AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ตำนานนักรัก ตอนที่ 85

ตำนานนักรัก ตอนที่ 85

น้าเทพ..น้าเทพครับ...." ผมเดินตรไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงของไอ้ทัดเทพ แล้วกลั้นใจเรียกชื่อมันเบาๆสองสามครั้ง มันก็ยังไม่ลืมตาตื่น จึงยก มือขึ้นไปตบแก้มมันเบาๆเพื่อเรียกสติ โดยมีสิบเวรยืนเมียงมองอยู่ที่หน้าประตู สักครู่ไอ้ทัดเทพจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา จ้องมองหน้าผมด้วยความมึนงง "น้าจำผมได้หรือยังครับ ผมทองดีคนดูแลลุงเสงี่ยม อดีตพ่อตาของน้ายังไงล่ะครับ.." ดูเหมือนคราวนี้ไอ้ทัดเทพมันจะรู้แล้วว่าลุงเสงี่ยมคนที่ผมพูดถึงนั้นเป็นใคร มันจึงเบิกตาพองขึ้นเล็กน้อย พร้อมทำปาก ขมุบขมิบพูดออกมา แต่แทบไม่ได้ยินเสียง จนผมต้องก้มหูลงไปใกล้ๆ จึงได้ยินว่ามันขอน้ำดื่ม ผมจึงเดินไปรินน้ำจากขวด ใส่แก้ว แล้วถือมาแต่ไม่ได้เอามาให้ไอ้ทัดเทพดื่ม ผมกลับยืนถือแก้วไว้เฉยๆแล้วกระซิบต่อ "น้ารู้มั๊ยว่า นอกจากผมจะเป็นคนดูแลลุงเสงี่ยมแล้ว ยังเป็นผัวของคุณดาด้วย...คุณดาอดีตเมียของ
น้าไงครับ.." น้ำเสียงที่ผมพูดออกมานั้นราบเรียบก็จริง เพราะยังเห็นว่าสิบเวรคนนั้นยังยืนอยุ่ในห้อง แต่ดวงตาและสีหน้าที่ผมมองไอ้ ทัดเทพนั้น ถึงกับทำให้มันแตกตื่นเบิกตาพอง ด้วยความหวาดกลัว "ที่สำคัญกว่านั้น..ทั้งมะลิและคุณเจน คนที่น้าเคยอยากได้เป็นเมียน่ะ..บัดนี้เป็นเมียของผมหมดแล้ว..." ผมพูดเสียงเรียบๆก็จริง แต่ยิ้มเยาะมันไปด้วยพร้อมๆกับพูด ไอ้ทัดเทพถึงกับแสดงอารมณ์โกรธออกมาทางสีหน้าไป วูบหนึ่ง แต่แล้วหน้ามันก็กลับมาขาวซีดอีกครั้ง เมื่อแน่ใจว่าบัดนี้มันทำอะไรผมไม่ได้เลย แล้วสักครู่ผมก็เหลือบหางตา ไปมองเห็นสิบเวรคนนั้นเปิดประตูห้องพักไอ้ทัดเทพออกไป คงแน่ใจแล้วว่าผมไม่ได้มาช่วยผู้ต้องหา หรือมาทำร้าย แต่อย่างใด "มึงรู้มั๊ยว่า สิ่งที่มึงทำกับเมียกูน่ะ มันมีผลอะไรบ้าง..ลูกมึงยังไงล่ะ ลูกมึงที่อยุ่ในท้องคุณดาตายแล้ว แต่ก็ดีเหมือนกัน ถ้า เธอเกิดมาแล้วรู้ว่ามีพ่อชั่วๆแบบมึง เธอคงอยากกลั้นใจตายตั้งแต่อยู่ในท้องคุณดาไปแล้วละ..." "มึงมาบอกกูทำไม..." ไอ้ทัดเทพมันส่งเสียงแหบๆพูดออกมาอย่างแผ่วเบาจนผมต้องเอียงหูลงไปฟัง "เปล่า...ความจริงกูไม่อยากมาบอกมึงหรอกเรื่องนี้...แต่จะมาบอกมึงอีกเรื่องหนึ่งว่า..ที่มึงต้องโดนจับ ถูกยิงจนแทบตายนี่ ก็เพราะกู ถ้าอยากมาแก้แค้น มาแก้แค้นกับกูได้เลย เท่านั้นละ..ว่ะ ไอ้ทัดเทพ....ฮ่าๆๆๆ..." ผมพูดจบก็หัวเราะเสียงเย้ยหยันดังๆ จนสิบเวรต้องเปิดประตูเข้ามามอง เห็นไอ้ทัดเทพทำเสียงอึกอักดิ้นส่ายหัวไปมา ด้วยความแค้นเคือง โดยมีผมหัวเราะเสียงหยันๆอยู่เฉยๆ ไม่ได้แตะต้องทำอะไรมัน จึงได้แต่ร้องปรามผมเบาๆว่า "หมดเวลาเยี่ยมแล้วครับคุณ..