AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รักไม่นับตัวเลข ตอนอวสาน

รักไม่นับตัวเลข ตอนอวสาน 

รักไม่นับตัวเลข ตอนอวสาน “จากความรักไม่จำกัดเลขแห่งอายุหวนคืนสู่ความรักจนตราบเท่าที่ยังมีชีวิต” “ทำไมพี่บรีมกับคุณแม่ถึงมาไม่ได้?” “เพราะคุณพ่ออยากให้บรีนกลับ...พรุ่งนี้ค่ะ” “หรือว่า...ท่านยังทำใจยอมรับไม่ได้ที่จะให้ผมคบกับบรีน?” “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ...เคนอย่าเพิ่งเข้าใจผิด” “แล้วจะให้
เข้าใจเป็นอื่นอีกได้หรือ?...ไม่!!...ผมไม่ให้บรีนไป!!!...รึถ้าจะไปก็ขอฝากหลานให้คุณพ่อสักคนก่อนล่ะกัน” “ว้าย!!!!...เคนนี่ล่ะก็~~” “เคนพูดจริงนะ!!!...บรีนพร้อมมีให้เคนหรือเปล่าครับ?” “คือว่า...” “............................................” “ค่ะ...บรีนอยากมีลูกกับเคน...อยากมีที่สุด” “งั้นเหตุผลแค่นี้ก็พอแล้วที่ผมจะไม่ให้บรีนกลับไปที่นั่น” “โธ่~~...ฟังก่อนสิคะ...คุณพ่อท่านอยากให้บรีนไปช่วยงานที่บริษัทต่างหาก” “ข้ออ้างทั้งเพ!!!” “พี่บรีมก็ด้วย...เธอจะกลับเมืองไทยเป็นการถาวรและเข้าทำงานพร้อมกับบรีนเพื่อช่วยแบ่งเบางานของคุณแม่จ้ะ” “ถ้าอย่างงั้น...งานที่บรีนทำกับคุณอาตอนนี้?” “คุณอาบอกว่าให้บรีนกลับไปช่วยคุณพ่อเถอะ” “ทั้งนั้นแหละ!!!...ใครๆก็ต้องการพรากบรีนไปจากผม” “เคน--” ............................................................................................................... 4 พฤศจิกายน 2548 “อีกประมาณ 10 นาทีขบวนรถด่วนดีเซลรางปรับอากาศขบวนที่ 12 เชียงใหม่ปลายทางกรุงเทพฯจะเข้าจอดเทียบในชานชาลาที่ 2 ผู้ประสงค์จะโดยสารโปรดนำสัมภาระและสิ่งของรอขึ้นขบวนรถในชานชาลารางที่ 2 ครับ” “ทั้งที่เราเพิ่งจะได้อยู่ด้วยกันแค่วัน 2 วันเองนะ...บรีนไม่อยู่ผมจะนอนกอดใคร...ต้องนอนเหงากายเหงาใจเพียงคนเดียวแน่เลย” “ไม่เอา...เคนอย่างอแงเป็นเด็กๆสิคะอีกอย่างก็ไม่ได้จากกันชั่วชีวิตสักหน่อย...เราสองคนต้องพยายามมากแค่ไหนกว่าที่จะมีวันนี้...ดังนั้นเราจะต้องได้อยู่ด้วยกันตลอดไปแน่ๆค่ะ” ..................................................................................................................... ...ขบวนรถด่วนวิ่งไหลเข้ามาในตัวสถานีพิษณุโลกช้าๆโดยจะจอดประมาณ 10 นาทีเพื่อเติมน้ำและตรวจเช็คสภาพ...บรีนบอกจะเอาของขึ้นไปไว้แล้วรีบลงมาเพื่อต้องการอยู่กับผมให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ในระหว่างที่ขึ้นไปนั้นเธอชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง... “ขอโทษค่ะ!!” “...........................................” ...หญิงสาวคนนั้นยิ้มกลับมาในเชิงความหมายว่าไม่เป็นไร...ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้!!!...ผมไม่ได้เห็นพวกเธอซะนาน...จริงสิ!!!!...เพราะนี่มันใกล้จะเปิดเทอมใหม่แล้วนี่หว่า... “โฮ่ย~~...พี่ช่วยหิ้วถุงกะกาเป๋าหน่อยเด้!!...ใจคอจะให้น้องถือคนเดียว...