AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2563

เมืองลับแล 12

เมืองลับแล 12

อาลซึ่งกำลังเล้าโลมเอวาอยู่นั้น เมื่อเห็นว่าได้เวลาสมควรแล้ว จึงสอดใส่แท่งเนื้อของเขาทันที แต่ก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ เพราะเอวาร้องขอผลักเขาออกมา จนอาลต้องยอมหยุด ทั้งสองเข้ากอดกัน เมื่อเอวาไปส่งอาลที่ห้อง ที่ซึ่งเขาจะต้องถูกคุมตัวอยู่ เอวาได้ฝากคำพูดสุดท้ายไว้ให้อาลได้จำไปตลอด 3 ปี และวันรุ่งขึ้น อาลจึงถูกส่งตัวกลับไป และในเวลาสายของวันนั้น เนยและเอวาได้ลอยแพออกนอกเส้นทางเดิม และหลงทางไปยังที่ที่ไม่รู้จัก ที่ซึ่งไม่อาจพายแพสวนทางน้ำกลับมาได้ ทางเลือกคือต้องเดินกลับมาในปาที่มีบรรยากาศน่าสะพรึงกลัวนี้ เอวาและเนยเดินเคียงข้างกันอย่างไม่กล้าแยกกันไปไหน ป่านี้ค่อนข้างทึบ แทบมองไม่เห็นทางภายหน้า สิ่งที่ต้องดูไว้คือลำน้ำที่จะพากลับไปยังเส้นทางที่รู้จักเท่านั้น สองสาวเดินอย่างค่อนข้างรีบ เพราะไม่อยากอยู่ในป่านี้นานๆ “ว๊าย!!!!” เนยร้องลั่น เอวาหันมาในทันทีที่ได้ยินเสียง “เนย!!!” สาวน้อยเนย เธอเดินไปตกหลุมลึกที่ถูกขุดไว้ มันเหมือนเป็นกัปดักสัตว์

เมืองลับแล 11

เมืองลับแล 11

นารานำเนยและเอวาลอบเข้ามาหาอาล ซึ่งบัดนี้เปรียบเสมือนผู้ถูกกักกัน เมื่อสามสาวเดินเข้ามาภายในและได้พบกับอาล ก็ชวนกันหนีออกไปด้านนอก เพื่อไปนั่งคุยกัน ด้วยความเป็นผู้ใหญ่กว่าของนารา เธอรู้ทันทีว่าเอวาและอาลนั้นชอบพอกัน จึงได้แสร้างทำเป็นกลับบ้านโดยแอบไปนั่งซุ่มอยู่กับเนยที่เนินหญ้า ที่ซึ่งอาลและเอวามองไม่เห็น แต่เนยและนารานั้นเห็นคนคู่นั้นได้ชัดเจนยิ่ง ไม่นานนักสิ่งที่นาราคาดไว้ก็เกิดขึ้นจริง อาลเข้าประชิดเล้าโลมเอวาเสียจนเคล้มและกำลังจะทำยิ่งกว่านั้น เนยและนาราที่แอบซุ่มอยู่ด้านบน เห็นการกระทำดังกล่าวก็อยู่ในอาการเดียวกัน คือตัวเกร็ง สายตาจับจ้องไปยังของลับของเด็กทั้งสอง โดยเฉพาะนาราซึ่งเกิดอารมณ์เพศไปนานแล้ว การได้ดูหญิงชายพรอดรักกันสดๆแบบนี้ ใครบ้างจะไม่เกิด แม้แต่เนยเองซึ่งแม้จะยังเด็ก แต่ก็เกิดอารมณ์เช่นกัน... อาลฝังหน้าและจมูกลงไปในกลีบร่องที่เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว จมูกขอลงเขาถูกกดลงในกลีบเนื้อที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำแห่งอารมณ์รัก เขาลงลิ้นให้ลึกเข้าไปและเลียวนไปทั่วถ้ำรักนั้น ทำให้เอวาเสียวจนต้องเอามือมาจับศีรษะของอาลไว้แล้วขยำเบาๆพร้อมกันนั้นก็ร้องครางออกมาในลำคอ อาลยิ่งได้ใจ เขาจงใจกระทำแบบนี้ให้หนักขึ้น

