AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2563

เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 6

เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 6

หลังจากภาพยนต์เลิก ศักดาก็ขับรถหรูพาฐิติพรรณไปยังผับแห่งหนึ่ง พริตตี้คนสวยเป็นสาวสมัยใหม่ ใช้ชีวิตแพรวพราวไปกับการเที่ยวเตร่กับเพื่อนฝูง การเที่ยวผับดึกๆ สำหรับเด็กสาวถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างมาก โดยที่เรื่องที่สาวสวยอย่างเธอต้องระมัดระวังตัวเองในการเที่ยวกลางคืนนั้น ฐิติพรรณก็เคยได้ยินมาหลายเรื่อง และจำเอาไว้ไม่เคยประมาท เด็กสาวไม่เที่ยวคนเดียวตามลำพัง จะมากับเพื่อนเป็นก๊วนใหญ่เสมอ และไม่ยอมให้คนแปลกหน้าเข้ามาวอแวในกลุ่มก๊วนของตน แต่คืนนี้เหตุการณ์ประจวบเหมาะ อารมณ์ที่กรุ่นๆ ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ทำให้พริตตี้สาวสวยตัดสินใจมาเที่ยวต่อตามคำชวนของศักดาตามลำพังสองต่อสอง อย่างไรก็ตาม การที่ฐิติพรรณตัดสินใจดั่งนี้ ก็เพราะเด็กสาวมีความมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าคิดไม่ดีกับเธอ “พี่ศัก..ใจดี๊ใจดี...ถ้าไอซ์เจอพี่รส..รับรองค่ะว่าจะพูดเชียร์ให้สุดใจเลย...” เด็กสาวสวยกล่าวยิ้มๆ คำพูดที่เอ่ยออกมาเสียงหวานเหมือนกับล้อๆ นั้น เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ แต่ศักดาก็อ่านสัญญาณเตือนแบบมีนัยที่ซ่อนอยู่นั้นออก นึกในใจอย่างกระหยิ่ม ไม่ต้องมาขู่ฉันหรอก
คนสวย เพราะฉันไม่แตะเธอแน่ แต่กับคนอื่น...ฉันไม่รับรองนะ.. ฮ่ะ ฮ่ะ จิ้งจอกสวาทเปิดห้องคาราโอเกะวีไอพีที่มิดชิดเป็นส่วนตัวห้องหนึ่ง ขณะที่ตัวเองเปิดเหล้า ก็สั่งพันช์ผลไม้ให้กับพริตตี้คนสวย ฐิติพรรณยกแก้วน้ำสีสวยขึ้นแตะริมฝีปากงามของตนเองจิบไปคำหนึ่ง รสชาติน้ำหวานผสมแอลกอฮอล์ซ่านแก้มเป็นพวงใสนั้นจนแดงระเรื่อ สาวสวยรับรู้ถึงอาการร้อนที่วูบขึ้นมาจับใบหน้า แล้วใช้นัยน์ตาสวยส่งประกายล้อเลียนยั่วเย้าชายหนุ่ม “เอ๊ะ...นี่พี่คัก..คงไม่คิดจะมอมพันซ์..ไอซ์..นะคะ...คิกคิก...” ศักดารีบยกมือขึงขัง กล่าวเสียงหนักแน่น “โธ่ น้องไอซ์จ๋า อย่าล้อพี่เล่นอย่างนั้นสิ..” พริตตี้สาวสวยหัวเราะคิกคิก กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มๆ แต่น้ำเสียงหวานมีร่องรอยของการยื่นคำขาด “พรุ่งนี้ไอซ์ต้องไปเรียนนะคะ...