AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

แฝดอันตราย ตอนที่31

แฝดอันตราย ตอนที่31
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นฉัตรชัยเตรียมตัวออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อเข้ากรุงเทพ ด้วยความรู้สึกห่วงกังวลเรื่องของแม่กับคุ่หมั้น ครั้งแรก กะว่าจะเดินทางไปตามลำพัง แต่เมื่อเตรียมตัวเสร้จเรียบร้อยกลับเปลี่ยนใจ สอบถามหวานว่าถ้าทิ้งบ้านไปสักวันจะมีอะไร ลำบากยุ่งยากมากมั๊ย "คงไม่เป็นไรหรอกจ๊ะพี่...รอหวานให้อาหาร
พวกสัตว์เลี้ยงก่อน ก็ไปได้จ๊ะ..." หวานตอบเรียบๆแล้วอดรู้สึกดีใจไม่ได้ที่ฉัตรชัยจะพาเข้าไปกรุงเทพด้วย เพราะเป็นครั้งแรกของเธอที่จะได้เหยี่ยบย่างเข้า ไปในเมืองหลวงของประเทศไทย แม้ว่าจังหวัดที่หวานอยู่จะไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนักก็ตาม แต่สามีของเธอก็ไม่เคย พาออกไปไหน หลังจากหวานเสียเวลากับการจัดการเรื่องราวในชีวิตประจำวันของเธอไม่นานนักก็เรียบร้อย เธอพยายามเลือกชุดที่ดูดีที่ สุดเพื่อสวมใส่ไปกับฉัตรชัยไปหาแม่สามีของเธอเป็นครั้งแรก ฉัตรชัยมองตามร่างน้องสะใภ้แล้วรู้สึกเอน็จอนาจใจ นึก ตำหนิน้องชายฝาแฝดของตนว่า ทำไมจึงไม่ใส่ใจเรื่องความเป็นอยู่ของเมียและบ้านเสียมั่งเลย แต่ฉัตรชัยก็ไม่ได้พูด อะไรไปด้วยเกรงว่าจะยิ่งไปตอกย้ำความรู้สึกด้านไม่ดีกับตัวน้องชายเกินไปนัก หลังจากนั้นอีกร่วมสองชั่วโมงที่รถกระบะเก่าๆของน้องชายพาทั้งสองคนเข้ามาถึงเขตุชานเมืองกรุงเทพ เริ่มมีศูนย์การค้า ใหญ่โต ตึกรามบ้านช่องที่ล้วนเป็นตึกสูงๆ หวานนั่งมองผ่านกระจกรถด้วยสายตาตื่นเต้น "พี่จ๊ะ...ถ้าไปถึงบ้านแล้ว เอ้อ....แม่..เอ้อ...จะไม่รังเกียจหวานหรอคะ..." หวานถามฉัตรชัยที่นั่งขับรถมาเงียบๆ อย่างมีสมาธิ "ไม่หรอกจ๊ะ...แม่พี่ใจดี..หวานไม่ต้องกังวล..." ฉัตรชัยพูดพร้อมมองเสื้อผ้าที่หวานสวมใส่ เพราะคิดว่าหวานกังวลในเรื่องนี้ "เอ่อ.....หวานไม่ได้กังวลเรื่องการแต่งเนื้อตัวของหวานจ๊ะ...ตะ...แต่หวานกลัวเรื่องของพี่กับหวานน่ะจ๊ะ..." พอหวานพูดขึ้นมาฉัตรชัยก็นึกขึ้นได้ว่า จริงของหวาน เธอคงลำบากใจที่จะแนะนำตัวเองว่าเป็นลูกสะใภ้ของลูกชายคน ไหนกันแน่..แม้หวานจะเจียมเนื้อเจียมตัวไม่ได้อ้างสิทธิ์ของความเป็นเมียฉัตรชัยก็ตามที แต่ชายหนุ่มกลับคิดถึงเรื่อง ความรับผิดชอบที่ตนเองกระทำลงไป "หวานอย่าลืมสิจ๊ะ....