเดินได้?...เออ!!...ขยับได้คล่องแคล่วเชียว” “หึฮื่อ~~...นึกว่าใครหลงทางมาซะอีก?” “!?” “ที่แท้ก็พ่อจอมเจ้าชู้ของหนูนี่เอง” “นะ...หนูริน!!!!” ...เด็กหญิงที่เคยออกตัวว่าเป็นบุตรสาวที่ถือกำเนิดจากผมกับฝนมาปรากฏกายให้เห็นอีกครั้ง...คราวนี้เธอนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้โดยกำลังกินอะไรสักอย่างด้วย!?...ผมปลาบปลื้มดีใจที่ได้พบกับแม่หนูน้อยอีกแต่ก็กังวลใจเพราะกลัวเธอจะพลาดตกลงมา... “ลงมาหาพ่อเถอะ” “ไม่!!” “ทำไมล่ะ?” “รินโกรธพ่อ!” “กะ...โกรธพ่อเรื่องอะไร?” “ไม่บอก!!” (อะไรกันหว่า?) “นั่นพ่อจะทำอะไรน่ะ?” “ก็ขึ้นไปรับลูกลงมาข้างล่างไง” “หนูขึ้นได้ก็ต้องลงได้สิคะ” ...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหนูรินไม่พอใจอะไรแต่ผมไม่อยากเห็นเธออยู่บนที่สูงจึงจัดแจงปีนต้นไม้ทั้งๆที่ไม่ใช่งานถนัดเพื่อขึ้นไปรับซึ่งทีแรกเด็กหญิงไม่ยอมให้จับแต่ผมพยายามคว้าตัวพาลงมาจนได้... “ไงจ๊ะนางฟ้าตัวน้อยของพ่อ!!...โกรธที่พ่อไม่มาหาเหรอ?” “.................................................” “จริงๆซะด้วย!...แหม~~...งอนเก่งเหมือนแม่นะเนี่ย?” “หนูโกรธนะไม่ใช่งอน!!” “เหมือนกันนั่นแหละ--” “อ๋า!...รินไม่อยากเดิน~~” “หึๆๆๆ...อูยๆๆ...หยิกพ่อทำไมเล่า?” “หัวเราะหนูเรอะ?...นี่ๆๆ” “โธ่~~...เด็กขี้เหงาเอ๊ย!...อยากจะให้พ่ออุ้มก็บอกมาตรงๆสิจ๊ะ” “.................................................” “ยังจะหยิกอีก...พ่อเจ็บนะ!!” “สม!...รู้ทันหนูดีนัก” “ฮ่าๆๆๆๆ” ...อ้อนเก่งผิดคาดแฮะลูกสาวผมคนนี้?...พออุ้มและพาเดินเล่นเข้าหน่อยก็อมยิ้มออกมาได้แต่อุ้มเด็กวัยเจ็ดขวบด้วยมือเดียวนี่ถือว่ายังเป็นของใหม่สำหรับผมเลย... “อืม” “?” “โตเป็นสาวเมื่อไหร่นี่พ่อคงปวดหัวน่าดู” “ทำไมอ่ะ?” “เพราะหนูจะต้องสวยน่ารักจนมีหนุ่มตามมาถึงบ้านชนิดหัวกะไดไม่แห้งน่ะสิ” “แล้วพ่อเคยได้ยินเขาพูดกันป่ะ?...คนเจ้าชู้มักจะมีลูกสาวสวยๆ” “...นั่นสิ...อา...” “พ่ออยากถามอะไรจ๊ะ?” “คือ...ตกลงพ่อจะมีลูกกี่คนเหรอ?” “.....................................................” “คงจะไม่ได้มีหนูรินคนเดียวหรอกใช่ไหม?” “...ประมาณนั้นค่ะแต่หนูบอกไม่ได้” “อ้าว?” “พ่อต้องได้พบเองซะก่อนแล้วพวกเธอถึงจะบอกอย่างที่ได้พบกับหนูนี่ไง” “พวกเธอ...ลูกสาวอีกแล้วสิ?” “คิ...ลูกสาวและก็ลูกสาว” “มะ...ไม่มีลูกชายเลยเรอะ?” “ไม่บอก~~” “หนูริน” “ฮะๆๆๆ...ถ้ารินพูดซะก่อนก็จะโดนดุแน่...อ้ำ!!” ...โดนดุ?...งั้นแสดงว่าหนูรินรู้จักเด็กคนอื่นอยู่แล้วและเหตุผลที่พูดไม่ได้นั้นผมก็พอจะเข้าใจ...ว่าแต่แม่หนูน้อยกินอะไรอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้?...พอสังเกตดูดีๆก็เหมือนกับข้าวที่ปั้นเป็นก้อนๆมีสีเหลืองเข้มโตขนาดเหรียญสิบได้มั้ง?... “ของโปรดหนูเลยละ!!” “...ข้าวเปล่าๆเนี่ยหรือ?” “ค่ะ” “มันอร่อยหรือจ๊ะ?” “อร่อยมากค่ะ...พ่อลองชิมดูไหม?” “กะ...กินได้เหรอ?” “หนูป้อนให้...อ้าม~~” (เพื่อไม่ให้ลูกสาวเสียน้ำใจจึงรับมาเข้าปากก้อนนึง...เอ๊ะ?...จืดสนิทไม่มีรสชาติอะไรเลยสักนิด!?...ไม่สิ...พอกลืนลงท้องไปมันก็รู้สึกเหมือนกับไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก) “เอ่อ--...พ่อว่ามัน...จืดไป” “ไม่รู้รสใช่ไหมคะ?” “ยังกับกินน้ำหรือข้าวเปล่าๆจืด...หอมก็ไม่หอม...ไม่มีกลิ่นอะไรอีกด้วยนะ” “แต่ถ้าพ่อหยิบเองก็จะไม่ได้กินเลยค่ะ...แค่จับก็จะหายไปเลย” “เพราะอะไร?” “เพราะไม่ใช่ของพ่อไงล่ะคะ...นี่เป็นอาหารเฉพาะสำหรับหนูและความจริงมันมีรสชาติที่อร่อยล้ำเลิศมากๆ...กินเข้าไปเพียงหนึ่งก้อนก็จะอิ่มท้องไปถึงสามวันสามคืนโดยที่ไม่ต้องแตะอาหารหรือน้ำใดๆเลยก็ได้” “ขะ...ขนาดนั้นเชียวเรอะ?” “หงึ!!...พ่อไม่เชื่อหนูหรือไง?” “เปล่าๆ...แต่เมื่อกี้ที่รินบอกว่าถ้าพ่อหยิบเองแล้วมันจะหายไป?” “ค่ะ” “งั้นทำไมพ่อถึงเคี้ยวได้?...อืม--...ถึงแม้กลืนลงท้องไปแล้วจะรู้สึกว่างเปล่าก็เถอะ” “หากเจ้าของซึ่งก็คือหนูต้องการให้พ่อย่อมจะได้กินค่ะแต่ต้องป้อนเข้าปากนะ” (ถึงว่าสิ!!...