AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 30

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 30
โดย saradio

ผมกับม้าเท้งในตอนที่ออกมาเห็นเหตุการณ์นั้น ทันได้เห็นตูตู้หลุนปะมือกับม้าเฉียวพอดี แต่ยังไม่ทันตะโกนห้าม ทั้งคู่ก็แยกจากกัน ม้าเท้งจึงตะโกนถามเสียงดัง ตวาดไปก่อน ทั้งที่ตัวยังไม่ถึง ว่า "มันเกิดเรื่องราวใด ไฉนจึงเกิดการวิวาทขึ้น" เสียงของมันทำเอาผู้คนสะดุดหยุดอยู่กับที่ หันมามองทางทิศทางที่ม้าเท้งกับผมกำลังเดินมา ภรรยาของผมทั้งสามเมื่อเห็นผมเดินมาพร้อมกับม้าเท้ง ก็ดีใจร้องเรียก ท่านพี่แทบเป็นเสียงเดียว ตั้งไป่ระงับความดีใจไม่อยู่ รีบวิ่งมาหาผมแล้วเกาะดึงแขน ชี้นิ้วมือหนึ่งไปยังฮูหยินรองอย่างเครียดแค้น รีบฟ้องว่า "กาเซี่ยง นางมารร้ายนี่กรีดกันไม่ให้เราเข้าไป อ้างว่าเจ้ารับนางเป็นภรรยาแล้ว เจ้าจะตั้งให้นางเป็นฮูหยินใหญ่ และยังบอกอีกว่าเจ้าไม่ต้องการพวกเราแล้ว เลยจะขับไล่เราไปไม่ให้เจอเจ้า เหอะ เรื่องตลกเช่นนี้ จะมีผู้ใดยินยอมเชื่อ นางหากไม่เพ้อฝัน ก็ละเมอกลางวัน เมื่อเจ้าออกมาก็ดี จะได้พูดให้นางรู้สึกตัวตื่นเสียที จะได้หยุดละเมอเพ้อฝันกลางวัน" ตั๋งไป่ ฟ้องใส่เป็นชุด สีหน้าเยาะหยันฮูหยินรองถึงที่สุด มั่นใจเชื่อว่า สิ่งที่ฮูหยินรองกล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ฮูหยินรองไหนเลยยอมแพ้

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 29

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 29
โดย saradio

เมื่อได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้ากันหมดแล้ว ก็ถึงคราวลงสระบ่อน้ำร้อน ยามปกติผมก็อาบน้ำร่วมกับภรรยาทั้งสามของผมอยู่แล้ว จึงมิได้รู้สึกประหม่าแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่ากลิ่นใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ย่อมสร้างความตื่นเต้นทางเพศให้ตื่นตัวโดยมิอาจข่มกลั่น หน้าแม้มิแสดงออก แต่ควยกลับตั้งชูชันจนหัวถอก สองสาวใช้เมื่อเห็นเช่นนั้น ก็มิอาจข่มกลั้นความเอียงอายได้ โดยเฉพาะเสี่ยวจู นางดูมีความตื่นเต้นจนเห็นได้ และแอบลอบชำเลืองมองมังกรน้อยตัวเขื่องของผมบ่อยครั้ง บางครั้งก็หน้าแดงแอบเผยรอยยิ้มครุ่นคิดกรุ่มกริ่ม ดูท่านางคงครุ่นคิดไปไกล จนสามารถเห็นภาพขึ้นในหัว ว่าถูกมังกรน้อยตัวนี้ รุกล้ำถ้ำสวาทของนางอย่างไรบ้าง ส่วนเสี่ยวถิงนั้น แตกต่างออกไป ถึงแม้มีความรู้สึกนึกคิดคล้ายกันกับเสี่ยวจู มีความเอียงอายจนหน้าแดงออกมาให้เห็น แต่สีหน้านางก็ยังราบเรียบและดูมีกังวลอยู่ คงยังกลัวเรื่องที่นางแอบส่งข่าวช่วยเหลืองิวอี้หลางถูก