คงดื่มไม่ได้มาก” จิ้งจอกสวาทหัวเราะกระหยิ่ม กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “แน่นอนจ้ะ พี่จะไม่บังคับอะไรที่น้องไอซ์ไม่ต้องการทำแน่นอน..เชื่อพี่สิ..ถ้าน้องไอซ์บอกพอ..พี่ก็พอ ดีไหมจ๊ะ” ฐิติพรรณเอียงคอให้ยิ้มหวานอย่างน่ารัก ยกแก้วน้ำสีสวยนั้นขึ้นจิบไปอีกหนึ่งคำ กล่าวเสียงใส “ดีค่ะ...พี่ศักน่ารักที่สุดเลย...” เครื่องดื่มน้ำหวานรสร้อนแรงนี้ไม่ใช่เธอไม่เคยดื่มมา พริตตี้สาวสวยรู้ความสามารถในการดื่มของตัวเองดีว่ามีจำกัดอยู่ที่กี่แก้ว จึงไม่มีความกังวลอะไรนักในการที่จะยกน้ำสีสวยนั้นขึ้นจิบติดๆ กันจนหมดแก้ว ศักดาหัวเราะกระเส่า ส่งสัญญาณออกไป เครื่องดื่มสีสวยนั้นก็ถูกนำมาเสริฟอีกแก้ว พริตตี้สาวสวยกรีดนิ้วงามยกแก้วขึ้นจิบ ดวงตาคู่สวยมีประกายสนุกอย่างยั่วเย้า ในเวลานั้น โลหิตสาวสะพรั่งอันสมบูรณ์เปล่งปลั่งซ่านฉาบไปทั่วใบหน้าของฐิติพรรณที่แย้มยิ้มหวานจนงามจับตาจับใจ ……………………….. เวลาที่ผ่านไป บรรยากาศในห้องกลมที่ปิดสนิทนั้นยิ่งเงียบ จะมีก็แต่เพียงเสียงระบายลมหายใจออกมาจากการผ่อนคลายความอึดอัดนานๆ ครั้ง เป็นระยะๆ เท่านั้น จำนวนชิปที่ค่อยๆ ถูกปล่อยลงไปกองสุมอยู่ตรงกลางกองเดิมพันนั้น เพิ่มพูนจำนวนขึ้นจนทำให้คนที่รายล้อมรอบโต๊ะพนันโป๊กเกอร์นั้นรู้หายใจขัดๆ เพราะจำนวนของเงินในกองนั้นมหาศาลนัก ตอนนี้ที่โต๊ะกลมที่มีคนรายล้อมอยู่ห้าคนนั้น มีหลงเหลือเพียงสองคนที่ยังถือไพ่อยู่ในมือ คนหนึ่งคือเสี่ยเซี้ยงที่กำลังยกมือปาดเหงื่อตัวเองอย่างเคร่งเครียด ชายหนุ่มที่นั่งด้านตรงกันข้ามคือคมศรที่ยังคงนั่งอย่างเยือกเย็น แววตาสีเหล็กนั้นเป็นประกายอย่างสนุก เบื้องหน้าของเสี่ยเซี้ยงตอนนี้วางไฟ่อยู่สี่ใบซึ่งเป็นดอกหัวใจสีเดียวกันทั้งหมด ขณะที่อีกใบหนึ่งในมือนั้นคือคิงหัวใจ ซึ่งจะทำให้เสี่ยโฉดได้แต้มฟลัช ขณะที่ไพ่สี่ใบโต๊ะของคมศรแสดงตองห้าและอีกใบคือสี่ดอกจิก ไพ่ใบสุดท้ายของชายหนุ่มวางคว่ำกับโต๊ะ โดยที่มีนิ้วแข็งแรงของเขาซึ่งวางมือเคาะเป็นจังหวะๆ เบาอยู่บนหลังไพ่ สีหน้าสงบดูไม่ออกว่าชายหนุ่มร่างสูงผู้นี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่ ในเวลานี้เสี่ยเซี้ยงต้องตัดสินใจว่าจะสู้หรือไม่ ถ้าจะสู้ขอเปิดไพ่ ก็เท่ากับว่าต้องเทชิปทั้งหมดที่มีอยู่ตรงหน้าตัวเองลงไปในกองเดิมพันเพื่อสู้ ซึ่งจำนวนเงินมหาศาลที่อยู่ภายใต้การตัดสินใจเพียงชั่วแล่นนี้สร้างความอึดอัดให้กับเสี่ยโฉดจนเหงื่อแตกพล่าน ทั้งๆ ที่ภายในห้องติดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ มือหยาบหนาของเสี่ยเซี้ยงสั่นระริก มองไปที่ดวงตาประกายเหล็กนั้น หนุ่มใหญ่ไม่สามารถจับเค้าอะไรได้เลย คิ้วหนาของคมศรเลิกขึ้น รับกับนัยน์ตาที่เปล่งประกายสนุกนั้น ราวกับจะยั่วออกมาดังๆ ว่า จะสู้หรือไม่สู้ ไม่สู้ก็หมอบไป ไอ้เหี้ยสิงห์มันบลัฟ มันต้องบลัฟกูแน่นอน... เสี่ยโฉดคำนึงในใจอย่างงุ่นง่าน กิตติศัพท์ของชายตรงหน้าในการเก็บอาการและจัดการบลัฟเอาชนะคู่แข่งไพ่เหนือมือกว่ามามากต่อมากนั้นเป็นที่เลื่องลือกันทั่ว เสี่ยเซี้ยงครุ่นคิดหนัก ลังเลอยู่เนิ่นนาน ก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ “เสี่ยครับ...” เสียงเตือนอย่างเกรงใจจากคนแจกไพ่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของคลับ เสี่ยโฉดหันมาทำตาลุกวาวใส่อย่างดุร้าย ก่อนจะหันมาเขม้นมองหน้าของคมศรอีกครั้ง และสบถพึมพำในลำคอ ตัดสินใจผลักมือดันชิปตรงหน้าออกไปจนหมด ร้องดังๆ “ขอดูไพ่” พร้อมกับทิ้งไพ่ใบสุดท้ายของตัวเองลงไป เสียงพึมพำดังขึ้นมารอบๆ ทันทีเพราะมันเป็นแต้มฟลัชที่มีโอกาสกินรวบเดิมพันจำนวนมหาศาลที่กองอยู่กลางโต๊ะสูงเหลือเกิน คมศรแย้มยิ้มออกมาจนเห็นฟันขาว ซึ่งรอยยิ้มของชายหนุ่มนั้นเหี้ยมเกรียมราวกับสัตว์ร้าย เมื่อพลิกไพ่ใบสุดท้ายที่คว่ำอยู่ตบหงายลงกับโต๊ะเสียง ฉาด ดังสดใสกังวาน เสียงฮือฮา ดังกระหึ่มห้อง เสี่ยเซี้ยงอ้าปากค้าง มองไพ่สี่โพธิ์ดำที่หงายอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เบิกโพลง ร่างใหญ่กำยำของเสี่ยโฉดหมดแรงทิ้งตัวไปกับพนักพิงของเก้าอี้ ไหล่หนาคดคู้ราวกับไก่ชนที่สู้แพ้นั้นแสดงออกถึงอารมณ์แห่งความผิดหวังอย่างโจ่งแจ้งชัดเจน “ตองห้า คู่สี่ ฟูลเฮ้าส์ มือสองชนะ” หลังจากเสียงเจ้าหน้าที่แจกไพ่ขานแต้มดัง จากนั้นก็ได้ยินเสียงปรบมือดังลั่นไปทั่วห้อง ผสานไปกับเสียง วู้ววๆ ของคนบางคนที่สนิทสนมกับคันศรเป็นพิเศษ ชายหนุ่มหน้าคร้ามคมผุดลุกขึ้น ผงกศีรษะไปรอบๆ โดยเฉพาะนิ่งให้กับเสี่ยเซี้ยงครู่หนึ่งราวกับเป็นการบอกขอบคุณเป็นพิเศษ จากนั้นหยิบชิปเหรียญหนึ่งมูลค่าห้าพันโยนดีดส่งให้กับคนแจกไพ่เป็นค่าทิป “น้องชายช่วยจัดการกับชิปให้พี่ที” เจ้าหน้าที่นั้นรับชิปเอามาไว้จนมือสั่น