AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 77

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 77 “นัดเดทที่บิดพลิ้วไม่ได้!?...คำพูดที่เอ่ยออกมาไม่ได้!!!”

“เจ้าพบกับแม่ในโลกมนุษย์งั้นรึ?” “เป็นเช่นนั้น...วสันตะนุจรินทร์ก็พบกับพ่อแล้ว” “ไม่ใช่ความคิดที่ดี...พวกเจ้าสองพี่น้องจะทำให้เรื่องราวต่างๆยุ่งยากยิ่งขึ้นและอีกอย่าง...” “?” “เจ้าดูจะชื่นชอบในร่างเด็กนี้ไม่ใช่น้อยแต่ข้าเห็นทีไรก็ไม่รู้สึกคุ้นเคย” “เพื่อไว้เจอกับแม่ของเราไง” “นางรักเจ้ามากทีเดียวแล
ทุกค่ำคืนก่อนเข้านอนก็ตั้งความหวังว่าจะได้พบกับเจ้า” “............................................” “ทว่าหลายคืนแล้วนะที่เจ้าไม่ไปพบกับนาง...มันทำให้นางกระวนกระวายใจไม่น้อย” “อีกไม่นานนี้ล่ะที่เราจะพบกับแม่” “ฮึ!!...กระนั้นก็ถึงกับให้ข้าต้องมาข้องเกี่ยวด้วย” “เพราะเราไม่เห็นว่าจะมีผู้ใดเหมาะสมเท่ากับเจ้าแล้ว...อชินีสุราลัย” “...ช่วยไม่ได้” “อีกอย่างเราก็ไม่อยากให้แม่รู้ตอนนี้ว่าวสันตะนุจรินทร์เป็นลูกของใคร” “ที่ข้าช่วยเจ้าก็เพราะเห็นแก่ความเป็นสหายเก่าแต่ยังไม่เข้าใจเลยว่าเจ้าจะทำไปเพื่ออะไร?” “อชินีสุราลัย...เราอยากรู้เหลือเกินว่านางจะเลือกอะไรระหว่างของสำคัญกับบุตรสาวที่ยังไม่ได้ถือกำเนิด?” “...ก็สมกับเป็นตัวเจ้าดีนะ...ไม่เหมือนวสันตะนุจรินทร์ที่มักจะมองอย่างผิวเผินและชอบเล่นมากเกินไป” “เมื่อไหร่เจ้าจะสนิทกับวสันตะนุจรินทร์สักที?” “คงไม่มีวันนั้นหรอกเพราะน้องของเจ้ามักจะก่อปัญหาให้ข้ารำคาญใจอยู่เนืองๆ...เอาล่ะ!!...เจ้าอยากให้ข้าช่วยเมื่อใดก็บอกล่ะกัน” “ขอบคุณเจ้ามาก” “แต่ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อนว่าจิตใจของมนุษย์นั้นยากจะคาดเดา...บางทีผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่เป็นดังที่เจ้าหวัง...หึ!...มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเพราะครั้งนี้ที่ยอมช่วยก็เพื่อจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นว่าแท้จริงแล้วมนุษย์คืออะไรกันแน่?” “....................................................” ................................................................................................................................................. 20 มกราคม 2549 “วันอาทิตย์นี้ไปดูหนังกันนะ” “...ก็ได้อยู่หรอกแต่จะไปกันสองคนหรือไง?” “ใช่สิ...เจ๊ไม่ชอบดูหนังในโรงเพราะมันเสียงดังหนวกหู” “พวกเธอ...วันหยุดแทนที่จะพักผ่อนหรือทบทวนตำราเรียนแต่ยังจะออกไปเที่ยวอีก” “พี่แคทก็...ทำตัวเป็นคนแก่...รู้จักออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกมั่งซี่~~” “ถ้าผลการเรียนของน้องดีไม่สอบผ่านแบบคาบเส้นแทบทุกครั้งพี่ก็ไม่มีอะไรจะพูด...เอาเกรดเฉลี่ยอย่างนี้ไปสมัครงานแล้วใครเขาจะรับ?” “จบออกไปฝนก็ไม่คิดจะสมัครงานที่ไหนอยู่แล้วเพราะฝนจะเป็นแม่บ้านให้บอล” “นี่!!” “เอาเป็นว่าถ้าพี่ไม่ไปดูหนังด้วยฝนก็จะไปกับบอลแค่สองคน” “ไม่มีทางที่พี่จะยอมปล่อยให้ไปกันตามลำพัง” ...ความหมายคือพี่แคทจะไปรับไปส่งพวกเราและอาจรวมถึงดูหนังพร้อมกันด้วยเพื่อป้องกันการ “แว่บ” หนีออกกลางคัน... “เซ็งเลย!...เจ๊รู้ทันซะได้” “เธอยังจะชิ่งไปไหนอีกเล่า?” “ก็...” “อึ๋ย~~” “ชู่ว!!” “?” (จะชวนไปต่อกันที่โรงแรมเรอะ?...อยากเข้า...เอ้ย!!!...มะ...มันคงไม่ค่อยดีมั้ง?) “แต่อย่านึกว่าเค้าจะยอมแพ้ง่ายๆ...โอกาสไม่มีได้มีครั้งเดียว” “...............................................” “เด็กๆ...ป้าซื้ออาหารสดมาให้จ้ะ...ช่วยรับที” “ค่า!!” “...เมื่อกี้พวกเธอกระซิบกระซาบอะไรกัน?” “ไม่มีอะไรมากครับ” “หึ!...ไม่จริงหรอกแต่ฉันก็พอจะคิดออกนะ” “ว้าว!?...ปลาหมึกตัวใหญ่จังเลย!!...จะนึ่งมะนาวหรือต้มยำหม้อไฟก็เข้าท่า...ป้าเอ็มอยากกินอะไรจ๊ะ?” “แล้วแต่หนูฝนเลยจ้ะ” “งั้นไม่มัวรอช้าละ...เจ๊มาช่วยหนูด้วย” ...ก่อนเข้าห้องครัวจังหวะพี่แคทเดินผ่านผมก็เหลือบมองแว่บหนึ่งโดยไม่พูดอะไร...งานนี้ไม่ใช่ง่ายเพราะอย่าว่าแต่ดูหนังเลย...ขนาดเวลาไปเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยแท้ๆเธอยังตามคุมเราสองคนไม่ให้อยู่กันตามลำพัง... (พี่แคทที่เดินตามหลังเรากับฝนจึงกลายเป็นภาพคุ้นตาของใครๆหลายคนไปแล้ว) “ป้าเอ็มไม่ต้องช่วยก็ได้ค่ะ” “เอาเถอะน่า--...หลายคนช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ” “ฮี่!...ป้ากลัวเจ๊จะทำเสียเรื่องใช่มั้ยล่า?” “ปะ...ปากน่ะ!!” “ฮ่าๆๆๆ” (มันก็มีส่วนจริงแหละ...หากเป็นเรื่องเข้าครัวพี่แคทน่ะเผลอละสายตาไม่ได้หรอก) “นายท่าน” “?” “...นายหญิงฝากมาค่ะ” (แผ่นกระดาษเล็กๆที่แน่นอนว่าพออ่านข้อความในนั้นแล้วก็ต้องขยำทิ้งทันที) “..............................................” “..............................................” “ป้าเอ็มนัดให้ไปเจอกันที่ห้องอาหารของโรงแรมวันอาทิตย์นี้ตอนสิบโมง?” “แล้วศิจะช่วยให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความราบรื่นและไม่มีใครสงสัยแน่นอนค่ะ” (แต่วันอาทิตย์ตอนเก้าโมงเราก็มีนัดว่าจะไปดูหนังกับฝนด้วย!?...