AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 61

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 61 “ลุ้นระทึกกลางดึก!?...เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผี!!!!” 

“ก่อนที่น้องจะใช้พลังพันธนาการท่านพี่...กรุณาบอกเหตุผลที่น้องรับฟังได้...จะอธิบายว่าอย่างไรเจ้าคะ?” “พี่ก็บอกแล้วว่ามันเป็นแค่...ผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน” “...................................................” “ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ” “เท่านี้หรือเจ้าคะ?” “อืม--...อ๊ะๆ...อย่าเชียวนะ!!...พี่มีออกตรวจตอนบ่ายอีก”
“วานให้หมอคนอื่นทำแทนก็ได้ส่วนท่านพี่จงนอนหลับอยู่แต่ภายในห้องนี้เสียเถิด...ใบหน้ายามหลับนั่นช่างงดงามยิ่งนักเจ้าค่ะ” “เฮ่ยเอาจริงน่ะ!?...แน่~~...ล้อพี่เล่นใช่ม๊า?” “...น้องกำลังโกรธอยู่นะเจ้าคะ” “ไหมๆๆๆ...อย่ามัวอยู่เฉยๆช่วยฉันด้วย!!!” “คุณหนูรองเจ้าคะ...ดิฉันว่า...” “หุบปากบัดเดี๋ยวนี้!!...เจ้าก็มีความผิดที่ช่วยท่านพี่ปกปิดเรา...สงสัยอยู่แล้วเทียวว่าทำไมเจ้าถึงพาเราไปโน่นไปนี่ที่แท้ก็เป็นการถ่วงเวลา” “...................................................” “น่าๆ...อีตาผอ.มะเขือเผานั่นมันแค่การละเล่นฆ่าเวลา” “น้องเบื่อจะฟังท่านพี่ที่พูดแก้ตัวเช่นนี้มามิรู้กี่ครั้ง...เอาล่ะ” “?” “หากยังมิเลิกข้องเกี่ยวกับเฒ่าหัวงูผู้นั้นอีกก็อย่าหาว่าน้องใจร้ายล่ะกัน” “เฮ่!!” “...................................................” “โอ๊ะไม่ได้การ!!...ต้องไปออกตรวจแล้ว” “น้องยังพูดมิจบนะเจ้าคะท่านพี่!!!” “หนีไวจัง” “คอยดูเถิดไหม...มันผู้ใดที่จะเข้าใกล้ท่านพี่ด้วยเพราะมีเจตนาสกปรกลามกต้องพบกับจุดจบที่น่าสมเพช...ท่านพี่เป็นของเรา!!!” “คุณหนูใหญ่ก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองเจ้าค่ะ” “เหตุผลที่หาได้มีความเข้าท่าแต่อย่างใดไม่น่ะหรือ?” “...................................................” “เราจะไปเรียนส่วนเจ้าคอยดูแลท่านพี่” “เจ้าค่ะ” “...................................................” “...................................................” “ไหมๆ” “คุณหนูใหญ่!?” “ม่อนไปแล้วใช่มั้ย?” “เพิ่งออกไปเมื่อกี้เจ้าค่ะ” “เฮ้อ~~...ช่วยบอกมันด้วยว่าอย่าไปทำอะไรอีตาผอ.นั่นเลยเพราะตอนนี้แพ้ภัยตัวเองไปนอนในห้องไอซียูเรียบร้อยแล้ว” “หา?” “มีประวัติเป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแต่สาเหตุที่แท้จริงก็เป็นเพราะขึ้นเตียงกับฉันนั่นแหละ...เธอเองก็อย่าเอะอะไปเชียวนะ” “!?” .................................................................................................................................. “กินข้าวกลางวันมาหรือยัง?” “...เรียบร้อยครับ” “นั่งเป็นเพื่อนพี่ก่อน...เดี๋ยวจะไปส่งที่ห้อง” “..................................................” ...พี่แคทมาอยู่ที่ร้านอาหารหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย?...ไม่แวะก็ไม่ได้เพราะสาวเจ้าผมยาวโทรจี้เข้ามือถือ... (ไม่รู้ตั้งใจมาดักรอหรือเปล่าเพราะที่นี่มันก็ใกล้อาคารที่หล่อนเรียนอยู่เหมือนกัน!?) “นายท่านคะ...พวกเราขอตัวกลับนะคะ” “อืม” “โอ--...แค่ไปพบกับคุณพัตราครั้งแรกในฐานะ...ว่าที่ผู้นำรุ่นสามก็ดูจะเพลินติดลมบน” “..................................................” “หนูจ๊ะ...ข้าวได้แล้ว” ...พี่แคทลุกไปหยิบอาหารที่สั่งไว้ส่วนผมเดินไปซื้อน้ำอัดลมกระป๋องโดยตั้งใจซื้อมาเผื่อเธอด้วยแต่ทว่า... “ไม่ได้สั่งสักหน่อย” “งั้นผมเก็บไปฝากฝนก็ได้” “..................................................” “ข้าวคะน้าผัดปลาอินทรีย์” “ป้าเค้าทำอร่อย” “แต่ผมอยากกินอาหารฝีมือพี่มากกว่า” “ห๊ะ?” ...