AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 65

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 65 “สิบปีที่จาก...พี่สาวคนที่สี่!?”


 ...ยิ่งใกล้จะถึงเวลากลับบ้านเกิดผมก็ยิ่งตื่นเต้นพาลให้หลับๆตื่นๆเกือบตลอดคืน...ขณะที่นอนพลิกไปพลิกมาหูก็ได้ยินเสียงน้ำดังจากข้างล่าง... “............................................” “ป้าเอ็ม?” “ตาหนูตื่นไวจัง” “ผมได้ยินเสียงน้ำเลยลงมาดู...ป้าอาบน้ำทำไมล่ะครับอากาศออกจะหนาว?” “นอนเบียดกันสามคนก็เลยรู้สึกร้อนจ้ะ” ...จริงด้วย...อาสนกับอานิภานอนที่ห้องป้าเอ็มและต้องใช้เตียงเดียวกัน...ผมพอจะนึกภาพ
ออก... (อาสนนอนริมและอานิภาอยู่ตรงกลางอีกฝั่งก็ป้าเอ็ม) “แต่สองคนนั่นทำอะไรไม่เกรงใจป้าซะบ้าง” “ทำไมครับ?” “ก็ไม่รู้นึกคึกอะไรขึ้นมา...เอากันข้างๆป้าเลยน่ะสิ” “ฮ้า!!!” (ตาสว่างเลยเรา...อาสนกับอานิภาเนี่ยนะ?) “ไม่รู้จักเห็นใจกันมั่ง...ป้ายิ่งเหงาๆอยู่” “เอ--...ผมว่าที่ป้ามาอาบน้ำนี่ไม่ใช่เพราะเหนียวตัวหรอก...ร้อนรุ่มในใจมากกว่า” “ทำเป็นรู้ดีเหรอ?...แต่มันก็...ใช่น่ะนะ” “งั้น...ให้ผมช่วยสิครับ” “อ๋าไม่ได้ๆ...เดี๋ยวคนอื่นก็รู้หรอก” “เฮ้อ!!” “อดใจรอให้ไปที่นั้นก่อนแล้วป้าจะพาพ่อบอลเข้าห้องลับ” “จริงเหรอครับ?” “ในห้องนั้นเราจะได้มีความสุขกันอย่างเต็มที่โดยไม่มีใครมารบกวน...เข้าใจไหมจ๊ะ?” ...ผมรีบพยักหน้ารับข้อเสนอของคุณป้าคนสวยทันที...ห้องลับที่ว่าเคยเห็นจากในวีดีโอแล้วทีนี้ก็จะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียน...ใครปฏิเสธก็โง่ละ!!!... “ต้องสนุกสุดยอดแน่ๆ...หือ?” “สนุกอะไรของเธอ?” “เปล่า...ผมพูดลอยๆคนเดียว” “หึ!...ใครไม่รู้จะหาว่าเธอบ้า” “ช่างผมเถอะครับ...ว่าแต่พี่...” “พี่ก็จะไปซ้อมดาบไง” “...ผมรู้ว่าทุกเช้าพี่แคทจะ...อื้อหือ--...” ...ผมไม่มีปัญหาใดๆหรอกถ้าพี่แคทไม่ได้ตื่นนอนมาซ้อมดาบ(ไม้)ในสภาพนุ่งชุดนอนซีทรูบางเบาลายลูกไม้สีน้ำเงินอันวาบหวิว...อา--...ท่อนบนเห็นจุกสองเม็ดจิ๋วท่อนล่างเห็นขนในที่ลับดำขลับซึ่งก็ถูกปิดบังด้วยชิ้นผ้ารูปสามเหลี่ยมหัวกลับสีขาวผืนจ้อย...นี่ถ้าไม่เกรงใจอาวุธยาวในมือขวากับศักดิ์ศรีของญาติสาวผู้พี่...ผมคงจะ...ผมคงจะปรี่เข้าอุ้มพี่สาวพาเข้าห้องนอนตัวเองอย่างแน่นอน... (ทว่าแต่งตัวอย่างนี้ซ้อมดาบทุกเช้า...คุณเธอช่างกล้านัก) “กลืนน้ำลายลงไปกี่เอื๊ยกแล้วล่ะ?” “...อยากตามไปดูพี่ซ้อมดาบจัง” “คงจะไม่น่าสนุกเท่าเมื่อกี้หรอกน่ะ...เธอคุยอะไรกับคุณป้าหรือ?” “ก็ไม่ได้คุยอะไรมากนี่ครับ” “คุณป้ายังดูสวยมากเลยนะ...บอลเห็นด้วยมั้ย?” (การจับผิดเริ่มอีกแล้วไง!?) “หากพี่เป็นผู้ชายรูปหล่อกับป้อยอคำหวานเก่งและมีผู้หญิงสวยๆนุ่งกระโจมอกมาอยู่ต่อหน้า...คงยากที่จะไม่คิดอะไรหรือปล่อยให้เธอคนนั้นผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น” (จงใจพูดกระทบเราด้วยมั้งนี่?) “.............................................” “...จะไปซ้อมดาบ” “เดี๋ยวครับ” “ครั้งก่อนอุ้มครั้งนี้ดึงแขน...ครั้งหน้าเธอจะทำอะไรอีก?” ...แล้วถ้าเกิดมีหญิงสาวนุ่งชุดชั้นในวาบหวามมายืนอยู่ตรงหน้า...จะให้ผมยอมปล่อยหล่อนไปเฉยๆล่ะก็...เมินซะเถอะ!!...ใช่...ผมตอบพี่แคทไปอย่างนี้... “ก็บอกพี่มาให้หมดสิแล้วเธอจะได้สมหวัง” “แต่ผมเชื่อว่าพี่ไม่กล้าครับ” “บอลรู้ใจพี่เรอะ?...ไม่ต้องห่วงว่าพี่จะกลับคำพูดและไม่ตำหนิบอลด้วย” “ตำหนิผม?” “ว่าที่ยอมเปิดปากบอกก็เพราะอยากล่อหีพี่จนควยสั่น” ...ประโยคสุดท้ายญาติสาวผู้พี่ที่กระซิบข้างหู...เล่นเอาผมขนลุกซู่ทีเดียวเชียว... “อย่างไรเสียก็ควรจะรู้และจำไว้ให้ดีเพราะต่อไปพี่จะไม่พูดซ้ำอีก...พี่กุนคือคนที่พี่นับถือ...ไม่ใช่เธอขอพี่ก็ไม่ทำ” “ไม่ชอบไม่เต็มใจก็บอกปัดสิ” “เธอนึกว่าฉันสามารถทำตามอำเภอใจตัวเองได้อย่างงั้นหรือ?...ถ้าพี่กุนไม่ขอร้องมันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น” “พี่มีสิทธิ์เต็มที่อยู่แล้วที่จะปฏิเสธแต่เพราะอะไรถึงตอบตกลงครับ?” “นั่นสิมันเป็นเพราะอะไรนะ?...เธอกับฉันจะลองมาช่วยค้นหาคำตอบนี้ด้วยกันไหม?” “ค้นหาด้วยกัน?” “เพื่ออยากลองดี...