รถไฟจะชนกันซะแล้วเหรอเนี่ย?) “คือวันอาทิตย์...” “ไม่สะดวกหรือคะ?” “...เลื่อนเป็นวันเสาร์ได้มั้ย?...ฉันจะเข้าตัวเมืองไปบ้านเพื่อนจากนั้นค่อยแวะ” “ศิจะบอกนายหญิงนะคะ” ...ช่วงหัวค่ำป้าเอ็มตอบโอเคที่จะเลื่อนมาเป็นวันเสาร์ซึ่งผมก็รู้ดีว่าการนัดพบครั้งนี้มี “ความหมาย” ว่าอะไรและแล้ววันเสาร์ก็มาถึง... “เค้าอยากตามไปด้วย~~” “ยังไม่ถึงวันของเธอ” “เจ๊อ่ะ!!” “พี่อุตส่าห์ตามใจปล่อยให้ไปกันแค่สองคนแล้วนะ...อย่าเรื่องมาก!!!” “กะ...ก็ได้” (ไม่รู้เพราะอะไรจู่ๆพี่แคทก็เปลี่ยนใจไม่ตามเรากับฝนไปดูหนัง?...ไว้ใจหรือมีแผนการอะไรอยู่หรือเปล่า?) “แล้วเธอจะกลับกี่โมง?” “คงสักบ่ายๆครับ” “แค่คุยกับเพื่อนเรื่องออกไปฝึกงานต่างจังหวัดต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเลย?” “แหม~~...มันไม่ใช่ง่ายๆที่จะคุยแป๊บเดียวจบนะครับ” “แต่ยังเหลือเวลาอีกต่างนาน...ทำเป็นตื่นเต้นไปได้” “ตกลงกันไว้แต่เนิ่นๆน่ะดีแล้ว” ...ทว่าเอาเข้าจริงก็คุยกันไม่นานหรอกเพราะแค่ไปถามว่าจะเลือกฝึกงานที่ไหนกันระหว่างขึ้นเหนือกับลงใต้แต่สุดท้ายยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะเสียงยังแตกอยู่ฉะนั้นผมจึงอยู่บ้านเพื่อนแค่แป็บเดียวก่อนมุ่งหน้าไปที่โรงแรมในเวลาสิบโมงเช้า... (ไปไหนหว่า?...ไม่เห็นเลย) “ป้าเองจ้ะ” “อยู่ไหนครับ?...ผมมาถึงหน้าห้องอาหารแล้ว” “เข้ามาเลย...ที่โต๊ะในสุดทางขวามือ” (เพราะนี่เป็นการ “แอบนัดพบ” จึงต้องให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัยมากที่สุด...เรายังอดใจเต้นระทึกตามไปด้วยไม่ได้เหมือนกัน) “ผมมาแล้ว...เฮ้ย!?” “เอกคเชนทร์!!!...นี่แก...” (คนที่นั่งหันหลังรอเราอยู่ไม่ใช่ป้าเอ็มแต่กลับกลายเป็นพี่เซค!!!!...นะ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?) “พี่...พี่เซค” “................................................” (ถึงคราวพูดคำว่า “ฉิบหาย” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำแล้ว!!!...โรงแรมนี้เป็นสถานที่นัดพบของผมกับป้าเอ็มแต่ในเมื่อพี่เซคปรากฏตัวอยู่ที่นี่ก็หมายความว่า...) “แก...” “................................................” “ที่แท้ก็เป็น...” (“กล้ามาก~~...แกบังอาจมาก!!!...ไม่นึกจริงๆว่าแกนี่เองที่เป็นชายชู้ของแม่ฉัน!?” “อึ๊ก!!” “ทำลงไปได้ยังไงนั่นคือป้าแท้ๆของแกเลยนะ!!!...แค่คลำไม่พบหางก็โดดเข้าใส่แล้วเรอะ?” “พี่เซค...ฟังผมก่อน” “ไปแก้ตัวกับยมบาลเอาเองเถอะและจงไป...ไปในสภาพตัวขาดเป็นชิ้นๆ...ไอ้สัตว์นรก!!!!) “เฮ่ย!!” “อะ...อื๋อ?” “ฟังที่ฉันพูดหรือเปล่า?” “หะ...พี่พูด...พูดอะไร?” “เอ่อ--...มีอะไรกันหรือครับ?” “ปัทโธ่เอ๊ย!!” (บริกรหนุ่มเข้ามาถามเพราะได้ยินเสียงดังขณะที่พี่เซคก็รีบฉุดแขนเราออกจากห้องอาหารทันที) “จะพาผมไปไหน?” “หุบปาก!!” “...............................................” “คุณแม่เล่นอะไรบ้าๆเนี่ย?...ไอ้หมอนี่เหรอผู้ชายที่จะแนะนำให้รู้จัก?...ขำไม่ออกนะเฟ้ย!!!” “เอ๋!?” ...พี่เซคฮึดฮัดลากตัวผมมาถึงลานจอดรถด้านหลังก่อนจะหยิบมือถือกดเบอร์หาแม่ของเธอโดยระหว่างนั้นญาติสาวผู้พี่วัย 26 ก็จ้องตาขวางแถมชี้นิ้วใส่หน้าผมตลอด... “รู้ถึงไหนอับอายขายขี้หน้าไปถึงนั่น!!!” “!?” “ไงจ๊ะลูก?” “คุณแม่!!...ตลกแบบนี้ขำไม่ออกนะคะจะบอกให้...ผู้ชายที่จะแนะนำให้หนูรู้จักไหงถึงกลายเป็นไอ้บ้ากามนี่ไปได้?” (โอ้โห!?...มันจะแรงเกินไปหน่อยแล้วไม่ไว้หน้ากันมั้งเลยนะ!!!...เอ๊ะ!?...เท่าที่ฟังๆดูรึว่าพี่เซคจะยังไม่รู้ความจริงระหว่างเรากับป้าเอ็ม?) “ใจเย็นก่อนๆซี่~~” “ไม่ใจเย็นอะไรทั้งนั้นค่ะ!!...คุณแม่บังคับให้มาหนูก็ยอมมาแล้วแต่เจ้าเอกคเชนทร์นี่น่ะเหรอผู้ชายที่เหมาะสมกับหนู?...มันเป็นแค่การล้อเล่นใช่มั้ยคะ?” “แม่เอาจริง” “ล้อเล่นใช่ไหมคะ?” (อุ!!...สีตาดำของพี่เซคเริ่มจะเปลี่ยนไปแสดงว่าโมโหจริงๆนะเนี่ย?...เราว่าป้าเอ็มทำเกินไปหน่อยแล้ว) “ก็บอกว่าแม่ไม่ล้อเล่น...แม่อยากให้พวกเธอสองคนได้ปรับความเข้าใจกันจึงคิดแผนนัดหมายครั้งนี้ขึ้น” ...แต่เข้าใจผิดไปเสียไกลเลยแฮะ...ที่แท้ป้าเอ็มก็ไม่ได้นัดหมายให้ผมมาพบกับเธอทว่าเป็นลูกสาวคนโตของเธอต่างหากและโชคดีเหลือเกินที่ไม่ได้เผลอหลุดปากพูดอะไรไม่อย่างงั้นเน่าคาห้องอาหารหรูของโรงแรมระดับสี่ดาวนี่แน่!!!... (ทว่าเมื่อกี้ก็ช๊อคจนจินตนาการอย่างน่ากลัวเชียว!!) “งั้นความพยายามของคุณแม่ก็เปล่าประโยชน์เพราะหนูจะไม่ปรับความเข้าใจหรือนั่งลงคุยกับผู้ชายคนนี้แม้แต่คำเดียว...ไม่มีวัน!!...หนูจะกลับบ้านล่ะ” “เอ้ยเดี๋ยวก่อน!!...แม่อุตส่าห์คิดแผนนี้ตั้งนาน...แผนนัดเดทที่บิดพลิ้วไม่ได้...” “ไร้สาระที่สุดค่ะ!!!...ครั้งนี้หนูจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ผู้ชายน่ะมันหาดีไม่ได้สักคนเดียวโดยเฉพาะเจ้าหลานชายคนโปรดของคุณแม่...ต่อให้โลกนี้เหลือมันเพียงคนเดียวหนูก็ไม่เลือก!!!!” (พอพี่เซคตัดสายความอดทนของเราก็มาถึงที่สุด...มันจะหยามกันมากเกินไป!!!) “เห็นเขาเงียบหน่อยก็ด่าฉอดๆ...ปากจัดแบบนี้น่าเอาไปด่าแข่งกับแม่ค้าในตลาดนัก...ฮึ!!...