AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 13 ลมปราณพรากวิญญาณ

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 13 ลมปราณพรากวิญญาณ
โดย zeech

ครั้งหนึ่งในคราวประลองยุทธวิจารณ์พลังฝีมือระหว่าง ทิกุ้ยชิ้ว กับ หลวงจีนหลี่เต๋อ สองในห้าเซียนเทพยุทธ บ้อเมี้ยวเล่านั๊ง ซึ่งถูกขนานนามว่า ปราชญ์พิสดาร ก็ถูกขอให้มาเป็นสักขีพยานในการประลองยุทธของคนทั้งสอง ทิกุ้ยชิ้ว ใช้วิชา ฝ่ามือสุญญตา ซึ่งถูกจัดให้เป็นวิชาที่มีพลังฝ่ามือที่รุนแรงที่สุด ส่วนหลวงจีนหลี่เต๋อ ใช้วิชา ยูไลพันกร ก็ถูกจัดให้เป็นวิชาฝ่ามือที่พลิกแพลงที่สุดเช่นเดียวกัน ทั้งสองเข้าต่อสู้กัน โดยมี บ้อเมี้ยวเล่านั๊ง ผู้หลงใหลในวิชายุทธ เฝ้ามองดูอย่างตื่นตาตื่นใจ ฝ่ามือสุญญตา ของทิกุ้ยชิ้ว ที่ทรงพลังและเกรี้ยวกราด ยามร่ายรำและฟาดพลังฝ่ามือออกไป หลวงจีนหลี่เต๋อ ก็ใช้วิชา ยูไลพันกรที่พิสดารและพลิกแพลง เข้าคลี่คลายพลังฝ่ามือนั้นจนสลายไปสิ้น และยามที่หลวงจีนหลี่เต๋อ ใช้วิชา ยูไลพันกร ที่พิสดารล้ำลึกเข้าจู่โจมบ้าง ทิกุ้ยชิ้วก็ใช้พลังฝ่ามือสุญญตา

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 12 ลมปราณภูตคำรามขั้นที่แปด

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 12 ลมปราณภูตคำรามขั้นที่แปด
โดย zeech

แสงอรุณยามเช้าสาดส่องเข้าทางช่องหน้าต่างของโรงเตี๊ยม เฟยอี้หลับไหลในร่างเปลือยเปล่า เคียงคู่กับโฉมสะคราญสองนาง ในเรือนร่างเปลือยเปล่าเช่นเดียวกัน มันรู้สึกตัวขึ้นเนื่องจากภายในร่าง บังเกิดขุมพลังไหลเวียนอยูทั่วร่างของมัน จนมันไม่อาจข่มตาหลับ ต่อไปได้ มันทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในคืนที่ผ่านมา จนมันสามารถ ระลึกจดจำได้ทั้งหมดแล้ว ก็หันใบหน้าของมันมองดูนางทั้งสองที่หลับไหล มันลุกขึ้นนั่งแล้วดึงผ้าขึ้นคลุมร่างให้นางทั้งสอง มันขยับร่างไปนั่งในที่ห่างออกมา แล้วปิดตาลงโคจรพลังลมปราณในร่าง ไปตามจุดสำคัญต่างๆ พลันบังเกิดความกระชุ่มกระชวย ร่างกายของมัน เต็มไปด้วย

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 11 บ้อเมี้ยวเล่านั๊ง ปราชญ์พิสดาร

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 11 บ้อเมี้ยวเล่านั๊ง ปราชญ์พิสดาร
โดย zeech


เฟยอี้ปลดปล่อยธารารักของมันจนสิ้นสุด แล้วฟุบกายลงทาบทับ พลางโอบกอดร่างของภูติแพรขาว ซึ่งพริ้มตาหลับลงอย่างอ่อนเพลีย มันผ่อนลมหายใจลงบนต้นคองามระหงของนาง แล้วเหลือบมองไปยัง ร่างของภูตแพรเขียว ซึ่งกำลังเผลอไผลลอบมองการร่วมรักของมัน กับภูตแพรขาวอย่างลืมตัว ครั้นพอได้ประสานตากับมัน ก็กลับได้สติ หันใบหน้าหนีแล้วปิดตาลง เฟยอี้ถอนแก่นกายของมันออกจากร่าง ภูตแพรขาว แล้วเคลื่อนกายเข้าไปประชิดร่างของภูตแพรเขียว มือของมันลูบไล้ไปบนพวงแก้ม แล้วก้มหน้าของมันไปแนบชิด วงหน้างามนั้น ภูตแพรเขียวร่างสั่นสะท้านเปิดเปลือกตาออกดู เห็นใบหน้าของมันเข้ามาแนบชิดเช่นนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมา "อย่า...อย่าทำข้าเลย...เฟยอี้ พวกเราเพียง

