AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

แฝดอันตราย ตอนที่11

แฝดอันตราย ตอนที่11
"ผมก็ไม่รุ้ว่าพ่อหรือแม่ใครกันแน่ที่พูดปด......" ชัดชายพูดยังไม่ทัจบคำก็ถูกพี่ชายฝาแฝดตำหนิว่าห้ามพูดกับแม่แบบนั้น "ก็ถ้านายมาเป็นเรา มาลำบากแบบเรา นายจะคิดบ้างมั๊ยว่า ทำไมแม่ถึงเลือกนาย ไม่เลือกเรา...เพราะนายอยู่อย่างสบายมี เงินมีบ้านหรูหราน่าอยู่ มีการศึกษา มีรถหลายล้านขับ แต่เราล่ะ มีอะไร...เราไม่เคยมีอะไรสักอย่าง ฉนั้นนายอย่ามาพูดดีกว่า" ชัดชายหันมาพูดเสียงกร้าวใส่แฝดคนพี่.. "ผมกลับนะแม่...." หลังจากทุ่มเถียงกับฉัตรชัยจบ ก็รีบบอกลาคุณนายแจ่มจรัส พร้อมลุกขึ้นยืน จนนาง
ต้องถลากอดรัดร่างลูกชายแฝดคนเล็ก ไว้แน่น พร้อมร้องไห้ฟูมฟาย... "อย่าไปลูก...โฮๆๆ อย่าทิ้งแม่ไปอีกเลยลูกจ๋า....โฮๆๆๆๆๆ พ่อฉัตรช่วยพูดกับน้องให้แม่ด้วย....โฮๆๆๆๆ.." แม้คุณนายแจ่มจรัสจะฉุดยึดร่างบุตรชายคนเล็กไว้แน่นปานใด แต่เขากลับลุกขึ้นยืนแล้วย่างก้าวลากร่างบอบบางของ มารดาไปตามทาง จนฉัตรชัยต้องเข้าไปยึดแขนน้องชายแน่น พร้อมถามกลับไป "นายต้องการอย่างไร..บอกมาสิ พี่จะทำทุกอย่างให้นาย..ขอเพียงนายอย่าทำแบบนี้กับแม่..." สิ้นคำพูดของฉัตรชัย ทำให้ แฝดผู้น้องชะงักหันหน้ากลับมายิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำว่า..... "เราไม่ใช่ขอทาน....เก็บข้าวของเงินทองของนายไว้เถอะ...แม่ผมกลับล่ะ...." ชัดชายพูดจบก็พยามแกะมือของมารดาที่ กอดยึดไว้ "ลูกจ๋า.....อย่าไปเลยลูก...แม่เฝ้ารอลูกมากว่า30ปี แล้วลูกจะทิ้งแม่ไปอย่างนี้ได้ยังไง....โฮๆๆๆๆ....ฉัตรช่วยแม่ด้วย..." ขาดคำร่างคุณนายแจ่มจรัสก็ทรุดฮวบอย่างอ่อนแรง ใบหน้าขาวซีด เหมือนกำลังจะเป็นลม ฉัตรชัยถลาไปประคองร่างมารดา ขณะที่ชัดชายกับยืนมองนิ่งเฉย เหมือนคนไร้หัวใจ แต่ก็ยังไม่ได้ขยับเดินไปไหน ผ่านไปสักครู่มารดาของฝาแฝดค่อยมีสติ ถลาไปกอดบุตรชายคนเล็กอีกครั้ง "อย่าทิ้งแม่ไปเลยนะลุกจ๋า....ข้าวของเงินทองในส่วนของลูก แม่เตรียมไว้แล้ว...พาลูกเมียมาอยุ่กับแม่นี่บ้านหลังนี้นะลูกนะ แม่จะยกให้หนูทั้งหมดคนเดียวเลย..." ชัดชายยังคงนิ่งเงียบเหมือนไม่ยินดีที่มารดาออกปากจะยกเรือนหลังใหญ่นี้ให้...ส่วนฉัตรชัยนั้นไม่ได้มีความคิดริษยาน้องชาย ฝาแฝดแม้แต่น้อย ทั้งที่ตนควรมีส่วนในสมบัติของมารดากึ่งหนึ่ง.. "ชัด...พี่ขอสักครั้งเถอะ...