เมืองลับแล 10

เมืองลับแล 10

ภายหลังจากอาลได้รับอนุญาตให้ใช้ลิ้น เขาก็ทำด้วยความเต็มใจ แม้จะไม่รู้หลักการแต่ก็ทำไปตามที่ธรรมชาติสอนมา จนที่สุดแล้วเขาและเจ้าแม่ก็ขึ้นสวรรค์อย่างพร้อมเพรียงกัน แต่แล้วเขาก็ต้องถูกอานดาควบคุมตัวไป ภายในสถานควบคุมนั้น เขาร้อนใจและคิดถึงเอวาเป็นอย่างมาก และคืนนั้นนั่นเองที่นาราได้แอบพาเอวาและเนยไปที่สถานที่นั้นเพื่อดูอาล นาราเดินนำสองสาวไปเรื่อยๆ แสงจันทร์เต็มดวงที่สว่างกว่าในเมืองถึง 3 เท่า ทำให้มองเห็นพื้นได้ชัดเจน ท่าทางนาราจะชำราญทาง เพราะเธอเดินอย่างคล่องแคล่ว ตรงไหนมีอันตรายก็จะคอยบอกกล่าวแก่กันเสมอ ชั่วอึดใจ สามสาวก็เดินมาถึง ด้านหน้าแน่นอนว่ามียามรักษาการณ์เล็กน้อย “เราจะอ้อมไปทางด้านหลังนะ มันจะมีช่องโหว่อยู่ที่หนึ่ง” แล้วนาราก็เดินย่องนำทางไป เป็นจริงดั่งที่เธอว่า ช่วงกำแพงรั้วไม้ช่วงหนึ่งผุ แต่ก็ถูกพาดทับไว้ด้วยไม้แผ่นหนึ่ง “เปิดนี่และเข้าไปนะ พี่จะระวังหลังให้ เงียบๆด้วยล่ะ” นาราเปิดทางให้สองสาวมุดลอดเข้าไป หลังจากนั้นเธอจึงตามเข้ามา “เอาล่ะ ทีนี้ก็ลองไปหาเด็กหนุ่มคนนั้นซิ เขาอยู่ห้องไหนหว่า..” และนาราก็เดินหา ซึ่งมีห้องหนึ่งที่สว่าง แน่นอน อาลอยู่ในห้องนั้น เพราะไฟตะเกียงที่ถูกจุดอยู่ภายใน สาวสาวเดินลับๆล่อๆมา

เมืองลับแล 9

เมืองลับแล 9

หลังจากเด็กหนุ่มต่างถิ่นนามว่าอาล พลัดหลงมาจนได้เนยและเอวาเข้าช่วยเหลือ จนต้องมาพบกับเจ้าแม่นั้น เขาได้ทำความผิดโดยไม่ตั้งใจ และได้รับโทษให้ตาบอดจนถึงวันรุ่งขึ้น แต่แล้วด้วยการที่เขาติดพิษและเจ้าแม่ต้องทายาให้ทำให้เหตุการณ์เปลี่ยนไป จนสุดท้าย เขาก็ได้รับรางวัลที่พิเศษที่สุดแทนการลงโทษ หน้าของเขาอยู่ไม่ห่างจากเนินลับของเจ้าแม่ ซึ่งบัดนี้เปียกชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำแห่งอารมณ์รัก เจ้าแม่ผู้สง่างามบัดนี้เปลือยร่างทอดกายให้เด็กหนุ่มดูได้เต็มตา “เอาเลยสิ...” จบคำเจ้าแม่ อาลก็เริ่มขยับเข้าใกล้ มือทั้งสองของเขาได้จับกลีบแคมอันนิ่มนวลชวนฝันนั้นให้แยกออก ยิ่งเห็นถึงภายในว่ามีน้ำหยาดเยิ้มเพียงใด ที่สำคัญมันยังเป็นสีชมพูสวยสด แสดงถึงความใหม่เอี่ยมเรี่ยมเร้ เรียกได้ว่าของใหม่ไม่เคยใช้งานจริง เขาฉกลิ้นลงไป และละเลงลิ้นไปทั่ว เขายังไม่รู้ถึงจุดที่ควรกระตุ้น เมื่อเจ้าแม่บอกให้ใช้ลิ้น เขาก็ใช้ลิ้นจริงๆ แม้ยังไม่เข้าขั้นมืออาชีพสำหรับการใช้ลิ้นของอาล แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้เจ้าแม่เสียงซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย กับความตื่นเต้นเร้าใจที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน และบางครั้งลิ้นของเขาก็ตวัดผ่านจุดเสียวของเธอ ยิ่งทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธอารมณ์นี้ได้อีก “อืมมมม.... ดี..... ทำต่อไป.....” เสียง