นายแบบวัยใส 14

นายแบบวัยใส 14
โดย Darkside_Erotic

“แล้วแกล่ะเจ๋ง” “คือแม่กับพ่อเราหย่ากันไปนานแล้ว เรากับพี่สาวจึงอยู่กับแม่ ที่มาเนี่ยคือมากับพ่อนะ แม่ไม่รู้ รู้แค่ว่ามาเที่ยวกับพ่อ แม่ก็ไม่ว่าอะไรไง พี่สาวก็ไม่รู้ว่ามาเที่ยวแบบนี้เหมือนกัน พ่อก็ถูกชวนจากเพื่อนมานี่แหละ” “อ้อ แปลว่าพี่สาวนายก็ไม่รู้ เอ๊ะ แต่เมื่อกี้เห็นบอกว่านายเคยแอบดูพี่สาวอาบน้ำ?” “ช่ายยย แต่เขาไม่รู้ตัวไง เราก็ไม่กล้าเล่าเรื่องมาเที่ยวทริปนี้ให้เค้าฟัง ก็ได้แต่แอบดูต่อไป” เรื่องของเจ๋งยังถือว่าธรรมดา ก็แค่แอบดูพี่สาวตัวเองอาบน้ำ แต่ของชิตนี่ ผมยังไม่เคลียร์ และไม่แน่ใจว่าเรื่องของชิตกับผิงมันลึกซึ้งกันแค่ไหน มากกว่าหรือน้อยกว่าผมกับพี่ฟ้ากันแน่ “ชิตเคยเห็นพี่สาวของเจ๋งไหม” ผมถามชิต “ตัวจริงไม่เคยนะ แต่ในคลิปเนี่ย เรียบร้อย” “หึยย!! นี่เจ๋งถ่ายคลิปเอามาให้นายดูด้วย !?” “ก็แบ่งๆ กันดู เผื่อวันหน้าชวนมาที่นี่ได้ จะได้เจอตัวจริงกันไป

นายแบบวัยใส 13

นายแบบวัยใส 13
โดย Darkside_Erotic

“เป็นไงบ้างคะพี่… เมฆ…” เสียงแจ้วของเด็กสาวดังขึ้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมนอนอ้าขาในท่าสบาย กำลังใช้มือกำหลวมรอบท่อนจู๋พอดี!! น้องแคทที่น่ารักของผมเปิดม่านเข้ามาทักทายผมแบบไม่ทันตั้งตัว ผมหน้าเหวอเก็บมือแทบไม่ทัน ส่วนน้องแคทก็ตกใจมากไม่แพ้กัน ก็เล่นเปิดม่านพรวดเข้ามาไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ คงไม่ได้คิดว่าจะมาเจอภาพอะไรอย่างนี้แน่ล่ะ “ขอโทษค่ะ” น้องแคทกล่าวเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะหันหน้าหลบแล้วเดินจากไป ไม่ถึงวินาที พี่ฟ้าก็โผล่มาเหมือนดูว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะท่าทางน้องแคทแปลกไป พอเธอโผล่มาก็เห็นภาพคล้ายเมื่อครู่เลย คือเห็นผมกำลังนั่งบนเตียงในท่าสบายโดยมีไอ้จู๋ชี้เด่อยู่ แม้ว่ามันจะเริ่มอ่อนลงบ้างแล้วนิดๆ ก็เหอะ พี่ฟ้าก็ทำหน้าตกใจเหมือนกันแต่ไม่หนักเท่าน้องแคทและยิ่งไม่หนักเท่าผม เธอทำหน้าดุใส่