ถ้านายยังคิดว่าพี่กับแม่ยังชดเชยให้นายไม่พอ เราจะยกที่ดินที่แม่ให้พี่กับนายก็ยังได้ หรือถ้ายังไม่ พอใจอีก รถเราไงนายเลือกเอาไปคันหนึ่ง คันไหนก็ได้ เรายกให้...." ข้อเสนอของฉัตรชัยแฝดผู้พี่ ทำให้แฝดผู้น้องถึงกับอึ้งยืนนิ่ง แต่ทว่าคำตอบของชัดชายกลับทำให้ทั้งมารดาและพี่ชายฝา แฝดต่างตะลึงกับข้อเสนอพิลึกพิลั่นนั้น อย่างคาดคิดไม่ถึง "นายเคยลำบากเหมือนเรามั๊ย...ต้องอยู่อย่างคนไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ แม้จะได้ชื่อว่าลูก ของกำนัน แต่ความจริงมันก็แค่ลูกเลี้ยง หรือพูดง่ายๆก็คือเด็กในความอุปถัมย์...เราใช้ชีวิตอย่างลำบากยากไร้มากกว่า30ปี ในขณะที่นายเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทอง นายมีการศึกษา มีหน้าตาในสังคม ..เพียงเพราะแม่เลือกนายแล้วผลักไสให้ เราไปอยุ่กับพ่อ....ก็ได้ถ้านายอยากชดใช้คืนให้กับเรา...ฟังเราชัดๆนะ...นายกลับเรามาสลับตัวกัน เราลำบากมาสามสิบปี เราขอให้นายไปลำบากแบบเราสัก30วันก็พอ...น้ำหน้าอย่างนายทำได้มั๊ยล่ะ... ถ้าทำได้เราจึงจะอยู่กับแม่....." คุณนายแจ่มจรัสมองหน้าบุตรชายฝาแฝดทั้งสองคนสลับไปมา แม้ใจจะอยากให้ลูกแฝดคนพี่ยอมทำตามที่น้องเสนอ แต่ นางก็ไม่สามารถบังคับให้เขาทำเช่นนี้ได้ เพราะเกรงกลัวว่าเรื่องในอนาคตมันจะยุ่งยากสับสน เพราะยังมีผู้คนอีกหลายชีวิต ที่เกี่ยวพันอยู่ด้วย "ได้...พี่ยอมทำตามที่นายต้องการ...." คำตอบของฉัตรชัยถึงกับทำให้มารดาตกตะลึงรีบร้องทัดทานว่า "ทำแบบนี้ไม่ได้นะพ่อฉัตร..." เพราะรุ้ว่าอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนลูกชายคนโตของนางก็จะเข้าพิธีวิวาห์กับหนูหมิวแล้ว แต่ชัดชาย ถึงกลับแอบซ่อนยิ้มดีใจไว้ภายใต้วงหน้าที่ปั้นแต่งให้จริงจัง "ไม่เป็นไรหรอกครับแม่..." ฉัตรชัยตอบเรียบๆ ใบหน้าไม่แสดงความรุ้สึกหวั่นไหวแต่ประการใด "แม่เป็นพยานด้วยนะ....ครับ..." คุณนายแจ่มจรัสนิ่งเงียบ วงหน้าชราของนางเต็มไปด้วยความกังวลสับสน จ้องมองหน้าลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนสลับไป สลับมา ใจหนึ่งก็ดีใจที่จะได้ลูกชายคนเล็กมาอยู่ด้วย แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารลุกชายคนโตที่จำต้องยอมทำแบบนี้เพื่อนาง ทั้งๆที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด "แล้วพี่จะต้องทำอย่างไรบ้างว่ามา...." ฉัตรชัยต้องการแสดงให้น้องเห็นว่าตนเองหาได้กลัวความยากลำบกแม้แต่ประการใด "ง่ายๆ... นายไปอยู่ที่บ้านเราแต่ไม่ใช่ไปปิคนิคพักร้อนที่บ้านนอกในฐานะของพี่ชาย...นายไปอยู่เป็นตัวของเรา...โดยต้อง ไม่ให้ลูกเมียเรารู้...ส่วนตัวเราจะอยู่กับแม่...ไม่ต้องกลัว..เราไม่ไปยุ่งกับงานของนายหรอก...เพราะเราทำไม่เป็น แต่นายต้อง ไปทำงานแบบที่เราทำมาตลอด...