AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2563

เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 24

เล่ห์สวาท เพลิงราคะ ตอน24

ท้องฟ้าโปร่ง ปุยเมฆขาวที่พลิ้วอย่างบางเบาล้อแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามานั้น หาได้ทำให้ความรู้สึกมืดมิดทะมึนที่ปกคลุมอยู่ในใจของอรชานั้นจางหายไปแต่ อย่างใด ดวงตาอันเหม่อลอยของหญิงสาวที่จับจ้องไปยังนอกหน้าต่างนั้นยังคงมีร่องรอย ชื้นของหยาดน้ำใสที่เอ่อท่วมขังมาเกือบตลอดเวลา นับตั้งแต่แยกทางจากสองเพื่อนสาวที่มาส่งเธอถึงสนามบิน JFK จนมาถึงในขณะนี้ที่เครื่องบินยักษ์กำลังพาเธอบินอยู่เหนือดินแดนส่วนหนึ่งบน ประเทศเยอรมันตามเส้นทางที่มุ่งตรงสู่บ้านเกิดของเธอ ความคิดที่ล่องลอยของหญิงสาวหวนนึกไปถึงที่สนามบิน สิบกว่าชั่วโมงก่อนหน้านั้น มาร์ธากอดเธออย่างเป็นห่วง พยายามยิ้มให้อย่างแจ่มใสและกล่าวเบาๆ “เข้มแข็งนะแคธี่ ฉันเอาใจช่วย” ส่วนเจสสิก้านั้นเป็นคนกอดตัวเธอแน่นๆ นั้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนกระซิบที่ข้างหู “เชื่อฉันนะ แคธี่ เธอจะต้องปลอดภัย ฉันแน่ใจ ถ้ามีเรื่องอะไรที่ฉันจะช่วยได้ ติดต่อมาได้เสมอนะ ฉันจะไปหาเธอที่เมืองไทยทันที ถ้าเธอต้องการฉันอยู่ใกล้ๆ เป็นเพื่อน” อรชาน้ำตาคลอ กับความจริงใจที่เพื่อนรักมอบให้ พยายามยิ้มรับคำปลอบใจนั้นด้วยท่าทางที่เข้มแข็ง หากแต่แววตาของเธอช่างเศร้านัก ความรู้สึกที่หนักอึ้งนั้นนับวินาทีผ่านไปมันยิ่งกดดันถาโถมเข้ามาหาตัวเอง ความอึดอัดคับข้องใจมันราวกับน้ำป่าที่หลากเข้ามาท่วมท้นจนอรชาสู้เหมือนกับ คนที่กำลังจมดิ่งลงไปในห้วงน้ำลึกที่มองไม่เห็นก้นทุกขณะจิต หญิงสาวโบกมือลาเพื่อนทั้งสอง และหัน
ไปร่ำลาคุณชัยชาญพนักงานอวุโสที่เธอนับถือเหมือนญาติสนิทคนหนึ่งที่ตอนนั้นเองมาส่งหญิงสาวด้วย “ไม่ต้องห่วงนะหนูอร ทางนี้อาจะดูแลให้ดีที่สุด” “ขอบคุณค่ะ คุณอา อรฝากด้วย” อรชากล่าวพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นสะท้าน ก่อนจะรีบหันกายกลับเดินเข้าไปสู่ภายในห้องผู้โดยสารขาออกโดยทันที เพราะตอนนั้นน้ำตามันใกล้จะหลั่งใหลออกมารอมร่อ ซึ่งหญิงสาวไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอให้ใครได้เห็น แต่ ณ เวลานี้ ภายในห้องผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่กว้างขวางสะดวกสบาย ดวงตากลมงามซึ้งนั้นค่อยหลั่งรินน้ำตาใสๆ ออกมาเป็นทางยาว ในท้องฟ้าที่สว่างสดใสนั้น อย่างเรือนลาง ท่ามกลางสายตาที่พร่ามัวของหญิงสาว อรชาคล้ายๆ กับมองเห็นภาพของใบหน้าคนสองคนที่เธอรักที่สุดล่องลอยซ้อนทับขึ้นมา น้องรักทั้งสองของพี่ ดวงตาสีเหล็กของคมศรสาดประกายวูบวาบ ขณะก้มลงมองคนสนิทของเขากำลังนั่งแยกเขี้ยวอยู่บนพื้น โดยมีนายแพทย์ประจำปางห้วยสักกำลังใช้ผ้าเย็นประคบตรงบริเวณขมับที่ตอนนั้น