มันหนักน๊า~~” “............................................” “ทำเฉย?...หงึ!!...ใจร้าย~~...ใช้แรงงานน้องนุ่ง” “อย่าบ่นมากได้มั้ย?...ที่มันหนักก็เพราะบรรดาของฝากที่เธอซื้อทั้งนั้น” “อ้าวพี่!!...ไม่รู้จักหิ้วของติดไม้ติดมือมาฝากเดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราไม่มีน้ำใจนะจ๊ะ...เนี่ย--...แคบหมูน้ำพริกหนุ่มส่วนนี่กุนเชียงเจ้าอร่อยในลำปาง...ทางนี้ก็ของฝากจากอุดรบ้านเรา...เครื่องดื่มมึนเมาที่ตาบอลจะต้องชอบและติดใจแน่นอน” “เออ--” ...สาวผู้พี่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำนุ่งกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีครีมสวมรองเท้าหนังสีขาวปลอดส่วนสาวผู้น้องใส่เสื้อยืดสีขาวพิมพ์ลายชินจังนุ่งกางเกงยีนส์สวมรองเท้าแตะดูน่ารักน่าชังส่วนนายตำรวจที่ลงจากรถมาก่อนหน้าคนนี้ผมเคยเห็น...เขามักไปฝึกเทควันโด้ที่สำนักของพี่จุนบ่อยๆและคนอื่นชอบเรียกเขาว่า “ผู้กองชาติ” อีกทั้งยังเป็นคนเดียวกับที่ผมเห็นที่สระว่ายน้ำตอนไปกับพี่จุน... “ฝนจะไปซื้อกาแฟดื่มแก้ง่วง...ของฝากไว้ที่พี่ก่อนนะจ๊ะ” “ซื้อน้ำเปล่ามาฝากด้วย...เอ๊ะ?...แบมือทำไมน่ะ?” “ก็ตังค์ไง” “จะออกไปก่อนไม่ได้หรือไง?...เอ้า!!” “นี่ลืมไปแล้วเรอะพี่จ๋า?...หนูฝากเงินไว้ที่พี่ทั้งหมดนิ” ...ทั้ง 2 พี่น้องยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด...บรีนลงจากรถมานั่งข้างๆผมและถาม... “เคนรู้จักผู้หญิงคนนั้นหรือคะ?...เห็นมองเธอจัง” “เธอคือพี่แคทที่ผมเคยเล่าให้ฟังไงครับ” “อ๋อ!!...สาวรุ่นพี่คนนี้เองที่เคนแอบปลื้มนักหนา...ตัวสูง...รูปร่างสมส่วน...แหม~~...หน้าตาก็ยังสะสวยมากเลย...ขนาดบรีนเป็นผู้หญิงยังอดชื่นชมไม่ได้...” “ไม่ใช่นะครับ!!!!...เคนยอมรับว่าเมื่อก่อนแอบชอบพี่แคทแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว...ผมมีบรีนอยู่ในใจเพียงคนเดียวเท่านั้น” “รีบแก้ตัวเชียวนะคะแต่บรีนก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย...มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิดที่เคนจะเคยแอบชอบเพราะเธอสวยมากจริงๆ” ...ผมรีบคว้าบรีนมากอดและพูดปลอบประโลมเพราะฟังจากโทนเสียงก็ชักรู้สึกว่าสาวคนรักจะมีความหึงหวงนิดๆแล้ว... “อย่าได้สงสัยอีกเลยนะจ๊ะสุดที่รักของผม...เวลานี้ทั้งกายและใจของผมเป็นของบรีนจนหมดสิ้น...ต่อไปห้ามพูดตัดพ้อแบบนี้อีกนะรู้มั้ย?” “...ก็บรีนอดหึงเคนไม่ได้นี่~~” ...หญิงสาวเอนศรีษะซบแผ่นอกชายหนุ่มพลางเผยความในใจออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและสายตาอันวิงวอน...ผมเชิดคางขึ้นและประทับจูบกลางหน้าผากบรีนด้วยความตื้นตันในหัวอก... “กว่าที่เราจะครองคู่กันต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมากมาย...บรีนไม่อยากจากเคนไปไหนอีกเลยจริงๆนะคะ” “ตัวผมก็ไม่ต้องการจากบรีนไปแม้สักเสี้ยววินาทีเดียวเช่นกัน...อีกไม่ถึง 5 นาทีรถไฟก็จะออก...ดีล่ะ!!!!...เคนจะไปกับบรีน” “อะไรนะคะ?” “ไม่มีอะไรจะมาพรากความรักของเรา 2 คนได้!!!...จะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อการพลัดพราก...เคนจะไปพบคุณพ่อของบรีนด้วย...เคนเชื่อว่าท่านจะต้องเห็นใจพวกเรา” “เดี๋ยวสิคะ!!!...แล้วเรื่องเรียนล่ะ?...อีกอย่างคุณพ่อก็...” “ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นครับนอกจากต้องการจะพิสูจน์ความจริงใจและความรักที่มีต่อบรีนให้คุณพ่อได้ประจักษ์!!!!” (แปะๆๆๆ) “ฝน?” ...สาวน้อยวัยกระเตาะยืนปรบมือก่อนเดินเข้ามาหาพวกเรา... “พูดได้ดีนิ!!!...ถึงฉันจะไม่รู้เรื่องอะไรก็เถอะแต่ต้องขอชื่นชมกับความกล้าของนายนะเคน” “เธอ...เธอรู้ชื่อฉันได้ยังไง?” “ไม่รู้ก็แปลกแล้ว...คือคุณผู้หญิงตอนเดินสวนกับฉัน...เธอเอ่ยแต่คำว่าเคนซ้ำไปซ้ำมา” “คุณได้ยิน?” “แหะๆ...ขอโทษนะคะที่ฉันหูไวดันไปได้ยินเข้า...ถึงแม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ก็ขอพูดอะไรสักนิด...ในเมื่อทั้ง 2 ไม่อยากพลัดพรากก็จงอยู่ร่วมกันตลอดไปสิคะ” “ฉันต้องการอย่างนั้นยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดในโลกนี้ค่ะ...แต่คุณพ่อฉัน...” “คือฝนยังเด็กอยู่มากและไม่ถนัดกับเรื่องรักๆใคร่ๆนี่จึงไม่ขอบังอาจออกความเห็นส่วนตัวให้ขายหน้าน่ะค่ะ...แต่!!...ขอให้พวกคุณจงมีความกล้าและความหวังเป็นเครื่องคุ้มครองใจไว้เถิดนะคะ” “ความกล้า...” “...ความหวัง” “ใช่แล้ว!!!...ความกล้าคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้มนุษย์สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้ส่วนความหวังก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกันเพราะถ้าไม่มีความหวัง...เราก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว...หายใจอยู่ไปวันๆไม่มีอะไรดีขึ้นมา” “ขอบคุณ...ขอบคุณมากค่ะ...คุณได้มอบความกล้าให้ฉันอีกแล้ว” “เอ๋?” “ขอขอบคุณเธอมากจริงๆนะฝน...ความฝันของเรา 2 คนผมสัญญาว่าจะต้องทำให้สำเร็จ” “หึๆ...นายนี่เติบโตขึ้นมาก...ยินดีด้วยๆ...ต่อไปนี้ขอให้ทั้ง 2 คนสมปรารถนาดังใจหวังนะคะ” (เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง) “ค่ะ...คุณพ่อ” “...............................................” “อะไรนะคะ?” “...............................................” “จริง...จริงหรือคะคุณพ่อ!?” “!?” ...หญิงสาวโผร่างเข้ากอดผมแน่นแต่ไม่ยอมบอกอะไรเลยสักคำ...ถามก็ไม่ตอบ... “มีอะไรหรือครับ?” “พ่อ...คุณพ่ออยากพบเคนค่ะ” “หา?...จริง...นี่เรื่องจริงหรือ?...เอ่อ--...ท่านมีอะไรจะคุยกับผมล่ะเนี่ย?” “ค่ะ...ท่านสั่งให้เคนเดินทางไปพร้อมกับบรีนซะด้วยกันเลยและย้ำว่าถ้าไม่ไปก็อย่ามานับถือเป็นพ่อตา” “ไชโย!!!!!...ฮ่าๆๆๆๆๆ...สำเร็จ...สำเร็จแล้ว!!!!!!!!!” “ว้ายเคนอ่ะ~~~...คนมองใหญ่แล้ว!!!!” “ไม่มีอะไรให้ต้องอายครับ!!!...ดีซะอีกที่ทุกคนจะได้เป็นสักขีพยานในความรักของเคนกับบรีน” ...ผมแหกปากร้องตะโกนอย่างลิงโลดก่อนจะตรงเข้ายกตัวว่าที่ภรรยาในอนาคตแล้วหมุนไปรอบๆจนไม่ทันสังเกตว่าฝนกำลังเดินจากพวกเราไปช้าๆพร้อมยกนิ้วโป้งให้...