เมืองลับแล 8

เมืองลับแล 8

เด็กหนุ่มต่างถิ่นเมื่อเข้ามาสู่หมู่บ้านแห่งนี้ ด้วยธรรมเนียมปฏิบัติต้องชำระร่างกายให้สะอาด แต่ครั้งนี้มีสองสาวอาบด้วย ตามธรรมชาติของบุรุษเพศเมื่อเห็นสตรีเพศนุ่งห่มน้อยวาบหวิวเช่นนี้ ย่อมเกิดอารมณ์เพศ ทำให้เขาจำต้องโชว์แท่งเนื้อต่อสตรีสามนาง ซ้ำเขายังต้องถูกควบคุมตัวไว้ เนยและเอวาจึงรับมอบหน้าที่ส่งข้อความเข้าหมู่บ้าน ทิ้งให้อาลและเจ้าแม่อยู่เพียงลำพัง ระหว่างนั้น อาลก็ได้ทำความผิดเพราะนิสัยอยากรู้อยากเห็นของเขานั่นเอง อาลนิ่งอึ้ง สมองตันไปหมด เขารู้ดีว่าความผิดนี้มันสมเหตุสมผลที่จะโกรธ และโกรธมากด้วย เขาถอยหลังไปช้าๆหน้าตาตระหนก ในใจคิดว่าหากอยู่รับความผิด จะโดนทำอะไรบ้างนะ และถ้าหากเขาหนีไปเอง จะมีโอกาสรอดกว่าไหม ประตูอยู่ไม่ไกลหากวิ่งไปถึง และก่อนที่เขาจะขยับเท้าไป ก็ฉุกคิดถึงพิษในร่างกายขึ้นมาได้ เจ้าแม่บอกว่ามันจะทำให้เขาไร้เรี่ยวแรงค่อยๆตายไป ถ้าหนีไปก็คงตาย อย่างน้อยรับผิดก็คงไม่ถึงตาย สุดท้าย เขาก็ยืนก้มหน้านิ่งรับความผิด ด้านเจ้าแม่ ขณะนี้เธอกำลังโกรธเป็นฟืนไฟ หญิงสาวที่เป็นผู้นำของหมู่บ้าน มีตำแหน่งที่สูงศักดิ์ กลับถูกเด็กชายต่างถิ่นแอบดูเธอทำกิจส่วนตัว เห็นในสิ่งที่เธอไม่เคยแสดงต่อใครมาก่อน ทั้งยังดูของสงวนของลับที่ตั้งแต่