อึ้งไปเลยพี่สาวผม...หึๆ...ก็รู้อยู่แล้วว่าเธอทำอาหารไม่ได้เรื่องแต่อยากจะ(เอาคืน)แหย่เล่นเฉยๆ... “เย็นนี้พี่ทำให้ผมกินนะ” “พี่ทำเป็นที่ไหน?...ไปขอให้ฝนทำโน่น” “แย่จัง...ผู้หญิงที่ไม่มีฝีมือปลายจวักใครจะมาขอไปเป็นแม่บ้านแม่เรือน?...น่าขันมากถ้าใครๆรู้ว่าคุณหนูสองผู้สูงส่งแห่งวิษณุมนตรีจะไร้ความสามารถที่ผู้หญิงส่วนใหญ่พึงมี” “โห~~...แล้วไงต่อ?” “นี่เรื่องใหญ่ครับ...อย่าล้อเล่น” ...เปรียบเปรยกับน้องสาว,แม่บ้านแม่เรือน,ชีวิตหลังแต่งงาน...ผมสบช่องยกมาถล่มเป็นระลอกทว่าญาติสาวผู้พี่วัย 22 นิ่งสงบกว่าที่คาดทั้งที่จี้แทงปมด้อยของหล่อนเต็มเปา...เอ๋!?...ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเรอะ?... “...ความเห็นของเธอน่าสนใจทีเดียวแต่มันไม่สำคัญสำหรับพี่” “เพราะมีฝนหรือ?” “ไม่ใช่...ถ้าจะไปฝึกทำอาหาร...” “?” “พี่ว่าเอาเวลามาคอยจับตาดูคนชอบปิดบังความผิดของตัวเอง...มันน่าสนุกกว่าเยอะเลย” “!?” “ไปเอาน้ำให้หน่อยซิ” “ก็ยังมีอยู่ในแก้ว...” “..................................................” “ครับๆๆ” “ขอบใจ...เอ้า!!...สักคำ” “ผมไม่หิว” “สุภาพบุรุษที่ดีไม่สมควรปฏิเสธคำขอของสุภาพสตรีนะจ๊ะ” “..................................................” (เออๆ...กินก็ได้ฟะ!!) “หืม?...โอ้วววววววว...เผ็ด...เผ็ดๆๆๆ...โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย” ...หลงกลพี่แคทที่แกล้งเอาพริกขี้หนูมาให้กินจนผมตาลีตาเหลือกคว้าแก้วน้ำแทบไม่ทัน... “เห็นมะ?...ดื่มหมดในอึดใจเดียวเลย” “อะ...อะไรของพี่เนี่ย!?” “พี่รู้สึกว่าเธอชักจะพูดมากก็เลยอยากให้หุบปากลงซะมั่ง” “..................................................” “ไปทำอะไรมาอีกล่ะ?” “ทำอะไร?...ผมก็บอกแล้วว่าไปพบคุณพัตรา...หากสงสัยนักก็เชิญไปเช็คเลย” “พี่ไม่ได้สงสัยประเด็นที่ว่าพบจริงหรือเปล่าแต่ไอ้การที่ขับรถผ่านหน้าบริษัทตั้งสามสี่รอบน่ะมันอะไร?” “!!!” “อย่าบอกว่าตื่นเต้นที่ไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ครั้งแรกเลยขอเวลาเตรียมใจ” “...นังปิศาจ!!” “หึ!” “ผมว่าพี่ๆยังจะมาหัวเราะเยาะ!!!” “งั้นบอลก็พูดมา” “แค่มันยังไม่ถึงเวลานัดหมายเลยสั่งให้ศุกร์ขับรถวนฆ่าเวลาก็เท่านั้น” “ฆ่าเวลา?...ทำอะไรที่มันดูเด็กๆจัง” “แล้วอะไรครับที่ดูเป็นผู้ใหญ่?...แกล้งเอาพริกให้คนอื่นกินอย่างนี้ใช่มั้ย?” (ปากท้าทายแต่ความจริงกลัวแทบหยุดหายใจ...อะไรดลใจให้เรายื่นมือไปจับคางพี่แคทกันนะ?) “โดนยั่วว่าทำอาหารไม่เป็นเข้าหน่อยก็แอบยัดพริกขี้หนูให้ผมกิน...ใช้วิธีหน่อมแน้มนี่น่ะเหรอ?” “งั้นบอลจะให้พี่เปลี่ยนไปใช้วิธีโหดๆไหม?” “...............................................” “...มือสั่นนะ” “ผมจะไปรอที่รถ!!” ...แสดงว่ามีสาย(ลับ)แฝงตัวอยู่ในบริษัทคุณพัตราซึ่งยัยพี่สาวจอมป่วนประสาทก็คงจะบอกเลขทะเบียนรถที่ผมนั่งไป...รู้ถึงขนาดขับรถวนผ่านหน้าบริษัทถึงสามรอบแต่จะเป็นใคร?... (มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นยามหน้าประตูเพราะสามารถสังเกตรถทุกคันที่แล่นผ่านหรือวิ่งเข้ามา) “ยังพอมีเวลาเหลือ...พี่ขอถามอะไรหน่อย” “ก็พูดมาซะตรงนี้เลยสิครับ” “ที่นี่ไม่ค่อยเหมาะ” ...พี่แคทเลี้ยวรถเข้าไปในถนนลูกรังสายนอกที่สามารถไปถึงอาคารที่ผมจะเรียนได้ซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครใช้เส้นทางนี้เพราะมันเปลี่ยวกับไม่มีเสาไฟอยู่เลยโดยเฉพาะเวลากลางคืน...หญิงสาวนำรถเก๋งคู่ใจจอดชิดขอบถนนแล้วเปิดประตูออกไป... (ถึงกับต้องหยุดรถเชียว?) “...ลงมา” “มีอะไรจะถามครับ?” “เธอกับศิมีอะไรกันหรือยัง? (โอ้โห!?...ช่างไม่รู้จักอ้อมหรือเลี้ยวซะบ้างเลยจ้องจะพุ่งตรงอย่างเดียว!!!) “ผมคงไม่ต้องตอบมั้งเพราะพี่จะตั้งธงไว้ในใจก่อนเสมอฉะนั้นถึงพูดไปพี่ก็ไม่เชื่อ?” “ก็ลองพูดมาก่อน” “มีแล้วครับ” “!?” “พี่หูไม่ฝาดหรอก” ...