เพื่อแก้เหงา...เพื่อใช้ร่างกายในวัยสาวให้คุ้มค่าหรือว่าจะมีเหตุผลอื่นอีก” “ผม...ผมไม่รู้” “ตัวพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” ...ไม่รู้จริงแน่เหรอ?...เธออาจรู้แต่ไม่บอกก็ได้...เจ้าความลับอยู่แล้วนี่... “อ๊ะ!...อรุณสวัสดิ์จ้ะ...วันนี้บอลตื่นเช้าแฮะ” (คนนี้ก็ใช่ย่อยซะที่ไหนสวมเสื้อยืดแต่ท่อนล่างนุ่งกางเกงในตัวเดียว?) “มันตื่นเต้นน่ะ” “เหรอ?...เดี๋ยวฝนจะลงไปอุ่นอาหารก่อน” “ป้าเอ็มทำอยู่...ฉันว่าเธอไปนอนต่ออีกหน่อยก็ได้” “ก็ดีสิ” “อุ๊ย!!...มาทำอะไรกันตรงนี้จ๊ะ?” ...ผมสะดุ้งเฮือกทันทีที่เห็นอานิภาเพราะรู้จากป้าเอ็มว่าเธอกับอาสนเพิ่งจะ...ฮึ๊ย!!!...มันก็เรื่องปกติของผัวเมียเขาไม่ใช่เรอะ?...แต่แหม~~...อานิภานุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวก็น่าดูชมไม่น้อยไปกว่าป้าเอ็มเลยสักนิด...ผิวขาวผ่องเหมือนกันเสียด้วย... (เอ๊ย!!...นรกจะกินกบาลแล้วมึง!?...ผัวหล่อนก็นอนอยู่ในห้อง...อยากโดนลูกโม่กรอกปากหรือไง?) “แน่ะ!!...เอาอีกแล้วใช่มั้ยแม่?” “พูดอะไรน่ะ?” “อย่าๆๆ...ฝนรู้นะคะว่าแม่กับป้อทำอารายกัน...” (ฝนก็รู้!?) “แหม่ยังจะได้ยินอีก?...แม่อุตส่าห์กัดผ้าห่มแล้วอ่ะ!” “เปล่าๆ...หนูไม่ได้ยินแต่รู้จากที่แม่จะออกมาอาบน้ำนี่แหละจ้า!!” “อ้าว?” “ตอนอยู่บ้านที่ลำปางก็เหมือนกัน...เวลาไหนแม่ออกมาอาบน้ำก็หมายความว่าเพิ่งจะไปสำรวจถ้ำกับป้อมา” “สำรวจถ้ำ!?” “อ๋าน่าอายจังเลย~~...อื๋อ?...นี่...นี่ไม่ใช่เรื่องที่เด็กควรรู้นะยะ!!...บอล...บอลอย่าไปฟังน้อง” “จะแก้ตัวตอนนี้ก็ช้าไปซะแล้วจ้ะแม่” “ป้าเอ็มก็รู้ครับ” “จริงด้วยสิ...เห็นนอนอยู่ข้างๆแต่ครู่เดียวหายไปไหนไม่รู้ส่วนแม่ก็มัวแต่เพลิน...ว้าย!!!...ไม่เอาแล้วๆ...ลูกฝนเนี่ยทะลึ่งจังเลยคอยดูนะคอยดู~~...แม่จะตัดเงินลูกล่ะ!!” “ก๊าด!!...หนูทำผิดอะไรอ่ะ?” “ผิดที่รู้ทันแม่...ฮึ!!” ...อานิภาขมวดปมผ้าเช็ดตัวให้แน่นขึ้นแล้วรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินลงไปชั้นล่างด้วยใบหน้าที่แดงก่ำแต่ก็ยังมีรอยยิ้ม...เช้ามืดนี้เธอเผลอหลุดอะไรออกมาหลายอย่างเชียวไม่ว่าจะนิสัยใจคอกับลักษณะการพูดการจาที่เหมือนลูกสาวคนเล็กอย่างไม่ผิดเพี้ยน...ไม่ๆๆ...ฝนต่างหากล่ะที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นแม่... (สองแม่ลูกคู่นี้บางทีก็เหมือนเป็นเพื่อนเล่นกัน...ดูน่ารักไปอีกแบบ) “ป่านนี้ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่แถมเลอะไปหมดแล้วมั้ง?” “เธอก็พูดเข้า” “แล้วเราสองคนค่อยมาทำเลอะแบบนี้บ้างนะจ๊ะ” “ยะ...ยัยบ้า!!” “ฮิๆๆ” ...ก่อนจะกลับเข้าห้องฝนก็ขยิบตาพลางส่งจูบให้ผมด้วย...เช้าตรู่อาทิตย์ใกล้ขึ้นผมได้พบปะทักทายกับสาวน้อยสาวใหญ่ถึงสี่คน...หวังว่ามันคงจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการกลับสู่บ้านเกิดที่จากมานับสิบปี... ........................................................................................................................... “ตรงนี้เป็นจุดพักรถสุดท้ายและเราจะวิ่งยาวรวดเดียวเลย...ไปจัดการทำธุระให้เรียบร้อยซะนะ” “เฮ!...น้ำแอ๊ปเปิ้ลที่นี่อร่อยมาทีไรต้องแวะกินทุกที...ไปกันเหอะ” “ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนเดี๋ยวตามไป” “จ้า!!” ...การกลับสู่บ้านเกิดครั้งนี้ของผมนั้นช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายไม่ว่าจะทั้งกลัว,ตื่นเต้น,สับสนระคนกันไปแต่เมื่อต้องการรู้ความจริงที่เกี่ยวข้องกับแม่รัญภรณ์ฉะนั้นต่อให้น่าเศร้าสักเพียงใดผมก็พร้อมจะยอมรับ... “ดี...ไปฟังความจริงจากคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วก็จงคิดเอาเอง” “.............................................” “...มองหน้าพี่ทำไม?” “แขนหายหรือยังครับ?” “พักคืนเดียวก็หาย...มาลองพิสูจน์กัน” “เจ็บ!!!” (โอย!!...นี่ใช่แรงของผู้หญิงแน่รึ?) “...เอาคืนเมื่อวานไง” “แต่พี่ก็ทั้งหยิกทั้งเหยียบเท้านี่นา” “สาสมกับความบังอาจที่เธอถือวิสาสะอุ้มพี่แล้วเรอะ?...นี่ยังไม่นับที่ดึงแขนเมื่อเช้านะ” ...