แลเห็นรอยปูดโปนเขียวคล้ำเป็นก้อนอย่างชัดเจน “ไอ้คำ มันคงเป็นหนอนที่ไอ้พ่อเลี้ยงอดิศัยส่งมา” ชายหนุ่มไว้หนวดเรียวนั้นมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด และในความเจ็บปวดนั้น ดวงตายังเต็มไปด้วยความละอาย เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มือขวาของคมศรนัยน์ตาตก กล่าวเสียงแหบแห้งสั่นเครือ “ผมเสียใจครับ พ่อเลี้ยง ที่ไม่สามารถดูแลคุณหนูได้” คมศรถอนหายใจ “ช่างเถอะ ความผิดของฉันก็มี ที่ไม่รู้จักดูคน หมอ อาการของปิงหนักมากไหม” นายแพทย์ประจำปางห้วยสัก ใช้มือกดไปรอบๆ รอยปูดตรงขมับอย่างเบามือ แต่ก็ยังทำให้ปิงแยกเขี้ยวอย่างเจ็บปวด “เท่าที่ดู น่าจะแค่บวมช้ำนะครับ แต่จะให้แน่ใจคงต้องเข้าเมืองไปเอ๊กซ์เรย์ดู” พ่อเลี้ยงปางห้วยสักผงกศีรษะ “หมอช่วยดูแลให้ดีด้วย ปิ๊กไปกับฉัน” คมศรหันไปสั่งผู้ชายร่างกำยำที่ยืนสำรวมอยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเงียบขรึม ปิ๊ก หรือธงชัยนั้นเป็นคนสนิทอีกคนหนึ่งของคมศร ซึ่งพ่อเลี้ยงปางห้วยสักไว้วางใจมอบหมายงานสำคัญๆ ให้เสมอ และโดยส่วนใหญ่นั้นธงชัยจะติดตามชายหนุ่มไปตลอดเป็นองครักษ์ประจำตัว คอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าของปางห้วยสัก ส่วนปิงมือขวานั้นจะเป็นคนคอยดูแลงานในปางยามที่คมศรไม่อยู่ ทั้งปิงกับธงชัยนั้นเปรียบเสมือนแขนซ้ายขวาของพ่อเลี้ยงปางห้วยสัก ที่คมศรสามารถยืนหยัดและเดินทางมาถึง ณ จุดที่ยืนอยู่ตรงนี้ทุกวันนี้ ชายหนุ่มทั้งสองคนก็มีส่วนร่วมช่วยด้วยอย่างไม่น้อยเลย ธงชัยผงกศีรษะรับคำอย่างนอบน้อม ขณะที่สองชายนายกับบ่าวกำลังจะหันตัวเดินไป ในเวลานั้นปิงก็ผวาลุกขึ้น กล่าวด้วยสีหน้าดาลเดือด ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างขุ่นแค้นเจ็บใจที่เสียท่าให้กับนายคำ “พ่อเลี้ยง ผมสบายดีแล้ว ขอไปด้วยนะครับ ผมจะลากคอไอ้คำมาให้พ่อเลี้ยงลงโทษอย่างสาสม” คมศรรู้ดีถึงความในใจของลูกน้องคนสนิท ยิ้มปลอบใจและตบบ่าของปิงอย่างหนักแน่น “ฉันรู้ดีว่านายคิดอะไร แต่สุขภาพของนายก็เป็นเรื่องสำคัญ ฉันต้องการให้แน่ใจว่าคนที่ฉันไว้วางใจที่สุดปลอดภัย เข้าใจนะ” คำพูดของพ่อเลี้ยง สร้างความตื้นตันใจให้กับคนที่เป็นลูกน้องจนน้ำตาคลอ ชายหนุ่มไว้หนวดเรียวก้มศีรษะลง กำหมัดแนบแน่นอย่างสะกดกลั้นไม่ให้เสียงนั้นสั่นสะท้านเมื่อว่า “ครับ พ่อเลี้ยง ผมจะทำตามที่พ่อเลี้ยงสั่ง” คมศรผงกศีรษะ ตบบ่าของลูกน้องอีกครั้ง ก่อนจะผงกศีรษะชักชวนธงชัยองครักษ์ประจำตัวนั้นเดินออกไปจากบริเวณคอกม้า “ปิ๊ก แบ่งคนไปสองทาง ส่วนหนึ่งตามไปทางม้าซึ่งคงวิ่งตัดทุ่งไป มือถือของคุณอรนุชตกอยู่ เรียกสัญญาณเข้า เรียงหน้ากระดานกวาดพื้นที่ตรวจสอบสัญญาณค้นหาดู ส่วนอีกสายขับรถไปตามเส้นรอบเขา ลองไล่ถามพวกชาวบ้านดูว่าเห็นร่องรอยอะไรหรือเปล่า