เมื่อกี้เลยส่งเข้าปากเราโดยตรงนี่เอง) “สงสัยพ่อจะไม่มีวาสนาได้รู้รสอร่อยของมัน” “แต่กินเข้าไปก้อนเดียวแค่นี้พ่อก็จะหายเจ็บเร็วขึ้นแล้วจ้ะ” “หายเจ็บ?” “อย่างเช่นพ่อโดนแม่ฝนเตะมาก็จะหายเจ็บเร็วขึ้นไง” “อ๋อ!!...ฮะๆๆ...เอ๋?” ...ไหงๆจู่สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปที่จากทุ่งหญ้าเขียวชะอุ่มกลายเป็นป่าไม้ใบหนาทึบที่แทบจะมองไม่เห็นทางเดิน?...ผมชักเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยจะหันหลังกลับแต่ลูกรินท้วงขึ้นว่า... “ช้าไปแล้วค่ะ...เราหลงเข้ามาจนได้” “นี่เป็นถิ่นของใครกัน?...อุ๊บ!!!” (เสียงอะไรเนี่ยดังชะมัด!?) “คึ!!...โกรธมากจริงๆด้วยสินะ?” “หนูริน...ที่นี่อันตรายพ่อจะพาหนูออกไป!!!” (โอ๊ยแสบแก้วหูเหลือเกิน!!!!...มันคล้ายกับเสียงคำรามของสัตว์ที่กู่ร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว...อย่าบอกนะว่าแถวนี้มีสิงโตหรือเสืออยู่?) “เห็นแล้วค่ะ...เจ้าของเสียงอยู่บนก้อนหินใหญ่นั่น” “อย่าเข้าไปเลยลูก~~” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...พ่อพาหนูเดินข้ามพุ่มไม้ข้างหน้าเถอะ” “จะ...จะดีเหรอ?” “ค่ะ!!” ...ใจหนึ่งก็กลัวแต่อีกใจก็ต้องการจะรู้ว่าเจ้าของเสียงคำรามที่ดังกึกก้องปานแผ่นฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลายนี่เป็นตัวอะไรกันแน่ผมจึงค่อยๆเอามือแหวกพุ่มไม้ส่วนอีกข้างก็โอบขาหนูรินอย่างแน่นหนาพลางบอกให้กอดคอผมไว้แน่นๆเผื่อว่าเจออันตรายจะได้หันหลังหนีทัน... “นั่น...” “...งดงามจริงๆค่ะ” “เสือเหรอ?” “ใช่ค่ะ” (บนก้องหินใหญ่เบื้องหน้าปรากฏร่างเสือที่มีกายสีทองอร่ามไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายหาง!!!!...แสงสว่างสีทองที่เปล่งออกมาจากรอบตัวของเสือนั่นทำให้ตาเราพร่าเลือนเลยทีเดียว...อุ!!...สว่างจ้าจนมองอะไรไม่เห็นแล้ว!?) “นะ...หนูริน!?” “ว้าย~~...ทนดูไม่ได้!!!” .......................................................................................................................................................... “อือ--...เอ้ย!!!” “ตื่นแล้วพี่” “อ๋อม...น้องป้อม...พวก...พวกเธอทำอะไรน่ะ?” (กางเกงคนไข้ของเราถูกดึงลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่?) “...วันนี้ก็ถึงเวลาที่ฉันจะจับนายทำผัวซะทียังไงเล่า!!!” “อะ...อะไรนะ!?” ...ขณะที่ผมกำลังฝันอยู่ดีๆก็สะดุ้งตื่นและยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อพบว่าตัวเองจะโดนญาติสาวผู้พี่ข่มขืนคาเตียงพยาบาล!!!!...เหตุการณ์จะซ้ำรอยหรือยังไงกัน?...หนอย~~...คราวนี้มีต้นทางซะด้วยนั่นคือน้องป้อมนั่นเอง... “เธอ...อย่าทำอะไรบ้าๆ” “ทำไม?...เอากับฝนแล้วจะเอากับฉันบ้างไม่ได้เรอะ?” “มันไม่ใช่...เฮ่ๆๆๆ...ที่นี่โรงพยาบาลนะ!!” “โรง’บาลแล้วไงฟะยังไงวันนี้นายก็ต้องเสร็จฉัน!?...หยาดฝนมันชิงตัดหน้าไปก่อนแต่ฉันจะตีเสมอให้ได้!!!” “ตีเสมอ?...เอากันง่ายๆแบบนี้เลย!?” “เออฉันไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว!!!...ป้อมคอยดูให้ดีนะ” “ค่า~~...ไว้ใจหนูได้” “!!!!” “จะดิ้นทำไมนักหนาหึ?...เฉยไว้เดี๋ยวดีเอง” “เธอ...จะข่มขืนฉันหรือไง?” “ใช้คำไม่น่าฟังเลย...เขาเรียกว่ารวบหัวรวบหางต่างหากเล่า” “มันก็เหมือนกันนั่นแหละ...เธอเป็นผู้หญิงนะเฮ่ย!!!” “โลกสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้วโว้ย!!!!” “ว้ากกกกกกกกก” ...ผมพยายามฉุดรั้งกางเกงเต็มที่แต่อ๋อมก็ตั้งหน้าตั้งตาจะดึงมันลงเต็มกำลังเหมือนกันแล้วยังมีน้องป้อม(ละทิ้งหน้าที่ต้นทาง)มาช่วยอีกแรงด้วย...สรุปว่าที่พวกเธอไปอบรมกิริยามารยาทของกุลสตรีกับคุณย่านี่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยใช่มั้ย?... “หลุดแล้ว!!!” “ปัทโธ่~~...เลิกล้อเล่นซะที” “ใครว่าล้อ...” “?” “...............................................” “อึ๊ก!!...นะ...นี่คือของพี่ชาย” “บอล!!” “อะไร?” “ทะ...ทำให้มันแข็งเดี๋ยวนี้!!!” “หา!!” “ไม่งั้นจะทำกันได้ยังไงล่ะ?” “จู่ๆมาพูดแบบนี้ใครมันจะมีอารมณ์!!...