โค้มตัวลงให้กับคมศรจนศีรษะแทบจรดพื้นอย่างนอบน้อม เสียงปรบมือยังดังไล่หลังขณะที่คมศรเดินออกไปจากห้องด้วยใบหน้าราบเรียบ หากแต่มีรอยยิ้มที่มุมปาก ขณะที่ดวงตานั้นเป็นประกายโชน ห้องลับที่เมื่อครู่แออัดด้วยคนค่อยสลายๆ ตัวไปจนเกือบโล่งห้อง คนรู้จักของเสี่ยเซี้ยงหลายคนเดินมาตบบ่าหนาของเสี่ยโฉดเป็นเชิงปลอบใจ ก่อนจะพากันเดินออกไป ทิ้งให้เสี่ยโฉดนั่งระงับอารมณ์อยู่ครู่ใหญ่ ค่อยกัดฟันลุกขึ้น ฝากไว้ก่อนเหอะ ไอ้เหี้ยสิงห์ เสี่ยเซี้ยงคำรามในใจ พอเดินออกมาตามทางได้พักหนึ่งก็สวนกับคันธรสที่เดินมาหา สีหน้าแววตาของเสี่ยโฉดนั้นถมึงทึง จนสาวสวยต้องอดถามไม่ได้ “เสี่ยเป็นอะไรไปคะ หรือว่าตกลงการเจรจาธุรกิจไม่ได้” มาถึงตอนนี้สาวสาวยยังหลงนึกว่าเสี่ยเซี้ยงมาติดต่อธุรกิจจริงๆ หลังจากที่เธอผละหนีคมศรไป คันธรสก็หมดเวลาช่วงใหญ่ไปกับบริการนวดตัวนวดเท้าจนร่างกายที่อิดโรยนั้นสบายขึ้นมาก ซึ่งเธอกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ เพลินๆ อยู่ก็เห็นคนกลุ่มใหญ่ทยอยเดินออกมา จึงคิดว่าการเจรจาธุรกิจคงเสร็จแล้ว และเดินสวนกลับไปหา เสี่ยเซี้ยงที่งุ่นง่านในใจจนแทบกระอัก มองไปที่ใบหน้าสวยบาดตาของคันธรส แล้วแสยะยิ้มในหน้า หัวเราะกระเส่าในใจ ไม่ว่ากูจะเสียไปแค่ไหน ก็ไม่เห็นเป็นไร รีดคืนจากอีไฮโซคนสวยนี้ก็ได้แหล่ะว้า..ฮ่า ฮ่า ผิวกายขาวเปล่งปลั่งตรงหน้าสะกิดสันดานดิบของเสี่ยโฉด ซึ่งแย้มยิ้มอย่างกระหายหิว ฉวยข้อมือบางของคันธรสเดินแยกไปในอีกทิศทางหนึ่งซึ่งเป็นมุมลับๆ ของแขกพิเศษ ที่ผู้มาใช้บริการรู้ดีว่าเป็นที่ไปรเวทของใครบางคนที่ต้องการที่เงียบๆ เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ อีกครู่หนึ่ง เสียงสวบสาบ เสียงครางครวญดังแผ่วสะท้านแว่วออกมาจากมุมลับนั้น “เสี่ยขา.....อี๊ยยยยย์...อย่าค่ะ...เดี๋ยวมีคนมา..เห็น…อุ๊ยยยยย...ซี๊ดดดดด” “หึ หึ ไม่ต้องห่วงที่รัก ไม่มีใครมาหรอก....อูวววววว...ผิวของคนมันช่างเนียนจริงๆ ขาวสวยไปหมด...ผมหลงคุณไปทั้งตัวรู้ไหมคนสวย....” “อื้ออออ...ซี๊ดดดด..ยะ..อย่า...ค่ะ...รส..อาย...เรา..อี้ยยยย...กลับไปก่อน..ไม่ดีกว่าหรือคะ...อี้ยยยยย..ซี๊ดดดด” “อายทำไมที่รัก ผมบอกแล้ว ไม่มีใครมาขัดจังหวะสุขของเราหรอกน่า....อึ้มมมมม..ซ๊วบบบบ.หึหึ..ซ๊วบบบ..อึ้มมมมมม..ดีจัง....นมที่รักมันเต็มมือดีจริง..