ผมว่าพี่เซคชนะขาดลอยชัวร์” “ไอ้บ้ากาม!!!” “เออจะทำไมยัยผู้หญิงวิปริต?...นึกว่าตัวเองวิเศษวิโสมาจากไหน?...ดีเลิศตายละให้ฟรียังไม่อยากมองเล้ย!!!!” “แก...” ...พี่เซคที่เดินจากไปแล้วหันหน้ากลับมาอีกครั้งเมื่อโดนผมโต้กลับไปบ้าง...ทีนี้เธอมายืนจ้องหน้าผมๆก็จ้องกลับอย่างไม่กลัวเพราะอารมณ์ขึ้นเหมือนกันแต่นานเข้าก็เริ่มใจฝ่อเพราะตาของพี่เซคเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มอันเป็นเครื่องหมายของสุริยะโลหิตแท้จริง... “หึ!!...ตั้งแต่ไปเข้าพวกกะยัยอ๋อมก็ปากเก่งใจกล้าขึ้นเยอะเลย....คงเสี้ยมสอนกันมาอย่างดีสิท่า?” “อย่า...ดูถูกกันให้มากนัก...ผมก็มีศักดิ์ศรีไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใคร” “ตรงไหนฟะ?” “อยากรู้ไหมล่ะ?” “โฮ่~~...แกจะพิสูจน์ยังไงมิทราบ?” “รับรองพี่เซคต้องคิดไม่ถึงแน่” “พวกคุณมีอะไรหรือเปล่าครับ?” “?” “..............................................” “ผมได้ยินเสียงทะเลาะกันก็เลยมาดู” “...ไม่มีอะไรค่ะ...แค่เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย” “ประมาณนั้นแหละครับ” “อย่าเพิ่งลำพองใจ...ถ้าฉันบอกยามว่าแกพยายามจะปล้ำฉัน...แกซวยแน่” “คำพูดโกหกพกลมแบบนั้นน่ะอยู่ได้ไม่นานหรอกครับ...เดี๋ยวคนอื่นก็รู้” “.............................................” “.............................................” “ลืมซะให้หมดว่าวันนี้เรามาพบกัน” “ที่จริงไม่ต้องบอกก็ได้เพราะผมก็ไม่อยากจะจดจำอยู่แล้ว” “ฮึๆ...แกเสียมารยาทกับฉันมาก...แล้วจะได้เห็นดีกัน” ...พี่เซคเดินไปขึ้นรถแต่ยังไม่ขับออกไปส่วนผมยืนคุยกับยามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแค่ความเข้าใจผิดกันเท่านั้น... “แย่เลยนะครับ” “ผมก็ว่างั้น...เฮ้ย!!!” “!?” “ยัยพี่บ้า!!!!...นี่ใจคอคิดจะขับรถชนกันเชียวเรอะ?” “แกเสือกมายืนเต๊ะท่าขวางทางเองโว้ย!!!” “หนอยแน่ะ!!” (ที่บอกว่าแล้วจะได้เห็นดีกันคือไอ้นี่หรือเปล่า?...แสบสันต์เข้าไปถึงทรวงลูกพี่ลูกน้องเราคนนี้เมื่อกี้โดดหลบแทบไม่ทัน...สักวันจะต้องแก้แค้นให้สาสมเลยคอยดู!!!!) “เธอชูนิ้วกลางให้น้องด้วย” “ฮึ่ม!!!” .......................................................................................................................................... “ป้าเกือบจะทำให้ผมหัวใจวายตายแล้ว!!!” “...แย่กว่าที่คิดแฮะ” “ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ...ถ้าเรื่องแดงขึ้นมานี่ผมเน่าสนิทเลย” “จ้าๆๆ...ป้าจะชดใช้ให้เอง...พ่อบอลขึ้นมาที่ชั้น 12 ห้อง 1210” “นี่...ป้าก็อยู่ที่โรงแรมนี้เหรอ?” “รีบมาตรงลิฟท์เร็วๆเข้า...ศิจะรออยู่” “.............................................” (ค่อยยังชั่วที่ยังมีรางวัลปลอบขวัญ...นับว่าไม่เสียเที่ยวที่มา) “รายละเอียดก็ถามนายหญิงเองนะคะ” “เธอจะเข้าไปด้วยใช่มั้ย?” “อุ๊ย!!...นายท่านอย่ารุ่มร่ามสิคะ~~...ศิไม่เข้าไปเป็นก้างของนายหญิงหรอก” “ว้า!!” ...ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์ผมจึงทำได้แค่กุมหน้าอกกับเอามือลูบบั้นท้ายของสาวน้อยคนสนิทป้าเอ็มเท่านั้น...ศิเอาไว้โอกาสหน้าก็ได้เพราะอย่างไรก็พอจะหาจังหวะได้ง่ายกว่า...เมื่อเข้าไปในห้องก็เห็นป้าเอ็มนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนอนตะแคงบนเตียงมือท้าวแก้มโปรยรอยยิ้มหวานจ๋อยต้อนรับซึ่งเล่นเอาผมตะลึงไปชั่วขณะ... “ขอให้มีความสุขนะคะ” “อะ...อืม” “..........................................” (ศิจะคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกเพื่อคอยมองดูว่ามีใครเดินเข้าออกผ่านไปมาบ้างและเหตุผลหลักๆก็คือหูตาของพี่เซคที่มีชุกชุมยิ่งกว่ายุงนั่นเอง) “ผมว่าพี่เซคเหมาะจะเป็นแม่ค้ามากกว่าหมอ” “ปกติเซคจะไม่ตัดสายของป้ากลางคัน...นี่แสดงว่าเธอคงโมโหมาก?” “โมโหจนตาเปลี่ยนสีเลยละ” “งั้น...คงไม่ได้เผลอจ้องนานหรอกใช่มั้ย?” “ก็...ทำไมครับ?” “เพราะถ้าพ่อบอลเผลอมองนานๆอาจจะโดนสะกดจิตเข้าน่ะสิ” “หา!?” “ถึงพลังจิตของเซคจะไม่รุนแรงเท่าม่อนแต่ก็นับว่าอันตราย...จริงๆแล้วเซคสามารถสะกดจิตคนอื่นได้เหมือนกันแต่น้อยคนจะรู้” “เธอจะสะกดจิตผมหรือ?” “เพื่อให้พูดความจริงไงล่ะ” “?” “หากเซคสะกดจิตพ่อบอลแล้วถามในทำนองว่าเคยมีอะไรเกินเลยกับป้าหรือเปล่า?...เมื่อนั้นก็อาจจบเห่เอาง่ายๆแน่” “................................................” “อ่ะ!!...สรุปว่าอย่าเสี่ยงไปสบตาของเซคตอนอยู่ในภาวะตะวันเลือดเป็นใช้ได้” “แล้วป้านึกยังไงครับถึงให้ผมมาเจอคนอันตรายอย่างพี่เซค?” “ก็อยากจะให้มาพูดคุยกันดีๆไงแต่ป้าคงคาดหวังมากไปหน่อย” “หวังมากไป?” “กลางปีนี้เซคก็จะ 27 แล้วแต่ยังไม่ยอมคบผู้ชาย...แนะนำผู้ชายให้ก็เอาแต่ผัดผ่อนบอกไว้คราวหน้ามั่งล่ะ...ยังไม่พร้อมมั่งล่ะ...ป้ารำคาญก็เลยจัดการซะ” “แต่มันเสี่ยงมากเลยนะครับ...ถ้าพี่เซคเฉลียวใจล่ะก็...” “ป้าจงใจให้เธอมาที่ๆอันตรายแต่ก็มีเหตุผลอื่นช่วยปิดบังอยู่แล้วน่า--” “เอาข้ออ้างจะหาผู้ชายมาใช้งั้นเหรอ?” “เกิดพ่อบอลกับเซคพูดคุยถูกคอก็อาจจะชวนกันมาเปิดห้องบนนี้ก็ได้นี่” “มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ...พี่เซคน่ะเกลียดขี้หน้าผมที่สุด!!!” “ที่จริงป้าก็...ไม่คิดว่ามันจะสำเร็จแต่แรกแล้วถึงได้มานอนรอตาหนูอยู่นี่ไงจ๊ะ” ...เป็นแผนที่เสี่ยงทว่าก็แยบยลไม่เบา...ป้าเอ็มมารอในห้องนี้ตั้งแต่ต้นและคอยกำกับบทบาทของพวกเรา...สมมติถ้าผมกับพี่เซคลงเอยกันได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมในความคิดของป้าเอ็มแต่หากไม่สำเร็จสาวใหญ่ก็ยังมีแผนสองรองรับ...ป้าเอ็มเรียกให้ผมเข้ามายืนที่ขอบเตียงแล้วพลิกนอนคว่ำยื่นมือปลดตะขอดึงกางเกงลงทั้งนอกในพลางลูบคลำไอ้หนูเป็นการอุ่นเครื่อง... “ตาหนูจะกลับกี่โมง?” “สักบ่ายๆครับ” “ยังมีเวลาตั้งสองชั่วโมงกว่า” “แต่เราอย่ามัวคุยถึงคนอื่นกันเลยนะครับ” “ฮิๆ...ป้าหวังแบบนั้นอยู่แล้วจ้า!!” ........................................................................................................................................... “................................................” “................................................” “อ๊าโธ่เว้ย!!!” “ใจเย็นๆสิพี่ก็!!” “เจ้าอ๋อม~~...มีใครร้อยมาลัยแล้วแหกปากร้องโวยวายอย่างเจ้ามั่งหรือเปล่า?” “หนวกหูน่าตาแก่!!” “ห๊ะ!?...เจ้าจะแกล้งข้าอีกแล้วใช่มั้ย?...หือๆๆ...นี่จะเอาอีกแล้วใช่มั้ย?” “พูดงี้เดี๋ยวสวย!” “ยาย!...ยายๆๆๆ...ยายจ๋ามานี่เร็ว!!...เจ้าอ๋อมจะแกล้งตาอีกแล้ว!!!” “เอ้ย!?” “เร็วๆเข้า...เจ้าอ๋อมมันจะอาละวาดใหญ่แล้ว!!” “ซวยละ!!” “ตะ...ตาแก่บ๊องเอ๊ย!!!” “มีอะไรกันอีก?...เสียงโหวกเหวกดังไปถึงหน้าบ้านโน่น” “ยาย!!...เมื่อกี้เจ้าอ๋อมทำตาดุใส่...อูย~~...น่ากลัวที่สุด!!!” “หมั่นไส้ตาเฒ่านี่จริงจริ๊ง!!!...ถ้าไม่เพราะเห็นว่าเป็นตาล่ะก็จะถีบให้ตกจากเรือนเดี๋ยวนี้แหละ” “หือ?...เจ้าป้อมก็พลอยเป็นไปด้วยนะยาย!!...ดูสิๆ...มันขู่ตาฟอดๆเลย” “หยะ...หยุดใส่ไฟเดี๋ยวนี้น๊ะ!!!” “ยังทำหน้าแค้นเคืองด้วยแน่ะ!!...แบบนี้ต้องลงโทษให้หนักเชียว” “พอแล้วๆๆ...ขนมจีนผสมน้ำยาพอกันทั้งตาทั้งหลาน!!!...ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้” “เออะ!!” “ฮี่~~” “สมน้ำหน้าตาแก่!!!” “แม่อ๋อม...ยายสั่งให้ร้อยมาลัยตั้งนานทำไมเพิ่งจะได้แค่นิดเดียวแล้วยังบิดๆเบี้ยวอีก?...หัดมีความตั้งใจซะมั่งสิ” “ฉันก็ตั้งใจแล้วนะยายแต่มันทำไม่ได้จริงๆ” “หยุดอ้างอะไรที่ไม่เข้าท่าซะที!!” “ฮึ๊ย~~...ยายจะสอนให้ฉันนั่งพับเพียบร้อยพวงมาลัยสวยๆก็เหมือนกับฝึกให้เสือกินผักเป็นอาหารนั่นแหละ” “ดูดู๊!!...ช่างเปรียบไปได้เจ้าหลานเวร” “แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นสั่งให้ไปไล่กระทืบพวกศิวะบัณฑิต...ฉันจะรีบตามไปจัดการให้อย่างรวดเร็วทันใจ...นะยาย!!” “ตายๆๆๆ...ตายแล้วหลานสาวฉัน!!!...งานแม่บ้านแม่เรือนไม่สนใจนำพาคิดจะแต่เที่ยวไล่เตะไล่ตีชาวบ้านชาวช่อง...ฉันจะเป็นลม~~” “หนูมียาลมยาหม่องค่า~~” “ยายประชด!!” “อ้าว!?” “ไม่ต้องเลยนะ!!...ก่อนเที่ยงนี้แม่อ๋อมจะต้องตั้งใจร้อยพวงมาลัยให้เสร็จไม่งั้นก็อย่าได้กินข้าวกลางวัน...ร้อยให้สวยๆด้วย...แม่ป้อมก็เหมือนกัน...ใช้เข็มเย็บปักถักร้อยได้ดีก็นับว่าเข้าท่าแต่ปรับปรุงกิริยามารยาทหน่อย” “ยาย~~...ฉันไม่ถนัดเรื่องอย่างนี้จริงๆนะ” “ไม่ต้องมาต่อรอง!...พูดอะไรออกมาก็ขอให้ทำตามที่พูดไม่งั้นจะเป็นที่น่าเชื่อถือของลูกบ้านได้อย่างไร?...ต่อให้ต้องอยู่ที่นี่เป็นปีก็ต้องอยู่!!” “แต่...แต่สิ้นเดือนนี้พวกฉันจะไปอยู่กับบอล...” “ไม่ยอมละทิ้งนิสัยกระโดกกระเดกวางก้ามใหญ่โตชอบข่มขู่คนอื่นแบบนี้ยังคิดจะไปที่ไหนอีกได้เรอะ?” “อ้าวยาย!?...ก็ไหนสัญญาว่าเมื่อพวกหนูมาเรียนรู้กิริยามารยาทที่โยนกบูรพาจนครบหนึ่งเดือนก็จะปล่อยให้ออกไปหาพี่ชายได้ไงคะ?” “แล้วปาเข้าไปเกือบครึ่งเดือนนี่มันมีอะไรดีขึ้นหรือยัง?...วันก่อนที่คนจากศิวะบัณฑิตมาอวยพรปีใหม่ก็ทีนึงแล้ว...อย่านึกว่ายายไม่รู้นะว่าทั้งสองคนทำอะไรไว้บ้าง?...ไม่รับของขวัญก็ยังพอทำเนาแต่นี่ดันแอบไปวางยาในอาหารจนท้องเสียกันหมด” “การใช้เล่ห์กลเพื่อเอาชนะศัตรูเป็นสิ่งที่หนูถนัดและนี่คือความคิดของหนูคนเดียวไม่ใช่พี่อ๋อม” “...แต่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยไม่ใช่หรือไง?” “เพราะฉันเกลียดพวกมัน!!!...จุดประสงค์ที่มาอวยพรปีใหม่คราวนี้เป็นแค่ข้ออ้างแต่แท้จริงจะมาเจรจาขอบอลไปเป็นหลานเขยไม่ใช่รึไง?” “จริงด้วย!!...เรื่องอะไรพี่ชายจะต้องไปแต่งงานกับผู้หญิงจากศิวะบัณฑิต...ป้อมไม่มีวันยอม!!!” “เฮ่ย~~...ข้าก็บอกจนปากจะฉีกว่านี่มันแค่พูดคุยกันเฉยๆ...ยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดอะไรสักหน่อย” “แต่สุดท้ายก็จะตกลงใช่มั้ย?...หืม~~...ตกลงใช่มั้ย?” “บ๊ะ!!...เจ้าพวกนี้ชักพูดไม่รู้เรื่อง” “งั้นเกลียดยายด้วยสิเพราะยายน่ะก็เติบโตมาจากศิวะบัณฑิต...ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาตั้งแต่จำความได้” “.......................................................” “.......................................................” “ยายจะไม่ปล่อยให้ทั้งสองคนเป็นอย่างนี้อีก...