นี่พวกเธอไม่ได้รู้เรื่องเลยเรอะ?” “พี่อ๋อม...จำที่แม่สอนได้หรือเปล่า?” “อือ--...เดี๋ยวนะ” (อะไรของแม่คนนี้เนี่ย?) “อย่าบอกว่าพี่ลืม?” “ไม่ๆๆๆ...กำลังนึกอยู่นี่ไง...ใช่ๆๆๆๆ...ใช่แล้ว!!...เช้าวันนั้นที่ฉันบุกเข้าห้องนาย...แก้ผ้า...ใช่!!!...ฉันจะแก้ผ้าให้นายดูแล้วนายก็จะเกิดอารมณ์” “อ๋อม...เธอเพี้ยนไปแล้วหรือไง?...น้องป้อม...แบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ!!!” “ฮื่อ~~...เราจะถอยไม่ได้!!!” “เอ้ย!?” “พี่ชายต่างหากที่ต้องเข้าใจความรู้สึกของเราสองคนว่าการถูกชิงตัดหน้ามันเจ็บปวดแค่ไหน?” “ก็เลยเอาคืนด้วยวิธีนี้?” “เพราะพี่ฝนเป็นฝ่ายเล่นไม่ซื่อก่อน...เขาเรียกยุทธวิธีเกลือจิ้มเกลือไงคะ” ...ระหว่างที่ผมคุยกับน้องป้อมแป๊บเดียวอ๋อมก็ถอดเสื้อตัวนอกออกไปเหลือแต่ยกทรงสีเหลืองจากนั้นเดินมาจับไอ้หนูประจำกายก่อนจะรูดขึ้นรูดลง...ไม่รู้น้องป้อมไปเห็นดีเห็นงามกับความห่ามของพี่สาวของเธอได้อย่างไรทั้งที่สมควรจะช่วยห้ามแท้ๆ... “เลิกทำอะไรแผลงๆสักทีเถอะ...โอ๊ยเจ็บ!!!” “จะ...เจ็บเหรอ?” “พี่อ๋อมเบามือหน่อยสิคะ!!” “ขอโทษๆ...พี่ตื่นเต้นและก็ลืมที่แม่สอน...งั้นจะทำเบาๆล่ะ” “................................................... “................................................... “ฮึ่ย~~...ทำไมไม่แข็ง?” “นั่นสิคะ” “ก็พูดไปไม่รู้กี่ครั้งว่าฉันมีอารมณ์ซะที่ไหนกัน?” “เฮ่ย!?...หมายความว่าฉันมันไร้เสน่ห์นักเหรอไงห๊ะ?” “ไม่ใช่หรอกพี่” “ฉันเป็นผู้หญิงตั้งแต่หัวจรดเท้านะเฟ้ย...หนอย~~...จะไม่มีอารมณ์ได้ยังไงกันเป็นไปไม่ได้!!!” (ปัญหาคือสถานที่ไม่เอื้ออำนวยบรรยากาศก็ไม่โรแมนติคหรือเป็นใจแถมแม่สาวหัวเสือนี่ก็ไม่ได้มีลีลาหรือจริตเย้ายวนเลยสักนิดจึงเป็นธรรมดาที่เจ้าหนูของเราจะไม่รู้ร้อนรู้หนาว) “มองให้ดีๆเซ่!!!...นี่ร่างกายของสาวบริสุทธิ์ของแท้เลยนะ...เนื้อหนังมังสาของหญิงสาวในวัยเจริญพันธุ์แล้วผิวพรรณที่ทั้งนุ่มเนียนและก็น่ากอดที่สุด...เอ้า!!...ดูให้ชัดๆ” (อู้หู~~...พอลองได้ดูใกล้ๆชัดๆแล้วหน้าอกของอ๋อมก็โตไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนี่หว่า!!!...ขนาดน่าจะพอๆกับฝนด้วยล่ะมั้ง?) “อุ๊ยได้ผล!?...เริ่มใหญ่ขึ้นแล้วค่ะ” “ฮึๆๆ...ต่อไปฉันจะดูดควยนายละ!!!” “เดี๋ยวๆๆ...เธออมเป็นเหรอ?” “บ๊ะ!!...ของง่ายๆทำไมฉันจะทำไม่ได้วะ?” “แม่สอนเรามาเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ก็ทีเมื่อกี้นี้ยังลืมเลย...อุ๊!!” ...อ๋อมเริ่มต้นแลบลิ้นเลียท่อนควยอย่างระวัดระวังหรือจะเรียกว่ากล้าๆกลัวๆดี?...ดูเธอจะพยายามด้วยความตั้งใจมากทีเดียวเพราะต้องการลบคำสบประมาทที่ผมเอ่ยว่า “ไม่มีอารมณ์” ให้จงได้...พอไล้เลียไปทั่วแล้วอ๋อมก็อ้าปากอมดูดส่วนหัวหยักเข้าไปเป็นการหยั่งเชิงโดยมีน้องป้อมยืนอยู่ข้างๆคอยลุ้นเอาใจช่วยทั้งผมและพี่สาวพลางลอบกลืนน้ำลายลงคอตามไปด้วย... (เธอยังไม่กล้าเท่าอ๋อม) “นุ่มนวลหน่อยนะพี่...อย่าจับแรงเหมือนเมื่อกี้” “อือ” “..................................................” “..................................................” “ว้าว!!!...ควยพี่ชายเริ่มจะใหญ่ขึ้นละ...ไหนใครน๊าบอกไม่มีอารมณ์?” “โอออออออออออ” “พี่ชายเสียวใช่มั้ยคะ?” “อาาาาาาาาา” “พี่อ๋อมอมเข้าไปทั้งลำเลยค่ะ” “ได้...พี่จะทำเดี๋ยวนี้” “อุ๊บ!!...อูวววววววววววว” (ทำได้ขนาดนี้ก็ไม่เสียชื่อป้าเอ็มแล้ว) “ค่อยๆช้าๆจ้ะ” “...............................................” (ไปๆมาๆเป็นน้องป้อมนี่แหละที่ลุ้นกว่าใครเพื่อนเพราะตอนที่เธอจับมือผมไปกุมหน้าอกอ๋อมก็รู้สึกได้ว่ามันเย็นเฉียบเลย) “อื้อหือ~~...นมเธอนี่ก็ไม่เบาแฮะ” (ถึงขนาดจะไม่เท่าของพี่แคทแต่ก็เนียนนุ่มน่าจับบีบเคล้นยิ่งนัก) “บอกแล้วว่านายต้องชอบและฉันยังมีดีกว่านี้อีก...ความสุขที่ซ่อนเร้นอยู่ไง” “งั้นแสดงให้ดูหน่อยซิ...ไอ้ความสุขที่ว่า” “ฮึๆๆ...คอยดู” ...แรกๆอาจจะติดขัดประดักประเดิดไปบ้างแต่เมื่ออ๋อมตั้งสติได้ก็เริ่มแสดงผลจากการฝึกฝนที่แม่ของเธอถ่ายทอดวิชา(?)