อย่ารบกวนผู้ต้องหา" "ขอบคุณครับ..ผมก็จะไปแล้วเหมือนกัน..." ผมหันไปร้องบอกนายสิบเวร แต่ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกมาจากเตียง "ผมไปก่อนนะน้าทัดเทพ..อย่าลืมเรื่องที่ผมบอกล่ะ..ลาละครับ..." แม้จะเป็นการเสี่ยงที่ไปพูดกำกวมแบบนั้น กับไอ้ทัดเทพ ผู้ต้องหาคดีค้ายา ต่อหน้านายสิบเวร แต่ผมก็ไม่กลัว เพราะ ประวัติผมขาวสะอาดไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลยแม้สักนิดจึงไม่ต้องเกรงกลัว เมื่อทำไปแล้ว ผมก็รุ้สึกสะใจอยู่เล็กๆ เพราะผมถูกห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวแก้แค้นไอ้ทัดเทพจากพ่อตา สิ่งเดียวที่จะทำได้ ก็คือกลับไปเยาะเย้ยให้มันรุ้สึกตัวว่ามัน ได้ทำอะไรไปบ้างเท่านั้นเอง หลังจากนั้นผมก็ขับรถกลับมาที่บ้านในตอนเย็น เห็นมีรถแปลกตาจอดเรียงรายอยุ่ภายในบ้านอีกหลายคัน พร้อมกับมีการ จัดตั้งโต๊ะจีนอยุ่บนสนามข้างบ้านแต่เนื่องจากยังไม่มืดเท่าใดนักจึงยังไม่เห็นว่าจัดเพื่อต้อนรับใคร ครั้นพอเปิดประตูเข้า ไปในบ้านจึงได้พบพี่ชิตคุณอร และนายเปี๊ยกกับเพื่อนๆญาติพ่อตาผมอีกสามสี่คนที่ผมไม่เคยเห็นหน้านั่งชุมนุมหัวเราะ เฮอากันอยู่ที่โต๊ะรับแขก เบื้องหน้าของแต่ละคนที่แก้วเหล้าที่บางแก้วก็เพิ่งรินเติมใหม่โดยฝีมือของมะลิและสาลี ส่วน พ่อตาผมและคุณวิก็รวมอยู่ในกลุ่มนั้นเช่นกัน "มานั่งด้วยกันเลยครับคุณทองดี..." พี่ชิตเงยหน้าขึ้นมาพอดีกับที่ผมสาวท้าก้าวเข้าไปในห้องรับแขก ก็เลยรีบร้องเชื้อเชิญให้ผมไปนั่งข้างตัวแก แต่ที่จริงแล้ว มันข้างๆเมียแกต่างหาก "จะดื่มอะไรดีคะพี่.." ผมทรุดลงนั่งก้นยังไม่ทันแตะพื้น คุณอรก็รีบร้องถามเสียงใสๆหวานๆ พร้อมส่งสายตาเยิ้มๆมาให้ เล่นเอาผมนั่งกระสับ กระส่ายเกรงว่าพี่ชิตจะเข้าใจผิด "เอ้อ..มะลิ...ผสมเหล้ามาให้ผมแก้วหนึ่งครับ..." ผมเอี้ยวหน้าหันไปร้องบอกมะลิ เธอกุลีกุจอ ชงเหล้ามาเสริฟให้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องบอกส่วนผสมแม้แต่น้อย เมื่อได้ แก้วเหล้าในมือ ผมก็ยกซดอึกๆเหมือนคนกระหายรวดเดียวเกลี้ยงแก้ว ก็ยื่นแก้วเปล่าให้มะลิชงมาใหม่ โดยมีพ่อตาและ บรรดญาติๆของแกมองอย่างงุนงงสงสัย "จะรีบดื่มไปไหนเอ็ง.หึ..ทองดี..เดี๋ยวก็เมาซะก่อนมืดหรอก..." พ่อตาผมพูดเตือนเบาๆ แต่ผมกลับไม่ฟังคำเตือน พอมะลิส่งแก้วที่สองมาให้ ผมก็จัดการดื่มเข้าไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เพราะความรู้สึกกลัดกลุ้มที่มันเหมือนภายในอกมีหนองอักเสบ รอวันให้มันแตกประทุออกมา "ไม่เป็นไรหรอกพ่อ..