AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

แฝดอันตราย ตอนที่10

แฝดอันตราย ตอนที่10
 "แล้วมีอะไรอีกมั๊ยครับป้า...เอ่อ..อย่างเช่นนายชัดเคย...มีคดีอะไรต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมั๊ยครับ..." ฉัตรชัยสอบถามเพราะอยาก เก็บข้อมูงของน้องชายฝาแฝดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ "เอ...เท่าที่ป้ารู้นะ...ป้าว่าไม่เคยมีนะคะ...ขนาดตอนที่ฉุดนางงามสงกรานต์มาเป็นเมีย...เอ่อ..ยังไม่โดนตำรวจจับเลย เพราะ พ่อกำนันเค้าช่วยไว้ สมยอมความกะแม่ของแม่หวานเค้า...แล้วจับแต่งงานกัน ป้ายังไปร่วมงานของเค้าเลย...ส่วนเรื่องนักเลง เกเร...ก็มีบ้างล่ะค่ะ...แต่คุณชัดไม่ใช่ประเภทตีหัวหมาด่าแม่เจ็กน่ะคะ...แต่สิบปีหลังจากที่ป้าย้ายออกมาอยู่ในอำภอ...ป้าก็ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรจากนั้นมาค่ะ...." ป้าสมเล่าจบก็จ้องมองหน้าฉัตรชัยเขม็ง "คุณคะ...ป้าถามอะไรสักอย่างได้มั๊ยคะ...." "ผมว่าอย่าถามอะไรเลยดีกว่าครับป้า...ป้า
รู้เรื่องน้อยที่สุดผมว่ามันจะดีกับป้าเอง...ป้าคิดว่านายชัดของป้าร้ายมั๊ยล่ะครับ.." ฉัตรชัยปั้นหน้าเคร่ง ทำเสียงเข้มแข็ง "ก็..ก็ร้ายสิคะ..." เสียงป้าสมตอบอ่อยๆ "แต่ผมน่ะ...ร้ายกว่านายชัดสิบเท่า....ฉนั้นหวังว่าหลังจากนี้ป้าคงไม่เอาเรื่องที่ผมอยากรู้จักนายชัดไปบอกใคร...ใช่มั๊ยครับ..." หลังจากฉัตรชัยพูดจบป้าสมก็ทำคอย่น เริ่มรู้สึกว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าผู้นี้คงร้ายกาจกว่านายชัดตามคำที่บอกจริงๆ จึงสั่นหัว ด๊อกแด๊กสาบานว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟัง "ดีมากครับ นับจากนี้ผมหวังว่าป้าคงจะไม่เคยรู้จักผมมาก่อนเลยจริงมั๊ยครับ..." ฉัตรชัยปั้นหน้าดุ เอาจริง จนป้าสมคิดว่าเงินที่เหมาล็อตตอรี่นี่มันจะคุ้มกับชีวิตแก่ๆของตนเองแค่ไหน ทำได้เพียงพยักหน้า หงึกๆ ตามคำที่ฉัตรชัยบอก "คราวนี้คือข้อสุดท้ายที่ป้าจะต้องทำให้ผม...คือการไปพานายชัดมาหาผมที่นี่ โดยไม่ต้องบอกให้ใครรู้...ป้าทำได้มั๊ยครับ แต่ ผมไม่ใช้งานป้าฟรีๆหรอก ผมจะให้ป้าอีก5พันบาท..ว่าไงครับ,.." ฉัตรชัยพูดจบก็ควักธนบัตรมานับ แต่ยังไม่ทันส่งให้ป้าสม เสียงรถกระบะก็วิ่งโครมครามเข้ามาที่ปัมน้ำมัน เสียงเครื่องยนต์กับ ควันสีดำที่พ่นออกมาจากท่อไอเสียนั้น บ่งบอกให้รู้เลยว่ารถคันนี้ไม่น่าจะเอาออกมาวิ่งแล้ว เหมาะสำหรับการเอาไปทำที่ปลูก พืชผักสวนครัวเสียมากกว่า แต่ป้าสมที่มองไปยังรถต้นเสียงนั้นกลับทำท่าทางโล่งอก เพราะแกไม่จำเป็นต้องลำบากทำตาม ความต้องการสุดท้ายของฉัตรชัย เนื่องด้วยคนที่ขับรถกระบะโกโรโกโสคันนี้ก็คือนายชัด คนที่กำลังพูดถึงนั่นเอง "คุณคะ...