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 28

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 28
โดย saradio

ค่ำคืนนั้นผมนอนหลับไม่สนิทนัก เพราะในหัวคิดกังวลถึงเรื่องจะหาทางซ้อนแผนม้าเท้ง อย่างไรดี พลันนึกคิดคาดเดาแผนการของมันที่น่าจะเป็น มันคงใช้ให้ฮูหยินรองมาทำให้ผมหลงใหล จากนั้นก็จะให้ฮูหยินรองเกลี่ยกล่อมโน้มน้าวผมให้เข้าด้วยกับมัน แล้วคงจะให้ผมกลับไปเป็นไส้ศึกที่เมืองเตียนอันช่วยเหลือมันกำจัดลิฉุยกับกุยกี และนำพามันเข้าไปเป็นใหญ่ในเมืองหลวง ส่วนฮูหยินรองที่มันให้มาเป็นเมียผมนั่น ก็น่าจะเพื่อให้นางสอดส่องดูพฤติกรรมของผม ว่าจะไม่ทรยศหักหลังมัน หลังจากที่ตกลงเข้าร่วมกับมันแล้ว นับว่าแผนการมันร้ายไม่เบา แต่ผมก็ไม่โง่นะ เมื่อมันใช้ฮูหยินรองมาเป็นนกต่อ ผมก็จะใช้นางเป็นนกต่อกลับไป ไอ้เรื่องแผนฟันแล้วทิ้งคงต้องยกเลิกไปก่อน เมื่อม้าเท้งมันต้องการให้ฮูหยินรองมาเป็นเมียผม ผมก็จะให้เป็น เมื่อมันต้องการเกลี่ยกล่อมผมให้เข้าพวก ผมก็จะเข้า แต่ตอนจบจะดูสิว่า ใครจะเป็นกบที่โดนหลอกต้มจนสุก พลันกำหนดแผนขึ้นมาในใจได้ ก่อนจะข่มตานอนหลับลงไปได้ รุ่งเช้า ผมตื่นนอนในตอน

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 27

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 27
โดย saradio

พ่อบ้านนำพาผมไปพบฮูหยินรองที่ห้องรับรองห้องหนึ่ง ที่หน้าห้องมีสาวรับใช้ยืนเฝ้าประตูอยู่สองคน เมื่อพ่อบ้านพาผมมาถึงก็ส่งต่อผมให้สาวรับใช้เป็นผู้นำพาเข้าไปพบฮูหยินรองในห้อง ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ก็เห็นบรรยากาศในห้อง จุดเทียนตั้งโต๊ะหลายเล่มในแต่ละมุม ให้แสงสว่างสลัวมีบรรยากาศโรแมนติก จากนั้นก็ได้ยินเสียงพิณ พร้อมเสียงร้องสดใสของฮูหยินรอง ร้องมาเป็นเพลงไพเราะ คล้ายกับเป็นการตั้งใจ ใช้เสียงเพลงต้อนรับผม ในตอนนั้นผมยังไม่เห็นฮูหยินรอง ได้ยินแต่เสียงพิณเสียงร้องเพลงของนาง เพราะนางนั่งเล่นพิณร้องเพลงอยู่หลังม่าน ผมแปลกใจไม่รู้ว่าฮูหยินรองจะมาไม้ไหน แต่ก็ยังเดินตามสาวรับใช้ ที่นำพาผมไปนั่งที่เบาะรองนั่งหน้าโต๊ะตั่งที่จัดวางอาหารสุราไว้พรักพร้อม จากนั้นสาวใช้ทั้งสองก็พากันออกจากห้องและปิดประตูให้ผมอยู่กับฮูหยินรองกันเพียงตามลำพัง ยามนั้นผมต้องกรอกตามองรอบห้องโดยรอบ สังเกตว่านี่น่าจะเป็นห้องนอนของนาง และหลังม่านนั่นคงจะเป็นส่วนที่เป็นเตียง เลยต้องคิดไป