ถ้าประพฤติตัวเป็นกุลสตรีที่เรียบร้อยไม่ได้ก็อย่าหวังจะก้าวเท้าออกจากโยนกจัตุรัส...ตั้งใจเรียนรู้คุณสมบัติที่ดีของกุลสตรีซะอย่าให้อายสามคุณหนูแห่งศิวะบัณฑิต” “ให้ได้สักครึ่งของเจ้าม่อนก็ยังดี” “ฉันเกลียดการถูกเปรียบเทียบที่สุดเลย...โธ่!!...อย่างยัยศรมุกดาน่ะจับนั่งนิ่งๆทั้งวันก็ทำได้เพราะแม่คุณชอบทำตัวตายซากราวกะผีดิบ” “ยายอ่ะ!!” “มาลัยน่ะร้อยให้เสร็จเร็วๆบ่ายจะได้เอาไปให้แม่หมอ...ตาเองก็อย่ามัวแหย่หลานให้มากนัก...เดี๋ยวพอโดนแกล้งก็จะมาร้องโอดครวญบอกตรงๆว่าฉันรำคาญ...แล้ววันๆไม่ทำอะไรก็ชอบมากวนประสาทหลานซะด้วยนะตาเฒ่าขี้เหงานี่” “จ้าๆ” “ฮึ่ม!!...กะอีแค่ของพรรค์นี้คนอย่างศรรัตน์จะทำไม่ได้เชียวหรือไงวะ?” “พี่อ๋อมพยายามเข้า” “หึๆๆ” “ตาแก่หัวเราะอะไร?...อยากมีเรื่องเรอะ?” “แน่ะๆๆ...ไม่ทันไรก็จะพาลใส่ข้าอีกละ!!” “เริ่มต้นก็ตาแก่นั่นแหละที่มาแหย่ฉันก่อน” “แต่ถ้าเจ้าไม่เอะอะข้าก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ...อืม--...จะว่าไปสอนให้เจ้าร้อยพวงมาลัยจนเป็นนี่สู้สอนให้ลิงพูดได้ยังจะง่ายซะกว่า” “ใช่ไหม...ล่ะ?...อื๋อตาเฒ่า!?...หลอกด่าฉัน!!!” “ข้าเปล่าๆ” “อย่าค่ะพี่!!...เที่ยวนี้ถ้ายายรู้เข้าเราจะยิ่งซวย” “ฮ่าๆๆๆ...คนอย่างนางพญาเสือต้องมานั่งเอี้ยมเฟี้ยมร้อยพวงมาลัย...น่าขำจริงๆวุ้ย!!” “ทน...ทนไม่ไหวแล้ว~~...จะจับโยนลงหม้อแล้วก็ต้มกินทั้งกระดูกเลยตาแก่บ้า!!!” “พี่อ๋อม...ไม่ค่ะไม่!!” “ข้าไปก่อนล่ะเน้อเจ้าหลานเวร!!...ฮะๆๆๆๆ...แค่นี้ก็กินข้าวกลางวันอร่อยแล้วโว้ย!!!” “ฮึ่ยเจ็บใจ~~...เจ็บใจนัก!!!...ไม่ว่าใครหน้าไหนก็หัวเราะเยาะฉัน” “อดทนค่ะ...เราต้องอดทนจนกว่าจะถึงกำหนดหนึ่งเดือน” “ถ้ายัยสองซกมกแอบจิตมาเห็นฉันในสภาพนี้พวกมันต้องขำกลิ้งจนท้องขัดท้องแข็งแต่เมื่อกี้ป้อมไม่ได้ฟังที่ยายพูดเหรอ?...ถึงครบหนึ่งเดือนเราก็อาจจะไม่ได้ออกจากที่นี่นะ” “ถึงตอนนั้นหากยายไม่ปล่อยเราก็หนีสิคะ” “หนี...” “ฮึ!!...ไม่มีใครจะหยุดเราสองพี่น้องได้หรอก” “...นั่นสินะ” “หรือไม่งั้นก็ขอให้แม่ช่วยพูดกับยาย” “อย่าดีกว่า...เรื่องของเราๆควรจะจัดการเอง” “ไม่รู้ป่านนี้แม่กำลังทำอะไรอยู่นะคะ?” “พี่เพิ่งคุยกับแม่เมื่อสักครู่นี้เอง” “ว่ายังไงมั่งคะ?” “คือเวลานี้แม่กำลัง...” .............................................................................................................................. “โอ้...อู้ววววววว...เป็น...เป็นไงจ๊ะ...อุ...ยะ...ยังจำความรู้สึกนี้ได้มั้ย?” “ครับ...หีป้า...ยังฟิตและก็...โอออออออ...เย็ดมันส์ควยเหมือนเดิม” “อูยยยยยยยยยยยยย...เสียว...เสียวหีแทบขาดใจ...เย็ดมันส์ก็จงเย็ดให้หนักๆสิ...ซีดสสสสสสสสสสส...เอาควยแข็งๆนั่นแทงหีป้าให้รูบานไปเลยซี่!!...โอ๊ววววววววว” “ร่านควยเหลือเกินป้าคนสวยของผม...อุ๊บ!!...ทะ...ทำไมรูหีถึงได้ฟิตอย่างนี้?” “เร็วอีกสิ...เร็วกว่านี้อีก...อ๊าวววววววววววววว...มือตกหรือไงจ๊ะ?” “ไม่ใช่ครับ...ผมยังไม่เอาจริงต่างหาก” “งั้นก็ถึงเวลาแล้ว...อื้มมมมมมมมมมม...เย็ดให้สมกับที่ป้าเฝ้ารอ” “เปลี่ยนท่าดีกว่าครับ” “จะ...จะมีท่าไหนมันส์กว่าท่าหมาอีกล่ะ?” “ท่า...ขย่มตอไง” “วิเศษมาก!!...ป้าก็อยากขย่มควยตาหนูมาตั้งนานแล้ว” “งั้นก็...” “เดี๋ยว...อย่าใจร้อน...อืออออออออออ...ตะ...ตาหนูเย็ดท่านี้ไปก่อนเถอะ...อืมมมมมมมมมมม...ป้ายังไม่ค่อยถึงใจเลย” ...ผมกดตัวป้าเอ็มลงต่ำแล้วยกบั้นท้ายโด่งขึ้นก่อนจะชักควยที่อาบเยิ้มไปด้วยน้ำหล่อลื่นจากในช่องคลอดของสาวใหญ่ออกมา...ป้าเอ็มเผลออุทานด้วยความเสียดายแต่ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นหวีดร้องลั่นห้องเพราะผมอาศัยช่วงทีเผลอแทงควยสวนเข้าหีเข้าไปทีเดียวอย่างไม่รั้งรอ... “บะ...บ้าจัง!!...ตาหนูเนี่ยชอบแกล้งป้า” “เพื่อความเสียวซ่านสะท้านควยหีไงจ๊ะ” “หัวใจจะวายแล้วย่ะ!!...เอ้า!...เข้าหีมิดแล้วก็อย่าช้า...กะ...กระเด้าให้น้ำควยกระฉูดเต็มรูเลยเร็วๆเข้า!!!” “แน่อยู่แล้ว” “อ๊าวววววววววววว...อื๊อออออออออออออออออ” “กรอดดดดดดดดด...สุด...สุดยอดจริงๆ” “อ๊าาาาาาา” “เด้งตูดหน่อยสิจ๊ะคนสวย” “อืออออออออออออออ” “เร็ว...เร็วอีกครับ...อูยยยยยยยยยยยยยยยยยย” “อ๊อยยยยยยยยยยย...สะ...เสียวจังเลยตาหนูจ๋า~~...โอ๊ยยยยยยยยยยยย” “ฮึ่มมมมม...หีฟิตอย่างกะของสาวๆ...ซีดสสสสสสสสสส” “อื้มมมมมมมมมมม...ควยตาหนูก็ใหญ่ดีเหลือเกิน...อึ๊ยยยยยยยยยยยยย...แน่นคับรูจัง...โอ๊วววววววววว” ...ในห้องหรูชั้นสิบสองมีแต่เสียงร้องครวญครางด้วยความเสียวกระสันของหนุ่มสาวต่างวัย...หากใครไม่รู้จักผมก็คงจะคิดว่าป้าเอ็มแอบมีผัวเด็กแต่พอเอาเข้าจริงแล้วหน้าตาผมกับพี่สาวของพ่อคนนี้ก็แทบจะดูคล้ายว่าอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน... “อั๊ก!!...เบาๆหน่อยตาหนู...อุ...อู๊ยยยยยยยยยยยย...ควย...หัวควยมันทิ่มปากมดลูกเมื่อกี้...อ๊ายยยยยยยยยยย” “แย่...แย่แล้ว!!!” “เอ๋?” “ผม...ผมกำลังจะแตก...จะแตกแล้วครับ!!!!” “เดี๋ยวก่อนซี่~~...จะรีบออกไปไหนเล่า?” “อื้อหืม!!...ก็หีป้าน่ะสิ...ทั้งฟิตทั้งตอดแรงเหลือหลาย...