เมืองลับแล 7

เมืองลับแล 7

หลังจากที่สองสาวเนยและเอวาได้พบกับเด็กหนุ่มริมแม่น้ำ ก็ได้พามาพบกับเจ้าแม่ เพื่อให้เจ้าแม่ตัดสินใจ ปรากฏว่าเจ้าแม่ต้องการให้เด็กหนุ่มนามว่าอาล กลับหมู่บ้านของตนภายในวันรุ่งขึ้น แต่เนื่องจากต่างถิ่นตามธรรมเนียมต้องชำระร่างกายในบ่อน้ำศักสิทธิ์เสียก่อน เนยและเอวาผู้ที่นำพาอาลมาจำต้องโดนไปด้วย ซึ่งขณะที่ชำระร่างกายในบ่อน้ำอยู่นั้น เนยและเอวาได้รับอนุญาตให้นุ่งผ้าอาบได้ แต่ก็เพียงพอสำหรับให้อาลเกิดอารมณ์ธรรมชาติของชายหนุ่มได้ อาลลุกขึ้นมายืนประจัญหน้ากับสองสาว สองมือกุมปิดเจ้าโลกไว้ เจ้าแม่เห็นดังนั้น แม้ในใจคิดอยากเห็นของลับของผู้ชาย แต่ด้วยสถานภาพและตำแหน่ง เธอจึงวางเฉยไว้ “ใส่เสื้อผ้าสิ” เจ้าสั่งเสียงเรียบเหมือนเคย อาลรู้ดีว่าหากเขาละมือไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่ นั่นหมายถึงอวัยวะสุดแข็งของเขาต้องพุ่งขึ้นชี้หน้าสองสาวเป็นแน่ แต่เมื่อไม่มีทางเลือก เขาจึงต้องทำ อาลปล่อยมือก้มลงไปหยิบชุดของเขาที่ถอดกองไว้ที่พื้น พยายามก้มตัวต่ำเพื่อบดบังสิ่งที่หวงแหนไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาที่จ้องอย่างไม่กระพริบของสองสาวไปได้ สร้างความตื่นเต้นและตกใจอย่างมากให้กับเอ

เมืองลับแล 6

เมืองลับแล 6

หลังจากเนยและเอวาได้ผ่านพิธีกรรมประหลาดๆของเจ้าแม่มาแล้ว ทั้งสองได้ชวนกันไปเล่นที่ต้นไม้แต่เนยไม่กล้าปีนขึ้นไป เอวาจึงได้ชวนไปลอยแพเล่นกัน ระหว่างทางเนยคิดถึงน้องชายขึ้นมาจึงทำให้ซึมเศร้าไป เมื่อถึงแม่น้ำและกำลังลอยแพกันอย่างสนุกสนาน ก็พบเจอเด็กผู้ชายนอนสลบอยู่ด้วยความมีจิตสำนึกดีจึงรีบเข้าไปหวังช่วย แต่ก็เพราะความอยากรู้อยากเห็นทำให้สองสาวเล่นพิเรนท์จนเด็กชายผู้นั้นคืนสติขึ้นมา เด็กชายได้ลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจที่เห็นมนุษย์เพศหญิงสองคนกำลังรุมล้อมเขาทั้งยังดูของลับของเขาด้วย จึงได้รีบเอามือมาปิดไว้ “เฮ้ย..!! พวกเธอ..... มาดูของเราทำไม” เอวาและเนยตกใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเอวาที่ใช้ทั้งมือทั้งสายตา ต่างคนต่างพูดไม่ออก หน้าแดงทั้งคู่ และอ้ำๆอึ้งๆตอบไปว่า “พวกเรา... เห็นเธอนอนสลบอยู่ จึงเข้ามาดู...” เอวาตอบไปก่อน หลังจากเด็กหนุ่มสงบสติอารมณ์ได้แล้ว จึงพูดขึ้น “พวกเธอ.. เป็นผู้หญิงนี่... ใช่มะ” “ใช่.. แล้วเธอก็คือผู้ชาย” เอวาตอบ เนยฟังดูแล้วก็ตลกๆกับสิ่งที่ทั้งสองคนสนทนากัน แต่ก็เข้าใจถึงความจริงที่ว่าเด็กชายเด็กหญิงจะอยู่แต่ที่หมู่

