AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2565

แฟนกู ภาค 3 ตอน 3 ยอม

แฟนกู ภาค 3 ตอน 3 ยอม
โดย magna67t

 นอนอย่างนี้ไม่รู้เรียกว่าหลับ สลบ หรือหมดสติ  แต่คราวนี้ผมหลับไปนานมากจริงๆ  ผมตื่นอีกครั้งก็รู้ว่ามันเช้าแล้ว

   “ไงคะ...พ่อน้องรหัสปี 1  เล่นมีดกันแบบนี้... ระวัง..ไส้มันไหลตามออกมาด้วยนะคะ”
   “พี่จัมโบ้..”  ผมพยายามยกมือไหว้พี่โบ้
   “ไม่ต้องค่า ไม่ต้องๆๆๆ  นอนนะค่ะ..คุณน้องโบ๊ต  ดีนะเนี่ย  พี่เดินลงมาพอดี  พี่เลยเย็บให้แล้ว 12 เข็มเองค่ะ”
   “พี่ขอบคุณครับ  โมโนล่ะครับ”
   “พี่ให้กลับไปกะน้องบีทแล้ว  เดี๋ยวสายๆคงมามั๊ง  พี่ไม่ถามนะว่าเล่นอะไรกัน  แต่พี่ว่านะโบ๊ต  บางเรื่องมันต้องคุยกันนะ  คุยก่อนนะน้องนะ  จำคำพี่ไว้นะจ้ะ  อย่าเพิ่งรุนแรง  อย่าหักหาญ  คุยก่อนค่า  คราวนี้มันไม่ลึกนะคะ  คราวหน้าถ้าลึกอ่ะ  มันอาจเลยเข้าไปตัดไส้ติ่งได้นะคะ 55555”
   “ครับพี่  ผมขอโทษครับ”
   “พี่ขึ้นหอก่อนนะ  เดี๋ยวพี่หมอปี 5 ดูให้ต่อ  ถ้าไม่มีไรก็กลับได้วันนี้นะ”

   สายๆของวันอาทิตย์  โมโนมาพร้อมกับน้องบีท  หน้าตาของโมโนไม่ต้องบอกเลย  ร้องไห้หนักหนาสาหัส  ตาบวมมากๆ
   “พี่โบ๊ต ฟื้นแล้ว...”
   ผมยกมือขวาขึ้นลูบหัวน้องสาวคนเดียวของผม
   “ป๊าแม่รู้มั๊ยอ่ะ  บีท”
   “ไม่หรอก  บีทกะว่าจะบอกวันนี้...ถ้าพี่โบ๊ตยังไม่ฟื้น  พี่ไม่ต้องบอกหรอกว่าเกิดไรขึ้น พี่โมโนมาบอกหมดแล้ว”
   “เอ่ออ...พี่...”
   “ไม่เป็นไรหรอก  มันอุบัติเหตุ  พี่โมโนไม่ได้ตั้งใจ อย่าโกรธพี่เค้านะ  เอาหละเดี๋ยวบีทไปจัดการเรื่องจ่ายเงินนะ  พี่อยู่กะพี่โมโนไปก่อน  เดี๋ยวมานะคะ  แล้วค่อยกลับบ้านกัน”
   
   พอน้องบีทหันหลังเดินออกไป  โมโนก็เดินเข้ามาข้างเตียงจับมือผมแน่น  เธอร้องไห้อีกแล้ว
   “อยากเห็นม้ามของเราก็ไม่บอก...”
   “โบ๊ต...อ่ะ...โมโนขอโทษษษษ”
   “เออ ไม่ตายหรอก   เมื่อคืน โบ๊ตก็แกล้งโมโนมากไปจริงๆแหละ  ขอบคุณนะที่เตือน”
   “ไม่เอาอ่ะ  โมโนไม่ต้องการแบบนี้  แต่ตอนนั้น...มัน..เอ่อ... สัญชาตญาณน่ะ”
   “เข้าใจ...  โบ๊ตไม่ว่าอะไรโมโนหรอก  แต่ว่า..โมโนบอกน้องบีทว่าไงอ่ะ”
   “บอกไปว่าเราเอาคัตเตอร์  จะมาไล่จิ้งจกแต่หลุดมือลงไปโดนโบ๊ต”