ฉนั้น เพื่อให้เรามั่นใจว่านายทำได้ลำบากเป็น นายเอาบัตรเครดิตทั้งหมดของนายมาฝาก ไว้กับแม่ เราให้นายใช้เฉพาะเงินที่มีเหลือติดกระเป๋าในตอนนี้เท่านั้น...อ่อ...เอาบัตรประชาชนมาสลับกับเราด้วย...เผื่อเมีย เราเห็นจะสงสัยได้...." ฉัตรชัยยอมทำตามความต้องการทุกอย่างของน้องชาย แม้การมอบประชาชนจะเกิดความเสี่ยงอย่างสูงในการยืนยันตนเอง แต่ในขณะนั้นฉัตรชัยกลับไม่ได้นึกคิดถึงระแวงว่าน้องตนเองจะมีแผนการร้ายแต่อย่างใด เพียงเข้าใจว่าน้องคงทำเพื่ออยาก ให้ตนเองรู้จักความยากลำบากบ้างเท่านั้นเอง "จะปิดบังลูกเมียได้ยังไงล่ะลูก คนเคยอยู่ร่วมกันมาสิบยี่สิบปี ย่อมมองออกบ้างล่ะว่านั่นไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่สามีตนเอง" คุณนาย แจ่มจรัสแย้งขึ้น พร้อมยื่นมือมารับเอกสารบัตรเครดิตต่างๆของบุตรชายคนโตเก็บไว้ "ไม่รู้ล่ะ นั่นต้องแล้วแต่ความสามารถของลูกชายแม่..." ชัดชายตอบกลับมารดา แล้วทำหน้ายิ้มเหมือนสะใจที่ได้แกล้งพี่ชายฝาแฝดของตนเอง ส่วนฉัตรชัยนิ่งใช้ความคิด จ้อง มองน้องชายตลอดร่าง แม้สองคนจะมีหน้าตาเหมือนกัน สุ่มเสียงออกโทนเสียงเดียวกันก็จริง หลอกคนห่างน่ะพอได้ แต่จะ มาหลอกคนใกล้ชิดทั้งเมียทั้งลูกของน้องชายคงลำบาก เพราะยังมีข้อสังเกตุอยุ่มากมายตั้งแต่ทรงผมต่างกัน ผิวหน้าและสีผิวตามร่างก็ต่างกัน แม้จะไม่มากนัก แต่ตบตาเมียของ น้องชายไม่ได้แน่นอน มีวิธีเดียวต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามสี่อาทิตย์หรืออาจจะหนึ่งเดือน ที่จะทำการเปลี่ยนรายละเอียด ต่างๆที่ผิดแผกต่างกันให้ดูกลมกลืน ฉัตรชัยจึงบอกน้องชายตนเองไปตามที่คิดไว้ ซึ่งชัดชายก็เห็นตามนั้นด้วย จึงตกลงกันที่จะต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อม เสียก่อน หลังจากนั้นฉัตรชัยก็ขับรถไปส่งน้องที่ปั้มน้ำมันแห่งนั้นอีกครั้ง แล้วนัดเจอกันในวันรุ่งขึ้นอีกที โดยให้น้องชายสร้าง เรื่องว่าจะไปธุระต่างจังหวัดสักหนึ่งเดือน แล้วฝาแฝดทั้งสองค่อยมาเก็บตัวร่วมกัน เพื่อปรับเปลี่ยนทั้งพฤติกรรม นิสัย ทรงผม ผิวหน้าและสีผิว โดยพึ่งวิทยาการสมัยใหม่ ฉัตรชัยยอมเสียเงินจำนวนมากเพื่อทำให้ความต้องการของน้องชายสัมฤทธิ์ผล พร้อมทั้งเรียนรู้ถึงบุคคลรอบข้างที่อาจบังเอิญเข้ามาเกี่ยวข้อง จนกระทั่งผ่านไปเพียงสามอาทิตย์ ที่ทั้งสองคนเก็บตัวร่วมกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ถึงวันที่พร้อมจะใช้ชีวิตสลับตัวกันตามความ ต้องการของน้องชายแล้ว ฝาแฝดทั้งสองจึงกลับมาหามารดาด้วยเครื่องแต่งกายที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว แต่ทว่าทรงผม ของทั้งสองคนก็ยังเป็นแบบเดิม รวมทั้งผิวหน้าผิวพรรณก็หาได้เปลี่ยนแปลงไปแม้สักนิด "แม่ว่าเลิกความคิดแบบนี้เถอะลูก....