ออกมาให้เห็นและกำไร(ความเสียว)ก็ตกอยู่กับผมเต็มๆ...ญาติสาวผู้พี่สุดห้าวคนนี้ที่แท้ก็มีดีที่ลำคอซึ่งมันช่วยให้เธออมควยเข้าไปทั้งลำได้อย่างไม่ยากเย็น...เมื่อครู่ไม่มีอารมณ์จะมาทำเรื่องพรรค์นี้และเจ้าน้องชายก็นอนพับสงบนิ่งอยู่แท้ๆแต่พอโดนญาติสาวผู้พี่กระตุ้นเข้าไปก็พองตัวใหญ่คับช่องปากอย่างรู้หน้าที่และไม่ทำให้ผมเสียหน้า... (ทั้งๆที่เปอร์เซ็นต์จะโดนผู้หญิงข่มขืนคาเตียงพยาบาลรอบสองนั้นมีความเป็นไปได้สูงปรี๊ด) “อื้อออออออออออ” “ดะ...ดีเหลือหลาย...ไม่นึกว่าเธอจะอมเก่ง...อูยยยยยยยยยยยย...นั่นแหละๆๆ” “ของพี่ชายแข็งเต็มที่แล้วค่ะ” “หึๆๆ” (หัวเราะในลำคอแบบนี้คงจะพึงพอใจน่าดูที่ทำให้อาวุธของเราใกล้พร้อมรบเต็มที่) “โออออออออออ...เก่ง...อ๋อม...นี่ใช่ครั้งแรกของเธอแน่เหรอเนี่ย?...อึ๊ยยยยยยยยยยย” “อืมๆๆๆๆๆๆ” “เทียบกับพี่ฝนแล้วเป็นยังไงคะ?” “จะ...จะให้บอกหรือ?” (กลัวอ๋อมได้ยินแล้วจะเสียอารมณ์) “ไม่เป็นไรค่ะ...พี่ชายบอกมาเถอะ” “อะ...เอาตรงๆเลย...อ๋อมเก่งกว่าฝนเยอะ” “จริงหรือคะ?” “ฝะ...ฝนยังอมไม่เก่งเท่านี้หรอก...อืออออออออออ...ไม่...ไม่โกหกชัวร์...อ๊าวววววววววว” “พี่ชายเสียวมากแล้วจ้ะพี่...เดี๋ยวจะเสร็จซะก่อนนะ” “จริง...จริงด้วย” “ชะ...ช่วยเลียตรงหัวอีกหน่อย” “ฮ่า--...นี่นายติดใจฉันแล้วใช่ม้า?” “อืม” “ก็บอกแล้วว่าฉันมีเสน่ห์...ฮิๆๆ...หัวถอกบานแบบนี้แสดงว่าเงี่ยนเต็มแก่?” “โอวววววววววววววว...เสียว...ฉันเสียวมากเลยอ๋อม...ซีดสสสสสสสสสสส...ตรง...ตรงขอบนั่นแหละ...โอ๊อออออออออ” “ก้นพี่ชายแทบจะไม่อยู่ติดเตียงแล้ว...คิกๆๆๆ...พี่อ๋อมเก่งมากค่ะ...เอ๊ะ?” “!?” “เสียงเคาะประตู?” (หงับ!?) “โอ๊วววววววว...แสบ!!!!...งับทำไมวะเนี่ย?” “แอวะ~~...อะไรนะ?...มีคนมา!!!” “รีบใส่เสื้อเร็วๆเข้า!!!” “ว้อย!!!!” ...กรรมเวรอะไรของผมนักหนาทั้งที่กำลังจะรู้สึกเพลิดเพลิน(?)ด้วยฝีลิ้นของญาติสาวผู้พี่จอมห้าวแต่จู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูห้องทำให้อ๋อมตกใจเผลองับท่อนควยจนผมสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บปวดและยังไม่ทันจะได้สำรวจร่องรอยความเสียหายเลยเพราะมีเสียงเปิดประตูดังขึ้นซะก่อน...โธ่~~...ความสุขที่ซ่อนเร้นอยู่ทำไมมันถึงสั้นนัก?... “พี่ชายเป็นไงบ้างคะ?” “เจ็บน่ะสิถามได้~~” “ใครเสือกมาขัดจังหวะฟะ?...อ๋า!?” “คุณน้า?...พี่เอ้?” “พอท่านแม่ได้ข่าวก็รีบมาเยี่ยมน้องเอกคเชนทร์น่ะขอรับส่วนอ๋อมกับน้องป้อมมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ?” “...กลางดึกเมื่อคืน...ใครจะทนรออยู่ที่นั่นได้...จริงมะ?” “แสดงว่าทั้งสองคนก็อยู่ที่นี่ตลอดเลย?” “ใช่แล้วค่ะพี่เอ้” (ที่แท้ก็เป็นอาอรศินีย์กับพี่เอ้...หวุดหวิดไปแล้ว!!!...โชคดีที่เรารีบดึงกางเกงขึ้นและอ๋อมก็ใส่เสื้อทันเวลาพอดี...อู๊ย!!!...โดนเขี้ยวของอ๋อมงับเข้าไปยังปวดแสบกระดออยู่เลยให้ตายซี่~~) “หลานบอลเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ?” “มะ...ไม่เป็นไรแล้วครับ...ได้พี่เซคช่วยรักษาให้” (แต่ตอนนี้มันเจ็บอย่างอื่นด้วย...เลือดออกหรือเปล่าก็ไม่รู้?) “ดีจริง...หากเป็นหลานเซคก็หาได้มีอะไรต้องห่วงอีก...อามีของมาฝากด้วยนะ” “โอ้!?...กระเช้าใหญ่เบ้อเริ่ม” “มีแต่รังนกทั้งนั้น...ฉันขอกินเลยได้มั้ย?” “ของน้องเอกคเชนทร์นะขอรับ” “ไม่เห็นเป็นไร!!...ของๆบอลก็เหมือนของๆฉัน...ของฉันๆก็คือของๆฉัน” (ตรรกะเพี้ยนๆของคนเพี้ยนๆ...งานนี้คนดีแกะขวดรังนกยกดื่มพรวดเดียวหมดก่อนคนป่วยซะอีก) “พี่ชายทานไหมคะ?” “...เอาไว้ก่อนเถอะ” “เมื่อสักครู่พวกเธอทำอะไรกัน?” “อุ๊บ!!!...แค่กๆ” “อึ๋ย!!” “ปละ...เปล่านี่คะ!!...เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย~~” (ยะ...แย่แล้ว!!!...มีแววที่ความจะแตกอย่างรวดเร็วงั้นเหรอ?) “น้าเห็นนะ...ท่อนบนของหลานอ๋อมเหลือแต่ยกทรง” “อะ...อ๋อ~~...ฉันกำลัง...เปลี่ยนเสื้อไง!!” “เปลี่ยนเสื้อ?” “ก็ในนี้มันร้อนไงแต่น้ายังอุตส่าห์ตาไวเห็นอีกแฮะ!?” “.......................................................” “นี่...