ฉันจัดการเรื่องที่ปางนี้เสร็จแล้วจะรีบตามไปสมทบ” พ่อเลี้ยงปางห้วยสักสั่งการพลางจดเบอร์โทรศัพท์มือถือของอรนุชส่งให้กับ องครักษ์ติดตามตัว ซึ่งอีกฝ่ายรับคำอย่างเข้าใจแล้วผละไปทำตามคำสั่ง ดวงตาประกายเหล็กมีแววครุ่นคิด ก่อนจะส่งเสียงรั้งตัวผู้ติดตามคนสนิท “เดี๋ยวปิ๊ก” ธงชัยหันกลับมา เลิกคิ้วนิดหนึ่ง ยืนสำรวมรอรับคำสั่ง ซึ่งคมศรนิ่งไปอึดใจหนึ่งก็กล่าว “เอาตัวป้างไปกับแกด้วย” องครักษ์ของคมศรรับคำ และหันกายเดินออกไป ส่วนชายหนุ่มกลับมาที่ด้านหน้ารีสอร์ท และแยกตัวกรองกนกออกมาพูดห่างจากคณะกองประกวด และเล่าเรื่องให้ฟังโดยคร่าวๆ พี่แต๋วยกมือปิดปากอย่างแตกตื่นตกใจ โพล่งออกมาเสียงหลง “น้องนุชถูกจับตัวไป!!! อะไรกันคะนี่ เป็นไปได้อย่างไร แล้วพวกนั้นทำไปทำไม จะเรียกค่าไถ่หรือคะ พ่อเลี้ยง แล้ว แล้ว น้องนุชจะเป็นอันตรายไม๊คะ” หญิงผู้สูงวัยกว่า พร่ำพูดออกมาด้วยความรู้สึกกึ่งช๊อค ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดหวั่นขวัญเสีย คมศรไม่ต้องการขยายความกังวลของอีกฝ่ายด้วยเรื่องความบาดหมางของเขากับพ่อ เลี้ยงอดิศัย จึงแค่พูดว่า “ทางเรากำลังเร่งสืบอยู่ครับ เพียงแต่ที่ผมอยากจะขอร้องคุณแต๋วก็คือว่าอย่าเพิ่งให้เรื่องของคุณอรนุชแพร่งพรายออกไป” พี่แต๋วส่ายศีรษะไม่เห็นด้วย ละล่ำละลักกล่าวเสียงระรัวเร็ว “ทำไมคะ เรา เราควรจะรีบไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยตามหาสิคะ จะปิดเรื่องเงียบได้อย่างไรกัน” Hew โพสเมื่อ 2011-2-1 08:17 คมศรซ่อนความอึดอัดกังวลเอาไว้ในใจ พ่อเลี้ยงอดิศัยจับตัวอรนุชไปโดยจงใจก็ต้องรู้ว่าเด็กสาวนั้นมีความสัมพันธ์ กับเขา และยิ่งถึงกับยอมเสี่ยงเปิดเผยตัวหนอนบ่อนไส้ที่แฝงเร้นเข้ามา แสดงว่ามีความตั้งใจสูงในการพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อสร้างความเจ็บแค้น ให้กับเขา ถ้าเรื่องแพร่ออกไป นกระทั่งถึงกับมีการตามล่าตัว ชายหนุ่มค่อนข้างแน่ใจ พ่อเลี้ยงอดิศัยไม่ลังเลที่จะทำร้ายอรนุชจนถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน สิ่งที่ไอ้อดิศัยต้องการไม่ใช่เงินค่าไถ่ มันต้องการทำให้เขาเจ็บปวดในทุกๆ วิถีทางต่างหาก คมศรครุ่นคิดในใจ ใบหน้านั้นเครียดขรึมจริงจังเมื่อกล่าวว่า “ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณอรนุช ถ้าเรื่องแพร่ไปจนลุกลามอาจจะเป็นอันตรายกับตัวคุณอรนุชได้ อีกประการหนึ่งนะครับ เรื่องที่คุณอรนุชถูกจับหายตัวไปก็คงจะไม่เป็นผลดีกับชื่อเสียงของเธอด้วย” กรองกนกหันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี ใบหน้าของหญิงสูงวัยนั้นราวกับจะร้องไห้ออกมา “แล้วเราจะปิดเรื่องนี้ได้นานแค่ไหนกันคะ พวกคณะกองประกวดเขาก็ต้องรู้ว่าน้องนุชหายไป” “เราต้องช่วยกันสร้างเรื่องว่าคุณนุชว่ามีธุระด่วนกระทันหันต้องกลับไปก่อน