ผมชอบ....” เสียงสวบๆ ติดตามมาด้วย เสียงครางเบาๆ และเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ อื้อออ อื้อออ อื้ออออ อื้ออออ...สะ..เสี่ย..ขา..อาวววว...ยะ..อย่า...รส...อี้ยยยยย์ จากนั้นเสียงดัง พั่บ พั่บ พั่บ ก็ตามติดมาพร้อมกับเสียงหัวเราะกระเส่าและเสียงครางครวญอย่างเสียวซ่าน ในตอนนั้น หน้าบริเวณมุมลับนั้นไม่มีใคร เนื่องเพราะร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนอยู่เมื่อครู่เดินผละออกไปแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฐิติพรรณ บิดส่ายเรือนร่างอันสุดงามของตัวเองให้โลดแล่นไปกับเสียงเพลงอันคึกคักเร้าใจ ในห้องคาราโอเกะแบบวีไอพีที่เป็นส่วนตัวที่เธอสามารถปล่อยอารมณ์สนุกสนานแบบสุดเหวี่ยงได้เต็มที่กับเพื่อน ใบหน้าที่สดสวยของฐิติพรรณแดงก่ำ พวงแก้มใสแดงซ่านไปด้วยเลือดสาวที่สมบูรณ์สะพรั่ง พริตตี้สาวหัวเราะคิกคิกอย่างสนุกสนานไปกับจังหวะเร้าใจของเพลง สองแขนบางที่ชูขึ้นไปเหนือหัวโอนแอ่นไปมาสอดรับไปกับการยักย้ายของลำตัวคอดได้รูป เนื้อผ้าที่รัดรึงไปกับลำตัวงามนั้นทำให้แลเห็นรูปทรงของก้อนกลมอิ่มได้อย่างชัดเจน หน้าท้องเรียบตึงรับกับสะโพกผายกลมที่บิดส่ายไหวระริกร่านไปพร้อมกับจังหวะเพลงร๊อคที่กระแทกกระทั้น ช่วงขาเรียวงามเป็นลำเทียนขาผ่องไร้ที่ติเยื้องย่าง เหยียดส่ายเต้นระริกได้จังหวะอย่างน่าตื่นตาตื่นใจทั้งๆ ที่ไล่ไปจรดปลายเท้าสวยนั้นยังสวมใส่รองเท้าส้นสูงหนา ลีล่าอันคล่องแคล่วสวยงามที่สามารถใช้ร่างกายอันสมบูรณ์สะพรั่งแล่นเร้าอยู่กลางฟลอร์ได้อย่างไม่มีเคอะเขินหรือสะดุดติดขัดนั้น มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพริตตี้สาวนั้นมีความเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อนเช่นนี้เพียงไร ศักดานั่งละเลียดวิสกี้ นั่งดูชมฐิติพรรณดิ้นสะบัดอยู่บนกลางฟลอร์อย่างสุดเหวี่ยง ด้วยสายตาเร่าร้อน ลำควยที่กระเด้งออกมาคับเป้า สวยจริงๆ แม่งเอ๊ย เสียของหมดเลย ไอ้ห่ะ เซ็กส์จัดจริงๆ นังไอซ์คนสวยนี่ โว้ย โว้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย... จิ้งจอกสวาทคิดอย่างสุดเสียดาย แต่มาถึงตอนนี้ก็ได้แต่ตัดใจ ชายหนุ่มปล่อยให้เด็กสาวดิ้นอย่างสุดเหวี่ยงไปอีกหลายเพลง จนกระทั่งร่างงามนั้นเดินหอบกลับมา ใบหน้าแดงก่ำซ่านไปจรดซอกคอขาว