น้ายังจะสงสัยอะไรฉันอีกเล่า?” “...ดูท่า...การสั่งสอนอบรมของท่านแม่คงจะไร้ประโยชน์เสียแล้ว” “กระผมกับท่านแม่เห็นหมดทุกอย่างแล้วขอรับ” “อะไรนะ?” “หะ...เห็นหมดแล้วเหรอคะ?” ...หมดกัน~~...จบสิ้นแล้วภาพลักษณ์ของผม!!!!...นึกว่าอานีย์จะไม่รู้เรื่องซะอีกแต่นี่กลับรู้เห็นตั้งแต่ต้นแล้วต่อไปผมจะมีหน้าไปมองเธอได้อย่างไรกัน?... “ก็...ก็แล้วยังไงเล่า?...นี่คือวิธีของฉัน!!” “วิธีอื่นก็มีถมเถ...คิดมิออกแล้วหรืออย่างไร?” “น้าอย่ายุ่งเรื่องของพวกฉันเลยน่า!!!...บอล...แล้วเจอกันใหม่” “ยะ...ยังจะเอาอีกเรอะ?...โหย~~” “ทำใจยอมรับเถอะน่ะ...ยังไงนายก็หนีพวกฉันไม่พ้นหรอกแต่เมื่อกี้เสียดายจัง...อีกนิดเดียวแท้ๆ” “แล้วเราจะมาเยี่ยมพี่ชายอีกนะคะ...ฮิๆๆๆ” “.......................................................” “ช่างกล้ากันจริงๆเลยขอรับ” “หลานบอล” “คะ...ครับ!!” “ไหนบอกอาหน่อยซิว่าสองคนนั้นทำอะไรบ้าง?” “คือ...” “อาทันเห็นหลานอ๋อมวิ่งไปคว้าเสื้อแต่ก่อนหน้านั้นมิรู้” “ก็...อ๋อมเขาร้อนไงครับ” “ทั้งที่ในห้องนี้เปิดแอร์น่ะหรือขอรับ?” (อุ๊ก!!!) “มิใช่เหตุผลนั้นใช่ไหมจ๊ะ?” ...โอ่ยแย่~~...แม้จะปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้ากับแววตาที่บ่งบอกว่ามีความเมตตาแต่อานีย์เวลานี้น่าเกรงขามชนิดที่มือสมัครเล่นอย่างผมยังมองออกและสัมผัสได้...บารมีที่สามารถข่มขวัญผู้อื่นได้โดยไม่ต้องเอ่ยปากและก็คงเป็นเธอผู้นี้เองแหละที่ปลูกฝังคุณสมบัตินี้ให้แก่หลานๆทุกคน... “คืออ๋อม...จะปล้ำผมและเมื่อกี้...เธอก็กำลังใช้ปากกับ...” “ฮ้า!!!!” “กระผมมิอยากเชื่อ...ว่าเธอจะใจกล้าขนาดนี้” “ชะ...ใช้ปากกับ...” “ท่านแม่ขอรับ?” “ลูกเอ้...แม่...แม่จะเป็นลม~~” “ท่านแม่!!” “คุณอา!?” (พี่เอ้ประคองอานีย์ที่เริ่มเดินเซกับยกมือกุมศรีษะไปนั่งโซฟาพลางหาน้ำเย็นมาให้ดื่ม) “เอายาดมไหมขอรับ?” “มิต้อง...มิต้องดอก” “ผมคงพูดตรงไปหน่อย...ขอโทษครับ” “หลานบอลมิต้องขอโทษเพราะผู้ผิดก็คือหลานอ๋อมกับหลานป้อมต่างหาก!!!...สมัยนี้มันกลายเป็นอะไรไปแล้ว?...ผู้หญิงกลับเป็นฝ่ายใช้กำลังฉุดคร่าจะขืนใจผู้ชาย!!!!...ลูกเอ้...ลูกเอ้ก็ต้องระวังด้วย” “กะ...กระผมน่ะหรือขอรับ?” (แล้วใครจะหาญกล้าขนาดนั้นกับนักดาบมือฉมังอย่างพี่เอ้นะ?) ............................................................................................................................................ “น้านีย์บอกว่าอยากจะให้พี่น้องทุกคนมาทานข้าวร่วมกัน? “คือไหนๆพี่เอ้,อ๋อม,น้องป้อมก็อยู่ที่นี่แล้ว” “เมื่อไหร่?” “หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาลครับ” “ที่บ้านไหนล่ะ?” “ก็บ้านเราไง...อาจะชวนพี่เซคกับพี่ม่อนมาด้วยนะ” “ว้าว!!!...ต้องสนุกครึกครื้นแน่ๆเลย...นี่เป็นโอกาสพิเศษสุดเพราะพวกเราลูกพี่ลูกน้องทั้งแปดคนยังไม่เคยได้อยู่พร้อมหน้าสักครั้ง” (แต่ไม่รู้จะเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรอีกหรือเปล่าเพราะงานนี้มีคู่กรณีเพียบอย่างเช่นพี่ม่อนกับอ๋อม,ฝนกับน้องป้อมหรือแต่เราที่ไม่เคยได้พูดคุยดีๆกับพี่เซค?...ว่าแต่พี่แคทไหงถึงมีสีหน้าที่เคร่งเครียดแบบนั้น!?) “................................................” “เจ๊เป็นอะไรน่ะ?” “................................................” “เจ๊!!” “หืม?” “ไม่ดีใจหรือไงคะ? “เปล่า...ดีใจสิ...แต่พี่เซคกับน้องม่อนจะมาแน่เหรอ?” “อานีย์คงสั่งให้มาจนได้แหละครับ” “ฮิๆ...อยากให้ถึงเร็วๆจัง” “...พี่จะไปซื้อของหน่อย” “งั้นหนูฝากซื้อขนมด้วย” “อืม” ...พอพี่แคทออกไปจากห้องฝนก็ลุกมานั่งข้างผมทันที...วันนี้ไม่รู้สึกเหงาเลยสักนิดเพราะเมื่ออานีย์กับพี่เอ้กลับไปสักครู่พี่แคทกับฝนก็มาถึงแล้วเมื่อกี้ป้าเอ็มเพิ่งมาเยี่ยมพร้อมกับสามคนสนิท...ผมเข้าใจความรู้สึกของนายเศกก็ตอนนี้แหละว่าพอโดนเข้ากับตัวเองแล้วมันทำอะไรไม่ค่อยสะดวกดังใจหวังเลยไม่ว่าจะแขนหักหรือขาหัก... “บอลจ๊ะ” “?” “พอได้ยินว่าพี่ม่อนจะไปกินข้าวที่บ้านด้วยพี่แคทก็ดูมีสีหน้ากังวลนะว่ามั้ย?” “คงไม่มั้ง?...