ขอร้องนะครับคุณแต๋ว ผมขอเวลาไม่เกินสองวันครับ ถ้าทางเรายังตามตัวคุณนุชกลับมาไม่ได้ คุณกรองกนกก็จัดการไปตามสมควร” พี่แต๋วใบหน้าซีดขาวเมื่อครุ่นคิดหนัก ก่อนจะกล่าวเสียงสั่นๆ “แต่ดิฉันตัดสินใจไม่ได้ ครอบครัวของเธอ” “ตอนนี้ผู้ปกครองคุณนุชอยู่ต่างประเทศไม่ใช่หรือครับ” คมศรกล่าวสอดขึ้นมาทันที โดยที่กรองกนกก็ไม่ได้สังเกตว่าทำไมอีกฝ่ายถึงรู้ขนาดนั้น นิ่งอึ้งไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะผงกศีรษะว่า “ค่ะ คุณอรชา พี่สาวของน้องนุช เธอไปต่างประเทศ ญาติสนิทที่อยู่ก็คงมีเพียงน้องสาวคนเดียว” พ่อเลี้ยงปางห้วยสักครุ่นคิดหนัก ในสมองตอนนั้นหวนนึกถึงเด็กสาวร่างบางที่เคยเป็นคนช่วยให้เขาสามารถตามไป ช่วยอรนุชทันท่วงทีอย่างหวุดหวิดหวาดเสียวในครั้งก่อน จะแจ้งข่าวให้เด็กสาวคนนั้นรู้ดีหรือเปล่า? ไม่ดีแน่ ถ้าน้องสาวรู้ก็คงจะไม่ฟังเสียงเขาให้ปิดเรื่องไว้ก่อนอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้ดั่งนั้น คมศรก็หว่านล้อมว่า “อย่าเพิ่งแจ้งให้น้องสาวคุณนุชเลยครับ เขาจะเป็นห่วงเปล่าๆ และอย่างที่ผมบอกเรื่องแพร่ออกไปไม่เป็นผลดีกับตัวคุณนุชเอง ผมขอเวลาสองวันครับ จะตามหาตัวคุณนุช มาให้ได้” พี่แต๋วเองก็ปวดใจเหลือประมาณ ในฐานะที่เธอเป็นผู้ดูแล ถ้าอะไรเกิดขึ้นกับอรนุช เธอก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงภาระไม่พ้น ถ้าพ่อเลี้ยง สามารถตามหาตัวอรนุชกลับมาได้โดยที่เรื่องไม่อื้อฉาวขยายวงกว้างให้คนเอาไป ซุบซิบนินทาก็คงดี ดีกับน้องนุช และดีกับตัวเธอด้วย ภายใต้การครุ่นคิดอย่างหนัก ในที่สุดกรองกนกก็ตัดสินใจ เธอปรับสีหน้าให้เป็นปกติมากขึ้น และซักซ้อมเรื่องราวกับคมศร ก่อนที่ทั้งคู่จะกลับไปแจ้งกับคณะกองประกวดว่าทางบ้านของอรนุชมีเรื่องสำคัญ เป็นการภายใน เด็กสาวจึงขอตัวกลับเดินทางกลับกรุงเทพไปล่วงหน้าแล้ว เนื่องเพราะไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้าย และกรองกนกก็เป็นคนรับรองเองกับปาก ดังนั้นทุกฝ่ายก็เชื่อสนิทใจ จะมีบ้างก็พวกสามสาวเพื่อนสนิทของอรนุชเข้ามารุมถามอย่างเป็นห่วง “พี่แต๋วคะ ยายนุชมีเรื่องอะไรหรือคะ” นิรัชราถามอย่างสงสัย ใบหน้าเป็นกังวล กรองกนกยิ้มฝืนๆ “น้องนุชเขาบอกเป็นเรื่องในครอบครัวจ้ะ พี่แต๋วก็ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก คงต้องรอกลับไปกรุงเทพค่อยถามอีกที” รัชนีมองตาเพื่อนสองคนไปๆ มาๆ แล้วว่า “ลองโทรไปถามนุชดูดีไหม ว่ามีอะไรมากหรือเปล่า” กรองกนกใจหายวาบ มองตากับคมศรที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งพ่อเลี้ยงปางห้วยสักกล่าวว่า “ผมว่าอย่าเพิ่งไปกวนคุณอรนุชเลยจะดีกว่านะครับ ถ้าเป็นเรื่องในครอบครัวเธอ เธออาจจะไม่สะดวกใจที่จะพูดออกไป” นิรัชราฟังแล้วก็คล้อยตาม “ฮื่อ นิดก็ว่างั้นแหล่ะ เราอย่างเพิ่งไปกวนนุชเลย ถ้าเขาอยากจะบอกเราก็คงโทรมาลาเราแล้ว” “อือม์ ฉันก็เห็นด้วยกับนิด” มุกดาเอ่ยสนับสนุน ดังนั้นแม้รัชนีจะทำท่าคันปากยิกๆ อย่างจะโทรไปถามให้รู้เรื่องจนเต็มแก่ ก็ได้แต่ต้องยอมอดใจ อีกประการหนึ่ง แม้ว่าเธอจะสงสัยแกมเป็นห่วง แต่รู้มารยาทสังคมดี ถ้าเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเพื่อนก็คงไม่เหมาะนักที่จะเซ้าซี้ถามอะไรให้ มากความไป ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ คมศรแลเห็นทุกอย่างจัดการเรียบร้อย ก็สั่งการให้แม่บ้านอุ่นเรือนเป็นคนดูแลส่งคณะกองประกวดกลับ ส่วนตัวเองเข้าไปกระซิบย้ำกับกรองกนกอีกครั้งอย่างหนักแน่น ใบหน้าขรึมจริงจัง “ผมจะตามตัวคุณนุชคืนมาให้ได้ ผมสัญญา” พี่แต๋วใจหาย แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่าภวนาให้คำพูดของอีกฝ่ายเป็นจริงเท่านั้น คมศรกลับมาที่รถ ขณะที่ขับรถมุ่งหน้ากลับไปทางด้านหลัง องครักษ์ติดตามตัวของเขาก็โทรมา “เจอมือถือของคุณนุชแล้วครับ ตกอยู่กลางทุ่งห่างจากปางไปประมาณกิโลนึงครับ” พ่อเลี้ยงปางห้วยสักผงกศีรษะอย่างพอใจ กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน “ดีมาก ลองตรวจดูรอบๆบริเวณนั้น เจ้าหมอกมันได้รับบาดเจ็บอาจจะมีรอยเลือด ฉันกำลังไปสมบทบ” คมศรเหยียบคันเร่ง ทะยานรถจี๊ปบึ่งไปทางด้านหลัง และเปลี่ยนเป็นขึ้นม้าตัวหนึ่ง ควบขับตรงไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายบอก ดวงตาของเจ้าของปางห้วยสักเปล่งประกายเจิดจ้า เหี้ยมเกรียม เสี่ยคิ้มหัวเราะกระเส่า ขณะที่ร่างของเขากำลังนั่งอยู่บนโซฟา โดยมีคันธรสนั่งแหกขาอ่อนขาวอวบคร่อมอยู่บนตัวเขา ใบหน้างามบาดตานั้นกำลังบิดเบี้ยวเหยเกสุดๆ เพราะตอนนั้นลำควยหนาของเสี่ยนักค้าทองที่ผงานตั้งชูชันราวกับลำทวนกำลังบด เบียดไปกับโพรงสวาทของเธอ ความอวบที่ครูดไปกับติ่งกระสันนั้นมันสะกิดพร่านความเสียวซ่านรัญจวนให้ กระเจิงไปทั่วอนูความรู้สึกของสาวสวย ความเสียวกระสันนั้นเร่งเร้าให้หญิงสาวที่นั่งหันหน้าให้กับเสี่ยค้าทอง ใช้สองมือวางกดไปที่บ่าของอีกฝ่าย เกร็งข้อแขนร่วมเข้ากับสองเข่าที่ยันอยู่บนเบาะ ส่งร่างงามของเธอกระเด้าควบเข้าใส่ตอเนื้อของเสี่ยคิ้มอย่างร้อนร่าน ปากงามห่อครางครวญ ไปตามจังหวะเสียวซ่านที่เธอพยายามเกร็งหน้าทองบดโพรงสวาทของเธอให้ขยอกรัด ควยท่อนนั้นให้เข้าไปบี้เบียดติ่งแตดของเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “อ๊ะ..อ๊ะๆๆ..อื้อออๆๆ” “อูว..ซี๊ด..โอย..ตอดสุดๆ..อูว..คนสวย..โอว..อย่างนั้นๆๆ..ควบเร็วๆ..ผมจะถึงแล้ว” ใบหน้าของเสี่ยคิ้มก็บิดเบี้ยวไปด้วยความรู้สึกเสียวซ่านไม่แพ้กัน สองมือที่รั้งไปตรงเอวคอดกิ่วของคันธรสนั้นตะปบไปตรงเนื้อขาวผ่อง กระชากร่างของหญิงสาวให้กระทอกลงมาพร้อมๆ กับกระแทกควยอัดสวนเข้าไปอย่างสุดมันส์ ปั่บๆๆๆๆๆๆ เสียงแก้มก้นขาวผ่องนั้นกระแทกไปกับหน้าขาของเสี่ยตัณหากับดังถี่ยิบ “อ๊ะๆๆๆๆ..