เมืองลับแล 5

เมืองลับแล 5

เมื่อเนยได้เรียกเอวามาทำพิธีของเจ้าแม่แล้วก็ต้องพบกับความแปลกใจและเสียวซ่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนด้วยท่าทีและอำนาจลึกลับของหญิงสาวผู้นี้ ทำให้เนยและเอวาไม่กล้าขัดคำสั่งหลังจากจบพิธีแล้ว ต่างไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พวกตนเพิ่งผ่านไปนั้นเป็นความต้องการตามธรรมชาติของมนุษย์แม้แต่ตัวเจ้าแม่เองซึ่งอึดอัดในใจตลอดมาเนยและเอวาพากันออกมาให้ห่างจากสถานที่พักของเจ้าแม่ พวกเธอเดินไปที่ในป่าโดยการนำของเอวา “นี่นะปกติฉันจะเดินมานั่งเล่นในป่านี้บ่อย ๆ มันจะมีอยู่ที่นึงฉันชอบขึ้นไปนั่งดู จากตรงนั้นจะเห็นอนาเขตกว้างไกลของพื้นที่นี้ล่ะดูแล้วสบายตาดี” “แล้วมันไกลแค่ไหนล่ะ” “ไกลมาก ๆ ฉันเองก็ไม่รู้หรอก ถึงบอกไงว่าเกาะนี้น่ะมีขนาดใหญ่”สองสาวเดินคุยกันมา จนในที่สุดก็ถึงที่ที่เอวาบอก “ต้นไม้นี้ล่ะ” “หมายความว่าต้องปีนขึ้นไปเหรอ” “ใช่แต่ไม่ต้องห่วงนะ ข้างบนน่ะ ฉันได้ทำที่เอาไว้นั่งแล้ว นอนยังได้เลยเหนื่อยแทบตายกว่าจะแบกไม้ปีนขึ้นปีนลง แต่ก็คุ้มนะ เพราะสบายไปนานเลย”คุณหนูอย่างเนยไม่เคยเล่นซน เรื่องปีนต้นไม้ไม่เป็นแน่นอน “เราปีนต้นไม่ไม่เป็นน่ะ” “อ้าว... แล้วจะเอาไงล่ะทีนี้ ก็ไม่ยากหรอก ก็เอามือจับเอาเท้าปีน หาที่จับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” “ก็ไม่

เมืองลับแล 4

เมืองลับแล 4

เนยเดินหยิบผ้าเช็ดตัวห่อร่างกายลงไปเรียกเอวา ซึ่งนั่งรออยู่ด้านหน้า “เสร็จแล้วเหรอ... แล้วเสื้อผ้าเธอล่ะ” เอวาถามทันทีที่เห็นเพื่อนเดินลงมา “ยังจ้ะ... เจ้าแม่ให้เราลงมาเรียกเธอ บอกว่าต้องทำพิธีร่วมกับผู้ให้อาศัยด้วยน่ะ” “หา... มีพิธีแบบนี้ด้วยเหรอ” “ไม่รู้สิ เราน่าจะเป็นคนถามมากกว่านะ เร็ว ๆ เถอะ เดี๋ยวโดนว่า”ว่าแล้วก็ฉุดเอวาลุกเดินเข้าไปด้านใน เมื่อเข้ามาด้านในก็พบเจ้าแม่ยืนดักอยู่ก่อน “พวกเจ้ายินดีที่จะอยู่ด้วยกันใช่หรือไม่” เจ้าแม่ถาม “ค่ะ.” เนยและเอวาตอบพร้อมกัน “ดี.. งั้นข้าจะทำพิธีบางอย่าง เพื่อให้เทพคุ้มครองพวกเจ้า ให้อยู่ด้วยกันได้โดยสงบ” “ค่ะ” “แต่ขั้นตอนนี้ค่อนข้างยุ่งยากซักหน่อย หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ล้มเลิก” “ค่ะ พวกเราจะพยายามค่ะ”เจ้าแม่ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ได้ยิ้ม และเดินนำทางออกทางด้านหลังและผ่านเลยไปอีกที่หนึ่ง เนยและเอวาไม่เคยผ่านมาทางนี้เพราะการจะมาทางนี้ได้ต้องผ่านเข้ามาทางด้านหน้าเท่านั้นหนทางนี้ตรงไปและชันขึ้นเรื่อย ๆ ไม่นานนักก็เห็นจุดหมาย มันเป็นถ้ำหินที่ซึ่งด้านในมืดสนิท “นี่คือสถานที่ซึ่งใช้คัดเลือกเจ้าแม่ และใช้ในการทำพิธีต่าง ๆ พวกเจ้ายังเด็ก คงไม่เคยมาที่นี่แน่นอน” เจ้าแม่กล่าวและเดินเข้าไป เพียงแค่การโบกมือ คบเพลิงในถ้ำก็จุดขึ้นมาพร้อม ๆกัน ช่วยให้ภายในสว่างขึ้นในทันทีทำเอาทั้งเนยและเอวาตกตะลึงอึ้งทึ่งไปตามกัน และยิ่งเกรงเจ้าแม่เข้าไปอีกเดินเข้าไปอีกเล็กน้อย ปรากฏเป็นห้องขนาดย่อม ๆมีสิ่งของที่ดูเหมือนใช้ในการทำพิธีต่าง ๆ วางอยู่ตรงกลางมีแท่นหินคล้ายเตียงนอน สูงพอประมาณ ปูด้วยผ้า “เจ้าทั้งสอง ขึ้นไปนอนบนแท่นนั้น