ดื่มแค่นิดหน่อยเอง..." ผมแก้ตัวเสียงอ่อยๆ พร้อมยื่นแก้วส่งให้มะลิชงมาใหม่ แต่คราวนี้เธอชงเหล้าอย่างอ้อยอิ่งเชื่องช้า จนผมต้องร้องเตือน สร้างความรู้สึกประหลาดใจให้กับวงสนทนา ที่กำลังคุยกันอย่างออกรสถึงแผนการณ์ที่ไปหลอกไอ้ทัดเทพให้มาติดกับ ตำรวจ จนมันและสมุนโดนซิวเข้ากรงขังในข้อหาค้ายาเสพติด ดูเหมือนผมก็สนใจฟังเพียงคร่าวๆแค่นี้ รายละเอียดต่างๆ ผมไม่สนใจอยากรู้ เสียงพูดเสียงคุยมันจึงลอยผ่านหูผมไปโดย มิได้จดจำ รู้แต่ว่าตลอดเวลาที่นั่งร่วมวง มีสายตาอยู่สามคู่ที่จับจ้องมองอย่างสังเกตุ คู่แรกก็สายตาฝ่าฟางของพ่อตาผม ที่มองเขม็งเหมือนต้องการจะรู้ว่าผมอารมณ์เสียเรื่องอะไรมา ทั้งๆที่เมื่อเช้าตอนเข้าไปคุยกับแกยังยิ้มย่องผ่องใส ส่วนสายตาคู่ที่สองเป็นของมะลิ ที่แอบลอบมาด้วยความรักและความเป็นห่วง ที่เห็นผมยังคงดื่มเหล้าเหมือนกับมันเป็น น้ำเปล่า จนแก้วหลังๆที่เธอชงให้ แทบจะไม่มีแอลกอฮอร์ผสมอยู่ในแก้วเหล้าเลย ส่วนสายตาคู่สุดท้ายนั้นกลับเป็นของ คุณอร ที่เธอลอบมองผมบ่อยครั้ง โดยที่ผมก็ไม่เข้าใจความหมายในสายตาคู่นั้นนัก "คุณท่านคะ..ป้าหงุ่นให้มาเรียนว่าอาหารพร้อมแล้วค่ะ..จะให้ยกไปที่โต๊ะสนามหญ้าเลยมั๊ยคะ..." สาลีเดินมาย่อตัวรายงาน เสียงเบาๆกับพ่อตาผม "เอาเลยไอ้ลี่...บอกองุ่นให้ไปจัดไว้ได้เลย เดี๋ยวพวกชั้นก็จะย้ายตามออกไปทานกัน...อ้อ..สาลี่ขึ้นไปเชิญคุณดาลงมาได้ แล้วนะ..." พ่อตาผมร้องบอกสาลี่ด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข มันช่างตรงกันข้ามกับผม ที่ไม่รู้ว่าอกที่กลัดหนองนั้น มันจะ ระเบิดออกมาตอนไหน "ไปแม่วิ..เราไปกันเถอะ..." หลังจากสาลี่หายลับไปตามคุณดาได้ชั่วครู่ พ่อตาผมก็คว้ามือคุณวิขึ้นเกาะกุมแล้วร้องบอก ก่อนจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นจากเก้าอี้ ชุดรับแขกที่แกนั่ง ก่อนคนอื่นๆ แล้วเดินตัวตรงสง่าผ่าเผย ควงแขนว่าที่เมียคนเล็กของแกเดินออกไปจากห้องรับแขกเป็น คู่แรก ท่ามกลางสายตาอิจฉาเล็กๆของเหล่าบรรดาหลานๆของแก ที่เห็นเมียสาวคนใหม่ของผู้เป็นตา จนกระทั่งหลานๆของพ่อตาผมทยอยกันลุกเดินตามออกไปจากห้องรับแขกรวมทั้งพี่ชิตด้วย แต่คุณอรยังคงทำนิ่งเฉย จน พี่ชิตต้องเอื้อมมือมาฉุดแขนดึงให้ลุกตาม "น้าชิตไปก่อนเถอะค่ะ..อรขอเวลาคุยกับพี่ทองดี เรื่องยัยเจนหน่อย..." คุณอรกล่าวเสียงเรียบๆ พร้อมเอื้อมมือมาฉุดแขนผมให้นั่งลงตามเดิม ส่วนพี่ชิตก็ไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนน่าจะกลัวเมีย วัยสาวของแกเสียด้วยซ้ำ พอคุณอรพูดอะไรพี่ชืตก็ทำตามโดยไม่มีข้อแม้ "พี่ยังไม่ได้เคลียร์กับยัยเจนอีกหรือคะ..." พอทุกคนในห้องรับแขกออกไปจนหมด คุณอรก็สอบถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียง อยากรู้อยากเห็น "ยังเลยครับ..