พี่แคทบีบแขนผมซะแรงจนรู้สึกชาเลย...ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนาทั้งที่ตอนรูดไอ้หนูของผมน่ะสุดจะเบามือเหลือเกิน... (อดหวาดเสียวไม่ได้จริงๆถ้าเมื่อกี้หล่อนบีบตรงนั้นของเรา...แรงระดับนี้รับรองหน้าเขียวปี๋แน่ๆ) “ตื่นเต้นมั้ย?” “ครับ” “ทุกคนที่นั่นต่างรอการกลับมาของบอล...งานเลี้ยงส่งท้ายปีครั้งนี้ครึกครื้นกว่าที่ผ่านมาแน่” “แล้วพี่ภพจะถึงตอนไหน?” “น่าจะช่วงเย็นๆเพราะพ่อต้องแวะ...แวะบ้านนั้นด้วยครับ” “มาคนเดียวก็ได้ไม่เห็นจะต้องพาแม่พวกนั้นมาเลย?” “เอาน่าพี่เอ็ม--...ช่วยๆทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้สักครั้ง” “เชอะ!!...ถ้าพ่อบอลไม่มาด้วยล่ะก็ฉันจะเฉ่งให้ยับเชียวคอยดู...นี่ยังนับว่าฉันอารมณ์ดีอยู่นะ” ...พ่อพาป้าศรีขึ้นมารับแม่กวาง,สาและอ้อยโดยขาดแค่กุนคนเดียวส่วนเมื่อครู่บุศก็โทรมาบอกว่าเธอกับโบว์จะมาร่วมงานเลี้ยงปลายปีด้วย...เรียกได้ว่าถนนแทบทุกสายมุ่งหน้าสู่โยนกจัตุรัส... (อา--...ต่อไปนี้ป้าเอ็มกับแม่กวางคงได้ฟาดฟันกันอีกหลายยกจนกว่าจะถึงเวลาแยกย้ายทางใครทางมัน) “เจ๊” “หือ?” “ปีนี้พี่น้องแปดคนจะมาพบหน้ากันหมดมั้ย?” “...ไม่...พี่เซคบอกว่าม่อนติดธุระส่วนเอ้ก็พาคุณน้าไปต่างจังหวัด...กลับมาอีกทีน่าจะหลังปีใหม่ไปแล้ว” (อ้าว!?...ก็ไหนว่าถ้าอยากจะพบให้ไปที่โยนกจัตุรัส?) “...หมายความว่าอย่างมากจะมีแค่ 6 คน?” “อืม” “แต่...พี่อ๋อมจะมาเหรอ?...รายนี้ได้ชื่อว่าเกลียดงานรื่นเริงทุกรูปแบบนิ” “มาสิจ๊ะ...ครั้งนี้รับรองว่าไม่พลาดแน่เพราะมีตาหนูมาด้วยแต่ยังไงก็พูดคุยกันดีๆอย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือเหมือนในงานเลี้ยงครั้งก่อนนะ...ไม่เอา” “ลงไม้ลงมือ?” “ฮะๆ...ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกจ้ะ” ...ป้าเอ็มหัวเราะด้วยท่าทางสบายอกสบายใจแต่ผมกลับไม่คิดเช่นนั้น...เอาแค่กรณีของแม่กวางคนเดียวผมก็มองไม่เห็นหนทางเลยว่าเรื่องราวมันจะดำเนินไปอย่างราบรื่นได้ยังไง?... “อ่ะไปกันได้แล้ว!!...เมฆมันชักจะตั้งเค้าหนาขึ้น” “หน้าหนาวยังจะมีฝนอีก?” “มีสิ...ก็เค้านี่ไง” “ไม่ใช่เธอ~~” “หงึ!” “อยู่ในเขาก็อย่างนี้...ที่จัตุรัสก็ตกทุกเดือนทุกฤดู...คุณพ่อให้หนูขับเถอะค่ะ” “ลูกนั่งเฉยๆดีกว่าแขนเพิ่งจะค่อยยังชั่วไม่ใช่เรอะ?...พ่อขับเอง” “หึๆ...ตอนทำงานมีลูกน้องพาไปแต่พอมาขับเองฝีมือก็ยังไม่ตกนี่” “พี่เอ็มช่างโชคดีนะครับรู้มั้ย?” “ยังไง?” “ก็มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นสารถีขับรถให้ไงครับ” “ฮะๆๆ...จริงๆ...แถมเป็นตำรวจมือปราบชื่อดังระดับประเทศซะด้วย” “ก็พี่ขับไม่เป็นนี่นา” “ฉันไม่คิดจะหัดเว้ย!!” “คันนั้นมัวเถียงอะไรกันครับ?” “พี่สาวกับน้องเขยคู่นั้นน่ะประจำแหละ...เจอหน้าเป็นต้องเถียงกัน” “นี่บอลรู้ป่าว?” “หือ?” “ก่อนที่ป้อจะมาแต่งงานกับแม่ก็เคยจีบป้าเอ็มล่ะ” “จริงเหรอ?” (ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย!?...ป้าเอ็มก็ไม่เคยเล่า) “โอ้!!...จริงซะยิ่งกว่าจริง...ป้าเอ็มสมัยสาวๆน่ะสวยมากมีหนุ่มตามจีบหัวกะไดไม่มีแห้งเชียวจะบอกให้!!!” “...ช่วงนั้นสนเค้าเพิ่งจะจบนายร้อยตำรวจใหม่ๆแล้วได้มาบรรจุที่อุตรดิตถ์เป็นที่แรก” “เจอกันได้ยังไงครับ?” “สมัยก่อนตามป่าเขามักจะมีโจรผู้ร้ายชุกชุมใช่ไหมล่ะ?...ที่โยนกจัตุรัสก็มีอยู่ก๊กสองก๊ก...ตานี่เป็นตำรวจเลยถูกส่งมาปราบปราม” “อ๋อ!!...สุดท้ายก็เลยได้พบรักกับอา” “ใช่...เจอกับอาก่อนแท้ๆแต่ดันไปชอบพี่เอ็ม...เชอะ!!” “โธ่แม่จ๋า~~...ก็ตอนนั้นแม่ยังเด็กอยู่นิส่วนป้าเอ็มน่ะโตเป็นสาวงามสะพรั่งเต็มตัว” “แม่ก็ออกแววสวยเริ่ดมาแต่เล็กแล้วย่ะ!!” “ฮะๆ...เรื่องเถียงนี่แม่ก็ไม่ยอมใครเหมือนกันน๊อ~~” “ทำไมป้าเอ็มถึงปฏิเสธครับ?” “ก็มีคนรักอยู่แล้วน่ะสิ...โยทะกาพ่อของหนูเซคกับหนูม่อนไง” “ท่านเสียไปแล้ว” “อื้อ!!...สี่ยิบปีได้แล้วมั้ง?” “21 ปีจ้ะ...เท่าอายุหนูม่อน” “แสดงว่าคุณลุงโยทะกาจะต้องหล่อแล้วก็ปากหวานมาก” “ใครว่าจ๊ะ?...หน้าตาก็งั้นๆแถมขี้อายอีกต่างหาก” “อ้าว?” “ถ้าไม่ได้พี่ภพเป็นพ่อสื่อให้ก็ไม่มีวันได้แอ้มพี่เอ็มเค้าหรอก...