ว่ากันว่าคนที่ฉลาดเป็นกรดมักจะไม่เชื่อคำตอบกับประโยคแรกที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาดังนั้นผมจึงพูด(ความจริง)ทันทีและคอยดูว่าญาติสาวผู้พี่จะมีปฏิกิริยายังไงต่อ... “เรียกไปปรนนิบัติหรือ?” “ปรนนิบัติ...ก็ประมาณนั้นแต่ผมไม่บังคับและปล่อยให้ศิตัดสินใจเอาเองครับ” “ต่อให้เต็มใจแต่หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ...โตป่านนี้แล้วทำอะไรไม่รู้จักคิด” “ฮ้า!?” (เฮ้ย!!!...ไหงผลมันถึงออกมาตรงกันข้าม?) “อย่าโกหก...ฮื่อ~~...ผมรู้ว่าพี่ไม่เชื่อ” “แต่คราวนี้ฉันเกิดอยากจะเชื่อขึ้นมาน่ะ” “เหตุผลล่ะ?” “แววตาที่ศิมองเธอ...” “แค่นั้นเองน่ะเหรอ?” “อย่าดูถูก Sense ของผู้หญิงให้มันมากนัก...พี่ไม่เคยพูดว่าตัวเองฉลาดกว่าใครแต่การสังเกตอาการคนอื่นนี่ถือเป็นเรื่องถนัดและเธอน่ะมองออกง่ายมากหรืออีกความหมายคือ...ดูปราดเดียวก็รู้” “..................................................” ...ประสาทจะกิน!!!...หวังให้สาวเจ้าวัย 22 ตกหลุมพรางเพราะความเฉลียวฉลาดของตนแต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นผมเสียเอง... “งั้นที่ขับรถวนอยู่หลายรอบก็แสดงว่าเธอกับศิกำลัง...” “อย่ามาเดาส่งเดช!!” “แต่ไอ้นี่น่ะ...” “โอ๊ะ!?...ปะ...ปล่อยนะ!!!!” “อ่อนยวบยาบแบบนี้...แสดงว่ารีดพิษมันออกไปแล้วสิ?” “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่...ปัทโธ่เว้ย!!!...คิดพิเรนทร์อะไรจู่ๆก็มาจับจู๋ผม?” “แค่ภายนอกเอง...ไม่ได้จับตรงๆสักหน่อย” “จะตรงหรือจะเลี้ยวมันก็ใช่ที่ๆนึกอยากจับก็จับได้ตามใจหรือไง?” “จู่ๆก็รักนวลสงวนตัวขึ้นมาซะงั้น?” “หยุดแดกดันกันซะที!!” “พี่เปล่านะ...ก็ถ้าเธอไม่ไปมีอะไรกับใครมันจะต้องแข็งตัวนี่?” “มันใช่ซะที่ไหน?...กรอด!!!” “น่า--...อย่าลืมว่าพี่นุ่งกระโปรงสั้นแล้วตอนนั่งในรถเธอก็เหลือบมองขาอ่อนพี่ตั้งหลายครั้งฉะนั้นตามความเป็นจริงเธอย่อมเกิดความรู้สึกแล้วไอ้นั่นจะต้องขยายใหญ่ขึ้นบ้างแต่นี่ไม่เลย” “วิธีพิสูจน์บ้าๆแบบนี้มันไม่ได้ผลหรอก” “เอ--...มันก็น่าจะช่วยสันนิษฐานเบื้องต้นได้ไม่ใช่รึ?” “นี่ไม่รู้จริงหรือว่าแกล้งโง่กันแน่?...งั้นผมทำกับพี่บ้างจะเป็นยังไงล่ะ?” “...................................................” “พี่ยังไม่รู้จักผู้ชายดีพอ...เริ่มมาก็จับไอ้นั่นหมับพี่มั่นใจว่ามันจะต้องแข็งตัวทันทีงั้นเรอะ?...คิดตื้นๆ...นี่ถ้าไม่ใช่ผมล่ะก็น่ากลัวพี่โดนจับข้อหาทำอนาจารไปแล้วแน่!!!” “งั้นเธอช่วยอธิบายหน่อยถือเป็นการประดับความรู้” “...ผู้ชายน่ะต่อให้สำเร็จความใคร่มาแล้วแต่ก็ใช่ว่าอวัยวะเพศจะอ่อนยวบยาบไม่หือไม่อือไปหลายชั่วโมงอย่างที่พี่เข้าใจโดยเฉพาะหนุ่มวัยรุ่นความรู้สึกไวจะตาย...ต่อให้เอาผู้หญิงมาแล้วแต่อวัยวะเพศก็สามารถแข็งตัวได้เมื่อหัวสมองคิดกับเห็นสิ่งเร้าอารมณ์” “แล้วทำไมของเธอไม่แข็งทั้งที่แอบดูขาพี่?” “ใครว่า?...ผมไม่ใช่อิฐใช่ปูนแต่มันสงบใจได้ต่างหาก” “สงบใจ” “แบบพอได้เห็นหน้าของพี่ผมก็แทบจะหมดอารมณ์ทันที...เฮอะๆ” “อะไร!?...นี่ใบหน้าฉันดูน่าเกลียดขนาดนั้นเชียว?” “ไม่ใช่ๆ...ความหมายของผมคือพี่ชอบปั้นหน้าบึ้งใส่คนอื่นใครๆก็เลยกลัวจนหดไงครับแล้วอย่างเมื่อกี้ผมก็ตกใจด้วยที่อยู่ๆพี่แคทก็เล่นอะไรสัปดน” “โอ--...หมายความว่าพี่เข้าใจผิดมาตลอด?” “ตรงนั้นของผู้ชายไม่ใช่ประเภทจับปุ๊บก็โด่ปั๊บ...ไปศึกษามาใหม่เถอะพี่เป็นคนฉลาดรับรองไม่นานก็เข้าใจ” “ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก...” “?” “ไม่มีอะไร...บอลช่วยขับรถให้ทีสิ” ...อื้อหือ?...ดูคุณเธอทำหน้าเข้า...ท่าทางจะใช้ความคิดเป็นจริงเป็นจังเสียเหลือเกินจนไม่มีกะใจจะขับรถ... “ช้าๆ...