นายแบบวัยใส 12

นายแบบวัยใส 12
โดย Darkside_Erotic

“ไปนั่งตรงนั้นกันก่อนมั้ย” พี่แพทกล่าวพร้อมชี้ไปยังโต๊ะกลมที่ว่างอยู่ มันเป็นโต๊ะกลมที่มีร่มขนาดใหญ่ปักอยู่กลางโต๊ะ มีเก้าอี้นั่งห้าตัวพอดีเลย ห่างไปจากโต๊ะสักเกือบยี่สิบเมตร ก็เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แน่นอนว่าริมสระจะมีพวกเตียงไว้สำหรับเอนนอนได้อยู่ตั้งเรียงกัน ทุกเตียงมีคนกำลังนอนอยู่ทั้งสิ้น “ผมนั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ที่เก้าอี้ พี่ฟ้าก็ไม่ต่างกัน ในขณะที่อีกสามสาวนั้นนิ่งและเฉยมาก ก็แน่ล่ะ พวกเธอมาบ่อยนี่ “แล้วคุณลุงคุณป้าไม่มาเหรอคะ” พี่ฟ้าถาม “อ๋อ ไม่ต้องห่วงพวกเขาหรอก ปกติพวกเรามาก็ไม่ได้ตัวติดกันอยู่แล้ว ใครอยากไปไหนก็ไป เดี๋ยวสักพักก็คงลงมาหาที่นั่งแถวๆ นี้ล่ะ” พี่แพทตอบ ผมพยักหน้าเป็นอันว่าเข้าใจ แล้วก็มองไปรอบๆ นี่น่ะเหรอ

นายแบบวัยใส 11

นายแบบวัยใส 11
โดย Darkside_Erotic

“เรามาเริ่มกันเลยมั้ย” พี่นิ่มถาม “เริ่มอะไรครับ” “รู้ใช่มั้ยว่าอยู่ที่นี่เค้าไม่ใส่เสื้อผ้ากัน แล้วเราจะรออะไรล่ะ” พี่นิ่มตอบตรง “เอ่อ ครับ” “ไม่ต้องอายหรอก เห็นว่าผ่านงานถ่ายแบบมาแล้ว งั้นพี่เริ่มก่อนเลยนะ” พี่นิ่มกล่าวจบก็ลุกขึ้นเตรียมถอดเสื้อผ้า ผมนี้นั่งอึ้งตกใจเหมือนกัน อยู่ๆ มีสาวมาถอดเสื้อผ้าต่อหน้าระยะใกล้แบบนี้ ความรู้สึกมันไม่เหมือนกับตอนถ่ายแบบแม้แต่น้อย “ช่วยพี่ดึงซิปด้านหลังหน่อยสิ” เธอเอ่ยปากพร้อมกับหันหลังมาให้ผม ผมเดินไปช่วยเธอรูดซิปลงมาง่ายๆ เมื่อรูดจนสุดแล้ว พี่นิ่มก็ถอดชุดเดรสตัวเองออกไปกองที่พื้น เหลือเพียงเสื้อชั้นในตัวจิ๋วสีดำเท่านั้น “ปลดตะขอเป็นมั้ย ทำให้พี่หน่อย” พี่นิ่มขอความช่วยเหลือเพิ่ม ผมพยามปลดตะขอเสื้อในพี่นิ่ม

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 10 ความลับของเทวทูตหน้าทอง

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 10 ความลับของเทวทูตหน้าทอง
โดย zeech

ภูตแพรขาว และภูตแพรเขียว เร่งรีบเดินทางไปจนถึงวังหุบผาภูต แล้วตรงไปยังถ้ำที่อ๋องลีลู่ปังอยู่ด้วยเกรงว่าอาจเกิดอันตรายขึ้น กับประมุขของตน เมื่อเข้าไปในถ้ำก็พบประมุขแห่งวังหุบผาภูติ กำลังถ่ายทอดวิชาให้กับบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง จึงตรงเข้าไปแล้วกระทำ คารวะ อ๋องลีลู่ปังหันไปพบกับบริวารหญิงทั้งสองในสภาพ ผ่านความอิดโรยมาเช่นนั้น ก็ตกใจไถ่ถามถึงความเป็นไปที่เกิดขึ้น ภูตแพรทั้งสองมองไปทางเฟยอี้ แล้วมีท่าทีนิ่งอยู่มิกล่าวสิ่งใดออกมา อ๋องลีลู่ปังจึงแนะนำให้ทั้งสองนางรู้จักกับเฟยอี้ แล้วเล่าความที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องเฟยอี้ช่วยเหลือตนให้พ้นจากสภาวะธาตุไฟเข้าแทรก และตนได้รับเฟยอี้ไว้เป็นศิษย์ให้ทั้งสองนางทราบ ภูตแพรทั้งสอง กล่าวขอบคุณต่อเฟยอี้

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 9 รอดพ้นจากความตาย

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 9 รอดพ้นจากความตาย
โดย zeech