เธอก็คงจะกังวลคิดมากไปเองเหมือนกันล่ะ” “...งั้นเหรอ?” (แต่ความจริงเราก็รู้สึกเหมือนๆกับฝน) “อยากไปเดินเล่นจัง” “ขาเป็นแบบนี้ตัวเองจะเดินได้ไงเรอะ?” “ฉันหมายถึงนั่งรถเข็น...อยู่แต่ในห้องมันอุดอู้เลยอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง” “โอเค!!...เดี๋ยวเค้าไปขอยืมรถเข็นมาให้” ...ไม่นานฝนก็กลับมาพร้อมรถเข็นโดยเธอจะรับอาสาพาผมไป...ไม่นึกว่าจะมีวันที่ตัวเองต้องเข้าเฝือกนั่งบนรถเข็นให้คนอื่นพาไปไหนมาไหน...อูย!!...เมื่อกี้แค่นึกหน้าอ๋อมก็ให้รู้สึกเหมือนจะปวดแสบที่ไอ้จ้อนแต่ผมสำรวจดูเรียบร้อยซึ่งยังโชคดีที่ไม่มีเลือดออกแต่ก็เหลือรอยฟัน(เขี้ยว)ของสาวเจ้าหัวเสือไว้ดูต่างหน้า... (จะมองอะไรนักหนาไม่เคยเห็นคนขาหักหรือไง?...อารมณ์ยิ่งไม่ค่อยผ่องใสอยู่!!) “ฮึ่ย!!!” “เป็นอะไรเหรอ?” “ทั้งพยาบาลทั้งพวกนิสิตจะมามองฉันทำไมเนี่ย?” “ก็อย่าไปสนใจซี่~~” “น่าอายชะมัด!!...รู้งี้ไม่น่าลงมาชั้นล่างเลย” “ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน...อื๋อ?” (ใครโทรมาหาฝน?) “ค่ะ...หนูพาบอลมาเดินเล่นข้างล่าง” “...................................................” “งั้นเหรอค่ะ?...ในที่สุดบอลก็จะได้เจอพี่ซะที” (!?) “ได้จ้ะๆ...เดี๋ยวจะไปรอที่หน้าลิฟท์” “ทำไม?” “รอพี่ม่อนจ้ะ” “เฮ่ย!?...จะมาจริงๆรึ?” “อื้ม!!...เธอกำลังกลับบ้านแต่แวะมาหาเราก่อน” “คราวนี้แม่คุณคนสวยจะมาในรูปแบบอะไรอีกหึ?...หญิงแก่,ชายหนุ่ม,ยาม,แม่บ้าน” “ผิดทั้งหมด!...คำตอบคือสาวสวยจ้ะ” “เฮอะ!!” ...ผู้หญิงที่ทำตัวไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องและมีงานอดิเรกเพี้ยนๆแต่จัดเป็นตัวอันตรายอันดับหนึ่งในขณะนี้...พี่ม่อนคนนั้นจะลงลิฟท์จากชั้นเก้าเพื่อมาพบผมกับฝนอย่างนั้นหรือ?...แสดงว่ามีใจอยากพบกันแล้วสิเพราะผมได้ยินว่าถ้าพี่ม่อนไม่อยากพบใครต่อให้ตามหาตัวยังไงก็ไม่มีทางเจอเว้นซะว่าเธอจะเป็นฝ่ายมาหาเอง... (เอาเหอะ!!...จะมาในสภาพแก่หรือสาวชายหรือหญิงก็เชิญตามสะดวกเลย...เราจะไม่ตกใจหรือตื่นเต้นอะไรทั้งนั้น) “ถึงชั้นหนึ่งแล้ว” “..................................................” “ว่าไง?...ปลอมเป็นอะไร?” “เดี๋ยวดูก่อน” “..................................................” “...ไม่มี” “อ้าว?” “พี่ม่อนไม่อยู่ในกลุ่มคนเมื่อกี้” “เก่งแฮะ...มองปราดเดียวก็รู้เลย” “รึจะเปลี่ยนใจไม่มา?” “คงงั้น...ก็เธอเกลียดฉันนี่นา” “พูดแบบนี้อีกแล้ว” “เขาพูดมิผิดดอก...น้องนางหยาดฝน” “?” ...เสียงนำมาก่อนตัวตามแบบฉบับของบุตรสาวคนรองจอมลึกลับของป้าเอ็ม...ที่แท้ก็ไม่ใช้ลิฟท์แต่เดินลงบันไดเพราะผมได้ยินเสียงฝีเท้าและเงาที่ทอดยาวกับพื้นที่ปูด้วยหินอ่อน...เห็นแล้วล่ะทุกท่าน!!!...แหม~~...เข้าใจปรากฏตัวซะด้วยคือเลือกเดินมาทางที่ไม่มีคนเรียกว่างานนี้คุณเธอฉายเดี่ยว... “ขออภัยที่ให้รอ...บังเอิญพี่เปลี่ยนใจมิอยากลงลิฟท์” “ก็พอเดาได้ค่ะ...พี่ม่อนไม่ชอบเบียดเสียดคนเยอะๆนี่” “...........................................” “เมื่อสักครู่พี่ได้พบกับท่านน้าอรศินีย์แลท่านพี่สุริยาวรรณด้วย” “แต่ไม่ได้เจอพี่อ๋อมกับเจ้าป้อมใช่ม้า?” “พี่มิอยากกระทบกระทั่งด้วยเรื่องที่น่าเบื่อซ้ำซาก” “เข้าใจค่ะเข้าใจ...แล้วพี่ไหมไม่มาด้วยหรือคะ?” “รออยู่ที่รถน่ะ” “...........................................” “บอลเป็นอะไรทำไมไม่พูด?” “คราวนี้คุณเธอ...ปลอมเป็นนักศึกษาเหรอไง?” “บ้าสิ!?...นี่มาในสภาพตัวจริงเลยละจะบอกให้!!!” “เห!?” ...คนที่อยู่ตรงหน้าคือพี่ม่อน “ตัวจริง” ที่ไม่ได้แปลงโฉมหรือเนี่ย?...หญิงสาวผมบ๊อบในชุดนักศึกษากระโปรงสั้นมีผ้าคลุมยาวสีขาวด้านหลัง(?)สวมแว่นตาดำที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ผมกับฝน...ในที่สุด...ในที่สุดก็ยอมเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาจนได้นะ!!!!... (แต่ก็ยังใส่แว่นปิดบังดวงตา) “.................................................” (พี่ม่อนก้มมองที่ขาเรา...