จีบผู้หญิงไม่เอาอ่าวและพ่อ...ปู่ของบอลก็ไม่ค่อยชอบเพราะเคยแต่งงานและยังมีลูกติดมาด้วย” “................................................” “แต่สุดท้ายลุงโยะก็ชนะใจป้าเอ็มจนได้นะคะ” “อีตาบ้านั่นจึงอกหักไปตามระเบียบ...หึๆๆสมน้ำหน้า!...มาจีบอาซะแต่ทีแรกก็สิ้นเรื่องสิ้นราวไปแล้ว” ...นอกจากนี้อานิภายังเล่าเรื่อง(ความแก่นเซี๊ยว)สมัยยังสาวๆให้ผมกับฝนฟังอีกหลายเรื่อง...บางครั้งเล่าเพลินหัวเราะร่าจนเกือบขับรถตามคันหน้าที่สามีเธอขับไม่ทันทีเดียว... “สบายๆ...อีกไม่นานก็ถึงจะรีบร้อนไปไย?” “ใช่จ้ะแม่...ขับช้าๆบ้างเราจะได้คุยกันถึงเรื่องเมื่อเช้า” “เฮ่ย!...ลูกฝนยังจะรู้อะไรอีกเนี่ย?” “ก็รู้ว่า...นั่นสิน๊า~~...รู้อะไรเอ่ย?” “นั่นแน่ะๆ...ลูกฝนตีขลุมหลอกแม่อีกละ!!” “เปล่าตีขลุมจ้า!!...ฝนรู้ว่าแม่น่ะ...” “?” “เปลี่ยนใจไม่ใส่กางเกงแต่นุ่งกระโปรงแทนไง” “ว้าย!!!” “!!!!!” ...ผมที่นั่งเบาะหน้าคู่อานิภาแทบจะสำลักคาขวดน้ำ...ก็ฝนน่ะสิไม่รู้คิดอะไรอยู่ๆยื่นมือมาเลิกกระโปรงอานิภาจนร้องว้ายลั่นรถ... (เห็นกางเกงในด้วยแม่เจ้าโว้ย!!!!) “ลูกฝนทำไมถึงชอบแกล้งเลิกกระโปรงแม่นักห๊ะ!!...บอลเห็นของแม่หมดแล้วเห็นไหม?” “ฮี่ๆ” “เปล่าครับ!!...ผมไม่เห็น” “บอลเห็น!!” “ไม่ครับ” “อย่าโกหกอา--...บอลเห็นหมดแล้วใช่ม๊าว่าอาสวมกางเกงในสีเขียวลายหมี?” “เอ่อ...” “ลายหมีอะไรกันเชยซะไม่มี?...ลายลูกไม้ดอกทานตะวันไม่ใช่หรือจ๊ะ?” “เซ็กส์ซี่มากเชียวล่ะ...ฮึ่ม!...พอย่ะพอ!!!...แม่อายจะแย่อยู่แล้ว!!!” “ก็ที่แม่ไม่นุ่งกางเกงเพราะอยากให้คนอื่นเห็นไม่ใช่รึงาย?” “ใครว่าเล่า?...ใส่กางเกงเดินทางเวลาเข้าห้องน้ำมันยุ่งยากสู้กระโปรงไม่ได้” “หือ~~...จริงเหยอ?” “จริงซี่~~” “แน่น๊ะ!!” “แน่สิยะยัยหนู!!” “................................................” “................................................” “ฮิๆๆๆ” “ฮะๆๆๆ” (แม่ลูกคู่นี้ยังมีอารมณ์มาเล่นต่อคำกันอีกวุ้ย!?) “พอเลย--...ลูกฝนอยากจะเปิดให้พี่เค้าดูก็ทำไปคนเดียว...ไม่ต้องมายุ่งกับแม่” “มะ...ไม่ใช่นะครับ!!!” “หันมาสิจ๊ะ...มาดูของเค้า” “บะ...บ้าเรอะ?” ...อานิภาก็อยู่ด้วยทั้งคนฝนทำบ้าอะไรเนี่ย?...ไม่...ไม่ถูกนะ!?...ถ้าผู้เป็นแม่ไม่เห็นด้วยต่อให้ใจกล้าขนาดไหนฝนก็ไม่น่าจะทำได้งั้นนี่ก็แสดงว่าอานิภา “รู้เห็นเป็นใจ” กับลูกสาวคนเล็กแน่นอน... (โอ้!!!...นั่งชันเข่าโชว์แพนดี้สีส้มที่ไม่มีลวดลายใดๆก็ช่างน่ารักไปอีกแบบ) “ตั้งแต่แรกเริ่ม...อารู้หมดทุกอย่าง” “?” “รู้ดีว่าลูกฝนรักบอลมาก” “..................................................” “ลูกฝนต้องการใช้ชีวิตร่วมกับบอลในฐานะคนรักไม่ใช่พี่น้อง” “..................................................” “ทีนี้บอลจะว่าอย่างไรล่ะจ๊ะ?” “...ผม” “หึๆ...นับว่านิสัยเหมือนพ่อของเธอทุกกะเบียดนิ้วเลยนะ” ...จากที่พูดจาหยอกล้อเล่นหัวกับลูกสาวมาเกือบตลอดทาง(ถึงขั้นโดนเปิดกระโปรง)บัดนี้อานิภากลับกลายเป็นอีกคนที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน...นิ่งสงบเงียบขรึมทว่าแอบแฝงไว้ด้วยแรงกดดันบางเวลาถึงจะหัวเราะแต่ก็เหมือนไม่ใช่...อย่างไหนคือตัวตนที่แท้จริงของน้องสาวพ่อกันแน่?... “ไปถึงโยนกอุดรเมื่อไหร่...บอลคงจะให้คำตอบได้สักทีค่ะแม่” “ฝน!!” “แม่ก็หวังอย่างนั้น...บอลจ๊ะ...ขอเพียงแค่พูดออกมาคำเดียวว่าบอลรักลูกฝน...อาก็จะยกให้ทันที” “อะ...อานิภาอย่าล้อผมเล่นสิครับ!!!” “สีหน้าของอาตอนนี้ดูเหมือนคนล้อเล่นหรือเปล่าล่ะหือ?” “..................................................” “โอกาสนี้ยากนักที่จะมีอีก...พี่อ๋อมกับเจ้าป้อมจะขัดขวางฝน...ได้--...มาลองดูกันสักตั้ง!!!!” ...ฝนก็เปลี่ยนไปในแนวทางเดียวกับผู้เป็นแม่...ความจริงจังที่แสดงออกมาจากดวงตาคู่นั้น...หมดข้อสงสัยแล้วว่าสาวน้อยหยาดฝน เทวะกรนันท์นั้น...เหมือนใคร!?... ....................................................................................................................................... ...