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 26

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 26
โดย saradio

เมื่อผมตกลงจะพักที่บ้านตระกูลงิวแล้ว ฮูหยินรองก็สั่งให้บ่าวไพรให้ไปจัดห้องพักรับรองให้ หลังจากนั้นก็ให้บ่าวรับใช้พาพวกผมไปพักผ่อน ระหว่างที่เดินไปยังห้องพักรับรองนั้น ผมสังเกตบ่าวไพร ที่เห็นเดินผ่านตา รู้สึกว่าไม่มีใครที่ผมรู้จักเลยสักคนเดียว แม้แต่ตั๋งไป่เองก็ไม่รู้สึกคุ้นหน้าใคร เหมือนที่นี่ได้เปลี่ยนบ่าวไพร่ใหม่หมดแล้ว คนรับใช้เก่าแก่ของตระกูลงิวนั้นไม่หลงเหลือให้เห็น ยามนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำถึงไม่มีใครรู้จักตั๋งไป่ ทั้งที่นางก็เป็นญาติกับเจ้าของบ้าน พอพวกผมได้เข้ามาในห้องรับรอง พวกบ่าวที่มาส่ง ก็บอกว่า "คุณชายกา ฮูหยินรองให้พวกเราคอยรับใช้ พวกเราจะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ หากท่านต้องการเรียกใช้ก็สามารถเรียกหาได้" แล้วพวกมันก็ปิดประตู พากันหายไป ตอนนั้นผมยังไม่แน่ใจ ว่า เกิดอะไรขึ้นกับงิวอี้หลาง นางป่วยจริงหรือไม่ ยังไม่รู้ได้ และทำไมฮูหยินรองถึงไม่ยอมให้พบ นับเป็นเรื่องมีพิรุธน่าสงสัย จึงพูดคุยปรึกษากับเหล่าภรรยาดู ว่าใครมีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร อาเจินคิดแล้วจึงพูดว่า "นี่คงมิใช่ว่า คุณหนูงิวไม่คิดจะแต่งงาน พวกนั้นเลยปิดกั้นนางไม่ให้พบเจอใคร เพราะ

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 25

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 25
โดย saradio

หลังจากผ่านศึกหนักจนอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ผมพอตื่นมาก็ไม่เห็นสามสาวอยู่บนที่นอน พอลุกขึ้นจะสวมเสื้อผ้า แข้งขาพลันอ่อนแรงแทบจะทรงตัวไม่ไหว ก้าวเดินแทบไม่ออก ต้องค่อยๆ เกาะผนังกำแพงห้อง เดินคืบตัวไปอย่างยากลำบาก เมื่อออกจากห้องได้ก็เรียกหาสาวๆ แต่มีเพียงอาเจินคนเดียวที่ขานรับ เพราะตอนนั้นตูตู้หลุนพาตั๋งไป่ไปเที่ยวชมหมู่บ้าน จึงเหลือผมกับอาเจินอยู่บ้านกันสองคน อาเจินพอเห็นสภาพผม นางก็หัวเราะพูดว่า "นี่ถึงกลับเดินไม่ไหวเชียวรึ" ผมยิ้มแห้งๆตอบอย่างยอมรับสภาพ ต้องกวักมือเรียนนางมาช่วยพยุงไปนั่งเก้าอี้ อาเจินจึงเข้ามาให้ผมกอดไหล่ แล้วพาไปนั่ง จากนั้นก็ให้ผมรออยู่นี่ จะไปต้มยาบำรุงกำลังมาให้ดื่ม ผมตอนนี้จะไปไหนได้ ก็ต้องนั่งรอตามที่นางบอก สักพักอาเจินก็ยกยามาให้ แต่ในมือกลับถือตำราติดมือมาด้วยอีกเล่มหนึ่ง เมื่อให้ผมดื่มยาแล้ว นางก็ยื่นส่งตำราให้ ผมมองอย่างสงสัย หยิบตำรามาเปิดดู ถามว่า "มันคืออะไรรึ" อาเจินยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วพูดว่า "ตำรา เสริมสุขภาพ ตระกูลกา" ผมฟังแล้วยิ่งงงหนักขึ้นไปอีก ถามว่า "แล้วเจ้าเอามาให้ข้าเพื่ออะไร" "ก็เพื่อท่านจะได้มีกำลัง

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 24

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 24
โดย saradio

ระยะทางจากเตียนอันไปเมืองซีหลงค่อนข้างไกลพอดู อีกทั้งเส้นทางก็กันดาร ผมต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะไปถึง เมื่อเข้าเขตเมืองซีหลงแล้ว ก็มุ่งตรงไปยังหมู่บ้านของผม หนทางยิ่งใกล้เท่าไหร่ หัวใจก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับมาบ้านเดิมอีกครั้ง ในที่สุดก็เห็นหมู่บ้านอยู่ตรงหน้า พวกเราก็เร่งควบม้าวิ่งไปอย่างเบิกบานใจ โดยเฉพาะลูกศิษย์สี่คนของตูตู้หลุน พวกมันเร่งม้าขึ้นหน้าควบไปส่งเสียงหัวเราะร่า เพราะดีใจที่ได้กลับบ้าน "พวกเรากลับมาแล้ว พวกเรากลับมาแล้ว ท่านกาเซี่ยงกลับมาแล้ว" ลูกศิษย์ทั้งสี่คนของตูตู้หลุน ตะโกนบอกไปตลอดเมื่อถึงเขตหมู่บ้าน ทำให้คนที่ได้ยินเสียงต่างออกมาดู ทุกคนพอเห็นก็ดีใจส่งเสียงโห่ร้องต้อนรับ แล้วก็มีคนรีบวิ่งไปบอกอาเจิน อาเจินนั่นพอรู้ก็รีบออกมาจากบ้าน ตอนนั้นพวกผมก็มาถึงหน้าบ้านพอดี ทันทีที่ได้เจอกัน พวกเรานั้นไม่มีคำพูดจะกล่าว ผมรีบลงจากหลังม้าและเข้าไปกอดนางในทันที่ นับว่า

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 23 (ตอนนี้ขอเช็คเรทติ้งหน่อยนะครับ)

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 23 (ตอนนี้ขอเช็คเรทติ้งหน่อยนะครับ)
โดย saradio

ตั๋งไป่นั้นหลังจากตกเป็นเมียผมแล้ว ก็ค่อยดูน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นมามาก ตอนนี้นางไม่กล้ายโสอวดเบ่งอำนาจเหมือนแต่ก่อน เพราะรู้ซึ้งแล้วว่าอำนาจบารมีที่นางเคยมีนั้น มันได้อันตรธานหายไปสิ้นพร้อมกับตั๋งโต๊ะ จนไม่มีผู้ใดเกรงกลัวตำแหน่งท่านหญิงของนางอีกต่อไป แถมนางยังถูกหวนเตียวข่มขู่อย่างใช้อำนาจกดหัว ทำให้นางได้ตระหนักรู้รสชาติถึงการถูกกดขี่ข่มเหงว่ารู้สึกเยี่ยงไร จึงทำให้นางพอได้สำนึกในสิ่งที่ตนเองเคยทำ จึงเริ่มจะปรับเปลี่ยนนิสัยบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม นิสัยไม่ใช่จะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ บางครั้งนางก็มีเผลอมีแผงฤทธิ์บ้าง เพียงไม่กี่วัน นางลงมือกับบ่าวรับใช้สองคน เนื่องจากไม่พอใจ ที่พวกนางใช้ไม่ได้ดังใจ ทำให้นางโมโหลงมือกับบ่าวรับใช้สองคน ผมเมื่อกลับมาจากงานราชการที่วังหลวง พอรู้เข้าก็โมโห จึงทำโทษนาง โดยทำเป็นเครียดขึงและเย็นชาต่อนาง พอตกกลางคืนก็มิชวนนางเริงรักด้วย ผมจึงสนุกสุขสรรกับตูตู้หลุนเพียงสองคน โดยมีตั๋งไป่นอนร่ำไห้สะอึกอื้นข้างๆ ตูตู้หลุนรู้สึกลำบากใจและเห็นใจตั๋งไป่อยู่ไม่น้อย พยายามจะพูดแก้ต่างให้แทน แต่ผมไหนเลยรับฟัง จึงพูดกับตูตู้หลุนว่า "หลุนเอ๋อ หากเจ้าคิดพูดออกหน้าแทนให้นาง ข้าก็ไม่สนใจเจ้าเช่นกัน" ตูตู้หลุนจึงไม่กล้ากล่าวอันใดอีก ผมจึง