ถนนแถวนี้ไม่ค่อยดี” “.................................................” “.................................................” “มองหน้าผมทำไม?” “พี่ยอมรับว่ายิ้มไม่ค่อยเก่งทำตาเซ็กส์ซี่ก็ไม่เป็น...พอจะบอกได้ไหมล่ะว่าพวกเพื่อนๆของบอลเวลาเห็นพี่แล้วเขามีอาการยังไงมั่ง?” “...ให้พูดจริงๆเหรอ? “อื้ม!!” “สัญญามาก่อนว่าพี่อย่าโกรธหรือไปทำอะไรพวกมันนะ” “ได้” “พวกมัน...อยากมีอะไรกับพี่มากครับ” “.................................................” “พี่แคท?” “พูดต่อ” “พวก...พวกมันชอบมองตอนที่พี่นั่งกับเดินไปเดินมา...สังเกตดีๆก็จะรู้ว่าแววตางี้หื่นกระหายกันทั้งนั้น” “ทำไม?” “เพราะเวลานั่ง...เอ่อ--...อย่างที่เห็นๆกันว่าพี่มักจะใส่กระโปรงสั้นรัดรูป...เอ่อ...” “ก็มันทำไมเล่า?” “จะ...จะเห็นขอบกางเกงใน” “ขอบกางเกงใน!?...ได้เห็นแค่นั้นพวกเพื่อนของเธอก็มีความสุขกันงั้นหรือเนี่ย?...แล้ว...ตอนพี่เดินล่ะ?” “ก็...ก็บั้นท้ายของพี่ไง...ผมคงไม่ต้องอธิบายนะ” “...ทะลึ่งกันจัง” “นี่ยังน้อย...ทุกส่วนสัดในร่างกายพี่แคทล้วนแต่โดนพวกผู้ชายในมหาลัยเก็บเอาไปฝันกันหมดแล้ว...เชื่อมั้ยว่าแม้แต่อาจารย์ผู้ชายก็ชอบมองพี่?” “หึ!!...ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จะเรียกว่าน่าหัวเราะหรือน่าสงสารดี...อืม--...จะว่าไปพี่เซคก็เคยเปรยๆไว้เหมือนกัน” “เรียกว่าความบันเทิงใจอย่างหนึ่งจะดีกว่าครับ...พวกผู้หญิงก็ยังชอบพูดถึงร่างกายผู้ชายนี่นา?” “พี่พูดอยู่หลายครั้งว่าเห็นแล้วยังไงเอาไปก็ไม่ได้ด้วย...แม้แต่หน้าอกพี่ก็เหมือนกันสิ?” “ก็บอกว่าทุกส่วน” “แค่เห็นยกทรงหรือกางเกงในวับๆแวมก็ชอบใจกันใหญ่” “แต่ผมไม่ตื่นเต้นหรอก” “เพราะเห็นอยู่บ่อยๆใช่มั้ย?” “หา?” “นับว่าเธอโชคดีกว่าคนอื่นเพราะไม่ได้เห็นแค่ขอบรางๆแต่มันชัดแบบเต็มตัว” “แล้วนั่น...พี่...จะปลดกระดุมทำไม?” “ทำแบบนี้...เธอน่าจะเกิดอารมณ์บ้าง” ...พี่แคทปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาสองเม็ดเผยให้เห็นยกทรงสีชมพูอ่อนพลางมองหน้าผมไม่กระพริบ...เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?...มันจะทำให้ผมฟุ้งซ่านจนไม่มีสมาธิขับรถต่อและอาจเกิดอันตราย... (หูยแม่คุณเอ้ย!!!...นมเต่งเป็นกระเปาะแถมมีตั้งสองเต้า...ว้ากกกกกกกกก~~...นี่ใช่เวลามาดูที่ไหนเล่า!?) “ผม...ผมขับรถอยู่” “ก็ถึงบอกให้ช้าๆไง” “พี่...พี่ตั้งใจ?” “อ่ะ!...ดูให้ดีๆ” “ว้าว~~...อุ๊บ!!” “ชอบหรือเปล่า?” “ผะ...ผะ...ผม” “อย่าคิดมาก...เป็นการขอโทษที่พี่ถือวิสาสะจับของเธอ” ...จะไม่ให้คิดมากยังไงไหวเล่า?...สาวเจ้าผมยาวเลิกกระโปรงจีบสั้นขึ้นเกือบครึ่งจนกางเกงในสีชมพูแผลมออกมา...อู๊ย~~...ขนสีดำที่ซ่อนอยู่ด้านหลังผืนผ้าอันบางเบานั้น...บ้าจริง!!!...ตัวของผมร้อนขึ้นเรื่อยๆคล้ายกับเป็นไข้และเหงื่อเม็ดโป้งๆก็ผุดขึ้นทั่วร่างกายทั้งที่ในรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ... “ใหญ่ขึ้นนี่...” “อย่ามอง!!” “เธอดูของพี่ซะตาแทบถลนแต่ทีพี่จะมองมั่งทำเป็นห้าม...เอาเปรียบ--” “ถึง...ถึง...ถึงอาคารแล้ว...ผมลงล่ะ!!!” (โธ่ว้อยควยแข็งปั๋งเลย!!!!...ถ้าขืนเราขับต่ออีกไม่กี่เมตรมีหวังทั้งคนทั้งรถได้ปีนขอบทางเท้าพุ่งเข้าชนประตูอาคารเรียนแหงๆ) “แล้วก็อย่าไปบอกฝนนะ...จะหาว่าพี่ไม่เตือน” “ติดกระดุมเสื้อเถอะ...อยากจะโชว์ไปถึงไหน?” “พี่กะว่า...จะโชว์ให้ผู้ชายแถวๆนี้น้ำลายหกเล่นอีกสักหน่อย...ดีไหม?” “.................................................” ...พี่แคทเอ่ยพลางมองด้วยแววตาคล้ายๆจะยิ้มเยาะผม!?...ผู้ชายแถวๆนี้ในความหมายของเธอไม่มี “ใครอื่น” หรอก... (ยิ้มไม่ค่อยเก่งรึ?...ทำตาเซ็กส์ซี่ไม่ค่อยเป็นรึ?...