ในใจกำลังสมน้ำหน้าเราหรือเปล่าหว่า?) “นี่ผมถือซะว่ามันเป็นกรรมเวรที่ต้องชดใช้” “...พูดเช่นนี้ก็มิถูกต้องซะทีเดียวนัก...อย่างน้อยเจ้าก็พอจะมีโชคอยู่บ้างมิใช่หรือเพราะถ้าโชคร้ายเจ้าก็จะคอหักถึงแก่ชีวิตเป็นแน่?” “พี่ม่อน...พูดน่ากลัวจัง” “เผอิญผมมันคงจะเป็นคนหนังเหนียวตายยากพอตัวเลยน่ะครับ” “น่าพิสูจน์ยิ่งนักว่าจะเป็นจริงไหม?” “ทะ...ทั้งสองคนคะ?” “วันนี้นึกยังไงถึงยอมเปิดเผยตัวจริงได้ครับ?” “เพราะเกิดเรื่องน่ายินดีขึ้น” “น่ายินดี?” “ตั้งแต่เมื่อคืนเลย...เราได้ยินเสียงใครบางคนร้องโหยหวนประดุจดังผีเปรตในขุมนรก” “มัน...มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเรอะ?” “เจ้าคิดว่าเราหมายถึงเจ้าหรือ?” “งั้นหมายถึงใคร?” “ที่นี่คือโรงพยาบาลที่ในรอบหนึ่งวันจะมีคนได้รับบาดเจ็บเข้ามารักษาจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดมิใช่ฤา?” (ทำพูดโน่นอ้างนี่แต่เธอต้องหมายถึงเรานั่นแหละ!!!...หน้าตาก็ไม่เลวแต่ปากคอเราะร้ายตามรอยพี่เซคทีเดียว) “เจ้าคงจะสำคัญตนมากเกินไปหน่อยนะ” ...เจอะหน้ากัน “ตรงๆ” พี่ม่อนก็แดกดันผมเป็นชุดเชียวไม่รู้หมั่นไส้อะไรกันนักหนา?...นิสัยไม่น่าคบแบบนี้เองมิน่าอ๋อมถึงจงเกลียดจงชังและโดยเฉพาะสำเนียงการพูดที่เหมือนกับหลุดออกมาจากโรงลิเกนั่นด้วย... “อะ...อ้า!!...พี่ม่อนถอดแว่นออกหน่อยสิจ๊ะ...บอลเขาอยากเห็นใบหน้าจริงๆของพี่” “เธอ...พูดอะไร?” (ใครบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าอยากเห็น?) “...ย่อมได้” (หึย!?...นี่มัน!!!!) “บอล” “...................................................” “บอล!!” “...................................................” “ย้าก!!!” “หนวกหู~~...จะเสียงดังทำไม?” “ถึงกับมองตาค้างเลยเชียวเรอะ?” “...................................................” “ยังอีก--” “นะ...นี่น่ะหรือ?...โฉมหน้าที่แท้จริงของพี่ม่อน!?...แม้จะไม่เห็นดวงตา...แต่...แต่เธอก็...” “ชิ...ตะลึงไม่หายเลยล่ะซี้?” “ใช่...สวย...สวยมาก!!!...ฉะ...ฉันว่าเธอสวยไม่แพ้พี่แคทเลยนะเนี่ย!!!...รึบางทีก็อาจจะ...เหนือกว่าด้วยซ้ำ!!!!” ...คนที่เคยเอาเสื้อคลุมห่มให้ผมขณะเผลอหลับในหอสมุด...คนที่เคยแปลงโฉมเป็นแม่บ้านทำความสะอาด,หนุ่มน้อยเด็กเสริฟ์,หญิงแก่ชรามาปรากฏกายตรงหน้าผม...คนที่เคยแกล้งเอาหุ่นโชว์ไปไว้บนหลังคาบ้านเพื่อหลอกให้ผมไขว้เขว้จนหลงคุยด้วยตั้งนานสองนาน...คนที่เคยส่งเอแคลร์เพียงหนึ่งชิ้นมาให้เพื่อตอบแทนของขวัญ...ตัวอย่างที่ว่ามานั่นคือตัวตนของหญิงสาวนามว่า “ศรมุกดา” ลูกพี่ลูกน้องวัยยี่สิบเอ็ดผู้นี้... “นี่!” “เจ็บ!!” “เลิกตาค้างได้แล้วน๊ะ!!!...ฮึ่ม~~” “...นางฟ้าที่เผยโฉม...โอ้!!” “ก๊าด!!!...นี่แค่เห็นหน้าครั้งแรกก็หลงแล้วหรือไง?” “ละ...หลงอะไรเล่า?...ไม่ใช่!!” “...............................................” (ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักเหลือเกินวุ้ย!!!...นี่ถ้าลืมตาด้วยก็อาจจะมองข้ามอดีตที่เคยก่อเรื่องแสบๆกับเราไว้) “ฮึ่ย~~...ไม่รู้ด้วยแล้ว!!” “นั่นเธอจะไปไหน?” “อยากมองนักก็เชิญมองซะให้พอเถอะย่ะไม่ขวางแล้ว!!!” “อ้าว?...เดี๋ยวก่อน!!” (ญาติสาวผู้น้องแสดงท่าทางกระฟัดกระเฟียดเดินกระแทกเท้างอนตุ๊บป่องลิ่วไปอย่างเร็วเลย) “...เจ้ามิสมควรกระทำเยี่ยงนี้” “ผมแค่อยากมองหน้าพี่ให้ชัดๆเองนะครับ” “มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนเห็นชายอันเป็นที่รักละความสนใจไปจากตนเอง...เจ้าเคยคิดถึงจุดนี้บ้างไหม?” “...............................................” “ฝน!...ต่อไปน้องอย่าทำแบบนี้” “ทำไมเราถึงปล่อยให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันตามลำพังไม่ได้คะ?” “ไม่ต้องถาม!!” ...ขาไปคนเดียวขากลับสองคน?...พี่แคทเดินนำหน้าฝนมาทางพวกเราด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกไม่น้อยจากนั้นก็รีบเข็นรถที่ผมนั่งตรงไปที่ลิฟท์ทันทีโดยไม่สนใจจะทักทายพี่ม่อนแม้แต่นิด... “นี่...นี่อะไรกันน่ะครับพี่?” “หมอใกล้จะขึ้นตรวจแล้วเธอยังมาเอ้อระเหยอยู่ได้!!!” “ผมก็แค่อยากมาสูดอากาศ...