มันบีบควยผมหนึบๆๆๆไม่หยุดเลย” “ฮิๆๆ” “ป้าขำอะไร?” “ก็ขำหลานชายสุดที่รักไง” “เห?” “รู้ตัวหรือเปล่าว่าพ่อบอลโชคดีกว่าผู้ชายอีกหลายคนนัก?” “ยังไง?” “เพราะพวกเขาเหล่านั้น...อืมมมมมมมมมมม...ทำ...ทำได้แค่มองแล้วเก็บไปฝันกับชักว่าวเท่านั้นเอง” “มอง...อะไรมั่งครับ?” “หน้าอกเอย...ขาอ่อนเอย...บางทีก็แอบดูในหว่างขาหรืออกเสื้อ...อึ๊ก!!...เวลาป้าไปกินอาหารในห้างน่ะประจำเลย” “โอ้!!!” “คนที่เดินไปมาหรือแม้กระทั่งพนักงานร้านจะต้องแอบชำเลืองมองลงต่ำ...แอบมองกางเกงในป้าไง” (เพราะหมู่นี้ป้าเอ็มชอบนุ่งกระโปรงสั้นๆด้วยนี่นา...หืม?...จะชวนคุยเพื่อให้ออกช้าหรือเร่งให้แตกไวขึ้นเนี่ย!?) “จะ...จงใจจะโชว์?” “...เปล่าสักหน่อยแต่บางทีก็มีแอบโชว์นิดหนึ่ง” “ผม...ได้ยินแบบนี้แล้วชักหวงป้านะ” “ฮิ!...งั้นก็ต้องหาเวลามาอยู่กับป้าบ่อยๆด้วยนะจ๊ะ...มะ!!...ตานี้ป้าขอบรรเลงฝีมือมั่ง” ...ป้าเอ็มลุกยืนแล้วหันหลังหย่อนก้นนั่งยองๆพลางเอื้อมมือจับท่อนควยตั้งโด่รูดสองสามทีก่อนจะจ่อหัวหยักเข้าใกล้ปากรูหีแล้วดันเข้าไปทีเดียวมิดดุ้น...ทั้งเธอและผมต่างร้องครางออกมาพร้อมกันทันใดและจากที่เห็นในกระจก...สาวใหญ่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ใช่น้อยเลย... “เป็นอะไรครับ?” “จุก...นิดหน่อย” “ก็อยากลองของ...เล่นผลุบหายเข้ารูในทีเดียวนี่ครับ” “ง้านเหรอ~~” “โอ๊วววววววววววววว...อะ...อะไรนี่?” “เป็น...เป็นไงล่ะ...เสียวควยมากใช่มั้ยจ๊ะ?” “ครับ...ป้าเก่งจังเลย” “อึ๊ยยยยยยยยยยยยย...ป้าชอบควยตาหนูที่สุด...อู๊ยยยยยยยยยยยย...แน่นเต็มรูแถมแข็งปั๋ง...ซีดสสสสสสสสสสส...จะ...แตกจริงๆเหรอนี่?” “ครับ...ผมชักกลั้นไม่ไหว” ...พอป้าเอ็มรู้ว่าผมใกล้จะน้ำแตกก็รีบขย่มถี่ยิบจนเตียงไหวยวบๆเพราะหวังจะเสร็จไปพร้อมกันแต่ผมคิดว่าถ้าหล่อนกระแทกควยเร็วแบบนี้มีหวังได้ไปสวรรค์ก่อนแหงๆ...บอกให้ช้าๆกว่านี้หน่อยดีมั้ยนะ?... “ปะ...ป้าครับ” “อ๊อก!!...เด้งควยสู้สิ...ระ...เราจะออกพร้อมกัน” “ผะ...ผมว่า...จะ...จะไม่ไหวแล้ววววววว” “อ๊าาาาาาา~~...อย่า...อย่าเพิ่งซี่!!...รอป้าก่อน...อูยยยยยยยยย...เสียวหีจังเลยยยยยย...อื้อหือ~~...เต็มหีดีเหลือเกิน” “ซีดสสสสสส...ไม่...ไม่ไหวจริงๆนะป้า...อ๊ากกกกกกกก” (เขย่งเท้ายกตูดขย่มควยอย่างไม่มียั้งแรงเลยสักนิด!!!...ไม่รู้สาวใหญ่พราวเสน่ห์ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกัน?) “แหม~~...ไม่ได้เย็ดกันเดี๋ยวเดียว...ความอึดตกลงไปนะเนี่ย?” “ช้า...ขย่มช้าลงอีกนิด...โออออออออ...ได้...ได้โปรด!!” “ได้...แต่ขอเน้นๆหนักๆนะจ๊ะ...อึ๊บๆๆๆๆ...อืออออออออออ...นั่น...ซีดสสสสส...ต้องแบบนั้น...อ๊อยยยยยยยยยย” “โอ๊ววววววววววววววว” “อ๊าวววววววววววววววววว” “อึ๊ยยยยยยยยยยยยยย...เสียวควยฉิบ...กรอดดดดดดด” “ซีดสสสสสสสสสสสส...เย็ด...เย็ดอร่อยอย่าบอกใครเชียวหลานฉันนี่...อืมมมมมมมมมมม” “ไม่ไหว...อ๊ากกกกกกก...ผมไม่ไหวแล้วป้า” “งั้น...ปล่อย...ออก...ออกมาเลย” ...เท่านั้นแหละทำนบที่ผมอดทนกลั้นแล้วกลั้นอีกก็พังทลายดุจท่อน้ำแตก!!!...ท่อนควยที่รู้หน้าที่ตัวเองทำงานทันทีโดยไม่ต้องสั่งโดยน้ำกามที่กักเก็บมาเป็นอาทิตย์ก็ถึงคราวที่จะได้ออกมาภายนอกแล้วผู้ที่ทำให้มันกระฉูดออกมาก็คือคุณป้าคนสวยของผมนั่นเอง...สาวใหญ่นั่งนิ่งตัวเกร็งกดแช่หนอกหีและออกอาการสะดุ้งเป็นระยะเพราะรู้สึกถึงคาวน้ำกามที่พุ่งเข้าสู่ช่องคลอดของหล่อนอย่างเต็มที่... “ร้อนข้างในไปหมด” “โอ...โอววววววววววว...โออออออออ” “ทะ...ทำไมเที่ยวนี้ออกไวกว่าทุกที?” “...ผม...คงจะตื่นเต้น” “เหรอ?” “ผมขอโทษครับ” “ไม่เป็นไรจ้ะตาหนู...ดีเหมือนกันที่หลั่งในหีป้าเต็มๆ” “แต่ป้ายังไม่เสร็จ” “เอาน่าๆ...เรื่องเล็กน้อยอย่าคิดมาก” (แต่มันใหญ่เอาการสำหรับผู้ชายนะครับ!!!) ................................................................................................................................................... “อือ” “...............................................” “ป้าเอ็ม” “จ๋า~~” ...รู้สึกผมจะงีบหลับไปชั่วครู่ด้วยความอ่อนเพลียเพราะจำได้ว่าพอป้าเอ็มขย่มจนผมน้ำแตกคาร่องรูสติก็ค่อยๆรางเลือนโดยท้ายสุดเห็นสาวใหญ่ขยับลุกออกจากหว่างขาแล้วก้มลงดูดน้ำควยพลางใช้ลิ้นทำความสะอาดท่อนลำให้...ลีลายังเร่าร้อนไม่เปลี่ยนจริงๆคุณแม่ลูกสี่คนนี้เล่นเอาผมหายใจหายคอตามจังหวะแทบไม่ทัน... (ใช่จริงๆ...คุณป้าคนสวยนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งกำลังเติมลิปสะติก) “หลับต่ออีกสักหน่อยสิจ๊ะ” “................................................” “?” “................................................” “หน้าป้ามีอะไรเหรอ?” “ไม่ว่ารูปร่างหรือใบหน้า...มองยังไงๆป้าก็โกงอายุชัดๆ” “ฮะๆๆ...ตาหนูเนี่ยพูดอะไรก็ไม่รู้!” “กี่ครั้งๆผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่านี่หรือผู้หญิงวัยใกล้ห้าสิบ” “ก็เคยบอกแล้วว่าเรื่องอายุเอามาคุยกับป้าไม่รู้เรื่องหรอกจ้ะ” “คงไม่เกินเลยว่าเวลาป้าเอ็มหวนคืนสู่วัยสาวน่ะดูอ่อนเยาว์กว่าพี่เซคซะอีก” “ป้าดีใจที่ได้ยินแบบนี้แต่เซคไม่ใช่...เธอจะเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันทีเลยนะจะบอกให้” “งั้นผมจะหาโอกาสไปพูดใส่หน้าซะเลยดีมั้ย?” “อย่านะป้าขอร้อง!!...แค่นี้ก็แทบจะแล่เนื้อเถือหนังกันแล้ว” “ครับๆๆ” “จะกลับแล้วรึ?” “ถ้ากลับช้าเดี๋ยวจะถูกสงสัย” “ตั้งแต่มีอะไรด้วยกันนี่หนูฝนแทบจะกลายเป็นเงาพ่อบอล...พรุ่งนี้ก็จะไปเดท” “ดูเหมือนป้าจะไม่ค่อยพอใจ?” “หากคิดในแง่ว่าป้ากับหลานต้องมาใช้ของร่วมกัน...อย่างนี้ตาหนูก็ยิ่งมีเวลาให้ป้าน้อยลง” “................................................” “เมื่อกี้ป้าก็ยังไม่เสร็จด้วย...ยกสองว่าจะให้ล่อตูดสักหน่อย” “เอาไว้คราวหน้าก็ได้ครับ...รับรองผมจะทำให้ถึงใจป้าเชียว” “ไม่ต้องมาให้ความหวังย่ะ...อุ๊ย!!” ...สาวใหญ่คนสวยแกล้งทำงอนโดยการมองค้อนและลุกหนีผมจึงรีบตามไปสวมกอดพลางพูดปลอบประโลม...พอท่อนควยได้เสียดสีกับบั้นท้ายอันนุ่มนิ่มอวบอัดนานๆเข้าก็ชักจะมีอาการตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง...ป้าเอ็มรู้สึกถึงความผิดปกติแต่ยังใจแข็ง(?)ออกปากไล่ผมทั้งที่เธอก็ยืนตัวสั่นด้วยความกำหนัดเหมือนกัน... “จะ...กลับแล้วไม่ใช่เหรอ?...รีบไปเลย” “ออกมาใจจริงหรือเปล่า?” “เอ๋!?” “อยากให้ผมไปจริงๆแน่หรือ?” “บ้า~~...ก็รู้ๆอยู่แก่ใจ” “งั้นผมขออีกยกนะจ๊ะ” “ไม่ต้องขอหรอก” “?” “เพราะสำหรับตาหนูน่ะกี่ครั้งป้าก็ให้ได้” “ป้าเอ็มที่สุดแสนจะน่ารักของผม” ...ผมจึงล้มเลิกความคิดจะกลับบ้านแต่ตรงเข้าอุ้มป้าเอ็มไปวางที่เตียงแทนซึ่งสาวใหญ่ก็ไม่วายบ่นอุบอิบว่าเพิ่งจะเติมลิปสะติกมาหยกๆทว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยสักนิดเดียว... “จะเอาน้ำเงี่ยนให้ออกหมดจนไม่เหลือไปถึงสาวอื่นเลยคอยดู!!!” “ป้าหมายถึง...” “ไม่รุ!!...ยกนี้พ่อบอลได้มองฟ้าเหลืองอ๋อยแน่ๆ” (ในที่สุดป้าเอ็มก็โดนเล่นเสียวทางประตูหลังสมใจอยากซึ่งมันทำให้เรากลับออกมาจากโรงแรมในสภาพที่เดินขาสั่นนิดๆแต่ปวดเอวเป็นบ้าเลยเพราะดันรับคำท้าสาวเจ้าด้วยการเล่นท่าอุ้มแตง...ยัง!!...ยังเหลือขี่รถกลับบ้านอีกนะเนี่ย~~) “อดทนไว้ๆ...จะให้ใครสังเกตเห็นไม่ได้โดยเฉพาะยัยผีกับพี่แคทแต่ก็แก้ตัวที่ยกแรกชิงออกไปก่อนสำเร็จแล้ว...ฮะๆๆ...โอ๊ย!!!...หลังกู~~” ...................................................................................................................................................... ...คืนนั้น... “จะตามหาตัวคุณน่ะไม่ยากเลยเพราะร้านอาหารแถวมหาวิทยาลัยต่างรู้จักคุณหมอกันแทบทั้งนั้น” “แสดงว่าฉันก็เป็นคนดังในแถบนี้ไม่เบาแฮะ!!...นั่งๆ...ได้ข่าวว่าโดนวางยาในอาหารเรอะ?” “โชคดีที่ดิฉันไม่ได้กินแต่คนติดตามนี่สิแย่เลย” “ฉันต้องขอโทษแทนสองน้องสาวจอมวู่วามด้วย...ไม่มีเหตุผลกันซะบ้างเล้ย!!!” “ว่าแต่คุณหมอชวนดิฉันนั่งร่วมโต๊ะนี่จะไม่เป็นไรหรือ?” “ไม่--...ฉันไม่บ้าบอคอแตกเหมือนสองแม่เสืออารมณ์ร้ายหรอก...น้อง!!...เอาแก้วมาอีกใบ” “พูดได้ดีค่ะ” “....................................................” “ก่อนหน้านี้ดิฉันไปพบคุณศรมุกดาแต่ไม่เจอ” “อ๋อ!...เธอออกไปข้างนอกน่ะ” “งั้นดิฉันฝากของขวัญปีใหม่ให้เธอด้วยนะคะ” “จริงๆไม่ต้องลำบากก็ได้...ฮะ!!...จะว่าไปน้องเอ้ก็หอบของพะรุงพะรังขึ้นรถไปเหมือนกัน” “คงไม่ได้กลับเร็วๆนี้หรอกค่ะเพราะคุณสุริยาวรรณเป็นที่ชื่นชอบของคนในบ้านเรา” “นั่นสิ” “เอ่อ--...แล้วเรื่องที่เราคุยกันเมื่อวันก่อน” “โฮ่!...เริ่มต้นก็มาแบบตรงๆเลยเหรอ?” “คือดิฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้นค่ะ” “ก็ได้...งั้นก่อนอื่นฉันขอถามว่าศิวะบัณฑิตของคุณน่ะคิดรอบคอบดีแน่แล้วหรือ?...เจ้าเอกคเชนทร์มันไม่มีคุณสมบัติอะไรจะคู่ควรกับสามดุรณีเลยสักนิดเดียว...ฉันกล้าเอาเกียรติของตัวเองเป็นเดิมพันด้วยล่ะ!!!” “นั่นคือความคิดของคุณแต่คุณเอกคเชนทร์จะคู่ควรหรือไม่นั้นเราตัดสินเองได้ค่ะ” “...สรุปว่าฉันเสือกไปเองใช่มั้ยเนี่ย?” “ไม่ค่ะ...ข้อมูลกับความคิดเห็นของคุณหมอมีประโยชน์ต่อเรามากแต่เราก็มีจุดยืนเป็นของตัวเอง...เสียดายที่วันนี้ไม่ได้พบคุณเอกคเชนรทร์เพราะไม่อยู่บ้าน” “โฮ่~~” “แต่คุณสุรีย์พรรณกับคุณหยาดฝนก็มีอัธยาศัยที่ดีค่ะ” “แววตาเจ้าชู้ของไอ้หมอนั่น...คุณได้เห็นเมื่อไหร่ก็จะรู้ซึ้งและอาจเปลี่ยนใจ” “ที่แล้วๆมาความเจ้าชู้มันเป็นเรื่องปกติของผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายหัวของศิวะบัณฑิต...หญิงสาวมากมายล้วนแต่หวังจะได้รับใช้ใกล้ชิดแม้สักเพียงครั้งเดียวก็ตามและหากคุณเอกคเชนทร์มาเป็นนายหัวของพวกเราแล้วต้องการใครก็ย่อมกระทำได้...ไม่เว้นแม้แต่ดิฉัน” “ทั้งที่คุณคือแม่ของน้องศิรินภาลัย...หนึ่งในสามดรุณีน่ะหรือ?” “จะเป็นอะไรไปล่ะคะในเมื่อปีนี้หนูปลาเพิ่งจะอายุสิบห้าเอง?...เธอยังไม่ประสีประสาเรื่องความรักหรือผู้ชายและถ้าดิฉันจะคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆก็ไม่ถือว่าผิดแต่อย่างใดนี่คะ?” “...อยู่ข้างๆเตียงใช่หรือเปล่า?” “ก็แล้วแต่ความคิดของคุณหมอ” “ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน...เฮ้อ~~...