รถนั่นแหละค่ะของนายชัด....งั้นป้าไปบอกแกให้นะคะว่ามีคนมารอพบที่ร้านกาแฟ..." พูดจบก็เตรียมตัวขยับลุกขึ้น แต่ต้องชะงักเมื่อฉัตรชัยสั่งให้รอ จากนั้นก็ยัดเงินจำนวนห้าพันใส่มือป้าสม แล้วบอกว่า "ผมถือว่าผมได้พบนายชัดของป้าแล้ว แม้ว่าป้าจะไม่ได้ไปตามหา ผมก็ให้เงินป้าไว้ครับ แต่ป้าคงจำคำพูดที่ผมบอกก่อนหน้า นี้นะครับว่า...ขอให้เป็นความลับ..." ป้าสมพยักหน้าหงึกๆ ทั้งดีใจที่ได้เงินใช้ฟรีๆ ไหนจะขายล็อตตอรี่หมดไปแม้จะเป็นเพียงแค่วันที่13ก่อนหวยจะออกตั้งหลาย วัน แต่ก็รุ้สึกหวั่นใจลึกๆ อยู่เช่นกันว่า แกจะลำบากที่มีส่วนรู้เรื่องราวของหนุ่มสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกันบ้างมั๊ย แต่คงยัง ไม่สามารถคิดถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าได้มากนัก เมื่อบุรุษที่นั่งตรงข้าม บุ๊ยปากให้ป้าสมรีบไปดักนายชัดก่อนที่จะเคลื่อนรถออก จากปั้ม ฉัตรชัยมองตามหลังป้าสมที่เดินไปหานายชัดน้องชายฝาแฝดของตน เห็นซุบซิบๆกันพร้อมชี้มือมายังตนเอง นายชัดมอง ตามมือของป้าสมที่ชี้ แม้จะอยุ่ห่างกันพอสมควร แต่สายตาของฝาแฝดที่ประสานกันนั้น ต่างก็ตะลึง เหมือนตนเองกำลังยืน มองภาพตัวเองผ่านกระจกเงา ภาพหนึ่งยืนข้างรถกระบะเก่าๆ ผิวหน้ากร้านแดด อีกภาพเป็นชายหนุ่มหน้าผ่องใสมีราศี นั่ง อยู่ที่ร้านกาแฟ ฉัตรชัยมองเห็นายชัดขึ้นรถแล้วขับมาจอดใกล้ๆร้านกาแฟ จึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหา ก่อนที่น้องชายฝาแฝด จะเปิดประตุรถลงมา "ชัด..นายตามพี่มา.." สายตาสองคุ่ประสานกันในระยะใกล้ ในสายตาของแฝดผู้น้องนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกตื่นเต้นดีใจ หรือประหลาดใจแต่อย่าง ใดแม้สักนิดที่จู่ๆ มีชายหน้าตาเหมือนกันมาบอกให้เดินตามมาที่รถ ชัดชัยค่อยๆก้าวลงจากรถกระบะของตนเองปิดประตูดังปัง แต่ไม่ได้ล็อครถ เดินตามหลังชายหน้าเหมือนไปนั่งฝั่งด้านข้างของคนขับ "ดูเหมือนกับว่านายไม่ตื่นเต้นดีใจ หรือประหลาดใจที่จู่ๆเราได้มาพบกัน..." ฉัตรชัยถามพร้อมกับสตาร์ทรถ "ไม่..เรารู้มานานแล้วว่าเรามีพี่ชายฝาแฝด...เราเลยไม่ประหลาดใจ...แต่ก็ดีใจนะที่เราได้พบนาย...ว่าแต่นายจะพาเราไปไหน กัน..." คำตอบของน้องชาย ทำให้ฉัตรชัยพอคาดเดาได้ว่าแฝดผู้น้องนั้นรู้ตัวมานานแล้วว่ามีพี่ชายฝาแฝดอีกคน ต่างกับตนเองที่ไม่ เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน จนเมื่อเกือบเดือนที่ผ่านมาจึงรับรู้จากปากของมารดา "ไม่ได้พาไปไหนหรอก...