   ผมถึงกะหัวเราะจนเจ็บแผล
   “พี่โบ้ถามมั๊ยว่าทำไม”
   “ก็บอกแบบเดียวกัน”
   “พี่โบ้คงไม่เชื่อหรอก พี่เค้าฉลาดขนาดนั้น  พี่เค้ายังแถมเตือนสติราวกับรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น”
   “โมโนขอโทษนะ  ขอโทษจริงๆ”

   เรานั่งแท๊กซี่กลับ  ตอนนี้มันเจ็บระบบมากๆ  ผมยังอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดไป  พอถึงบ้านสองสาวก็รีบจัดการหาข้าวมาให้ผมกิน
   “เรากะว่าจะโดดเรียนอาทิตย์นึงนะ  ดูแลโบ๊ต”

   นั่นไง..ใครว่าเธอไม่มีใจ  แต่ผมต้องเป็นพระเอกก่อน
   “เฮ้ย ไม่ต้องนะ..โมโน  แล้วโมโนจะให้เราบอกป๊ากะแม่ว่าไง  ไม่ได้หรอก  ไปเรียนเหอะ  เดี๋ยวเรากะบีทจัดการเอง”
   “เออ จริง...ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่โมโน เดี๋ยวบีทดูแลได้  คราวหน้าก็มานอนห้องบีทนะ  ห้องพี่โบ๊ทจิ้งจกแยะ”
   
   บ่ายวันนั้น บีทขับรถไปส่งโมโนที่ศาลายาแทนผม  จริงๆก็ไม่เป็นอะไรมาก มันเจ็บตึงระบมที่แผล  แต่ผมก็ทำอะไรได้ตามปกติหลังจากได้นอนยาวๆในบ่ายวันนั้น  บีทบอกว่าจะไม่ให้ป๊ากะแม่รู้ก็ได้นะ  พี่โบ๊ตอย่าโวยวายแล้วกัน   พี่หมอโบ้โคตรสุดยอด  ทำแผลผมอย่างเนี้ยบมากๆ  มีปิดเทปกันน้ำ ทำให้ผมอาบน้ำได้อย่างสบายใจสุดๆไม่ต้องห่วงแผลเปียกน้ำ  แต่ผมต้องออกจากทีมบาสอย่างน้อยสองอาทิตย์.....

   ผมยังคงไปเรียนตามปกติ  โมโนโทรมาหาผมทุกวันถามอาการความเป็นไปของบาดแผลที่เธอฝากเอาไว้   ผมคิดถึงมือมีดคัตเตอร์มากๆ   ไม่รู้สิ..แม้เธอจะเป็นคนกรีดเอวผม  แต่ผมกลับคิดถึงแฮะ  ผมว่าเราสนิทสนมกันมากขึ้น  โมโนเองก็ลดความหยาบกระด้างกะผมลงไปมากตั้งแต่เอาคัดเตอร์มากรีดผม  เธอเปิดใจให้ผมมากขึ้น  ยอมคุยกันดีๆมากขึ้น   แต่ถึงกระนั้น...

   “ศุกร์นี้คงไม่ได้เข้าไปนะโบ๊ต  เราจะอ่านหนังสือสอบแล้ว”
   “มาอ่านที่บ้านเราก็ได้  นะ... มาช่วยหน่อยดิ  นะ นะ นะ คิดถึงโมโน...เอ่อม  มากด้วย”
   “ไม่เอาอ่ะ   เดี๋ยวไปอ่านแล้วเกิดมีคนอดใจไม่ไหว  โมโนต้องกรีดอีกแผลแล้วจะลำบาก”
   “โห..อย่าดิ..  กลัวนะ  แล้วจะมาเมื่อไหร่....”
   “สอบเสร็จจะไปหาเลย  โบ๊ตจะมารับหรือเปล่า อยากนั่งรถเมล์นะรอบนี้”
   “เอาเลย  บอกแล้วกัน...จะไปรับ”

   ผมเองก็สอบ  เราเลยห่างๆกันไปถึงสามอาทิตย์เต็มๆ  โมโนโทรเข้ามาน้อยลง  ผมโทรไปก็คุยกันแค่สั้นๆ  เด็กเรียนก็ประมาณนี้  ถึงเวลาจะสอบไม่สนใจโลกไหนใดๆทั้งสิ้น   น้องบีทเป็นคนพาผมไปตัดไหม   ผมคิดถึงคนก่อเรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ  ใจนึงก็กลัวว่าเธอคงจะโกรธผมที่ผมไปลวนลามเธอ  ผมกลัวสู้หน้าเธอไม่ได้