เมืองลับแล 3

เมืองลับแล 3

อาทิตย์ทอแสง เสียงนกร้องลั่นป่า แสดงว่าราตรีกาลได้ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว เนยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากการปลุกของเอวา “เช้าแล้วเหรอเนี่ย....” เนยยังสลึมสลือ เนยยังคงไม่ชินกับการต้องตื่นเช้าเช่นนี้ ปกติคุณหนูอย่างเธอจะตื่นสาย ๆ หน่อย เวลาที่นี่ก็ไม่รู้ “นี่มันกี่โมงแล้วอ่ะ” “เอ๋.. อะไรคือกี่โมง” เอวาสงสัย “ก็เวลาไง.. ทางบ้านเราเขานับเวลากัน แต่ที่นี่... เออช่างมันเถอะ ...” “ไปล้างหน้าล้างตาเถอะ วันนี้ฉันจะพาเธอไปพบเจ้าแม่”เนยลุกขึ้นนั่ง “เจ้าแม่เหรอ... เป็นใครอ่ะ” “เจ้าแม่ก็คือผู้ที่คนทั้งหมู่บ้านให้ความเคารพนับถือ เวลามีกิจกรรมหรืองานใด ๆ จะให้เจ้าแม่เป็นผู้นำเสมอ” “แล้วเจ้าแม่มีอิทธิฤทธิ์ป่าวอ่ะ” เนยนึกถึงพวกเจ้าแม่ในหนัง “ก็ไม่เชิงนักหรอกนะ เจ้าแม่จะถูกเลือกโดยเทพเจ้า ซึ่งผู้ที่มีสิทธิ์คัดเลือกได้จะต้องมีอายุ 25 บริบูรณ์ จะคัดจาก 5 คน และมีเพียงคนเดียวที่ได้เป็น และจะเป็นจนอายุ 40 ปีน่ะ แล้วถึงจะเลือกคนใหม่ ส่วนคนเก่าก็จะกลับมาเป็นชาวบ้านธรรมดาเหมือนเดิม” “แล้วทำไมเราต้องไปพบเค้าด้วยอ่ะจ๊ะ” “ก็เธอเพิ่งมาอยู่ใหม่น่ะ ก็ควรไปพบท่านซักหน่อย เดี๋ยวเราพาไป”จากนั้น เนยก็ลงไปล้างหน้าล้างตา อาบน้ำจัดเครื่องแต่งตัวที่มีอยู่น้อยนิดให้ดี เมื่อเดินออกมาจากบ้านของเอวาก็เจอกับชาวบ้านทั่วไป กำลังทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองอยู่ก็ทักทายบ้างตามมารยาท เมื่อเดินออกจากหมู่