ทว่าไอ้ที่พี่ทำให้ดูเมื่อกี้นี่ถือเป็นอาวุธที่ร้ายกาจขนาดทำให้ชายหนุ่มมากมายคลั่งตายได้เลยนะ!!!!) ..................................................................................................................................... “ตกลงมึงกับน้องฝนเป็นอะไรกันแน่?” “เป็นลูกพี่ลูกน้องแน่เรอะ?” “ถามอะไรไม่เข้าท่า” “ก็เห็นมาคอยเฝ้าอยู่ทุกวันนี่หว่า...มึงรู้มั้ยว่าเค้าลือกันไปทั่วแล้ว?” “พวกมึงก็เชื่อ?” “เปล่า--...กูไม่สงสัยเหตุผลของพี่แคทแต่” “ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละโว้ย!!!” “...ทำเพื่อพี่สะใภ้อย่างงั้นเหรอ?” “..............................................” “พักเบรกสิบนาทีนะครับ...กลับมาอาจารย์จะทดสอบบทเรียนที่สอนไป” ...ฉิบหา-แล้วไง!!...บทเรียนไม่เข้าหัวสมองเลยเพราะมัวแต่ไปคิดถึงซอตเด็ดกระชากใจของพี่แคทซ้ำไปซ้ำมาจนปวดกระดอไปหมดแล้วทีนี้จะทำประการใดดีเล่าไอ้คุณเอกคเชนทร์?... “ลงไปเดินเล่นข้างล่างกันเถอะ” “ไม่ล่ะฉันต้องทบทวนบทเรียน...เดี๋ยวจะสอบย่อย” “แหงะ!!...เวลาเรียนมัวทำอะไรอยู่น่ะ?” “ก็...” “?” ...อึ๋ย!!...ฟุ้ง...ผมฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว!!!...เห็นหน้าฝนเป็นพี่แคทไปเสียได้แต่พวกเธอก็พี่น้องกันนี่หว่า...เอ๊ะผมกำลังบ่นบ้าอะไร?... (ตั้งใจท่องหนังสือสิโว้ย!!!) “วิ...วิธีที่นิยมใช้กันมากคือ...เฮ้ย!!” “อะไรอ่ะ?” “มานั่งใกล้ฉันทำไมเล่า?” “เอ๋?...ทุกทีเค้าก็อยู่กับตัวเองตลอดนิ” “ออกไปห่างๆก่อน...ฉันไม่มีสมาธิ” “แปลกคนจังเลย~~” ...แต่แทนที่จะไปให้ลับสายตาล่ะก็เปล่า...สาวน้อยจอมแก่นแค่ลุกไปนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วก็มองผมตาแป๋วแหวว...ฝนน่ะไม่รู้เรื่องรู้ราวหรอกแต่ผมนั่นแหละที่หยุดคิดไม่ได้และผลของการสอบย่อยก็คือผ่านแบบฉิวเฉียดชนิดเจียนอยู่เจียนไป... “นี่!!...ที่ตัวเองบอกว่าอยากให้เจ๊ทำคะน้าผัดปลาอินทรีย์ให้กิน...จะบ้าบิ่นไปรึป่าว?” “แย่มากเลย?” “ไม่อยากนึกภาพเชียวละ...เจ๊เค้าไร้ทักษะด้านนี้และมือก็หนักเกินไปด้วยคือคุ้นเคยกับดาบมากกว่ามีดทำครัว...ครั้งนึงเค้าเคยให้เจ๊ช่วยหั่นเนื้อแต่เพราะความที่ใช้มีดไม่ถนัดจึงยกแขนขึ้นสูงสับเอาๆจนเขียงขาดเป็นสองท่อนเลยขอบอก” “ฮะๆๆ...ตลกชะมัด” “ฉะนั้นอย่าเสี่ยงดีกว่า...ถ้าบอลอยากกินฝนจะทำให้” “.................................................” “เลิกเร็วนะ” (อุ!!...เขินจนไม่กล้ามองหน้าหญิงสาวเจ้าของยกทรงสีชมพูกับหน้าอกขาวอวบและกางเกงในสีชมพูกับเส้นขนดำขลับ...น่าเจ็บใจตัวเองจริงๆทำไมเราถึงไม่ดูให้นานกว่านี้ว๊า!?) “เจ๊...ไปตลาดซื้อของ” “อืม” “ตัวเองเหม่ออะไรอีกน่ะ?...ขึ้นรถสิ” “อะ...เอ้อ!!” ........................................................................................................................................... ...พวกเราแวะซื้ออาหารสดที่ตลาดนัดใกล้บ้าน...ที่นี่คนไม่เยอะพลุกพล่านและราคาก็ไม่แพงเพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเอาผลผลิตที่ปลูกเองมาขาย... “หนูเอาไข่มดแดงมั้ยจ๊ะ?” “โอ้!...น่ากินจัง” “จะไปทำยังไงล่ะ?” “ก็แกงผักหวานใส่ไข่มดแดงไง” “วันนี้พี่สาวไม่มาเหรอ?” “มาจ้ะมา...เห็นเดินอยู่ตรงนั้น...อ้าว!?” “หายไปไหนไม่รู้” “คงจะอยู่แถวๆนี้แหละ...ลุงจ๋า~~...ผักวันนี้สวยมั้ยอ่ะ?” “ยังสวยสู้หนูไม่ได้ร้อก!!...ฮ่าๆๆ” “ว้ายตายล่ะ!!...ระวังป้าเค้าได้ยินจะตีหัวแตกนะเออ~~” “ฮะๆๆ...สำหรับสาวน้อยน่ารักอย่างหนูน่ะลุงเต็มใจ” ...มาอยู่แถวนี้ยังไม่ถึงเดือนแต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างรู้จักฝนกันเกือบหมดแล้วเพราะความที่เจ้าหล่อนมีอัธยาศัยดีชอบพูดชอบคุยและก็ไม่ถือตัวดังนั้นเวลามาซื้อของจึงมักจะได้ของแถมกลับไปด้วย... “ซื้อปลาเนื้ออ่อนมั้ยเดี๋ยวน้าแถมให้?” “อืม--...ปลายังสดใหม่...