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 22

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 22
โดย saradio

เมื่อผมเกลี้ยกล่อมตูตู้หลุนได้แล้ว มันก็เหลือที่ว่า จะทำยังไงให้ตั๋งไป่สยบยอม ให้เลิกถือตัวอวดดีในศักดิ์ศรีท่านหญิง เพราะถึงแม้นางจะชอบผม แต่การจะให้นางมาเป็นอนุ นางคงไม่ยอมแน่ๆ ดังนั้นเห็นทีหาคนช่วย พอวันรุ่งขึ้น ผมจึงหาโอกาสไปหาหวนเตียว เพื่อขอเข้าพบ หวนเตียวพอรู้ว่าผมมาหา ก็แปลกใจ รีบให้คนเชิญเข้ามา เมื่อเจอคาราวะทักทายกันแล้ว หวนเตียวก็พูดว่า "ท่านกาเซี่ยง มาหาข้าแต่เช้า มีเรื่องอะไรยังงั้นรึ" ผมพูดอย่างเกรงอกเกรงใจว่า "ข้าพเจ้า มีเรื่องลำบากใจ จึงอยากจะขอร้องให้ท่านขุนพลหวน ช่วยเหลือสักเล็กน้อย" หวนเตียวพอฟังก็หัวเราะ อย่างยินดีช่วยเหลือ พูดว่า "ท่านกาเซี่ยงไม่ต้องเกรงอกเกรงใจ ท่านมีเรื่องอะไร ก็บอกกล่าวได้เลย ข้ายินดีช่วยเหลือท่านเต็มที่" ผมจึงเข้าไปใกล้ แล้วชวนกระซิบบอกสิ่งที่ต้องการให้ช่วย หวนเตียวยิ่งฟังยิ่งฉงน ขมวดหัวคิ้วแทบจะชนกัน แล้วก็อดไม่ได้ถามว่า "ท่านไฉนทำเรื่องให้ยุ่งยากปานนี้ หากเป็นข้าพเจ้า ก็ใช้กำลังเผด็จศึกไปแล้ว คงไม่คิดแผนทำอะไรวุ่นวายเหมือนกับท่าน" ผมจึงถอนหายใจพูดว่า "ที่แรกข้าพเจ้าก็คิดเช่นท่าน แต่นั้นไม่

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 21

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 21
โดย saradio

อ่องอุ้นเมื่อหนีเข้าไปในตำหนักพระเจ้าเหี้ยนเต้ ลิฉุย กุยกี หวนเตียวและเตียวเจ ก็ไม่กล้านำทหารบุกเข้าไป ได้แต่ล้อมไว้ เนินนานยังทำอะไรไม่ได้ กุยกีจึงนึกรำคาญใจ พูดกับลิฉุยว่า "เราทำการมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าอย่างไรเสีย ก็บุกเข้าตำหนัก จับทั้งอ่องอุ้นและพระเจ้าเหี้ยนเต้ฆ่าเสีย แล้วตั้งตัวเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้เถอะ" ผมได้ยินจึงรีบห้ามว่า "นั้นทำไม่ได้ พวกท่านไม่เห็นตัวอย่างเมื่อครั้งตั๋งโต๊ะปลดฮ่องเต้หองจูเปียนหรอกรึ หากพวกเรากระการทำร้ายฮ่องเต้ พวกหัวเมืองอื่นๆ ก็จะใช้เป็นข้ออ้างบุกโจมตีเรา" ลิฉุยคิดตามและเห็นด้วย แต่ยังไงใจก็รุ่มร้อน ที่ยังจัดการอ่องอุ้นไม่ได้ จึงถามว่า "แล้วนี่เราจะทำอย่างไร บุกก็ไม่ได้ หรือว่าต้องล้อมอยู่อย่างนี้" ผมจึงพูดว่า "ก็ต้องอดทนรอ ข้าพเจ้าคิดว่า จะอย่างไร อ่องอุ้นและขุนนางข้าราชบริพารพระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็ทนแรงกดดันนี้ไม่ได้" แล้วก็จริงดังคาด ไม่นานพวกขันทีและข้าราชบริพาร ก็พาอ่องอุ้นกับพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกมาบนยอดหอพระตำหนัก ลิฉุย กุยกี และพวกเมื่อเห็นดังนั้น ก็กราบถวายบังคม พระเจ้าเหี้ยนเต้ในวัย 12 พรรษาก็ตรัสถามว่า "อันพวกท่าน ยกทหารมาล้อมตำหนักเราไว้เยี่ยงนี้ คิดประสงค์ร้ายกับเราหรือ" ลิฉุยจึงรีบพูดว่า "หามิได้ ข้าพระเจ้าไหนเลยกล้าคิดคดเป็นขบถ เพียงแต่อ่องอุ้นกับลิโป้ สมคบคิดกันสังหารท่านมหาอุปราชตั๋งโต๊ะ ข้าพเจ้าเห็นว่า ท่านมหาอุปราชตั๋งโต๊ะช่วยทำนุบำรุงแผ่นดิน กลับถูกลอบสังหารให้ตายเยี่ยงนี้เป็นเรื่องอ