   “วันศุกร์สอบเสร็จแล้วนะ  โบ๊ตสอบเสร็จหรือยัง  หยุดสามวันแน่ะ  ที่หอไม่เหลือใครเลยอ่ะ กลับบ้านกันหมด”
   “เสร็จ  แต่ว่าสี่โมงอ่ะ กว่าจะไปถึง เร็วสุดเราว่าน่าจะห้าโมงครึ่งนะ  รอไหวมั๊ย  หรือจะให้ขับรถไป เร็วหน่อย”
   “ไม่เอา  อยากนั่งรถเมล์   มาถึงก็โทรมานะ”

ผมสอบมิดเทอมเสร็จวันศุกร์  โคตรเหนื่อย...บอกตามตรง  วันนี้เจ้าบีทก็กลับบ้านไปอยู่กะป๊าแม่ด้วย  ผมไม่ได้นั่งรถเมล์ไป  แต่ไปกะเจ้าบีท  บีทแวะเข้ามาส่งผมที่ห้องสมุด ศาลายา  แล้วเธอก็ขับรถกลับบ้านไป  โมโนเดินลงมากะไอ้ปั้น  ไอ้ปั้นพอเห็นหน้าผมมันทำท่าประหลาดใจ แต่ก็โบกมือทักทาย
   “ไอ้โบ๊ต  มารับโมโนเหรอวะ   มาบ่อยไปแล้วมั๊งมึง”
   “เออ  กูมาช่วยหิ้วกระเป๋าเฉยๆ  ไม่ได้มารับ...แค่กลับบ้านทางเดียวกัน 5555”
   “เชี่ยแม่ง  อย่ามาตอแหล  มึงเรียนที่นี่เหรอ  แหม แหม...กลับบ้านด้วยกัน...”

   วันนี้ฟ้าใส...ไม่มีฝนตก  แต่วันศุกร์ปลายเดือน...แล้วยังจะหยุดยาวอีก  แค่นี้ก็พอทำให้รถติดมหาศาลแล้ว  โมโนเองแรกๆก็คุย  สักครู่พอเงียบไปเท่านั้นแหละ  เธอก็หลับลงไปแล้ว  คงจะเหนื่อยจากสอบ  แต่คราวนี้ไม่ได้เอาหัวมาพิงที่ไหล่ผม  เธอเอนไปทางหน้าต่าง  ผมจับหัวของโมโนมาพิงไหล่ผมแทน  และเอามือลงไปจับมือของโมโนเหมือนเดิม  แค่นี้ผมพอใจมากแล้ว   ผมแปลกใจว่าทำไมผมรู้สึกดีกะโมโนมากขึ้นเรื่อยๆ  ถึงแม้เธอจะกรีดเอวผมมารอบนึงแล้ว

   “โมโนจะไปบ้านพี่ป้องหรือเปล่า  จะได้ไปส่ง”
   “เราคงไม่ไปหาพี่ป้องแล้วหละ  พี่ป้องเค้าคืนดีกะพี่โบนัสแล้ว  เราไปนอนห้องน้องบีทได้มั๊ย”
   “ไม่ได้มั๊ง บีทไม่อยู่ กลับไปหาป๊าแล้ว”
   “เฮ้ย.... งั้นเราก็...”
   “อยู่กะโบ๊ตไง...”

   ผมพูดจบ...โมโนก็ก้มลงไปในกระเป๋าหยิบคัตเตอร์ออกมาอีกครั้ง  ผมจำได้ว่ามันเป็นอันเดียวกันกับที่ได้กินเลือดผมไปแล้ว   ผมถึงกับขนลุกและกระเถิบตัวออกห่างโมโน  เธอหัวเราะ... ไม่นานนักรถเมล์ก็พาเราก็ถึงร้านทอง  เยาวราชยามค่ำไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรกิน  จากนั้นผมก็พาโมโนขึ้นมาบนห้องทีวี
   “ยัยบีทมันล้อคห้องแน่ๆเลย”
   “ไม่เอาอ่ะ  ห้องเธอจิ้งจกแยะ”
   “ง้านก็....นอนห้องทีวีไปนะ”
   “ไม่เอาอีก  นอนห้องเดียวกัน  แต่ห้ามมายุ่งกันนะ”
   “เออน่า กลัวแล้ว...โดนคราวนี้อาจตัดจู๋ไปเลยก็ได้ 5555”