ความนึกคิดของศิวะบัณฑิตทำให้ฉันอึ้งมาก” “ก็คงคล้ายๆกับในทางลับของวิษณุมนตรีที่ไม่ห้ามลูกพี่ลูกน้องรักกันเองได้น่ะค่ะและนี่อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่คุณศรบุษราคัมกับคุณศรโกเมนไม่พอใจพวกเรา” “พูดอีกก็ถูกอีก...ฮึ!!...แค่ไอ้บ้ากามนั่นกลับเข้าโยนกจัตุรัสก็นำพาปัญหาน่าปวดหัวเข้ามาด้วยมากมาย” “...ได้คุยวันนี้ดิฉันก็เชื่อแล้วว่าคุณหมอไม่ชอบหน้าคุณเอกคเชนทร์มากจริงๆ” “พูดว่าเกลียดเข้าไส้จะดีกว่านะคะ...คุณศิริรัศมี” “งั้นก็ยกคุณเอกคเชนทร์ให้พวกเราสิคะ...มันเป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลยเพราะมีแต่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายอีกทั้งคุณพ่อของดิฉันก็อยากได้เขามาเป็นหลานเขยตั้งนานแล้ว” “หึ!!...หากฉันมีอำนาจตัดสินใจมากกว่านี้ล่ะก็จะจับไอ้หมอนั่นแพ็คลงกล่องของขวัญแล้วผูกริบบิ้นส่งด่วนไปถึงตำบลศรีไตรตรึงษ์โดยไม่คิดเงินสักบาทเดียว...ฉันสัญญา” “ฮะๆๆ...คุณหมอช่างพูดได้ถูกใจดิฉันเหลือเกิน...ในฐานะตัวแทนของศิวะบัณฑิตมื้อนี้ดิฉันขอเป็นฝ่ายเลี้ยงเองนะคะไม่ทราบว่าจะรังเกียจไหม?” “โอ้!!...จะรังเกียจได้อย่างไรกัน?...ฉันไม่คิดมากขนาดนั้นหรอกค่ะ” “ดิฉันขอยืนยันคำพูดเดิมต่อหน้าคุณหนูศรเพทาย...หากวิษณุมนตรีไม่ต้องการคุณเอกคเชนทร์เช่นนั้นศิวะบัณฑิตก็จะขอรับไปเอง” “ถ้าฉันเป็นคุณตาก็จะขอตอบเช่นกันว่า...ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง...ชนแก้ว!!” “ค่ะ” “ทำให้พวกฉันยอมรับไม่ได้ก็จงไสหัวออกจากตระกูลไป...หนทางของแกยังมีหลงเหลืออยู่ไม่ถึงกับตีบตันซะทีเดียวนะ...เอกคเชนทร์” “...............................................” ..................................................................................................................................................... ...ในขณเดียวกัน... “............................................” “............................................” “ทำไมกัน?...ทำไมถึงไม่ฝันถึงลูกรีย์?” “............................................” “ฝนดอดไปนอนที่ห้องบอลอีกแล้วรึ?...ห่างกันหน่อยไม่ได้เลยนะ!!” “............................................” “ทั้งที่พยายามตั้งจิตอฐิษฐานก่อนนอนตั้งหลายคืนแล้วแต่ไม่เคยฝันอีกหรือว่าจะเป็นเพราะเมื่อสามวันก่อน...” (“ดึกป่านนี้เรียกพี่มาทำไม?” “คือผมมีเรื่องจะถาม” “อะไร?” “วันนี้พี่กับอาจารย์โรจน์ไปไหนกันมาหรือครับ?” “...ไปเอาของที่ตึกแปรรูป” “ของ?” “เครื่องฉายโปรเจคเตอร์น่ะ...มีเพื่อนไปด้วยอีกสองคน...เธอสงสัยอะไร?” “เอ่อก็...” “ถ้างั้นพี่ไปนอนล่ะ” “เดี๋ยวครับ” “?” “ที่พี่เคยบอกว่าจะไม่รักชอบใครนั่น?” “แล้วไง?” “รวม...รวมถึง...ผมด้วยหรือเปล่า?” “ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ” “งะ...งั้นขอให้ผมได้พูดเถอะนะครับว่า...ผม...ผม...” “หยุด!!!” “!?” “เธออย่าพูดคำๆนั้นให้ฉันได้ยินหากยังต้องการให้ฉันมีความรู้สึกดีๆกับเธออยู่!!!” “ทะ...ทำไมล่ะครับ?” “ถ้าเธอพูดออกมาฉันจะถือว่าเป็นการดูหมิ่นและโกหกหลอกลวงกันอย่างรุนแรงที่สุด!!!!” “ผมน่ะเหรอจะกล้าดูหมิ่น?...”) “ลูกรีย์ต้องเข้าใจนะว่าจะให้แม่เชื่อคำพูดของเขาได้ยังไงเพราะอดีตเขาก็เคยบอกรักผู้หญิงมาแล้วแต่ปัจจุบันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง?...ฉะนั้นแม่จึงห้ามไม่ให้เขาพูดคำๆนั้นที่เปรียบประดุจยาพิษนั่นออกมา....คำพูดที่เอ่ยออกมาไม่ได้นั้่น...” “..................................................” “รึจะโกรธเรื่องนี้จริงๆถึงไม่ยอมมาหา...ฉัน...ฉันจะทำยังไงดี?” ......................................................................................................................................... ...ตัวอย่างในตอนหน้า... “เค้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ๊จะยอมปล่อยให้พวกเราไปดูหนังกันตามลำพัง” “พบคนท่าทางน่าสงสัยเดินลับๆล่อๆอยู่ใกล้ทางเข้าโรงหนังครับ!!” “ฉันไม่ใช่โจรขโมยสักหน่อย!!!...มาตามจับฉันทำไม?” “พนักงานและเจ้าหน้าที่รปภ.โดนทำร้ายไปหลายคนเลยล่ะ...ตอนนี้ตำรวจกำลังมาที่นี่เพื่อตามจับคนร้ายแล้ว” “ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนร้ายจะเป็นผู้หญิงแถมหน้าตาดีซะด้วย...นั่นไงเธออยู่ตรงนั้น!!!!” “ใครจะไปคาดคิดล่ะว่าบุตรสาวคนโตของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่กลับโดนจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกาย!?” “ทำไมเรื่องบ้าๆบอๆนี่จะต้องเกิดขึ้นกับฉันด้วย?...หือ!?...เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะฉันได้ยินไม่ชัด?” “มีผู้หญิงสองคนที่จะทำร้ายคุณพ่อจนถึงแก่ชีวิต...คุณแม่สัญญากับหนูนะคะว่าจะต้องปกป้องคุณพ่อไว้ให้ได้” “อย่าเพิ่งทำหน้าเซ็ง...ฉันแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับงานออกจากกันได้หรอกน่าแต่ขอหัวเราะสักนิดก่อนนะ” .........................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น