เอาไปทอดก็ดีนะบอล” “ทำต้มยำก็อร่อย” “น้าต้องแถมให้หนูจริงๆนา?” “จะเพิ่มให้เป็นพิเศษเลย...ว่าแต่พี่สาวไม่มารึ?” “มาจ้ะแต่อยู่ไหนไม่รู้” “พี่หนูนี่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยยิ้มกับใครเลยนะ?” “เค้าเป็นแบบนั้นเองจ้ะน้า!...อย่าไปถือสา” “แต่เธอสวยมาก...มานี่ทีไรคนก็แตกตื่นอย่างกับเห็นดารา” ...เพราะเหตุผลนี้ล่ะมั้งพี่แคทถึงไม่ค่อยอยากมาเดินในตลาด...บางทีคงจะกลับไปรอที่รถแล้วก็ได้... “จะเยอะไปหรือเปล่า?” “นี่ยังไม่หมดนะ...เค้ามีของจะซื้ออีก” “เฮ่ย!...เอาไปทำอะไรนักหนา?...มีกันแค่สามคน” “เผื่อป้าเอ็มจะมาบ้านไง...ฝากตัวเองไปไว้ที่รถสักรอบล่ะกัน...บอกให้เจ๊มาหาเค้าด้วย” “.................................................” “.................................................” (นึกว่าหายไปไหนที่แท้ก็กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าทางเข้า) “หาอะไรครับ?” “พี่ทำหวีหล่น” “หาในตลาดหรือยัง?” “เมื่อกี้ไปหาดูแล้วแต่ไม่เจอ...พี่จะต้องหาให้เจอเพราะหวีอันนี้พี่เซคซื้อให้” “พี่ไปหาในตลาดอีกทีเถอะส่วนผมจะช่วยหาแถวๆนี้จะได้ไปช่วยฝนถือของด้วย...ขานั้นติดลมบนจะเหมาหมดทั้งตลาดแน่มั้ง?” “เข้าใจแล้ว...นี่กุญแจ” “หึ!...แต่แค่หวีอันเดียวก็หาซะขนาดนั้น” “................................................” “?” “ขอเวลาสักครู่จะได้ไหมขอรับ?” ...เอ้ย!?...ไอ้คนนี้แต่งตัวแปลก!!!...อากาศร้อนอบอ้าวแต่ใส่ชุดคลุมยาวเกือบถึงเท้าแถมสวมถุงมือด้วย... “...มีธุระอะไรกับผม?” “ในมือซ้ายแลมือขวาของกระผมมีไพ่อยู่ 24 ใบ...คุณช่วยกรุณาเลือกสักหนึ่งใบ” “อะไร?” “เชิญเลือกตามใจชอบขอรับ” “คุณ...เป็นหมอดูเรอะ?” “................................................” “ขอโทษที...ผมไม่ค่อยเชื่อถือพวกหมอดูหมอเดาเท่าไหร่นักหรอก” “...คุณ...กำลังมีเรื่องกลุ้มใจอยู่สินะขอรับ?” (ฮะ!...มามุกนี้จริงๆด้วย) “แลก็น่าจะเกิดจากญาติพี่น้องของคุณเอง...ถูกต้องหรือไม่ขอรับ?” (เฮ้ย!?) “...คุณรู้ได้ยังไง?” “กระผมจะตอบคำถามนั่นก็ต่อเมื่อคุณเลือกไพ่หนึ่งในยี่สิบใบนี้ขอรับ” “................................................” “................................................” “เอ้า!!” ...หน้าตาก็ไม่เห็นเพราะใส่แว่นกันแดดกับสวมหมวกปีกกว้างและเป็นคนร้ายหรือเปล่าไม่รู้แต่ผมคอยระวังตัวอยู่แล้วอีกอย่างดูรูปการก็น่าจะเป็นผู้ชายเพราะพูดแทนตัวเองว่า “กระผม” แต่ไอ้ลงท้าย “ขอรับ” นี่มันอะไรกันฟะ?... (หลุดมาจากลิเกโรงไหน?) “คุณเกิดช่วงเวลาเจ็ดโมงถึงแปดโมงเช้าใช่หรือไม่ขอรับ?” “ฮ้า!!!...ระ...รู้ได้ไง?” “ก็คุณเลือกได้ไพ่ใบนี้” “ผมขอดูหน่อย!!!!” ...ไพ่ที่ว่าไม่ใช่ของพิสดารอะไรแต่เป็นแผ่นกระดาษแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวและเขียนเลข “7” แค่ตัวเดียวด้วยหมึกสีแดงพลิกหน้าพลิกหลังก็ไม่มีอะไรที่เป็นพิรุธหรือทำเครื่องหมายพิเศษ... “แล้วไง?...ผมเกิดตอนเจ็ดโมงเช้าจริงแต่มันก็แค่บังเอิญ” “เช่นนั้นคุณลองดูไพ่ที่เหลือในมือกระผม” “เลขศูนย์ถึง...เลขยี่สิบสาม...ยัง...ผมยังไม่เชื่อหรอก!!!” “งั้นคุณเลือกใหม่” “ได้” ...ผมส่งไพ่หมายเลขเจ็ดคืนจากนั้นเขาก็กางไพ่ทั้งยี่สิบสี่ใบให้ดูเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีลูกเล่นอะไร... “คุณจะจับได้เลขเจ็ดอีกครั้ง...อย่างแน่นอน” “มั่นใจ?” “ขอรับ...เพราะนั่น...คือชะตาชีวิตของคุณ” ...ชายคนนี้ใช้มือซ้ายและขวาสับไพ่ทั้งหมดอย่างคล่องแคล่วซึ่งผมก็พยายามดูที่มือของเขาเป็นจุดเดียวแต่มันเร็วซะจนมองตามไม่ทันเลย!?...ฮึ!!...ท่าทางมั่นอกมั่นใจมากทีเดียวนะว่าผมจะเลือกได้ไพ่หมายเลขเจ็ดเป็นครั้งที่สอง... “เชิญขอรับ” “...