   โมโนได้นอนไปบนรถแล้ว  แต่ผมไม่ได้งีบเลย  เหนื่อยเหมือนกัน  ผมฟังโมโนพูดอะไรไปเรื่อย  ถึงตอนที่กำลังเธอเล่าถึงไอ้ปั้นเพื่อนผม    ผมง่วงเหลือเกินแล้ว  ผมหลับไปที่พื้น...

   นานแค่ไหนไม่รู้  ในความเงียบสนิท  ผมได้ยินคนมากระซิบที่ข้างหู
   “อีตาโบ๊ตเอ๊ย  จะจีบเราใช้ม๊า  รู้นะ..ว่าชอบเราตั้งแต่วันแรกแล้ว  ทำไมไม่กล้าหน่อยว๊า  ก็บอกสิ  บอกตรงๆเลยอยากเป็นแฟน  อย่าซื่อบื้อเหมือนพี่รหัสนะ”
   
   ผมได้ยินชัดเจนด้วยสติที่ครบสมบูรณ์  ผมยังรู้สึกถึงหัวของโมโนที่วางบนหน้าอกผมอยู่มือทั้งสองของเธอกอดคอผม  ผมว่าผมฝันไปนะ..
   “โมโนขอโทษนะ  คราวแล้วไม่ได้ตั้งใจ  ไม่รู้ว่ามีดมันเปิดอยู่  ตั้งใจจะเอาไปจิ้มพุงขู่เฉยๆ  กลายเป็นกรีดโบ๊ต  เจ็บมั๊ยอ่ะ  แต่ดีแล้ว  เห็นรอยจะได้นึกถึงเรา”

   ผมว่าผมฝันไปจริงๆ...  มือที่เย็นเฉียบของโมโนจับลงมาที่แก้มผม  ผมยังหลับตาอยู่ และไม่นานนักปากของผมก็สัมผัสกับสิ่งที่นิ่มมากและหอมหวานที่ประกบลงมา  ผมฝันไปแน่นอน...

   “รู้นะ  อยากนอนกะโมโน...ไหนดูซิว่ากล้าพอหรือเปล่า”

   “โมโน...  โบ๊ตชอบโมโนนะ  เราบอกนานแล้ว  โมโนไม่เคยสนใจ  เอาแต่ดุเรา... เราชอบมากกว่าเพื่อนคนนึง  เราขอเป็นแฟนโมโนได้มั๊ย...”

   ปรากฎว่าหัวที่มานอนทับอกผม  มือที่กอดคอผมมันหลุดหายไป  ตามมาด้วยเสียงโครมครามเดินขึ้นไปบนที่นอน  แต่เจ้ากรรม...โมโนสะดุดผ้าปูนอนของผม  หัวเธอพุ่งโหม่งเข้ากับกำแพงดังสนั่น  ผมลุกพรวดพราดขึ้นมาทันที...

   “เฮ้ย.. โมโน”
   
   ผมพุ่งพรวดเข้าไป  ดึงโมโนแล้วเอาเข้ามากอดแน่น  เธอคงตกใจมากๆ  โมโนเหมือนเด็กๆเลย  นั่งร้องไห้  ตรงหน้าผากมีปูดนูนออกมา  ผมตรวจดูก็ไม่เห็นว่าแตก

   “เป็นไรไป  โมโน  โดนอะไร  ยังมีสติหรือเปล่า ไปหาหมอมั๊ย จะตายมั๊ยเนี่ย”
   “โบ๊ต...มึนอ่ะ  ทำไงดี..มึนๆ”
   “นั่งพักเดี๋ยวนะ  เล่นอะไรอ่ะ...เล่นกะจิ้งจกอีกเหรอ...”
   “ไม่.. โมโนเดินจะขึ้นเตียงแล้วสะดุดผ้าปูนอนของโบ๊ตอ่ะ”

   ผมลุกไปหยิบยามาทาให้  มันปูดใหญ่มาก  ผมไม่กล้าบอก  แต่เจ้าตัวคงรู้
   “มานี่เลย...”  ผมดึงตัวคนรุ่มร่ามมากอดอีกครั้ง  แต่ตอนนี้เหมือนเจ้าตัวรู้ตัวแล้ว  เธอพยายามสะบัดหนี
   “เดี๋ยวก่อน...นั่งเฉยๆ  ไม่ต้องกลัวน่า...  หายตกใจแล้วโบ๊ตไปเอง  ไม่ต้องแทงนะ  เดี๋ยวบาดเจ็บสองคน”
   “ไอ้บ้า  มาหลอกกอดเรา”

   ผมโดนด่า... แต่แปลกแฮะ...คนที่ด่าผม กลับไม่ดิ้นและไม่หนี
   “ไม่หลอก  กอดจริงๆ  อย่าเป็นไรไปนะ  เป็นห่วง”
   คำเหล่านี้หาได้จากเนตทั่วไป  แต่ว่ามันมีอานุภาพมากมาย  โมโนเองได้ยิน...ถึงกับยอมให้ผมกอดเฉยๆเป็นเวลานาน
   “เอ่อ... ลืม... โบ๊ต..ไหนขอดูแผลหน่อยสิ”
   ผมก็ถอดเสื้อออกเลย  โมโนตาค้าง  ความจริงแค่ดึงเสื้อขึ้นเล็กน้อยก็เห็นได้แล้ว  แต่ผมจงใจโชว์ส่วนสัดให้โมโนเห็น 555  และเธอก็หลับตา
   “ไอ้บ้า...โบ๊ต  ใส่เสื้อเลย  แค่เปิดนิดเดียวก็พอ”
   “ไม่ต่างกันหรอกนะ  ดูไปเหอะ  ผู้ชายไม่มีนมใหญ่มากมายเหมือนผู้หญิง  ไม่อายหรอก 55555”
   
   เธอลืมตามองผม  ผมเอียงตัวด้านซ้ายให้ดู  แผลผมสนิทดีแล้ว ฝีมือพี่โบ้เนี้ยบสุดๆ  เป็นแนวตรงสวยงามและเล็กมากๆ
   “เมื่อกี้โบ๊ตรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไร หรือละเมอ”
   “ไม่ละเมอ  รู้ตัวตลอด...พูดใหม่ก็ได้  โบ๊ตชอบโมโน  โบ๊ตขอเป็นแฟนโมโนนะ”

   แรงๆแบบนี้  โมโนเขินอายไปเลยทีเดียว
   “แล้วโมโนล่ะ  รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมามั่ง”
   “เฮ้ย  ไม่ได้หลับเหรอ...”
   “หลับ..แต่มีคนปลุกมาตื่น”
   “ไอ้บ้า  อย่าบอกว่าได้ยินหมดนะ”
   “ไม่ใช่ได้ยิน สัมผัสก็รู้ด้วย  ที่ได้ยินคือแค่เนี้ย... ก็บอกสิ  อยากเป็นแฟน  อย่าซื้อบื้อเหมือนพี่รหัสนะ”

   โมโนอายมากๆ ผมจับโมโนหันหน้ามาประจันหน้ากัน
   “โบ๊ตชอบโมโน  โบ๊ตขอเป็นแฟนโมโนนะ”
   แล้วผมก็ดึงคนจอมดุเข้ามากอดเลย  คราวนี้ไม่มีปฏิเสธ..เธอยอมแล้ว   ผมเอาคางเกยไหล่โมโน
   “คนดีของเรา  บอกจริงๆเลยนะ ชอบตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้วอ่ะ...”
   “อีตาบ้า  ขอเป็นแฟนในห้องนอนเนี่ยนะ  ดอกไม้มีมั๊ย  ไม่มีไรเลย...”
   “ก็ถอดเสื้อให้ดูแล้วไงล่ะ..หรือจะให้ถอดกางเกงด้วย”

   มีคนทุบผมที่หลังเต็มๆ
   “ทะลึ่ง”
   “แต่อยากให้ถอดใช่มั๊ย”
   แล้วผมก็ไม่ฟังเธอพูดอีก  ผมถอดกางเกงจริงๆ  เหลือแค่กางเกงในเท่านั้น......

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น