บรีนน้ำตานองหน้าด้วยความดีใจอย่างล้นเหลือซึ่งเธอยิ้มและก็ร้องให้เหมือนกับเด็กๆ...ท่ามกลางเสียงคนในบริเวณที่พูดคุยกันด้วยความสงสัยบางคนก็ปรบมือให้ทั้งที่ไม่รู้เรื่องราวรวมไปถึงเสียงหวูดรถไฟที่ส่งสัญญาณเตือนว่ากำลังใกล้จะออกจากสถานีแล้ว... “คุณผู้โดยสารเชิญขึ้นขบวนรถได้แล้วค่ะ” “บรีน...ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าอนาคตหรือความสุขของเราก็ล้วนจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บัดนี้ไปนะครับ...แม้จะมีกำแพงที่สูงชันหรืออุปสรรคต่างๆนาๆมาขวางกั้นแล้วมันจะแน่นหนาแข็งแกร่งหรือยากลำบากเพียงใด...ความรักของเราที่มีให้กันและกันมันก็จะพังทลายจนหมดสิ้น!!!!” “ค่ะ...เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป...จะไม่มีใครสั่นคลอนขัดขวางความรักอันมั่นคงของสองเรา!!!!” ...น้ำตาแห่งความสุขสมหวังยังหลั่งรินไหลอาบแก้มหญิงสาวอย่างไม่ขาดสาย...ไม่ว่าจะทั้งสุขหรือทุกข์สิ่งนี้มันก็ช่วยทำให้คนเราเข้มแข็งขึ้นเติบโตขึ้นพร้อมทั้งลุกเดินหน้าต่อไป...ผลตอบแทนจากความรักที่ไม่นำพาต่อตัวเลขได้กลับคืนมาสู่เรา 2 คน ณ บัดนี้แล้วจะกลายเป็นความรักที่ยืนยงถาวรจนตราบเท่าที่ยังมีชีวิต... รักไม่นับตัวเลข อวสาน. ................................................................................................................. ...หลังจากที่ขบวนรถด่วนเที่ยวล่องเคลื่อนตัวออกจากสถานีไปแล้ว... “ขบวนรถที่กำลังจะเข้าจอดเทียบชานชะลารางที่ 2 เป็นขบวนรถเร็วเที่ยวขึ้นรับส่งผู้โดยสารจากกรุงเทพฯปลายทางสถานีเด่นชัย...” “เมื่อไหร่สากับหนูอ้อยจะซื้อของเสร็จซะที?...เชอะ!!...แค้นใจเจ้าพี่บ้านั่นนัก...ไม่มารอรับพวกเราได้ยังไง?” “เขาอาจจะติดธุระสำคัญอยู่ก็ได้” “จะมีธุระอะไรสำคัญกว่าการมารอรับน้องสาวผู้น่ารักคนนี้...อื๋อ?...พี่แคท!!!!” “ฟิ้ว~~...เอาจนได้...ฝน...น้องเคยบอกว่าป้อมอาจจะดักรอที่ไหนสักแห่งเพื่อคอยเล่นงานเรา...” “ใช่ค่ะ...แต่ไม่นึกเลยว่าเจ้านี่จะมาจองกฐินกันตั้งแต่สถานีรถไฟเชียว!!!” ...บริเวณกลางเสาของชานชะลาสถานีปรากฏเข็มสีทองยาวประมาณครึ่งไม้บรรทัดปักอยู่โดยห่างจากใบหูของสาวแคทเพียงไม่ถึงขนาดความยาวของนิ้วก้อย... “เข็มเล่มที่ 7?” “อยู่ไหน?...ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” “ออกมาสิน้องป้อม!!...เรามาพูดคุยกันดีๆตามประสาพี่น้องเถอะ...พี่สาวคนนี้จะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเอง” “.........................................” “.........................................” “ไม่ยอมออกมาเจรจากันรึ?...งั้นยึดไอ้นี่ล่ะนะเจ้าป้อม...เหะ!!...ช่างให้เกียรติพวกเราซะจริงๆเพราะเท่าที่ฉันรู้น่ะเธอยังไม่เคยนำเข็มทองคำมาใช้กับใครเลย...ใช่มะ?” “.........................................” “นั่นไง!!!...มันกำลังขึ้นไปอยู่บนสะพานลอยค่ะพี่แคท” “แล้วทำไมต้องยิ้มแสยะอย่างนั้น?” ...