เว่ยฉิงคัง เดินออกมาจากที่หลบซ่อนตรงไปยัง ภูตแพรขาว ดวงตาของมันแข็งกร้าว แล้วพูดขึ้นว่า "ภูตแพรขาว เจ้าดูหมิ่นข้า ทำร้ายข้า คราวนี้เป็นทีของข้าบ้างล่ะ ข้าจะย่ำยีเจ้าให้รู้ถึงรสชาติของการถูกเหยียดหยามดูบ้างว่าเป็นเช่นไร" "เจ้า...เจ้ากล้ารึ...อย่าเข้ามานะ...อย่า...ข้าจะฆ่าเจ้า......" แล้วมันก็ตรงเข้าซุกไซ้ลำคองามระหงของภูตแพรขาว ริมฝีปากและลิ้นของมัน โลมไล้ไปตามส่วนต่างๆของนาง จากลำคอสูงขึ้นไปที่พวงแก้ม และก็ริมฝีปากงามนั้น มือของมันก็บดคลึงอยู่ที่ทรวงอกของนางอย่างรุนแรง ภูตแพรเหลืองและภูตแพรเขียว ต่างส่งเสียงด่ามันไม่หยุดปาก เมื่อเห็นภูตแพรขาว ถูกมันย่ำยีเช่นนั้น "พวกเจ้าไม่ต้องเกรงว่าจะไม่ได้ลิ้มรสสวาทจากข้า ข้าจะปรนเปรอพวกเจ้าให้ถึงที่สุด" เว่ยฉิงคังฉุกคิดได้ว่า หมอวิปลาสอาจจะกลับมาเห็นมัน มันจึงอุ้มร่างของภูตแพรขาว แล้วออกค้นหาที่หลบซ่อน จนในที่สุดมันพบกับวัดร้างแห่งเดียวกับที่เฟยอี้เคยพัก มันจึงวางร่างของภูติแพรขาวลงกับพื้น แล้วใช้เชือกผูกโยงที่แขนและขาของนางไว้ แล้วเร่งกลับไปอุ้มร่าง

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 8 เผชิญหน้ากับเทวทูตหน้าทอง

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 8 เผชิญหน้ากับเทวทูตหน้าทอง
โดย zeech

ย่างเข้าสู่วันที่สามแล้วที่ เว่ยฉิงคัง และ เม่ยเม่ย พักอยู่ที่ วังหุบผาภูต เช้าวันรุ่งขึ้นก็จะครบกำหนดตามที่ องค์หญิง ลีลู่อิน ผ่อนผันให้ ตลอดสองวันที่ผ่านมา เว่ยฉิงคัง เฝ้าสังเกตดูความเคลื่อนไหว ของผู้คน ภายในวังหุบผาภูติแห่งนี้ มันพบสิ่งผิดปกติอยู่สิ่งหนึ่งนั่นคือ จะมีเหล่าบริวารชาย หอบหิ้วเสบียงออกจากห้องครัวของวัง มุ่งตรงออกไปภายนอกตลอดทั้งสองวันที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันที่สาม มันก็ตัดสินใจสะกดรอยตามคนเหล่านั้นไป จนถึงหน้าถ้ำแห่งหนึ่ง บริวารชายเหล่านั้นก็หยุด หนึ่งในบริวารเหล่านั้นเดินออกมา ที่ประตูถ้ำแล้วก้มลงจับก้อนหินเล็กๆหมุน ประตูหน้าถ้ำก็เลื่อนขึ้นทันที แล้วบริวารเหล่านั้น ก็หอบหิ้วเสบียงเข้าประตูถ้ำนั้นไป เว่ยฉิงคัง ลอบเดินตามเข้าไปทันที ภายในเป็นทางเดินที่คับแคบและคดเคี้ยว มีคบเพลิง ติดอยู่ตามผนังตลอดระยะทาง จนในที่สุดมันก็ตามคนเหล่านั้น มาถึงห้องโถงกว้างภายในถ้ำ เมื่อคนเหล่านั้นวางเสบียงที่หอบหิ้วเข้ามา วางลง

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 7 ความลับของ หลิงหลิง

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 7 ความลับของ หลิงหลิง
โดย zeech