ยะ...อย่าเร็วนักสิครับ!!...เฮ่ย!?” “พี่ม่อนจ๊ะเดี๋ยวเราค่อยคุยกันใหม่...เอ้อ!...น้านีย์ชวนไปกินข้าวที่บ้านหลังจากบอลออกจากโรงพยาบาลนะ” “ทราบแล้วจ้ะ” “รอด้วยสิเจ๊ก็!!” “...ก็มิเข้าใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นนะเจ้าคะแต่ถ้าเมื่อสักครู่น้องจะประสงค์ร้ายต่อเอกคเชนทร์จริง...ท่านพี่สุรีย์พรรณก็มิอาจจะมาช่วยเหลือเขาได้ทัน...อย่างแน่นอน” ................................................................................................................................. “เจ้าจะบังอาจมากเกินไปแล้ว!!!...วสันตะนุจรินทร์” “บังอาจอะไร?” “พาชายผู้นั้นล่วงล้ำเข้ามาในถิ่นที่อยู่ของข้า...นี่เจ้าแกล้งโง่หรือว่าโง่จริงกันแน่?” “แล้วเจ้าว่าเป็นอย่างไหนดี?” “เจ้า!!!!” “ครั้งนี้น้องทำเกินไปนะ” “โอ๊ะ!?...นี่พี่ก็จะเข้าข้างอชินีสุราลัยงั้นหรือ?” “ก็รู้ว่านางมีความคิดอย่างไรแต่ยังจะพาพ่อมายังที่ๆนางอยู่ฉะนั้นน้องจึงเป็นฝ่ายผิดอย่างไม่มีข้อโต้เถียง” “น้องจะขอโทษก็ได้นะคะ” “ไม่ต้อง!!...ข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีความจริงใจจะขอโทษหรอกและข้าหวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย...เจ้าจะพาพ่อของเจ้าไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ตามใจแต่ต้องไม่ใช่ที่ถิ่นของข้า!!!” “...................................................” “พี่สอนน้องหลายครั้งแล้วว่าควรจะให้ความยำเกรงอชินีสุราลัยในฐานะที่นางอาวุโสกว่า...เอาล่ะ...จะบอกเหตุผลให้พี่รู้ได้หรือยัง?” “หนูต้องการให้นางได้พบกับพ่อแต่นึกไม่ถึงว่านางจะโกรธขนาดนี้” “นึกไม่ถึงอะไรกัน?...น้องต้องคาดไว้อยู่แล้วต่างหาก!” “น่าพี่รีย์~~...อย่าพลอยโมโหตามสหายรักไปด้วยสิ” “ก็รู้อยู่แก่ใจว่าอชินีสุราลัยในตอนนี้ยังไม่พร้อมจะยอมรับคุณพ่อเลย” “แล้วจะพร้อมตอนไหนคะ?” “ให้เวลานาง” “แต่เวลาของพวกเราใช่ว่าจะมีมากนะคะ” “ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเร่งเร้า” “ยอมรับแม่แต่ไม่ยอมรับพ่อ...ใช้ไม่ได้หรอก...ลำเอียงด้วยล่ะเพราะเมื่อครู่แม่ของเธอก็...หงึ!!...ทนดูไม่ได้” “ยังไงก็ตามน้องอย่าได้ทำอีกไม่งั้นจะไม่จบเพียงเท่านี้...อชินีสุราลัยมีฤทธิ์มากกว่าน้องและที่นางนิ่งเฉยอยู่ก็เพราะยังเกรงใจพี่” “...เข้าใจแล้วค่าแต่ไม่เห็นจะต้องตอกย้ำกันนี่นา--...ฮื่อ~~...ถ้าหนูเก่งเท่าพี่ก็ดีน่ะสิจะได้สูสีกับแม่เสืออารมณ์ร้ายบ้าง” “แค่นี้ก็ก่อเรื่องปวดหัวได้สาหัสพออยู่แล้ว” “พี่รีย์ใจร้าย~~” “และที่จริงอชินีสุราลัยก็...ช่างเถอะ” “?” .............................................................................................................................................................. ...ตัวอย่างในตอนหน้า... “หน้าที่อาบน้ำให้บอลเป็นของหนูต่างหาก...พี่อ๋อมกับยัยตัวเล็กไม่ต้องยุ่ง!!!” “หนอย~~...พี่ฝนคิดจะครอบครองพี่ชายไว้คนเดียวหรือไงคะ?...หนูไม่ยอมนะ!!!” “เธอกับฉันมาตัดสินกันเลยดีกว่าไม่งั้นมันก็ไม่จบเรื่องซะที...คนแพ้ห้ามบ่นห้ามโวยวายจะเอามั้ยเล่า?” .................................................... “ทั้งสามคนน่ะหยุดได้แล้ว!!...เอาเป็นว่าแม่จะทำให้เอง...หยุดทะเลาะกันซะที” “เอ๋ๆๆ...คุณแม่ไม่คิดจะถามหนูกับม่อนก่อนหรือคะว่ายอมตกลงมั้ย?” “เชิญท่านแม่ตามสะดวกเลยนะเจ้าคะแต่หนูขอบอกเสียก่อนว่ามันคงมิจบเพียงขาขวาเท่านั้น” .................................................... “พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยเอ้...กะอีแค่จะอาบน้ำให้บอลก็เกิดปัญหามากขนาดนี้” “เช่นนั้นกระผมกับท่านพี่สุรีย์พรรณจะรับหน้าที่นี้ไหมล่ะขอรับ?” “จะคนไหนผมก็ไม่เอาเด็ดขาด!!!...แล้วนี่พี่เอ้อยากให้กองไฟมันมอดดับหรือยิ่งลุกลามไปใหญ่กันแน่ครับ?” .......................................................................

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น