พี่แค่ขับรถคุยกันกับนาย..." ฉัตรชัยตอบเรื่อยๆ อยากดีใจที่เจอกับน้องชายฝาแฝด แต่จากสายตาที่มองสบกัน ทำให้ฉัตรชัยกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรบาง อย่างมาขวางกั้นความดีใจนั้นเอาไว้ "แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่..." ชัดชายถามพี่ชายฝาแฝด ทำให้ฉัตรชัยต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องชายฟังตั้งแต่เริ่ม ต้นที่ปั้มแห่งนี้จนจบ "พะ..พ่อ..เรายังอยู่มั๊ย..." แม้ฉัตรชัยจะไม่อยากเรียกคนๆนั้นว่าพ่อ แต่ก็จำใจเรียก "ไม่รู้...เราไม่ได้เจอพ่อตั้งเกือบ30ปีแล้ว..." ชัดชายตอบเสียงเรียบไม่แสดงความรุ้สึกอย่างใด "พ่อ..เป็นคนบอกนายใช่มั๊ยว่า นายมีพี่ชายฝาแฝดอยู่..." "อืมมมม...แล้วแม่ล่ะ..เป็นไงบ้าง..." คุยกันมาตั้งนาน ชัดชายเพิ่งจะเอ่ยปากถามเรื่องมารดา "ก็สบายดี...แม่อยากพบนายมาก...นายพอมีเวลาว่างไปหาแม่กับพี่มั๊ย..."ชัดชายนิ่งเงียบไปสักครุ่ "จะให้ไปเมื่อไหร่...." "วันนี้ก็ได้ถ้านายว่าง...." "ก็ดี....เราอยากพบแม่เหมือนกัน แต่เราต้องกลับไปบอกเมียก่อน..." น้ำเสียงของชัดชายไม่ได้บ่งบอกเลยว่าจะรุ้สึกแบบนั้น "ไปรับลูกเมียนายเลยก็ได้นะ...แม่คงอยากเจอทั้งสองคน..." ฉัตรชัยบอกไปตามความรู้สึกของตนเองว่ามารดาคงอยากเจอ ลูกสะใภ้คนเล็กกับหลาน "อย่าเลย..ยุ่งยากเปล่าๆ...นายขับรถไปตามทางนี้แหละ...เดี๋ยวเราบอกทางไปบ้านเราให้ เราไปบอกเมียเราก่อนว่าจะไปธุระ.." ตลอดเวลาที่ผ่านมาครู่ใหญ่แล้วฉัตรชัยก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแม้แต่สักนิดว่าน้องชายฝาแฝดของตนเองนั้นไม่เคยเรียกตน ว่าพี่แม้แต่คำเดียว จากนั้นฉัตรชัยก็ซักถามถึงครอบครัวความเป็นอยู่ของน้องชายฝาแฝด ทำให้รู้เรื่องว่าตนเองมีหลานสาว อยู่อีกคน "หยุดตรงนี้ละ..." ชัดชายสั่งให้พี่ชายฝาแฝดหยุดรถรอตรงศาลารถประจำทาง แล้วก็เปิดประตูรถลงไปนั่งรถเครื่องรับจ้าง เข้าไปตามถนนราด ยางเส้นเล็กๆ ผ่านเข้าไปยังหมู่บ้านที่มองเห็นหลังคาเรียงรายลิบๆ จนหายไปกว่าครึ่งชั่วโมง ชัดชายก็กลับมาขึ้นรถ แล้วบอก ว่าไปกันได้ละ ฉัตรชัยจึงขับรถกลับบ้านไปหามารดาของตนเองทันที ก่อนจะถึงบ้านฉัตรชัยโทรศัพท์เข้าไปบอกให้มารดาทราบก่อนว่ากำลัง พานายชัดลูกแฝดอีกคนไปหา แล้วก็ได้ยินเสียงมารดาพูดออกมาด้วยความดีใจทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะสลับกัน เหมือนยังตั้งสติ ไม่ได้ จนรถผ่านประตุรั้วเข้ามา เขาก็เห็นมามารดามายืนดักรออยู่หน้าบ้านแล้วด้วยความดีใจ "ลูกชัดของแม่ โฮๆๆๆ..." คุณนายแจ่มจรัสถลาวิ่งออกมายืนข้างประตุรถ พอนายชัดเปิดลงมา ก็โผเข้ากอดแน่นทั้งร้องไห้ทั้งดีใจ ทั้งกอดทั้งจูบลูกชาย ฝาแฝดผู้น้อง ที่พลัดพรากจากไปตั้งแต่ยังแบเบาะ ข้างฝ่ายชัดชายนั้นกลับยืนนิ่งปล่อยให้มารดากอดจูบไม่ได้ตอบโต้ ยังคง ยืนนิ่งทิ้งมือสองข้างแนบลำตัว ไม่ได้กอดผุ้เป็นมารดาตอบโต้ แต่ก็ไม่เบี่ยงกายถอยหนี ฉัตรชัยมองภาพตรงหน้า ไม่ได้เห็น ถึงความผิดปรกติ เพราะมัวแต่ดีใจแทนผู้เป็นมารดาที่ได้พบน้องชายอีกครั้ง จากนั้นทั้งสามคนก็พากันเดินเข้าไปยังห้องรับแขก มารดาของฉัตรชัยจูงลูกชายแฝดคนเล็กไปนั่งข้างตนเองตรงข้ามกับ ลุกชายอีกคน สองแขนของนางกอดรัดร่างบุตรชายคนเล็กไม่ห่างเหมือนกับกลัวว่าเขาจะพลัดพรากจากไปอีกครั้ง แล้วสอบ ถามเรื่องราวของน้องชาย นายชัดชายก็ตอบคำถามไปทีละคำตามที่มารดาถามมา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ฉัตรชัยรับรู้มา ก่อนหน้านี้แล้ว "ลูก...พาครอบครัวมาอยู่กับแม่นะลุกนะ..." ท้ายสุดคุณนายแจ่มจรัสก้ร้องขอให้บุตรชายแฝดคนเล็กพาลูกและเมียมาอยุ่กับ นางที่บ้าน ใบหน้าที่ดีใจปลื้มปิติของนางกลับเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำตอบจากลูกชาย "อย่าดีกว่าแม่....ผมเคยชินเสียแล้วกับชีวิตบ้านนอก ไม่อยากมาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพหรอกครับ".. นายชัดชายตอบเรียบๆ หน้านิ่งสนิทจนแฝดผู้พี่ไม่กล้าคาดเดาว่าตอบมาด้วยอารมณ์แบบไหน จะน้อยใจผุ้เป็นมารดา หรือว่า ไม่ชอบจริงๆ "ทำไมล่ะลูก....บ้านของเราออกใหญ่โต...อีกไม่ถึงเดือนพี่เค้าก็แต่งงานไปอยู่บ้านใหม่แล้ว ลูกมาอยู่กับแม่เถอะนะลูก..." แม้ จะพูดยังไง ลงทุนอ้อนวอนอย่างไร นายชัดชายก็ยืนกรานคำพูดเดิม "เอางี้นะแม่..ผมขอถามแม่แค่คำเดียวได้มั๊ยว่า....ทำไมแม่เลือกนายฉัตร...วันนั้นทำไมแม่ไม่เลือกผม..." น้ำเสียงของชัดชายเข้มเครียด ใบหน้าแสดงความรู้สึกปวดร้าวออกมาชัดเจน จนคุณนายแจ่มจรัสงุนงง ไม่เข้าใจว่าลูกชาย แฝดคนเล็กถามมาแบบนี้ เพราะเข้าใจอะไรผิดอย่างไร "เปล่านะลูก...แม่ได้เลือกพี่เค้า...ที่จริงแม่ไม่ได้มีโอกาสเลือกลูกคนไหนเลย..พ่อของลูกเค้าคว้าเอาตัวลูกไปเอง.." คุณนายแจ่มจรัสพยายามอธิบายให้ลูกชายฟัง แต่ชัดชายกลับทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในคำพูดนั้น ด้วยยังจำคำของบิดาที่ พร่ำบอกกรอกหูมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ว่า ตาของตนเองกีดกันความรักของพ่อกับแม่ แล้วไล่ให้พ่อออกจากบ้านเนื่องจาก พ่อเป็นคนจน จากนั้นพ่อก็พยายามขอลูกสองคนมาเลี้ยงเอง แต่แม่ไม่ยอมให้ทั้งหมด แม่เลือกแฝดคนเล็กให้พ่อ ตนเอง เอาแฝดคนโตไว้เลี้ยงเอง.... แม้มารดาจะพยายามอธิบายอย่างไร นายชัดชายก็หาได้เชื่อถือยังคงจำคำพูดกรอกหูของคน เป็นพ่อไว้ไม่ลืมเลือน

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น