เสียว..เหลือเกินค่ะ..โอว..รส..รส..ก็จะถึงเหมือนกัน..อื้อๆๆๆ” “ซี๊ด..ซี๊ด..มันส์ควยคิ้มเหลือเกินคนสวย..อูย..ถ้าอย่างนั้นก็กระเด้าเร็วๆ หน่อยสิคุณรส..อูยยยย..หีมันตอดเหลือเกิน..โอว..สุดยอดจริงๆ..อูวๆๆๆ..อย่าง นั้นๆๆ..อูว..” เสี่ยตัณหากลับร้องพล่าน ก่อนที่ใช้ปากงับไปบนปลายถันงามงอนที่กำลังกระเด้งกระดอนล้ออยู่ตรงหน้า คันธรสแหงนหน้าเพริด เร่งกำลังโหมกระเด้าตัวเองบดเบียดโพรงสวาทขยอกครูดลำอวบนั้นอย่างร้อนร่าน ความเสียวกระสันที่ทะลักทลายพล่านไปจนจับจิต ก็ทำให้หญิงสาวตัวสั่นระริกๆ ขนลุกชันไปทั่วลำตัวที่ตอนนั้นมันปลาบไปด้วยเหงื่อที่ทะลักทลายออกมาแทบจะ ทุกรูขุมขน “อูย..อย่างนั้นๆๆๆ..โอว..โอว..อ๊าซ..อ๊าซซ..แรงๆๆ แรงอีกๆๆๆ คนสวยของคิ้ม” คำของเสี่ยค้าทองราวกับมนต์ดำ และเห็นร่างขาวที่มันปลาบไปด้วยเหงื่อนั้นยิ่งเร่งกระเด้าตัวหนักขึ้นๆ สองเต้าอวบขาวเด้งกระดอนไปมาอย่างรุนแรง น้ำกามที่เฉอะแฉะอยู่ตรงกลีบอูมนั้นถูกแรงกระเด้าตีใส่จนขึ้นเป็นฟองขาว น้ำเมือกข้นเขลอะลามไหลโชลมล้นออกมาตามลำควยของเสี่ยตัณหากลับ ย้อมไปเอ่อชุ่มกระโปกเหี่ยวๆ บางส่วนนั้นก็กระฉอกไปเปรอะแฉะอยู่ตามง่ามขาที่กำลังถูกแก้มก้นขาวนั้นบดลง มาแนบชิดเป็นจังหวะ เสียง ปั่บๆๆๆๆๆ ดังต่อเนื่องถี่ยิบ ปากงามห่อครางครวญเสียงดัง “อ๊ะๆๆ..เสี่ยขา..อ๊ะๆๆๆ..ไม่ไหวแล้วค่ะ..อ๊ะๆๆๆๆๆ..รส..รสจะถึงแล้ว..อ๊ะๆๆๆ” “อูย..ผมก็จะเสร็จเหมือนกัน..โอว..เร่งเลยๆๆ เราจะได้ถึงสวรรค์พร้อมกันไงล่ะคนสวย..โอว..ซี๊ด..อูย..อูย..โพรงหีมันดูใหญ่แล้ว..อ๊าซ” เสียงหน้าขากระแทกแก้มก้นดัง ปั่บๆๆๆๆๆ ประสานกับเสียงครางระงมของเสี่ยคิ้มกับคันธรสอย่างต่อเนื่อง มือหยาบนั้นเร่งส่งกำลังขย้ำขยี้ไปตรงบริเวณเนื้อขาวๆ ตรงหว่างเอวของคันธรสจนนิ้วนั้นบุ๋มไปกับเนื้อนุ่ม หญิงสาวที่กำลังเพริดไต่ไปสู่ระดับขีดสุดของอารมณ์นั้น ถูกความเสียวกระสันกลบบังความ รู้สึกเจ็บไปจนหมด แหงนหน้าร่ำร้องครวญคราง กระเด้าโพรงสวาทของเธอล้อไปกับแรงกระตุ้นตรงมือหยาบที่หว่างเอว บดบี้ติ่งแตดของตัวเองเข้าไปกับท่อนอวบนั้น เร่งเร้าจังหวะจนกระทั่งส่งอารมณ์สวาทของเธอพุ่งทะลุจุดเดือดไปอย่างเร่า ร้อนรัญจวน คันธรสแหงนเพริด ร้องลั่นห้อง “อ๊ะๆๆๆๆ..อ๊าย..อ๊าย” ร่างงามกระตุกพราดๆ มือที่กดไปที่บ่านั้นจิกเล็บลงไปกับบ่าของเสี่ยคิ้มอย่างแรง เสี่ยตัณหากลับร้องอู้ววววว โพรงสวาทที่หดตัวบีบรัดเข้ามาอย่างรุนแรงตามจังหวะกระสันซ่านน้ำแตกของหญิง สาวแสนสวยก็ทำให้เสี่ยตัณหากลับรู้ว่าตัวเองก็ถึงที่เหมือนกัน ทำให้เร่งเครื่องขยุ้มเอวของคันธรสให้กระทอกควยตัวเอง และยกหน้าขาอัดสวนกระแทกแรงๆ กลับไป ป้าบๆๆๆๆๆๆ ก่อนจะแผดเสียงร้องลั่นออกมาตามติดไปอย่างกระชั้นชิด “อ๊าซ..