จะเลือกล่ะนะ” “..................................................” “นี่” “..................................................” “ว่าไง?” “กระผม...หาได้กล่าวผิดแต่อย่างใดไม่” “เฮ้ยเอามาดูซิ!!!...มันเกิดอะไรขึ้นไพ่มีตั้งเยอะแยะแต่จับได้อยู่ใบเดียว?” “กระผมก็บอกแล้วว่านี่คือชะตาชีวิตของคุณ” “ขออีกครั้งๆ” “หากจับได้หมายเลขเจ็ดอีกล่ะขอรับ?” “มันจะไม่มีครั้งที่สามหรอก!!” “..............................................” (เร็วจริงวุ้ย!!!...ตกลงเจ้านี่มันเป็นหมอดูหรือเซียนไพ่กันแน่?) “สิบสองใบในมือซ้ายแลสิบสองใบในมือขวา...เชิญขอรับ” “คราว...คราวนี้แหละ!!!” ...ผมใช้วิธีเล็งว่าจะเลือกแต่เปลี่ยนใจไปหยิบอีกใบทันทีและทีนี้ผลมันจะต้องออกมาแตกต่างจากสองครั้งแรกแน่... “ว่าไงล่ะครับ?” “...............................................” “บะ...บ้าน่า!!!!” “สามครั้งผลลัพธ์เหมือนกันทั้งหมด” “ผมจะต้องเป็นคนโง่ใช่มั้ยถ้ายังดื้อไม่ยอมรับอีก?” “มิได้...นั่นคือความคิดของตัวคุณเองแลกระผมก็มิได้บังคับให้เชื่อ” “หาก...ใครไม่เจอกับตัวเองไม่มีทางรู้จริงๆแต่เมื่อครู่คุณพูดออกมาว่าผมมีเรื่องกลุ้มใจที่สาเหตุเกิดจากญาติพี่น้อง” “ขอรับ” “ผม...กำลังกลุ้มใจจริงๆ” “เช่นนั้นกระผมก็อาจช่วยเหลืออะไรได้บ้าง...กระผมรับปรึกษาปัญหาต่างๆและช่วยชี้แนะแนวทางตามสมควรทว่าก็มิได้โน้มน้าวให้ผู้ใดมาเชื่อถือดอก...หากคุณสนใจใคร่รู้ก็ขอเชิญติดต่อมาตามที่เขียนไว้ให้แลกระผมจะแจ้งสถานที่กับนัดหมายวันเวลาอีกครั้ง” (นามบัตร?...ไม่ใช่...แค่กระดาษจดเบอร์มือถือเท่านั้นแต่ชื่อที่อยู่ไม่มี) “แล้วคุณชื่ออะไร?” “...ตะวันอัสดง...สำนักหมอดูประจิมลิขิตขอรับ” “..............................................” “ถือเป็นกรณีพิเศษ...ช่วงนี้ระวังตัวไว้บ้างก็จะดีนะขอรับ” “?” “มันน่ากลัวขอรับ...เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผีน่ะ” “สาวสวย...น่ากลัวกว่าผี?...เอ่อ--...ผมไม่เข้าใจความหมายเลย” “ยิ่งเฉพาะยามวิกาล...เรียกว่าต้องลุ้นระทึกกันกลางดึกเชียว” ...ลุ้นระทึกกลางดึก...เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผี...พวกหมอดูหมอเดาชอบพูดคลุมเครืออย่างนี้กันทุกคนหรือเปล่า?... ........................................................................................................................................... ...กลางดึกคืนนั้น... “หลับไม่เต็มตาโว้ยให้ตายซี่!!...หมอดูคนนั้นถึงจะแปลกๆแต่ก็ทำนายเวลาเกิดของเราได้แม่นยำทั้งที่ไม่เคยบอกด้วยไพ่...ไม่...เรียกว่ากระดาษแข็งทำเองถึงจะถูก” (สับไพ่เร็วขนาดนั้นสงสัยเคยเป็นเจ้ามือที่บ่อนไหนสักแห่ง!?...ต้องใช่แหงๆ) “..............................................” “เอ้ย!?...ยัยผีแอบเข้ามานอนกับเราอีกแล้ว?” “งั่มๆ” “วา--...ท่าทางจะละเมออยู่เสียด้วย” “..............................................” “แต่ไม่เข้าใจสักทีว่าทำไมฝนเวลามานอนที่ห้องเราจะต้องสวมผ้าคาดตา?...จะว่าเป็นคนหลับยากก็ไม่ใช่” “อือออออออออ~~” “หึ!!...เมื่อก่อนหน้าตามอมแมมผิวดำกร้านหัวหูก็ดูแทบไม่ได้แต่พอโตเป็นสาว...ฉิบ...ฉิบหา-แล้ว!!!!” “..............................................” ...จะอะไรซะอีกเล่าก็ช่วงที่คุณเธอขยับขานั้นกางเกงนอนมันหลุดร่นลงมาได้ไงไม่รู้!?...ในความมืดที่ยังพอมีแสงสลัวๆนี้ผมแลเห็นกลุ่มเส้นผมตรงนั้นเพราะญาติสาวผู้น้องไม่ได้สวมใส่กางเกงชั้นใน... “ถะ...ถ้าสว่างกว่านี้สักหน่อยแม่งก็เห็นหมดเลยนะโว้ย!!!” “อื๊ออออออออออ” “ยัยขี้เซาตื่น!!” “คิกๆ...ฮื่ออออออออออ” “ยังจะละเมอหัวเราะแน่ะ!?” “จั๊บๆๆ” ...พยายามแตะตัวอยู่นานเพื่อจะให้ตื่นแต่สาวน้อยก็หลับสนิท(กัดฟันอีกต่างหาก)อย่างไม่รู้สึกรู้สาเลยต้องคว้าผ้าห่มมาปิด...ไม่...ไม่ได้!!...ผมเป็นหนุ่มสุขภาพดีคิดเรื่องลามกทุกวันนะฉะนั้นจะอยู่ใกล้เชื้อไฟคงไม่ใช่เรื่อง...