เหงื่อชุ่มตัวนั้นทำให้เนื้อผ้ายืดนั้นดูรัดรึงเข้ากับร่างที่อัดแน่นไปด้วยความสะพรั่งของสาวสดเข้าไปอีก เมื่อเด็กสาวเดินเข้ามาถึงก็ทิ้งตัวนั่งข้างๆ อย่างแรง เอื้อมมือยกแก้วน้ำเย็นเฉียบขึ้นดื่มอึกๆ อย่างกระหาย ขณะที่ศักดาเหลือบตามองไปยังท่อนขาอวบงามที่อาการทรุดตัวลงนั่งอย่างไม่ค่อยระวังนั้นชายกระโปรงเลื่อนขึ้นมากึ่งกลางขาอ่อน ความขาวเนียนเป็นประกายนั้นจากการมองเห็นใกล้ๆ ผิวเรียบลื่นละเอียดนั้นชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ จนทำให้ความขาวนั้นเป็นประกายปลาบล้อแสงไฟสวยน่าดูมากขึ้นไปอีก จิ้งจอกสวาทมองไปพลางก็ต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอไปด้วยความยากลำบาก “เฮ้อ.....ไอซ์ สนุ๊ก...สนุก...แหม..ทำไมไม่มาเต้นด้วยกันล่ะคะ พี่ศัก...เพลงมันส์ดีจะตาย...” เด็กสาวสวยพ่นลมหายใจจากปากดังๆ ก่อนจะหันมายิ้มแย้มกล่าวเสียงใสกับศักดา ซึ่งชายหนุ่มรีบหลบตาออกจากการเบิ่งมองขาขาวนั้นแทบไม่ทัน ทำทีเป็นยกวิสกี้ขึ้นดื่ม พร้อมกับหัวเราะเบาๆ แกล้งพูดเฉไฉไปอีกทาง “พี่เต้นไม่เก่ง ขอนั่งดูดีกว่า น้องไอซ์เต้นเก่งออก...สวยมากเลยรู้หรือเปล่า...” คำพูดยิ้มๆ ดวงตายิ้มๆ ของชายหนุ่ม ทำให้ฐิติพรรณค้อนให้ด้วยจริตสาวสะพรั่งที่ชื่นชอบคำเยินยอในความงามของตัวเองเสมอ ขณะใช้มือกระพือเสื้อผ้าที่เหงื่อซึมออกมาอย่างมากนั้นทำให้เนื้อผ้านุ่มนั้นลู่ไปกับลำตัวงาม แล้วยกนาฬิกาข้อมือเรือนงามกระจุ๋มกระจิ๋มของตัวเองขึ้นดูก็ร้องว่า “แหม เกือบห้าทุ่มแล้ว แป๊ปเดียวเอง ไอซ์กำลังสนุกเลย...” “ไอซ์ไปล้างหน้าล้างตาสิจ๊ะ เดี๋ยวมันจะดึกเกินไป เห็นบอกว่าต้องไปเรียนแต่เช้าไม่ใช่หรือ...” ศักดาพูดด้วยทีท่าของพี่ชายแสนดีเป็นห่วงน้องสาว ทำให้พริตตี้คนสวยยิ้มหวานให้ สีหน้านั้นแสดงอาการพึงพอใจออกมาอย่างมาก เพราะไม่เห็นทีท่าอาการของชายหนุ่มตรงข้ามจะเป็นไปในทางลวนลามหรือล่วงเกินเนื้อตัวของเธอเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่หลายๆ ครั้งเธอเองนั้นจงใจยั่วยวนเขาด้วยซ้ำ สงสัยคงกลัวเราไปฟ้องพี่รส...นั่งนิ่งเป็นหุ่นเลย..คิกคิก.. ฐิติพรรณนึกหัวเราะในใจอย่างสนุกสนาน ก่อนจะเอียงคอกล่าวเสียงหวานหยด “พี่ศักน่าร๊าก น่ารัก.....