อ๊าซ..อูว..โอย..สุดยอดจริงๆ..อ๊าซ..อูย..อูย..สุดยอด คุณรสคนสวย..อูยซ” คันธรสนั้นแทบไม่รับรู้อะไรแล้ว เพราะเหน็ดเหนื่อยจนหอบหายใจออกมาราวกับจะขาดใจ โดยทั้งๆ ที่ยังอยู่ในท่านั่งแหกขาคร่อมควยของเสี่ยคิ้ม ร่างบางของเธอก็เอนฟุบลงไปกับตัวของเสี่ยตัณหากลับ ซบหน้าไปกับบ่าของเขา สองเต้าอวบนั้นบดเบียดทับไปกับอกหย่อนยานของอีกฝ่าย ขณะที่เสี่ยคิ้มที่กำลังพยายามเค้นน้ำกามออกไปจากปลายหัวถอก ก็ยังโอบไปที่สะโพกผายของหญิงสาวกดร่างของเธอให้กระชับกับลำควย และแอ่นสะโพกกระทอกอัดหน้าขากระแทกขึ้นไปเป็นจังหวะสั้นๆ ปั่บปั่บปั่บ “อูย..อูย..ตอดดีจริงๆ..โอว..โพรงหีมันดูดควยผมใหญ่เลยคนสวย..อูว..อูว” เสี่ยทองที่เฝ้าดูอยู่ข้างๆ หัวเราะกระเส่า แลบลิ้นเลียปาก ควยอวบอ้วนนั้นยังไม่เบื่อกับโพรงสวาทของสาวสวยรวยเสน่ห์ตรงหน้านี้เลยแม้ แต่น้อย พอจับตามองดูเสี่ยคิ้มที่หยุดยั้งจังหวะกระทอกควยเพื่อรีดน้ำกามออกไปแล้ว เสี่ยอ้วนก็เดินพุงกระเพื่อมเข้ามาใช้สองมือฉุดรั้งไปตรงบริเวณรักแร้สอง ข้างของคันธรส และดึงร่างปวกเปียกของหญิงสาวให้หลุดออกมาจากควยของเสี่ยคิ้มที่นั่งยิ้ม เผล่ เสียงดังบล๊อบ คันธรสคราง อื้ออออ เมื่อติ่งเสียวของเธอถูกครูดคราดอย่างถนัดถนี่ไปบนลำควยอวบนั้น ก่อนที่ความเย็นจากอากาศในห้องปรับอากาศเย็นฉ่ำจะชำแรกเข้ามาในร่างของเธอ ผ่านร่องสวาทที่บัดนั้นแบะกลีบอูมกลวงอ้า และมีน้ำเมือกสีขาวไหลเยิ้มย้อยออกมาเป็นสายหนืด “สะ..เสี่ยขา..รส..จนขาดใจ..อยู่แล้ว” คันธรสครางออกมาอย่างสุดเหนื่อยเมื่อยล้าไปทั่วทั้งตัว เมื่อรับรู้ว่าตัวเธอถูกผลักไปนอนหงายบนเตียงโดยมีร่างอ้วนฉุของเสี่ยทอง ทิ้งตัวตามติดเข้ามา สองมือตะโบมไปยังสองเต้าอวบของเธออย่างตะกรุม ตะกราม ปากหนาๆ นั้นบดขยี้ไปบนปลายถันอย่างกระหายหิว คันธรสครางครวญพยายามผลักร่างอวบอ้วนนั้นออกไป เพราะมันปวดขัดไปหมดทั้งตัว โดยเฉพาะหัวนมทั้งสองข้างที่กำลังถูกตะโบมบีบคลึงเคล้นอย่างรุนแรง เสี่ยอ้วนหัวเราะร่า “อูย..เนื้อตัวของคุณมันช่างอร่อยเหลือเกิน ผมยังไม่หายอยากเลยนะ..ที่รัก” เสี่ยทองพูดจบก็ไม่สนใจอาการขัดขืนของคันธรส เสี่ยอ้วนละเลงมือและปากลงไปบนสองเต้าอวบขาวนั้นอย่างเมามัน ปากหนานั้นสลับซ้ายขวา อ้าดูดไปตามปลายงามงอนนั้น เสียงซ๊วบซ๊วบท่ามกลางอาการส่ายไปมาของคันธรสที่ทั้งเจ็บและความเสียวระลอก ใหม่กำลังกำเนิดขึ้น เสี่ยอ้วนดื่มด่ำความอร่อยหวานจากสองเต้าอวบนั้นจนพอใจ ก่อนจะผละมือไปขยุ้มที่ต้นขาขาวของคันธรสจับแบะให้ถ่างออก และจ่อหัวถอกอวบเข้าพรวดเข้าไป กลีบอูมที่เหนอะ หนะไปด้วยน้ำเมือกข้นนั้นแบะอ้ารอคอยอยู่ก่อนแล้ว ก็ขยายตัวอมกลืนหัวบานของเสี่ยทองเข้าไปอย่างรวดเร็ว “อ๊ะ..