ตื่นเต้นไม่น้อยเลยช่วงที่รถวิ่งผ่านเข้าอุโมงค์และทางออกก็จะเป็นหมู่บ้าน “โยนกอุดร” ถิ่นกำเนิดของผม... “สภาพแวดล้อมก็เหมือนตามชนบททั่วไปน่ะแหละแต่อาขอยืนยันให้บอลรู้ไว้ก่อน” “ครับ?” “สาวๆที่นี่น่ารักมาก...ขนาดแม่หม้ายยังเช้งวับเด็ดขาดไปเลย...โอ๊ยเจ็บ!!” “พูดอะไรให้หลานบอลฟังน่ะ?...เพ้อเจ้อใหญ่แล้วนะคุณ!!” “ไว้หน้าผมมั่งซี่!!...อยู่ต่อหน้าลูกด้วย” “เฮอะเฮอ~~...อย่าเอาตำแหน่งนายพลมาขู่ฉันเลย...จำไว้ว่าในบ้านคนที่ใหญ่กว่าคุณก็คือฉันย่ะ!!” “เออแม่คุณหญิง!...พูดเล่นนิดหน่อยก็ไม่ได้” ...พอผ่านเข้าอุโมงค์อานิภากับฝนก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมจากที่นิ่งเงียบกันไปพักใหญ่...ค่อยยังชั่ว...บรรยากาศในช่วงนั้นมันชวนให้น่าอึดอัดใจเป็นบ้า... “อุโมงค์ที่เพิ่งผ่านเข้ามาเมื่อกี้ชื่อว่าประตูปฐพี” “ครับพี่...ผมพอจะนึกออกบ้างแล้ว” “แต่ล่ะหมู่บ้านจะมีประตูที่เป็นทางออกสู่โลกภายนอก...บ้างก็เป็นอุโมงค์บ้างก็เป็นประตูจ้ะ” “ถ้าอยากจะเป็นนายใหญ่เรื่องแค่นี้ต้องรู้...อุดรปฐพีทักษิณเมฆาบูรพานภาประจิมอัคคี...ท่องไว้ล่ะกัน” (จำได้ง่ายแน่เพราะชื่อมันคล้องจองกันดี...บ้างก็เป็นอุโมงค์บ้างก็เป็นประตูงั้นรึ?...อยากเห็นจังเลย) “นั่นไง!!!...บ้านของเราๆ” “ไม่ใช่หลังเก่าสินะครับ?” “หลังเก่าแต่ทาสีใหม่น่ะ” “ป้อหยุดรถทำไมจ๊ะ?” “นั่นสิสน...อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว” “มีอะไรหรือคะ?” “...ไม่สังเกตกันหรือว่าตั้งแต่เราออกจากอุโมงค์มาน่ะก็ยังไม่เห็นใครสักคนเลย?” “เอ๋?” “จริงด้วยค่ะคุณ...หายไปไหนกันหมด?” “หรือมีเหตุร้ายเกิดขึ้น?...เดี๋ยวฉันจะไปถามเอง” ...ป้าเอ็มลงจากรถเดินไปที่บ้านใกล้ๆแล้วร้องเรียกคนในนั้น...สักครู่เจ้าของบ้านก็ออกมาทักทายพวกเรา... “นี่เกิดอะไรขึ้น?” “ใช่ค่ะลุง...ทุกคนหายไปไหนกัน?” “ก่อนที่ลุงจะพูดก็ขอถามคุณศรมรกตสักหน่อยครับ” “ก็ถามมาสิไม่ต้องเกรงใจ...เราคนอื่นคนไกลที่ไหนกัน” “พ่อหนุ่มคนนี้คือคุณชายหกใช่ไหมครับ” “ใช่จ้ะ...เขาเป็นหลานชายของคุณพ่อชื่อเอกคเชนทร์” “โอ้ๆๆ...เป็นหลานของท่านจริงๆ” “สวัสดีครับ” “หน้าตาผิวพรรณละม้ายคล้ายท่านสมัยหนุ่มจริงๆ” “ทีนี้ก็บอกมาสิ” “อ่า--...คุณหนูใหญ่สั่งครับ” “หลานเซคเรอะ?” “นี่มันยังไงคะพี่เอ็ม?” “ฉันไม่รู้เรื่องด้วยนะยัยภา...อย่าเพิ่งโบ้ยกันซี่!!” “พี่เซคน่ะหรือ?” “คิดอะไรของเขาเนี่ย?” “เมื่อสักสามโมงเช้าคุณหนูศรเพทายติดต่อมาหาผู้ใหญ่และสั่งให้ลูกบ้านทุกคนอยู่แต่ในบ้านห้ามออกมาจนกว่าจะเลยเที่ยงวันครับ” “ลูกคนนี้สั่งอะไรบ้าๆ!!” “เพื่ออะไรคะ?” “ก็คงจะ...เพื่อแสดงให้พ่อบอลรวมทั้งพี่...รู้ว่าใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริง” “เอ่อ--...แล้วก็ให้บอลรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวหรือเปล่า?” “พี่...เห็นด้วย” “มันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือยังไง?...ฉันต้องดุสักหน่อยแล้ว!!” “ใจเย็นไว้ก่อนค่ะคุณป้า...พี่เซคน่ะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ” “จริงด้วยค่ะ...เดี๋ยวมันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่” “แต่ปล่อยไว้ก็จะยิ่งได้ใจน่ะสิ” “หนูเซคนี่...สมแล้วล่ะที่คุณพ่อไว้วางใจ” “และที่คุณว่าทุกคนรอการกลับมาของบอลน่ะเห็นทีจะไม่ใช่ซะแล้วค่ะ” “ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าเธอจะมาไม้นี้...แม้อาจดูว่าเป็นเรื่องเล็กและไม่สำคัญแต่ก็จะมองข้ามไปไม่ได้เพราะนี่คือสงครามจิตวิทยาหรือว่ากันอีกนัยหนึ่ง...มันเป็นสาสน์ท้ารบที่หนูเซคส่งตรงถึงหลานบอล” “.................................................” (เอ้า!!...ทีนี้แกจะรับมือยังไง?...ฮะๆๆๆ) ...ในหัวสมองของผมคล้ายได้ยินประโยคนี้ดังอยู่ใกล้ๆ...จะทำยังไงน่ะหรือ?...ขืนโมโหฉุนเฉียวก็มีแต่จะไปเข้าทางพี่เซคซะล่ะมากกว่า... ........................................................................................................................................ “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ...บางทีคุณหนูรองอาจจะตามมาในภายหลัง” “ก็ไม่แน่...เธอคงอยากจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ก่อนเข้าปีใหม่แต่หากอีกฝ่ายคิดสู้ก็จะต้องใช้เวลามากขึ้น” “ถึงแล้วหรือคะพี่เศก?...แล้วนาย...นายหญิงล่ะคะ?” “.................................................” “ออกมากันแล้วค่ะ...ไม่ค่ะคนล่ะทาง...พี่ก็รู้ว่าเราต้องไปเข้าทางประตูนภา” “................................................. “ค่ะ...แล้วเจอกันนะคะ” “ไหม...ทางข้างหน้าจะไม่ค่อยดีนะ...ขับช้าๆ” “เจ้าค่ะ” “นี่ศุกร์” “ครับ?” “เมื่อคืนนายต่อกับคุณแม่อีกกี่ยก?...บอกฉันมา” “ไม่...ไม่ได้ต่อครับ...นายหญิงไล่ให้ผมไปนอน” “ไหงงั้นล่ะ?” “คือนายหญิง...อารมณ์ไม่ดีครับ” “ว๊า~~...สงสัยหงุดหงิดที่ฉันไปขัดจังหวะเข้าน่ะสิ” “อันนี้ผมก็...” “ฮ่าๆๆโทษทีๆ...คราวหน้าจะไม่เข้าไปขัดอีกแล้ว...อื๋อ?” “...................................................” “ศิ!...ทำไมต้องหลบหน้าฉัน?” “เปล่านะคะ” “เมื่อกี้แอบมองฉันแล้วก็รีบหันไปทางอื่น...ปิดบังอะไรอยู่หรือเปล่า?” “ไม่มีค่ะ” “หือ--...น่าสงสัย” “...................................................” “เธอกับไอ้บ้ากามนั่นเรียบร้อยกันตั้งแต่เมื่อไหร่นะช่วยบอกอีกทีซิ?...คือฉัน...จำไม่ค่อยได้” “...................................................” “ตอบคุณหนูใหญ่ไปสิ” “พี่ศุกร์” “นายเองก็ไม่หวงน้องสาวบ้างเลย...เธอคิดว่าไงล่ะไหม?” “ช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีมากเจ้าค่ะ” “...................................................” “หนูมีอะไรกับนาย...คุณเอกคเชนทร์ครั้งแรกเมื่อกลางเดือนนี้ค่ะ” “กลางเดือน?...ก็ตอนที่เจ้านั่นเพิ่งจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่...รอดหูรอดตาแคทกับฝนไปได้ไงฟะ?...เก่งกาจซะจริงนะเธอ” “...................................................” “แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่ามีคุณแม่ช่วยอำนวยความสะดวกให้...แผนดึงให้หลานชายสุดที่รักตีตัวออกห่างจากลูกของผู้หญิงที่ตนเกลียดแต่ฉันว่าคุณแม่มีแต่จะส่งเธอไปเป็นของว่างเอนจอยกระดอไอ้บ้ากามนั่นซะล่ะมากกว่า” “คุณเอกคเชนทร์ไม่เคยบังคับศิเลยนะคะ...บอกว่าถ้าศิไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร” “แล้วฉันเล่า?” “คะ?” “หากฉันขอให้เธอทำบ้างจะเต็มใจมั้ย?...ไม่บังคับเหมือนกัน” “เอ่อ...” “ก็กรณีเดียวกันไม่ใช่เหรอ?...ลงนั่งข้างล่างนี่แล้วมาเลียหีให้ฉันหน่อย” “คุณหนูใหญ่คะ...พี่ศุกร์ก็อยู่และพี่ไหมก็ขับรถด้วย” “มิต้องสนใจพี่ดอก” “ใช่ๆๆ...ผมอยู่ด้วยนะครับ” “ฮึ!...นายก็อยากจะดูล่ะสิ?” “ทำตามคำสั่งของคุณหนูใหญ่...อย่าได้บิดพลิ้ว” “...............................................” “นายศุกร์คอยบอกทางให้พี่...มิต้องชำเลืองดู” “ช่างเหอะๆ...อยากดูนักก็ตามใจแต่ห้ามชักว่าวเด็ดขาดเดี๋ยวจะเลอะในรถฉัน” “ทำไมพี่ไหมดูจะไม่ตื่นเต้นเลยหรือว่าทำอย่างนี้บ่อยครับ?” “...คิดเองล่ะกัน” “...............................................” “ถอดกางเกงในฉันออกเลย” “อู้หู~~” “อะไร?” “ผมเพิ่งจะเห็น...หีคุณหนูใหญ่ชัดๆก็วันนี้” “ทุกทีได้แต่แอบดูล่ะสิท่า?” “ผมไม่กล้าครับ” “เฮอะ!!...อุ!...ดึงมันออกไป...จะได้ไม่เลอะ” “ค่ะ” “ฉัน...จะแยกขาให้กว้างอีกก็ได้...เป็นไง?...น่าเย็ดเหมือนของคุณแม่หรือเปล่า?” “ครับ!!!...สู้ได้สบายมากเลยครับ” “ไอ้...ไอ้นี่ตอบไม่ตรงคำถามแฮะ...อึ๊ยยยยยยยยย...ตรง...ตรงนั้นล่ะๆ...อาาาาาาาาา” “เฮอ--...ผะ...ผมจะเป็นไข้แล้วมั้งเนี่ย?” “หืมมมมมมมม...อูยยยยยยยยยยย...บะ...บ่นอะไรของนายหึ?” “หน้า...หน้าผมร้อนผ่าวไปหมดแล้ว” “นะ...นายอยากให้ฉันทำอะไร...สั่งมา” “ผมสั่งได้หรือครับ?” “เร็ว!!” “แหก...คุณหนูใหญ่แหกหีให้ผมดูชัดๆทีสิครับ” “พอ...พอก่อนศิ” “..............................................” “ชัดหรือยัง?” “ครับ...น้ำไหลออกมาเยอะเลย” “อือออออออออออ...ฉะ...ฉันตกเบ็ดให้นายดู...อูยยยยยยยยยยย...ถือเป็นของแถมจ้ะ...อ๊าววววววววว” “ว้าว!!!!...ยิ่งเยิ้มออกมาจนแฉะกว่าเมื่อกี้...