ว่าขณะนี้พี่คือชัดชาย สามีของหวานนะจ๊ะ..." ฉัตรชัยเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาบ้าง สำหรับแม่นั้นคงไม่กระไรนักด้วยว่าท่านรู้เรื่องการเปลี่ยนตัวสลับตัวของนายชัดชายกับ เขา แต่กับคนอื่นๆนั้น ไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้เลยโดยเฉพาะคุณหมิวคุ่หมั้นของเขา "ถ้าเผอิญเจอคนที่รู้จัก...พี่ก็จะแนะนำว่าหวานคือเมียของพี่ พี่เป็นฝาแฝดกับนายฉัตร เข้ามาเยี่ยมคุณแม่..."แม้ฉัตรชัยจะ บอกหวานไปแบบนั้น แต่ในใจก็ภาวนาขออย่าให้เจอคนรุ้จักเลยดีกว่า เวลาผ่านไปอีกชั่วโมงกว่า ๆ ฉัตรชัยก็ขับรถเข้ามาในซอยที่บ้านของตนเองอยู่ ครั้งแรกเขาขับรถผ่านหน้าบ้านไปก่อนรอบ หนึ่ง เพื่อสังเกตุภายในบ้านที่ดูเงียบสงบกว่าปรกติ จนวนกลับมาอีกครั้ง จึงบอกให้หวานลองเดินไปดูที่หน้าประตุบ้านว่า ภายในเป็นอย่างไร "แล้วคนในบ้านจะไม่คิดว่าหวานเป็นสายขโมยหรอจ๊ะพี่....ที่ไปเยี่ยมๆมองๆบ้านน่ะ..." หวานย้อนถามกลับมาขณะที่กำลัง ก้าวเท้าลงจากรถกระบะ... "หวานแค่ไปมองดูที่จอดรถก็พอว่ามีรถอยู่กี่คัน...คือพี่ไม่อยากเจอนายชัดเค้าในตอนนี้น่ะ..." "จ๊ะ..." หวานรับปากจากนั้นก็เดินไปหน้าบ้านของชายหนุ่ม เดินเมียงมองผ่านเข้าไป แล้วเดินกลับมาหาฉัตรชัยที่รถอีกครั้ง "มีสองคันจ๊ะพี่ สีขาวกับสีดำ.." หวานบอกแล้วทำให้ฉัตรชัยมั่นใจว่านายชัดไม่อยุ่บ้านแน่ๆ คงเอารถสปอร์ตสีแดงของ ตนเองไปขับเล่น และขณะนี้ก็คงไม่ได้อยู่ในบ้าน.. . "ดีละ...งั้นหวานไปกดกริ่งที่ประตุรั้วนั้นนะ แล้วถามหาคุณนายแจ่มจรัส บอกกับคนในบ้านว่าหวานมาจากชัยนาท แค่นั้นพอ" "แล้วถ้าเขาให้หวานเข้าไปหาคุณแม่ละคะ...จะให้หวานบอกว่ายังไง...." หวานมีสีหน้าหวาดหวั่นเมื่อพูดจบ "ถ้าเจอแม่...หวานบอกว่ามากับพี่...เดี๋ยวคุณแม่คงจัดการเองได้ว่าควรทำอย่างไร..." หลังจากหวานเดินไปกดกริ่งที่ประตุรั้วบ้าน รอสักพักฉัตรชัยก็เห็นป้าแจ่มเดินมาที่ประตุรั้ว จากนั้นก็พูดคุยกับหวานอยู่ สักพักหวานก็รีบเดินกลับมาที่รถด้วยสีหน้าตื่นๆ ใบหน้าซีดขาว "พี่จ๊ะ...ไปโรงพยาลกัน...