สามสี่อาทิตย์แล้ว แมก็ยังจำได้อยู่ดีแหละว่าคนไหนลูกฉัตร คนไหนลุกชัด" เสียงคุณนายแจ่มจรัสบอกชัดถึงความเหนื่อยหน่ายใจ ที่แผนการของแฝดคนน้องไร้ผล ด้วยเกรงว่าเขาจะเปลี่ยนใจกลับ ไปบ้านนอกไม่กลับมาอยู่กับนางอีก พูดพร้อมเข้าไปกอดรัดร่างของลูกแฝดคนเล็กแน่น "ลูกเอ๋ย...แม่ว่าล้มเลิกแผนนี้เถอะนะ...ลูกพาแม่ไปหาเมียกับลูกที่บ้าน ไปรับเค้ามาอยู่กับแม่เถอะนะจ๊ะ..." คุณนายแจ่มจรัส เงยหน้าสบตากับลุกชายคนเล็กแล้วร้องขอ "แม่ครับ...ถ้าแม่จะพูดกับนายชัด เขานั่งอยู่ตรงโน้นครับ นี่ผมฉัตร..." ฉัตรชัยพูดยิ้มๆ ในความสำเร็จที่สามารถทำให้แม่จำตนเองไม่ได้ คิดว่าเป็นน้องชาย มารดาได้ยินดังนั้นถึงกับทำหน้างุนงง ไม่เข้าใจว่านางจำลูกชายผิดคนหรือว่าสองคนกำลังแกล้งหลอกตนเองกันแน่ "ชัด.....อย่าล้อเล่นกับแม่แบบนี้สิลูก...พ่อฉัตรก็อีกคน มาหลอกแม่ได้ยังไง.." คุณนายแจ่มจรัสพูดแล้วก็มองค้อนบุตรชายอีก คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม เพราะแน่ใจว่าคนนั้นคงเป็นฉัตรชัยแน่นอน "สำเร็จละนายฉัตร ขนาดแม่ยังจำเราไม่ได้ แล้วคนอื่นจะจำเราได้ยังไง..." ลูกชายที่นั่งตรงข้ามในคราบของฉัตรชัย แต่คำพูดกลับกลายเป็นชัดชายเสียแทน ยิ่งทำให้คุณนายแจ่มจรัสมารดาของฝา แฝดทั้งสองงุนงงหนักขึ้น นางรีบตรงไปคว้าตัวบุตรชายคนโตจับเขาหันหลังพร้อมถลกเสื้อยืดขึ้นไปจนถึงกลางหลังนางรู้ว่า กลางหลังของบุตรชายคนโตนั้นมีปานสีน้ำตาลขนาดเท่าเหรียญสิบบาทจางๆอยู่ แต่พอเสื้อของลูกชายคนที่นางเข้าใจว่า เป็นฉัตรชัยนั้น ถลกขึ้นไปจนถึงกึ่งกลางหลัง นางกลับพบว่ามันว่างเปล่า ไม่มีปานสีน้ำตาลอยู่เลย ครั้นหันกลับมายังชัดชาย กลับพบปานสีน้ำตาลอยุ่ที่กึ่งกลางหลังแทน "โอ๊ยยย..ตายแล้ว....ไปทำอะไรกันมา ถึงได้สลับกันจนแม่ยังจำผิด..." เสียงมารดาบ่งบอกให้สองฝาแฝดรู้แล้วว่าน่าจะถึงเวลาเสียทีที่จะสลับตัวกัน ตามความต้องการของฝาแฝดผู้น้อง ฉัตรชัยคิด แต่เพียงว่า ยอมลำบากเสียสามสิบวัน เพื่อแลกกับชีวิตของน้องชายที่จะกลับมาอยู่กับแม่ ทำให้แม่มีความสุข แต่ในความคิด ของชัดชายกลับไม่คิดเช่นนั้น แล้วจะมีใครล่ะที่คิดได้ว่าการสลับตัวตามความต้องการของแฝดชัดชาย จะเกิดความยุ่งยาก สร้างความลำบากให้กับคนใกล้ชิดขนาดไหน เพียงใด

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น