พี่ไม่มีโอกาสคุยกับคุณเจนเลยแม้สักคำตั้งแต่วันที่คุณอรแต่งงาน..พอรุ่งขึ้นเธอก็บินไปเรียนต่อแล้ว.." ผม บอกตามความจริงออกไป ด้วยสุ้มเสียงที่แหบสั่นแตกพร่า พอคุณอรได้ยินเธอถึงกับถอนหายใจ "อรก็เพิ่งทราบเมื่อสามสี่วันนี้เองว่ายัยเจนไปเรียนต่อ ตกใจเหมือนกันที่ยัยเจนไม่บอกเล่าอะไรให้อรทราบเลย นี่อรไลน์ ไปหา ก็ไม่ยอมอ่าน...มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่คะพี่..." [post]"พี่คิดว่า ที่คุณเจนทำแบบนั้น ก็เพื่อจะหนีพี่ และเข้าใจพี่ผิดด้วย คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคราวนั้นเป็นเพราะพี่รู้เห็นเป็นใจ กับคุณตาเธอ...เธอเลยต้องการหนีและไปแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนคุณดา" ผมบอกเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เพราะทำอย่างไรมันก็ตัดใจจากคุณเจนไม่ได้สักที "อะไรนะคะ..ยัยเจนแต่งงานแล้ว..กับผู้ชายที่พากันไปงานแต่งของอรใช่มั๊ยพี่..เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ...ยัยเจนมันรักพี่ มัน ไม่มีทางไปแต่งงานกับคนอื่น อรไม่เชื่อเด็ดขาด.." คุณอรพูดออกมาด้วยความตกใจ เมื่อทราบข่าวว่าเพื่อนสาวของเธอ นั้นแต่งงานไปแล้ว "คุณอรอาจไม่เชื่อ..แต่มันเป็นความจริงครับ ผมเพิ่งเห็นรุปพิธีแต่งในโบส์ถคริสเมื่อเช้านี้เอง..เธอส่งมาให้คุณดาดู" แต่แล้วก่อนที่ผมจะคุยกับคุณอรต่อ ผมก็เหลือบตาขึ้นไปมองเห็นคุณดาเดินลงบันไดมา ด้วยชุดเสื้อผ้าเหมือนกับว่ากำลัง จะออกไปงานเลี้ยงข้างนอกบ้าน ใบหน้าแต่งแต้มไว้ได้อย่างสดใสสวยงาม เหมือนสาววัยคุณอร แต่พอเธอเหลือบตามอง เห็นผมกับคุณอรคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขก สีหน้านั้นก็เปลี่ยนสีขึ้นมาทันที พร้อมกับแววตาหวานใสคู่นั้นแข็งกระด้างขึ้นมา ฉับพลัน "สวัสดีค่ะคุณแม่..." คุณอรรีบยกมือขึ้นไหว้ทำความเคารพ แต่คุณดากลับไม่ยกมือรับไหว้ ซ้ำยังทำหน้าตึงพูดเสียงขรึม แข็งๆออกมาเบาๆ "แล้วนี่พากันไปไหนหมดล่ะ..ถึงได้ปล่อยให้นู๋อรมาคุยกับสามีน้าเพียงลำพัง..." น้ำเสียงแข็งกระด้างที่คุณดาพูดออกมา ถึงกับทำให้คุณอรหน้าถอดสี แก้ตัวอึกๆอักๆ แต่คุณดากลับไม่ฟัง เดินตรงรี่มาคว้า ข้อมือผมฉุดให้ลุกยืน แล้วเดินกึ่งลากออกมาจากห้องรับแขกทันที ท่ามกลางสายตาที่มองตามหลังด้วยความงุนงงของ คุณอร จนกระทั่งเดินออกมาถึงสนามหญ้า ผมจึงค่อยๆแกะมือของคุณดาที่ยึดแขนออก แล้วเร่งฝีเท้าเดินทิ้งเธอไปร่วมกลุ่มกับ พ่อตาและพี่ชิต โดยมีคุณอรเดินตามรั้งท้าย แล้วตรงเข้าไปนั่งใกล้ๆสามีเธอ ด้วยสีหน้าที่ซีดขาวด้วยความตกใจ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น