ถ้าอย่างนั้น ไอซ์ขอตัวเข้าห้องน้ำประเดี๋ยวนะคะ” ว่าแล้วพริตตี้สาวสวยก็ฉวยกระเป๋าถือใบงาม เดินเข้าไปในห้องน้ำ ซึ่งห้องคาราโอเกะแบบวีไอพีนี้มีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพ โดยมีสายตาของจิ้งจอกสวาทมองตามร่างงามนั้นไปด้วยประกายตาแวววาว ขณะที่หวนนึกไปถึงการเจรจาตกลงการค้ากับชิดกับพวก ความจริงด้วยความงุ่นง่านไปด้วยความกระหาย ชิดกับพวกต้องการให้จิ้งจอกสวาทหาทางมอมสวาทพริตตี้คนสวยในผับนี้ และพวกนั้นจะเข้ามาจัดการเวลาที่เหยื่อเมายา แต่ศักดาที่ครุ่นคิดหาทางปกป้องผลประโยชน์ตัวเองอย่างรอบคอบทุกด้านไม่เห็นด้วย ถ้าเขามอมยาฐิติพรรณในผับจริงๆ จิ้งจอกสวาทแน่ใจว่าพอเด็กสาวฟื้นคืนสติขึ้นมาและทบทวน เธอผู้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก จะต้องรู้ว่าเป็นฝีมือของเขาที่ลอบวางยาเธอ และถึงตอนนั้นก็คงไม่มีใครประกันได้ว่าเธอจะไม่แก้แค้นเขาด้วยวิธีทางใดวิธีทางหนึ่ง ขนาดเขาจะเคลมสวาทเธอยังไม่กล้า กลัวเรื่องที่จะตามมา แต่ถ้าเทียบความรุนแรงกับกรณีที่เธอต้องรองรับความหื่นกระหายจากไอ้เด็กเปรตพวกนั้นมันยิ่งกว่าเสียสาวให้เขาอีกหลายเท่านัก ดังนั้นศักดาไม่โง่พอที่จะทำให้เรื่องราวนั้นสาวมาถึงตัวเอง ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับฐิติพรรณ ศักดาต้องมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องรับรู้ให้ชัดเจนว่าไม่มีเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ไปเกี่ยวข้องด้วย หลังจากเจรจาไม่ตกลงกับชิดกับพวกอยู่นาน ด้วยสมองที่เจนจัดในการคิดเรื่องชั่วๆ ศักดาก็เอ่ยแผนการที่ทำให้ชิดกับพวกตาลุก หัวเราะ ฮ่า ฮ่า ไม่มีเกี่ยงงอนอะไรกับเขาอีกเลย เมื่อพริตตี้สาวกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ใบหน้าสดสวยของฐิติพรรณที่หลังจากล้างเรียบร้อย ก็ผัดแป้งทาปากเติมรูจที่แก้มจนสดใสกระจ่างตา ศักดามองดูแล้วนึกสาแก่ใจอยู่ครามครัน เพราะล่วงรู้ดีว่าฐิติพรรณนั้นจงใจยั่วเย้าเขาหลายๆ ครั้งเพราะเชื่อว่าเขานั้นคงไม่กล้าทำอะไรกับตัวเธอ แต่งเข้าไปเถอะ คนสวย แต่งให้มากๆ จะได้ยั่วไอ้เด็กเปรตพวกนั้นมากๆ ไง ให้สมกับที่เธอยั่วฉันนักนะ...ฮ่ะฮ่ะ แต่ต่อหน้านั้น ศักดาก็ยิ้มให้กล่าวว่า “พี่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วล่ะ น้องไอซ์พร้อมกลับหรือยังจ๊ะ หรือถ้าน้องไอซ์ยังเหนื่อย จะนั่งตากแอร์เย็นๆ ก่อนค่อยกลับก็ได้นะ” พริตตี้สาวสวยสั่นศีรษะกล่าวว่า “ไม่เป็นไรค่ะ กลับเลยดีกว่า” ดังนั้นอีกสักพักหนึ่ง ศักดาก็ขับรถออกมาจากผับหรูแห่งนั้น มุ่งตรงไปยังเส้นทางที่จะกลับสู่ที่พักของพริตตี้สาว ขับมาได้พักหนึ่ง เครื่องยนต์ของรถหรูคันงามก็เล่นสะดุด สะดุด คึ่ก คึ่ก คึ่ก ศักดาบ่นพึมพำ “เอ รถเป็นอะไรไป...