ออกไปเดินเล่นสงบสติอารมณ์น่าจะดีแม้ยังรู้สึกหวาดๆ(ผี)อยู่บ้างก็เถอะ... (แต่ขืนอยู่ในห้องต่อไปยังไงมันก็อดจะเหลือบมองไม่ได้และมีแนวโน้มที่จะก่อคดีเพราะหน้ามืด) “สบายๆนี่บ้านเราเอง...เอ๊ะพี่แคท?” “................................................” “ดึกดื่นป่านนี้ยังมีแก่ใจมานั่งดูทีวีอีกแน่ะ...ไฟก็ไม่เปิดด้วย...อุ๊บ!” (คุณเธอกำลังดูหนังผีญี่ปุ่นที่ฝนซื้อมาจากตลาดนัดเมื่อช่วงเย็น...สองพี่น้องนี่ยังไงชอบดูหนังสยองขวัญทั้งคู่เลย?) “พี่ช่างเป็นคนจิตแข็งเหลือเกิน” “...อย่าไปกลัวมันนักเลย” “!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” “................................................” (หัวใจแทบจะหยุดเต้น...ไม่...มันคงหยุดไปวินึงแล้วล่ะ) “ฮั่กๆ...ผะ...ผม...ผมเข้าใจความหมายละ!!...อูย~~...ตกใจหมด!!!!” “เข้าใจอะไร?” “เมื่อ...สาวสวยน่ากลัวกว่าผีไงครับ” “เสียมารยาทที่สุด!!!...พี่ทาครีมบำรุงหน้าอยู่ต่างหาก” ...ประโยคที่หมอดูเอ่ยไว้เมื่อตอนเย็นคงจะหมายถึงพี่แคทที่เวลานี้พอกหน้าด้วยครีมบำรุงซะขาววอกไปหมดและดวงตาสองข้างของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยแต่ยังไม่เข้มขลังเท่ากับครั้งอาละวาดที่หอพักเก่า... “งั้นลูกกะตานั่นมันอะไร?...เข้าโหมดสุริยะโลหิตอีกแล้วเหรอ?” “ไม่ใช่...หลับสนิทและตื่นนอนใหม่ๆมันก็แดงแบบนี้แหละ...ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หาย...อ้อ!...ไม่เคยสงสัยบ้างรึว่าฝนใช้ผ้าคาดตาทำไม?” (แสดงว่ายัยจอมแก่นไม่อยากให้เราเห็นดวงตาที่แดงโร่เพราะกลัวเราจะตกใจ!?) “ตื่นนอนกลางดึกมาดูหนังสยองขวัญ...ผมเพิ่งจะเคยเห็นก็คราวนี้” “ยกมือไหว้ซะ...สำหรับคนลามกอย่างเธอต้องหนังโป๊ล่ะมั้งถึงจะปกติ?” ...ไม่จริง!!!...ถ้าผมลามกบ้ากามอย่างว่าป่านนี้น้องสาวสุดที่รักของพี่เสียความบริสุทธิ์ให้ผมไปนานแล้ว... ........................................................................................................................................... ...ส่วนอีกด้านหนึ่ง...เมื่อแน่ใจว่านายบอลออกจากห้องไปแล้วสาวเจ้าหยาดฝนก็ดึงผ้าคาดตาออกพลางพูดกับตัวเอง... “แหม~~...ใจไม่กล้าเอาซะเลยนึกว่าคืนนี้จะมีอะไรดีๆเสียอีกแต่ช่างเหอะ...ฮิๆ...อยากรู้นักว่าจะใจแข็งไปได้ถึงไหน?” ........................................................................................................................................... ...ตัวอย่างในตอนหน้า... “เธอไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน?” “จะพูดว่าบังเอิญหรือโชคชะตานำพาก็ได้จ้า!!” “นั่นคือความสัมพันธ์ต้องห้ามนะ” ...................................................... “นี่ตกลงพี่แคทไปทำอะไรมากันแน่?...แล้วจะให้ผมขับไปถึงไหน?” “...น่าจะอยู่แถวๆนี้...นั่นไง!!...เลี้ยวเข้าไปเลย” “เอ๊ะนี่มัน?...โรงแรมม่านรูด!!!!” ..................................................... “แกจะมาเป็นคนดีเอาป่านนี้ฉันว่ามันสายไปซะแล้วมั้ง?...ไอ้สุภาพบุรุษจอมปลอม” “ถ้าผมเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม...งั้นพี่ก็คือสุภาพสตรีขี้เหล้าที่ไม่มีคุณสมบัติจะไปเป็นเมียที่ดีกับแม่ที่ดี” “โอ้!?...ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครบังอาจจะสบประมาทฉันได้ถึงขนาดนี้...แกกล้ามาก!!!” ............................................................................................................................................ ...ทีนี้เชื่อกันหรือยังว่าบางครั้งสาวงามก็น่ากลัวกว่าภูติผีหลายเท่านะ?... ..............................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น