คุณแม่อยู่ที่นั่น..." หวานพูดจบก็หน้าซีดขาวจนฉัตรชัยหวาดวิตกว่าคงมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับมารดาของตนเป็นแน่ หลังจากสอบถามชื่อ โรงพยาบาลกับหวานแล้ว ฉัตรชัยก็รีบขับรถออกไปทันที พอมาถึงโรงพยาบาลหลังจากที่ฉัตรชัยสอบถามกับประชาสัมพันธ์จึงได้ทราบว่ามารดาของตนนั้นเพิ่งย้ายออกมาจากห้อง ไอซียู มาอยู่ที่ตึกผู้ป่วยจึงรีบพาหวานไปหา ขณะที่รอกดเรียกลิฟท์อยู่ที่ชั้นล็อบบี้นั้น พอลิฟท์เปิดออกมาฉัตรชัยถึงกับ สะดุ้งเมื่อมองเห็นสาวสวยที่ลงมากับลิฟท์นั้นคือคุณหมิวคู่หมั้นของตนนั่นเอง ดีแต่ว่าขณะนั้นคุณหมิวยืนก้มหน้าอยู่เลย ไม่ทันแลเห็นฉัตรชัยที่จูงมือของหวานรอขึ้นลิฟท์ ฉัตรชัยรีบปรับสีหน้าให้เป็นปรกติทำเหมือนตนเองไม่เคยรู้จักคุณหมิว มาก่อน พอคุณหมิวเงยหน้าขึ้นมอง ก็ตกตะลึงที่เห็นคุ่หมั้นของตนเองจับจูงมือสาวอีกคนยืนอยุ่หน้าลิฟท์ "คุณพี่..." เสียงคุณหมิวร้องทัก แต่ฉัตรชัยทำเป็นไม่รุ้เรื่องไม่รู้จัก เดินสวนเข้าไปในลิฟท์พร้อมกับจูงมือหวานเข้าไปด้วย แต่หวาน กลับหน้าซีดเผือดมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงสาวสวยสง่างามที่ร้องทักฉัตรชัยเมื่อครู่นี้ จนมือเล็กๆของเธอที่ฉัตรชัยกุม อยู่สั่นสะท้านพร้อมเย็นเฉียบ ส่วนคุณหมิวถึงกับทะลึงจนหน้าสวยหวานของเธอเหว๋อ ที่คุ่หมั้นหนุ่มทำเหมือนไม่รู้จักเธอ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ประตุลิฟท์ก็ค่อยๆปิด ฉัตรชัยถอนหายใจอย่างโล่งอก จนลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้นที่มารดาพักอยู่ ฉัตรชัยรีบจุงมือของหวานเดินเข้าไปหาทันที ด้าน คุณหมิวที่ยืนอยู่หน้าลิฟท์ชั้นล็อบบี้ เริ่มงุนงงสงสัย กับผู้ชายที่เดินสวนเข้าลิฟท์ไปเมื่อสักครู่นั้น คือฉัตรชัยคู่หมั้นของ เธออย่างแน่นอน แม้เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่จะดูแปลกหูแปลกตาไปบ้างก็ตามที เธอจึงยืนรอเรียกลิฟท์ลงมาอีกครั้ง ทั้งๆที่ ตั้งใจจะกลับไปบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เพราะตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเธออยุ่รอเฝ้าว่าที่แม่สามีของเธอจนกระทั่ง คุณหมอนำตัวออกมาจากห้องผ่าตัด แล้วเธอเองเป็นคนจัดการเรื่องห้องพักฟื้นให้กับคุณนายแจ่มจรัสเองทั้งหมด โดย ที่ไม่รู้ว่าฉัตรชัยคู่หมั้นหายตัวไปไหน แต่พอตอนนี้คุณหมิวกลับเห็นเขาเดินจุงมือหญิงสาวดูชาวบ้านๆเข้ามาหาคุณ นายแจ่มจรัสอีกครั้ง ฉัตรชัยกับหวานเข้ามาในห้องพักฟื้นของมารดา เห็นสายน้ำเกลือกับสายอ๊อกซิเย็นระโยงระยางอยุ่ที่ตัวมารดา ส่วนที่ แขนขาก็มีเผือกดามไว้ รอบๆศรีษะพันผ้าขาวไว้แน่นหนา "แม่...." ฉัตรชัยเรียกมารดาเสียงดัง แล้วเดินไปเกาะขอบเตียงมารดายืนนิ่งน้ำตาคลอเบ้า แต่นางยังหลับสนิท ลมหายใจระรวย รินช้าๆ พยาบาลที่ยังยืนอยู่ภายในห้อง รีบเดินเข้ามาหาฉัตรชัยแล้วกระซิบบอกให้เบาเสียงลงหน่อย สักครุ่เธอก็เดิน ออกไปจากห้อง พร้อมกับที่คุณหมิวเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง "คุณพี่คะ...