หมอวิปลาส ตื่นจากหลับใหล มองดูใบหน้าที่งดงามของ ลิ่มบ้อฮวยในขณะกำลังหลับ อย่างมีความสุข ในที่สุดมันก็ได้สมรักกับนางตามที่มันปรารถนา มันไล่สายตาสำรวจเรือนร่างเปลือยเปล่าของนาง พลางใช้มือของมันลูบไล้ อย่างทะนุถนอม ลิ่มบ้อฮวยเมื่อถูกสัมผัสร่างอย่างนิ่มนวลเช่นนั้นก็ลืมตาขึ้น นางจำเหตุการณ์ที่ผ่านมา ได้ทั้งหมด นางไม่เข้าใจว่าเหตุใด นางจึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ แต่นางก็ไม่เสียใจ ยิ่งคิดถึงบทรักอันรัญจวนใจ ที่หมอวิปลาสมอบให้ นางก็รู้สึกวาบหวิว ในอารมณ์ขึ้นมา สายตาของนางหยาดเยิ้ม ยามสบตากับหมอวิปลาส "แม่นางลิ่ม เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง" "เหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงเพียงนี้ ท่านยังเรียกข้าว่า แม่นางลิ่มอีกหรือ ท่านต้องเรียกเพียงชื่อของข้า" หมอวิปลาสยิ้มออกมา แล้วพูดออกมาใหม่ "เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง บ้อฮวย" ลิ่ม

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 6 หมอวิปลาสสมรัก

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 6 หมอวิปลาสสมรัก
โดย zeech

เหม่ยเยี่ยถูกพันธนาการทั้งมือและเท้า ซ้ำดวงตาของนางก็ถูกคนของลัทธิเบญจธาตุใช้ผ้าผูกปิดไว้ นางรับรู้ได้แต่เพียงว่า ตนเองถูกจับโยนใส่รถเทียมม้า และมีเสียงฝีเท้าม้าจำนวนมากดังอยู่รอบด้าน เวลาล่วงผ่านไปนานเท่าใด นางมิอาจทราบได้เลย จนในที่สุดขบวนคาราวาน และรถเทียมม้าก็หยุดลง เหม่ยเยี่ยถูกลากตัวออกมาจากรถม้า ทั้งที่ร่างของนางยังถูกพันธนาการอยู่ ร่างของนางถูกลากเข้ามา ในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่มีแต่กลิ่นกำยาน และเครื่องหอมฟุ้งกระจายอยู่เต็มไปหมด พวกมันเปิด ผ้าผูกตาของนางออก เหม่ยเยี่ย พยายามเปิดเปลือกตาอย่างยากลำบาก จนเมื่อสายตาของนางชินกับแสงในที่นั้นแล้ว ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของนางก็ปรากฏขึ้นอย่างเลือนลาง และเริ่มเด่นชัดขึ้นในที่สุด มันเป็นห้องโอ่โถงขนาดใหญ่ กลางห้องโถงนั้นถูกยกให้สูงขึ้นจากพื้น มีที่นั่ง

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 5 หมอวิปลาสพบรัก

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 5 หมอวิปลาสพบรัก
โดย zeech

ทางด้าน เยี่ยกุ้ยอิง เหม่ยเยี่ย เหม่ยผิง และเหม่ยลี่ เมื่อเห็น หลิงหลิง แบกร่างของ ลิ่มบ้อฮวยหนีออกจากวงล้อมไปได้แล้วก็เบาใจ ตัดสินใจบุกทะลวงฝ่าวงล้อม อย่างเต็มกำลัง เหม่ยเยี่ย มีกำลังภายในสูงขึ้นด้วยฤทธิ์แห่งยา เหมยฟ้ารัญจวน รวมกำลังกับ เยี่ยกุ้ยอิง ทลายวงล้อมของ ลัทธิเบญจธาตุออกเป็นช่อง ให้เหม่ยผิง และเหม่ยลี่ รีบหลบหนีออกไปก่อน โดยทั้งสองต่อสู้ต้านทานไว้จนสุดกำลัง กำลังทางฝ่ายของลัทธิเบญจธาตุ หนุนเนื่องมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด เหม่ยเยี่ยถูกทูตลมบุกเข้ามารวบเอาตัวนางไป แล้วกระโดดหนีไปด้วยวิชาตัวเบาที่ล้ำเลิศ เยี่ยกุ้ยอิงสุดปัญญาที่จะช่วยเหลือศิษย์รักของนางได้ ทำได้เพียงกระโจนหนี ออกจากวงล้อมด้วยวิชาตัวเบาตามเหม่ยผิง และ เหม่ยลี่ไป ------------ หมอวิปลาส ได้ยินเสียงเรียกอยู่ภายนอก ซ้ำอยู่หลายครั้ง ก็รู้สึกขัดเคืองใจนัก ที่ถูกรบกวนความสุข จึงแสร้งทำนิ่งเสีย แต่เสียงเรียกกลับดังไม่หยุด จน