เมืองลับแล 2

เมืองลับแล 2

ราตรีกาลเริ่มมาเยือนแล้ว สองสาวคงต้องขึ้นจากน้ำเสียที “พอเถอะจ้ะ เราต้องกลับบ้านกันแล้วนะ” เอวาพูดขึ้น “ก็ได้จ้ะ... เธอว่าไงเราก็ว่างั้น”เอวาเดินนำขึ้นมา โชว์ร่างเปลือยอย่างโจ๋งครึ่มแต่สำหรับคนที่นี่ถือเป็นเรื่องธรรมดามากเธอเดินมาหยิบเสื้อผ้าที่กองไว้ขึ้นมาใส่ทันทีโดยไม่มีการเช็ดตัวก่อน “อ้าว.. แล้วไม่มีผ้าเช็ดตัวเหรอ แบบนี้เสื้อผ้าก็เปียกสิ” เนยถาม “ไม่มีหรอก ใส่ ๆ ไปเถอะ เดี๋ยวมันก็แห้งเองแหล่ะ เราทุกคนก็ทำแบบนี้”เนยจำต้องทำตาม ชีวิตที่นี่ช่างไม่คุ้นยิ่งนัก เนยเดินมาหยิบชุดที่เอวาเตรียมไว้ให้ เอวาเดินเข้ามาช่วยสวมใส่ “ทำไมชุดของเราไม่เหมือนกับเธออ่ะ” เนยสงสัยทันทีที่เห็นความแตกต่าง “ก็บอกแล้วไง อายุของเธอกับฉันไม่เท่ากัน ชุดจึงต่างกัน ถ้าอายุไม่เกิน 5 ปี จะไม่ใส่อะไรเลย 6 - 14 ปีจะใส่เหมือนฉันนี่แหล่ะ แต่ผ้าจะสั้นเหนือเข่าหน่อย ถ้า 15- 17 ปี ก็ใส่แบบฉันเลย ถ้า 18 - 20 ปีจะมีผ้าคลุมไหล่ แต่ผ้าที่เอวจะกว้างขึ้นและยาวเกินเข่า ส่วน 20-30 ปี ผ้าคลุมไหล่จะยาวกว่า และถ้ามากกว่า 30 ปี จะใส่ผ้าคลุมทั้งตัวเหมือนแม่หมอที่เธอเคยเจอไง เข้าใจหรือยังล่ะ” เอวาร่ายยาว “อ๋อ เข้าใจละ ... งั้นเราก็ต้องรออีก 2 ปีสิ ถึงได้ใส่เหมือนเธอ” “ใช่...”ก่อนจะเดินกลับ เนยยังคงมองเสื้อผ้าเก่าของตน และหวนคิดถึงอดีตชีวิตที่มีความสุข ต่อแต่นี้ไปทุกอย่างไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว... และก็ตัดใจหันกลับมาทิ้งอดีตไว้ในความหลัง เอวาสังเกตเห็นเนยเศร้าไป ก็รู้สึกสงสารแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ดวง