หายไปไหนทั้งคืน...แล้วผู้หญิงคนนี้ ใครคะ" เสียงที่เคยหวานไพเราะของคู่หมั้นสาวนั้น ครั้งนี้กลับดูกระด้างซีเรียส เธอมองหน้าฉัตรชัยสลับกับใบหน้าของหวาน แล้วคิ้วเรียวงามก็ขมวดมุ่น ในขณะที่ฉัตรชัยพยามยามปั้นสีหน้าเสมือนว่าไม่เคยรู้จักคุณหมิวมาก่อน ส่วนหวานนั้นหลบ ไปยืนอิงแอบด้านหลังของฉัตรชัยด้วยหวาดกลัวจนใบหน้าที่ขาวซีด ฉัตรชัยพยามคิดอย่างรวดเร็วกับสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ว่าจะบอกความจริงทั้งหมดกับคู่หมั้นเลย หรือว่าจะค่อยบอกทีหลัง ด้วยว่าสองวันที่ผ่านมานั้นฉัตรชัยไม่แน่ใจว่าน้องชายฝาแฝดของตนกับคุณหมิวพบกันบ้างหรือ ยัง แต่ในที่สุดฉัตรชัยก็ตัดสินใจที่จะยังไม่ยอมบอกความจริง "เอ่อ...ขอโทษครับ...คุณคงจำคนผิด ผมชัดชาย....เป็นฝาแฝดกับพี่ฉัตรน่ะครับ" ฉัตรชัยพูดจบก็ก้มหน้าหลบซ่อนสายตาไม่กล้าสบสายตากับคุณหมิว ทางด้านคุณหมิวพอได้ยินชัดเต็มสองหู เธอก็งุนงง ด้วยไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุ่หมั้นของเธอนั้นมีคู่แฝด พร้อมกับไม่อยากเชื่อคำพูดของเขา แต่ครั้นพอนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เมื่อวานที่คุ่หมั้นของเธอรุ้เรื่องมารดาประสพอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาลนั้น ไม่เห็นมีทีท่ารู้สึกรู้สาแต่อย่างใด จนคุณหมิว ขัดใจในทีท่าของเขา แต่พอกลับมาวันนี้ ชายหนุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นคุ่แฝด กลับมีทีท่าห่วงกังวลในอาการของคุณนาย แจ่มจรัสต่างกับเมื่อวาน ใจคุณหมิวเลยเริ่มลังเลว่าหรือชายหนุ่มคนนี้จะพูดความจริงที่ว่าเขาเป็นน้องชายฝาแฝดกับ คุ่หมั้นของเธอ อีกทั้งสาวชาวบ้านที่ยืนแอบอยู่ด้านหลังนั้น ดูอาการตื่นกลัวลักษณะบอกชัดเจนว่าคงเป็นภรรยาของเขา ซึ่งไม่มีทาง เป็นไปได้ที่คุ่หมั้นของเธอจะเลือกสาวชาวบ้านแบบนี้มาเป็นภรรยาทั้งๆที่ตนเองมีคู่หมั้นเป็นสาวสวยเพรียบพร้อมไป ด้วยคุณสมบัติของกุลสตรี "เอ่อ...ขอโทษนะคะ...มะกี้บอกว่าเป็นน้องชายฝาแฝดกับคุณพี่ฉัตรหรอคะ..."

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น