ที่สะพานลอยข้ามทางรถไฟพลันปรากฏร่างของเด็กหญิงผู้หนึ่ง...นั่นคือลูกพี่ลูกน้องคนเล็กสุดของแคทและฝนที่มีวัยเพียง 14 ปี... “พี่ลองเพ่งดูตาซ้ายที่ลุกวาวเป็นประกายของยัยตัวเล็กซึ่งปกติจะไม่ได้เห็นกันง่ายๆ...ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะต้องซ่อนอุบายอะไรบางอย่างไว้แน่นอน” “อุบาย?” “เราได้รู้แน่ค่ะ...ฝนจะไปจับตัวมันมาเอง!!!” ...สาวน้อยเดินเข้าไปใกล้ช้าๆแต่พยายามเงยหน้ามองเด็กหญิงข้างบนตลอด(ไม่ให้คลาดสายตา)ซึ่งอีกฝ่ายก็มองตอบลงมาแล้วฉีกยิ้มจนเห็นฟัน(เขี้ยว)ขาว...แต่ทว่า--...พอเท้าข้างหนึ่งของฝนแตะถูกขั้นบันไดขั้นแรกป้อมก็สับเท้าวิ่งจู๊ดลงอีกฝั่งอย่างเร็วจี๋ก่อนจะใช้ประโยชน์จากแมกไม้ช่วยอำพรางตัวหายไปโดยปล่อยให้อีกฝ่ายอ้าปากค้างยืนงงเป็นไก่ตาแตก... “เฮ้ย!!!!” “!?” “หน็อยแน่ะเจ้าบ้า~~...คอยจ้องตาเป็นมันเชียวนะยะ!!!...อุบายที่ว่าก็แค่เผ่นเท่านั้นเองเรอะ?” ...จะมีลูกพี่ลูกน้องที่ไหนทำแบบนี้กันบ้าง?...เด็กหญิงป้อมมอบรอยยิ้มให้ “พี่สาว” คล้ายกับว่าเป็นมิตรแต่กลับไม่ยอมอยู่แม้จะสนทนาซ้ำยังโกยแน่บไปต่อหน้าต่อตาอีก... “ถึงความเร็วจะเป็นรองฝนแต่ในรูปการนี้ป้อมได้เปรียบไม่มีเสีย...วันนี้เธออาจจะแค่มาทักทายพวกเรา” “จะอยู่คุยกันสักคำก็ไม่มี...หา!!!...ทักทาย?...พี่แคทพูดอะไรคะนี่?...เจ้ามะขามป้อมซัดเข็มทองคำปักเสาเฉียดหูพี่ไปแค่นิดเดียวเนี่ยนะเรอะ?” “ก็นั่นแหละคือการทักทาย...ถ้าหากมุ่งหวังจะทำร้ายก็คงพุ่งเข็มมาที่ตัวพี่แล้ว” “ฮึ่ย~~...ยัยตัวกะเปี๊ยกไม่กล้าหรอกแต่ไม่แน่ว่าตอนนี้มันคงจะหัวเราะเยาะเรา 2 คนจนท้องขัดท้องแข็งแล้วล่ะมั้ง?...เจ็บใจ!!” “ป้อมส่งข้อความมา...” “ท้ารบว่ายังไงคะ?” “...ขอฝากเข็มทองไว้ที่พวกพี่แล้วอีกไม่นานจะมารับคืน...เจอกันครั้งหน้ารับรองสนุกกว่านี้เพราะฉันกับพี่อ๋อมจะไปเยี่ยมเยียนถึงที่แน่นอน” “สาเหตุมาจากเรื่องที่เราคุยกันบนรถจริงๆ...เสือน้อยเข้าคู่กับนางพญาเสือ...นับว่าตึงมือมากถึงมากที่สุด” “ทำได้ดีจ้ะน้องรัก...พี่ภูมิใจในตัวป้อมมากนะ” “ฮึ้ย~~...มันจ้องจะตีกับเราอยู่ข้างพี่ยังไปชมอีก?” “ฝนฟังนะ...อ๋อมน่ะอาจต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อยจึงจะทำให้เธอเข้าใจแต่สำหรับป้อมคงคุยได้ไม่ยากหรอก...น้องก็รู้ดีนี่นา” “ก็หวังให้เป็นอย่างนั้นค่ะเพราะใจจริงหนูไม่ต้องการจะทะเลาะกับญาติพี่น้องตัวเองเลยสักนิด...เอ้ย!!!” “โวยวายอะไรอีกล่ะ?” “ดูท้ายขบวนรถเร็วที่วิ่งออกไปสิพี่...ยัย...ยัยตัวเล็กมันยืนอยู่ตรงนั้น!!...หนอย~~...เชิดหน้าใส่เราด้วย!!!” “ก็คงจะกลับโยนกทักษิณล่ะนะ” “ชิ!!...ถ้าคราวหน้าเจ้านี่เกิดพาพี่อ๋อมออกมาด้วยจริงก็จะต้องเกิดเรื่องยุ่งแน่ๆและคนที่ซวยที่สุดก็ต้องไม่พ้นฝนกับพี่แคท...สงสัยก่อนจะพูดจารู้เรื่องมีหวังได้ตีกันแหลกก่อนแหงๆมั้ง?” “..........................................” .............................................................................................................

2 ความคิดเห็น :