เดี๋ยวพี่ขอจอดรถไปดูหน่อยนะ” ชายหนุ่มพูดแล้วก็ชะลอรถจอดข้างทางก่อนจะเปิดฝากระโปรงหน้าแล้วเดินออกไปดู ส่วนฐิติพรรณที่นั่งคอยอยู่ในรถด้วยทีท่าที่สบายๆ ไม่ได้สู้วิตกกังวลนัก เพราะตอนนี้เธออยู่ในเส้นทางถนนใหญ่ ที่ตอนนี้ก็ยังมีรถราวิ่งกันอยู่เป็นระยะๆ ไม่ถึงกับเปลี่ยว รถแท็กซี่ว่างๆ ก็มีแล่นผ่านไปเรื่อยๆ ศักดาที่ทำทีเป็นตรวจนั่นดูนี่ แต่แท้ที่จริงแอบถอดสายไฟเชื่อมแบตเตอรี่ออก ก่อนจะปิดฝากระโปรงกันไม่ให้ฐิติพรรณที่อาจจะเดินตามออกมาเห็น แล้วเดินกลับไปลองทำทีสต๊าร์ทรถ เสียงดัง คึ่ก คึ่ก คึ่ก ทำสีหน้าเหมือนวิตกกังวล แต่ในใจนั้นหัวเราะร่วน มันคงสตาร์ทติดล่ะวะ ศักดาทำเป็นลองพยายามติดเครื่องดูอีกหลายๆ ที ก่อนที่ทำหน้าเซ็งๆ กล่าวว่า “ศูนย์เขาก็เตือนเรื่องเครื่องใหม่ๆ วิ่งไกลๆ อาจจะรวนได้ พี่ก็ไม่เชื่อ ทำไงดีล่ะ” ฐิติพรรณยิ้มหวาน กล่าวอย่างไม่รู้สึกเดือดร้อนใจนักว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ที่นี่มีรถแท็กซี่วิ่งตั้งเยอะ เดี๋ยวไอซ์เรียกแท็กซี่กลับไปเองก็ได้” ว่าแล้วเด็กสาวก็เปิดประตูรถออกไปข้างทาง ขณะที่ยืนเมียงๆ มองๆ จะโบกรถแทกซี่ ก็พอดีมีรถเมล์ปรับอากาศแบบพิเศษคันใหญ่แล่นเข้ามา ศักดาก็รีบเข้าไปโบกทันทีให้รถจอด ก่อนที่จะหันมากล่าวกับพริตตี้สาวสวย ที่ทำตาโตมองดูเขาอย่างสงสัย “พี่เป็นห่วงน้องไอซ์น่ะ กลับแท็กซี่ดึกๆ คนเดียวมันอันตรายจะตายไป พี่ก็ตามไปไม่ได้ด้วย เพราะต้องเฝ้ารถ” ฐิติพรรณยิ้มหวาน รู้สึกหัวใจพองขึ้นมาด้วยความซึ้งในความเป็นห่วงของชายหนุ่ม กล่าวเสียงสดใส “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..ขอบคุณนะคะที่พี่ศักเป็นห่วง..” ศักดาส่ายศีรษะ ยื่นหน้าเข้าไปกล่าวเสียงนุ่มนวล “ถือว่าพี่ขอร้องแล้วกันนะจ๊ะ...ดูสิ รถเมล์ทั้งคันว่างๆ ไม่มีคนนั่ง น้องไอซ์นั่งไปเย็นๆ สบายๆ รถสายนี้พี่รู้เส้นทางดี วิ่งแป๊บเดียวก็ถึงบ้านน้องไอซ์แล้ว ส่วนข้าวของกระจุกกระจิกเยอะแยะนี่พี่จะไปส่งให้วันหลังเอง...”

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น