เมืองลับแล 1

เมืองลับแล1

บนท้องฟ้าอันแจ่มใสในยามกลางวัน เครื่องบินเล็กส่วนตัวลำหนึ่ง ได้บินโฉบไปตามปุยเมฆ ผู้โดยสารภายในมีเพียง 4 คนเป็นครอบครัวที่สุขสันต์ เนื่องด้วยเป็นตระกูลดีมีฐานะจึงสามารถทำเช่นนี้ได้ ทันใดนั้น ก็เกิดพายุฟ้าคะนองกระทันหันลมพายุพัดแรงหอบเอาเครื่องบินเล็กลำนั้นปลิวว่อนไปอย่างไร้ทิศทางเสียงกรีดร้องดังลั่นแต่ก็ไร้ประโยชน์ ในที่สุด มันก็ไปตกเอาที่เกาะแห่งหนึ่งไม่มีใครทราบมาก่อนว่ามาจะมีอยู่ และที่ตรงนี้มันคือที่ไหนของโลก จากอุบัติเหตุครั้งนี้ ผู้โดยสารเกือบทั้งหมดเสียชีวิต เหลือเพียง 2 พี่น้อง เนย เด็กสาววัย 14 ปี และ ไนท์ เด็กชายวัย 12 ปีที่รอดชีวิต แต่ก็บาดเจ็บอยู่พอสมควรน่าสงสารเด็กน้อยที่ต้องเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เล็กซ้ำยังมาติดเกาะที่ไหนอีกก็ไม่รู้ เมื่อฟื้นคืนสติขึ้นมา เนยพยายามมองไปรอบ ๆ กวาดสายตาสำรวจทั่วไป และคิดในใจว่าที่นี่คือที่ไหนมันเหมือนเป็นกระท่อมในป่าเขา ถูกสร้างด้วยไม้ทุกอย่างทั้งข้าวของเครื่องใช้ ทำจากไม้และหิน ไม่มีอะไรที่ทันสมัยเลยอย่างกับในละครอย่างงั้นแหล่ะ เธอพยามลุกขึ้นนั่ง และนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น "น่าแปลก ที่เรารอดมาได้และรู้สึกเหมือน

รักน้องนะ

รักน้องนะ
By PONGPENG

           เราย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่เมื่อสองปีที่แล้วเนื่องจากห้องเช่าเล็กๆที่เราอยู่ถูกไฟไหม้ ถึงแม้ลามไม่ถึงห้องเราแต่เจ้าของจะรื้อทิ้งสร้างใหม่ ตอนนั้นผมเพิ่งอายุสิบเอ็ดขวบมีน้องสาวชื่อกิ่งอ่อนกว่าผมสี่ปี พ่อกับแม่ขายของตามตลาดนัดสลับที่ไปมาไม่เคยมีวันหยุดกว่าจะกลับถึงบ้านก็มืดค่ำ ผมจึงอยู่กับกิ่งสองคนตามลำพังพอกลับจากโรงเรียนจะช่วยกันทำงานบ้านหุงหาอาหารที่แม่ซื้อมาเก็บไว้ในตู้เย็น ห้องเช่าที่เราอยู่กว้างพอสมควรมีตู้เสื้อผ้าใบใหญ่กับโต๊ะเครื่องแป้งบังกั้นเป็นส่วนที่นอนของพ่อแม่ผมกับกิ่งจะเอาฟูกปูนอนกันหน้าตู้เสื้อผ้าตื่นเช้ารื้อพับเก็บไว้เราสองพี่น้องจะพากันเดินไปโรงเรียนที่ไม่ไกลจากห้องพักส่วนพ่อสายๆหน่อยจะขับรถปิ๊กอัพเก่าๆพาแม่ไปซื้อของที่จะมาขายตามตลาดนัดทุกวัน เลิกเรียนเราสองคนเดินกลับบ้านตรงเวลาไม่เคยไปไถลเล่นที่ไหนเพราะแม่กำชับไว้ “เลิกเรียนก้องพากิ่งกลับเลยนะห้ามไปไหนรีบกลับมาทำงานบ้านจะเล่นอะไรก็เล่นกันสองคนในบ้านเดี๋ยวนี้มีแต่ข่าวน่ากลัวทั้งนั้น”จึงเป็นอันว่าเราพี่น้องสองคนแทบไม่มีเพื่อนเลยแถมห้องเช่าที่เราอยู่ก็มีแต่คนวัยทำงานทั้งนั้นหาเด็กวัยเดียวกับแทบไม่ได้ วันนี้หลังเก็บกวาดงานบ้านเสร็จผมเอาการบ้านมานั่งทำแต่ผิดสังเกตที่กิ่งวิ่งเข้าออก