สุดยอดเหลือร้ายครับ” “หี...หีฉันสวยกว่าของคุณแม่นะ...รู้ไว้ซะด้วย” “คะ...ครับ” “หลังจากนี้คอเธอต้องเคล็ดแน่” “ผมยอม...ผมยอมครับ” “โอออออออออออออออออ...นั่นแหละๆ...ดี...ดีมากจ้ะศิ...อึ๊!!...ไม่...ซีดสสสสสสสสสส” “คุณหนูใหญ่เสร็จแล้ว!!!...หูย~~...น้ำพุ่งออกมาเลย” “ฮ่า...ฮ่า...ฉะ...ฉันออกแล้วแฮะ” “เร็วมากเลยเจ้าค่ะ” “เพราะ...เพราะมีนายศุกร์นั่งดูอยู่ล่ะมั้ง?...หึๆ...แบบนี้ก็นับว่าไม่เลว...เลียให้สะอาดเอี่ยมนะศิ” “ได้ค่ะ” “อืมมมมม...ทะ...ที่จริงฉันก็เคยตั้งใจจะเรียกนายมาเย็ดกัน” “คุณหนูใหญ่พูดจริงหรือครับ?” “แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า...ฉันไม่อยากใช้ของร่วมกับคุณแม่น่ะ” “น่าเสียดายนัก~~” “ไอ้...ไอ้บ้านี่!?...ใจคอคิดจะเล่นทั้งแม่ทั้งลูกเดี๋ยวก็ถูกม่อนฆ่าหรอก!!!...โอออออออออ...นั่นเธอทำอะไร?” “คือน้ำหล่อลื่นของคุณหนูไหลไปถึงรูก้นค่ะศิก็เลย...” “ฮิ...ขอบใจๆ” “นายก็ออกเช่นกันรึ?” “เปล่าครับพี่ไหม!!” “พี่ได้กลิ่นน้ำกามอสุจิจากตัวนายยังจะปฏิเสธว่าเปล่า?...คุณหนูใหญ่เจ้าคะ” “น่า--...ไม่ได้แตกข้างนอกนี่...แค่เลอะคากางเกงก็ทนนั่งไปจนกว่าจะถึงบ้านเถอะ...การแสดงจบแล้วทีนี้ก็ได้เวลาเขียนบทใหม่...ตอนนี้คุณแม่กับทุกคนคงจะแปลกใจกันน่าดู” “....................................................” “พี่รู้ว่านี่ฝีมือใคร?” “ฝนด้วยค่ะ...ในหมู่บ้านสี่โยนกถ้าไม่ใช่ป้าเอ็มก็มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ถึงขนาดนี้” “อุ๊ยตาย!!...นี่น้องสาวที่น่ารักทั้งสองคนกำลังพูดถึงพี่อยู่หรือเปล่าจ๊ะ?” “เป็น...พี่จริงๆด้วย” “ใช่พี่เอง...ฮิๆ...แต่ยังหรอก...มันเพิ่งจะเริ่มต้น” “ไม่ค่อยดีมั้งคะ...ฝนว่าเลิกเหอะ” “อะไรกันจ๊ะน้องฝน?...พี่อุตส่าห์คิดวางแผนมาตั้งนานจะให้เลิกล้มได้ยังไง?...สองคนน่ะอยู่เฉยๆและรอดูดีกว่า...พี่ไม่ทำให้ไอ้บ้ากามนั่นเจ็บตัวแม้รอยเท่าแมวข่วนหรอก...ก็แค่...กระตุ้นให้ต่อมยางอายของมันรู้จักทำงานบ้างก็เท่านั้น” ......................................................................................................................... “พี่เซค...พี่เซค!” “วางสายไปแล้ว” “ไม่ยอมคุยกับฉันด้วย...ลูกคนนี้นี่จริงๆเล้ย!!...ถอดแบบมาจากฉันไม่มีผิดเพี้ยน” “แต่นิภาว่าหนูเซคเก่งกว่าพี่เอ็มนะคะ...เอ--...จำได้ว่าพี่ก็เคยใช้วิธีนี้มาก่อน” “ในบรรดาลูกสาวทั้งสี่คนเซคนิสัยใจคอเหมือนพี่ที่สุด...งานนี้เถียงไม่ออกเลย” “ผมจะอยู่เฉยๆไม่ตอบโต้พี่เซคครับ...ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นซะก็สิ้นเรื่อง” “บอลจะดูถูกพี่เซคมากไปหน่อยล่ะ...ยังไงเธอก็ไม่ยอมเลิกจนกว่าจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายสิ้นท่าหมดสภาพ” “อื้มๆๆ...จากที่คุยกันเมื่อกี้ก็แจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้ว” “แต่ก็เป็นวิธีที่ใช้ได้เหมือนกัน...ตอนนี้อยู่เฉยๆก่อน...พ่อบอลไปที่บ้านอาบน้ำอาบท่าพักผ่อนให้สบายแล้วค่อยมาหารือ...หืม?” “............................................” “อ๋อใช่!!...ตอนนี้อยู่ที่สี่แยกใหญ่...อะไรนะ?” “............................................” “เข้าใจแล้วจ้ะ” “บ้านเราอยู่ใกล้แค่นี้เอง...เดินไปก็ได้” “เดี๋ยวจ้ะหนูฝน...ป้าว่าเราล่วงหน้าไปก่อนดีกว่า” “...มีคนจะรอพบบอลใช่ไหมคะ?” “อื้อ!” “ฮื่อ~~...ไม่เปลี่ยนเลยคนนี้” ...ฝนหน้ามุ่ยขณะไปขึ้นรถและพี่แคทเดินมาตบบ่าผมพลางพูดเบาๆว่า... “สิบปีที่จากกันในที่สุดก็จะได้พบ...ยินดีด้วย...คนๆนี้อยากเจอเธอเป็นการส่วนตัวฉะนั้นพี่หรือใครก็อยู่ด้วยไม่ได้เพราะมันจะเกิดเรื่อง” “ไม่ถูกกันสินะครับ?” “...คงงั้น...เธอเองก็ควรจะระวังคำพูดคำจาเหมือนกัน...คนๆนี้ฟิวส์ขาดง่ายมากถ้าใครพูดอะไรไม่เข้าหู” “เป็นคนเจ้าอารมณ์นี่เอง” “บอลไปรอในศาลาริมทางนั่น” “.............................................” ...สี่แยกนี้มีชื่อว่า “สี่แยกจัตุรัส” ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังหมู่บ้านทั้งสี่อันได้แก่โยนกอุดร,โยนกทักษิณ,โยนกบูรพาและโยนกประจิม...