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 4 วันประลองยุทธวันสุดท้าย

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 4 วันประลองยุทธวันสุดท้าย
โดย zeech

เวลาผ่านไปจวนจะใกล้รุ่ง เฟยอี้รู้สึกถึงขุมพลังใหม่ภายในร่างของตนได้ก่อเกิดขึ้น จึงทดลองเดินลมปราณ ไปตามจุดสำคัญทั่วร่าง มันได้รับความปลอดโปร่งยิ่งนัก ลมปราณของมันสามารถเคลื่อนย้ายไปตามจุดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วตามใจปรารถนา เมื่อมันลืมตาขึ้นก็มองเห็น กิมเฮียกจื้อ นอนลืมตามองดูเพดานห้อง ดุจร่างไร้วิญญาณ แม้จุดที่ถูกสกัดได้คลายตัวออกจนสิ้นแล้ว นางก็หาได้แยแส เฟยอี้พลิกร่างลืมตาดู ใบหน้าของนาง แล้วก็รู้สึก หวาบหวามขึ้นอีกครั้ง "แม่นางกิม เจ้าเป็นปกติดีหรือไม่" กิมเฮียกจื้อ เลื่อนสายตาของนางมาสบตากับเฟยอี้ แล้วโผร่างตรงไปหยิบกระบี่จ่อที่คอ ของ เฟยอี้แล้วพูดขึ้นว่า "เจ้าเป็นใคร เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าออกมา" เฟยอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่นึง แต่เมื่อนึกถึงพิษที่อยู่ในร่างของตนก็รู้สึกหดหู่ จึงคิดปลงได้ว่าจะมีอันใดเกิดขึ้นเลวร้ายกว่านี้อีกเล่า จึงพูดขึ้นว่า "เอากระบี่ของเจ้าออกไปก่อน ข้าถอดโฉมแปลงไม่ถนัด" กิมเฮียกจื้อ ลดกระบี่ลงแล้วผลักร่างของเฟยอี้ออกให้ห่างจากร่างของนาง เฟยอี้เดินไปถอดโฉมแปลงออก

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 3 งานประลองยุทธวันแรก

ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 3 งานประลองยุทธวันแรก
โดย zeech

ผ่านไปหลายชั่วยาม สติของเหม่ยเยี่ยฟื้นคืนมาอย่างสมบรูณ์ จุดที่ถูกสกัดไว้ก็คลายตัวออก นางนอนหันหลังให้เฟยอี้ พลางใคร่ครวญถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็ส่งเสียงสะอื้นออกมา เฟยอี้รู้สึกเวทนายิ่งนัก จึงพูดขึ้นว่า "ข้า..ข้าพเจ้าผิดไปแล้ว ข้าขออภัยต่อท่านด้วย" เหม่ยเยี่ยทั้งคลั่งแค้น และอับอาย นางนึกอยากจะฆ่ามันซะตอนนี้ "เจ้าเป็นใคร ใยจึงแปลงโฉมมาหลอกลวงข้า" "ข้ามีชื่อว่า เฟยอี้ เป็นคนเร่ร่อน ไร้ที่พำนักแน่นอน ข้ามิได้ต้องการสิ่งใด เพียงหวังแต่ได้ใกล้ชิดท่าน" "ดี เมื่อเจ้าไม่มีญาติพี่น้องต้องคอยดูแล เจ้าก็สมควรตายซะบัดนี้" พูดจบนางก็สลัดผ้าขึ้นคลุมร่าง ลอยตัวสูงขึ้นด้วยกำลังภายใน ยกเท้าเตะไปที่เตียง ที่เฟยอี้นอนอยู่จนลอยกระเด็นไป ร่างของเหม่ยเยี่ยลอยตามไปที่ร่างของเฟยอี้ที่กลิ้งไปกับพื้นห้อง นางใช้วิชากรงเล็บ คว้าจับที่ลำคอของเฟยอี้ พลางจ้องมองหน้าของเฟยอี้อย่างโกรธแค้น น้ำตาของนาง หลั่งไหลลงอาบแก้ม เฟยอี้จ้องมอง