โยนกอุดรก็ตรงตามชื่อคือหากจะไปก็ให้เดินทางขึ้นทางทิศเหนือแล้วภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าก็มีชื่อว่า “ภูเขามิหวนกลับ” ที่ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางในตำบลแห่งนี้... “มีขนมกับน้ำดื่มให้ด้วย...แล้วนี่ชารึ?...อุ๊บ!!” (อะไร!?...หวานๆขมๆจิบไปอึกเดียวแทบจะวูบเลย...นี่มันเหล้าไม่ใช่เรอะ?) “เขาเรียกว่าเบญจวารี” “!?” “ก็เป็นเหล้าป่าน่ะแหละไม่ใช่ของแปลกอะไร” “ใครน่ะ?” ...แน่ใจว่าเป็นผู้หญิงแต่น้ำเสียงกลับไม่แหลมเล็กและออกจะคล้ายๆเสียงผู้ชายด้วยซ้ำไป...ผมออกจากศาลาแล้วมองไปรอบๆก็ไม่เห็นใครและพอเงยหน้าขึ้นไปข้างบนก็ได้พบคนๆหนึ่งนั่งอยู่บนจั่วศาลาโดยที่สวมชุดคลุมสีดำอย่างมิดชิดไม่เว้นกระทั่งใบหน้าที่มีฮู้ดบังอยู่... “สิบปีแล้วสิที่เราไม่ได้เจอกัน...ยังจำคำถามสามข้อของฉันได้หรือเปล่า?” “เธอ...เป็นใคร?” “ใครน่ะเรอะ?...ฉันก็เป็นว่าที่ภรรยาของนายไงเล่า!!!” “ภรรยา?” “ใช่...นายมีชะตาที่จะต้องเป็นผัวของฉัน” (ผะ...ผัว!!!!...พบกันครั้งแรกก็พูดออกมาได้หน้าตาเฉยเลยแฮะแม่สาวคนนี้!?...นี่ถ้าฝนได้ยินคงจะอารมณ์เดือดปุดๆประดุจน้ำร้อนในกา) “เอ่อ--...เรา...เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะครับ” “สิบปีมานี่ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นน้องชายเลยว่ะ” ...เพิ่งเจอกันแท้ๆแต่ทุกคำทุกประโยคมีแต่ชวนให้อึ้งทั้งนั้น...ช่วงกระพริบตาแค่เดี๋ยวเดียว “พี่สาวคนที่สี่” ก็กระโดดจากยอดศาลาลงมาข้างล่าง...เท่าที่ดูๆเธอสูงไล่เลี่ยกับฝนแต่รูปร่างจะเป็นไงไม่รู้เพราะยังไม่ถอดผ้าคลุมออก... “จะไปบ้านนั้นใช่มั้ย?...ฉันเดินเป็นเพื่อน” “เร็วหน่อยก็ดีมั้งครับ?” “รีบร้อนไปไหนเล่า?...บ้านมันไม่มีตีนเดินหนีได้เองหรอกน่ะ...ค่อยเดินค่อยคุยกันเหอะฉันมีอะไรอยากถามนายเยอะแยะไปหมด” “อะไรครับ?” “แต่เอาเท่าที่นึกออกกับสำคัญก่อน...คำถามข้อแรกฉันได้รับคำตอบแล้วจึงไม่มีอะไรต้องพูดถึงอีก” (เมื่อไหร่จะกลับบ้าน?) “ข้อสอง...นายใช้ผู้หญิงเปลืองมากไปแล้ว--” “มันคือนิสัยเสียของผมเองครับ” “รู้ตัวเหมือนกันรึ?” “...............................................” “แต่ฉันไม่มีปัญหา” “!?” “นายน่ะยกฉันกับป้อมให้เป็นที่หนึ่งก็พอส่วนผู้หญิงอื่นจะไปสนุกด้วยเป็นครั้งคราวก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่ถ้าจะให้ดีที่สุดสำหรับนังแมวขโมยพวกนั้น...ไล่ให้ลงไปจับหนูในท่อน้ำซะเถอะ” “...............................................” ................................................................................................................................ ...ตัวอย่างในตอนต่อไป... “วันนี้ถือเป็นวันดีฉันจึงไม่อยากต่อปากต่อคำหรือต้องการจะมีเรื่องมีราวกับใคร...แล้วไปเถอะ” “แต่ถ้าอ๋อมยังดึงดันจะพาบอลไปจากบ้านหลังนี้...พี่ว่า...มันคงจะแล้วกันไปไม่ได้หรอกนะ” “พูดอย่างนี้แสดงว่ายมทูตหนีขุมนรกคิดจะมีเรื่องกับนางพญาเสือให้ได้หรืออย่างไร?...สุรีย์พรรณ” ............................................... “ข้าเข้าใจ...ทุกคนไม่ต้องพูดอะไร” “ผมจะไม่ทำแบบในละครน้ำเน่าที่คลานเข่าไปกราบเท้าขอสำนึกผิดเพราะผมก็มีวิธีของผมอยู่” “พูดได้ดีมาก!!...สมกับเป็นว่าที่สามีของฉัน...ที่นี่หมดเรื่องกันแล้วสินะงั้นก็ไปโยนกทักษิณกับฉันซะที!!!” ............................................... “เธอน่ะรึสาวิตรี?...ผู้หญิงที่น้องชายของฉันคว้ามาทำเมียด้วยเพราะความหน้ามืดตามัวเพียงชั่วขณะหนึ่ง” “นะ...หน้ามืดตามัว?” “ใช่...แต่ปัจจุบันไม่ใช่เพราะเรื่องของเธอกับบอลกลายเป็นอดีตไปแล้ว...ต่อไปอย่ามายุ่งกับเขาอีก!!!” ..................................................................................................................... ...ปริศนาที่มืดดำมานับสิบปีใกล้จะได้รับความกระจ่างและการกระทบกระทั่งกันระหว่างยมทูตสาวกับนางพญาเสือจะมีแววลุกลามใหญ่โตหรือศึกนี้มิอาจหลีกเลี่ยง?...

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น