อ๊าย..” คันธรสแหงนหน้าเพริด ปากครางออกมา เมื่อความอวบอ้วนนั้นบดเบียดโพรงหลืบเข้ามาอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามนั้นบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน ทันใดนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของเสี่ยคิ้มก็ดังขึ้น เสี่ยค้าทองที่สมอารมณ์หมายจนอิ่มเอมเปรมปรี ลุกขึ้นเดินโทงๆ ควยอวบที่เพิ่งพ่นน้ำเมือกออกไปหยกๆ หดตัวลงเล็กน้อย แต่ยังไม่คลายความแข็งเนื่องจากถูกโด๊ปยาเอาไว้เช่นเดียวกัน ในเวลานั้นเสี่ยตัณหากลับหัวเราะร่า เมื่อเห็นเสี่ยทองเพื่อนร่วมอุดม การณ์เริ่มกระเด้าควยเข้าไปในโพรงหลืบของคันธรสที่นอนหงายอยู่บนเตียง เสียงคราง..ซี๊ด..ซ๊าด..ดังมาจากปากหนานั้น พร้อมๆกับเสียงคราง..ฮืออออ..ฮืออออ..จากหญิงสาวสวยที่นอนระทวยอยู่ เสียงสัญญาณมือถือดังอยู่ในกางเกงของเสี่ยค้าทองที่ตกเรี่ยราดอยู่บนพื้น ใบหน้าเหลี่ยมของนักค้าทองมีประกายแห่งความตื่นเต้นเมื่อหยิบมือถือมาแล้ว มองเห็นเบอร์ของสายเรียกเข้า เขารีบเปิดรับทันที “ปลากินเหยื่อแล้วค่ะ เสี่ยคิ้ม ดำเนินตามแผนได้” ดวงตาสามเหลี่ยมของเสี่ยค้าทองเป็นประกายวูบอย่างยินดี หัวเราะร่า “โอว..ข่าวดีจริง น้องไอซ์ ขอบคุณเหลือเกิน ผมต้องตอบแทนให้กับน้องไอซ์อย่างจุใจแน่นอน” เสียงหัวเราะระริกร่วนดังมา ก่อนจะว่า “แล้วเสี่ยจะไม่ไปกำกับด้วยตัวเองหรือคะ” เสี่ยคิ้มลังเลใจวูบหนึ่ง ก่อนจะว่า “คงไม่เป็นไร สองคนที่ผมส่งไปมันจัดการเองได้” “คิกคิก แต่มันน่าเสียดายแทนเสี่ยนะคะ เนื้ออ่อนๆ หวานๆ ขนาดนั้นน่ะ เสี่ยน่าจะจัดการให้อิ่มก่อนค่อยปล่อยให้ถึงลูกน้อง” ดวงตาของเสี่ยค้าทองเป็นประกายวูบวาบ เขม้นมองไปยังเกมสวาทที่กำลังเร่าร้อนบนเตียง ในเวลานั้นเห็นเสี่ยอ้วนโย้ขางามของคันธรสจนไปกดตรงหัวเตียง โพรงสวาทของสาวสดนั้นจึงม้วนแอ่นหงายเพริดขึ้นมารองรับการกระเด้าแทงที่ เริ่มเร่งจังหวะราวกับลูกสูบ น้ำเมือกข้นถูกแรงเสียดสีจนเป็นฟองฟ๊อดขาว อาบไปทั่วลำอวบที่ชักเข้าชักออกโพรงสวาทที่ฉ่ำแฉะนั้น จากมุมที่เสี่ยคิ้มเห็นร่องก้นขาวผ่องกำลังแบะออกจนเห็นรูทวารสวาทนั้นกำลัง ขมิบถี่ถี่ น้ำกามขาวเหนียวที่เจิ่งนองอาบเยิ้มย้อยออกมาจากโพรงหลืบที่คับคาไปด้วยท่อน อวบนั้นไหลออกมาเป็นทางลากเชื่อมไปบนรูทวารที่ตีบเล็กนั้นอย่างชัดเจน ก่อนจะทบย้อยกันลงไปเจิ่งนองหยดเป็นวงกลมด่างดวงบนฟูกเตียง เสี่ยค้าทองยังไม่คิดจะเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองกำลังเผด็จสวาทคันธรสให้กับ เด็กสาวที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสาวสวยนั้นได้ยิน จึงแค่หัวเราะร่วนเท่านั้น ครุ่นคิดในใจ เนื้ออ่อนๆ ที่ไหนมันจะสวย และก็เย็ดมันส์สะเด่าควย เท่ากับเนื้อขาวๆ ที่กำลังนอนนมเด้งอยู่บนเตียงตอนนี้วะ แม่งเอ๊ยโคตรมันส์เลยเย็ดไม่มีเบื่อ ฮ่ะฮ่ะ “ไม่เป็นไรก็ได้มั้งน้องไอซ์ แบ่งให้ไอ้พวกนั้นบ้างก็ได้ ผมไม่ถือหรอกเรื่องว่าต้องเป็นคนเปิดน่ะ” เสี่ยคิ้มทำเป็นพูดใจใหญ่ แต่แท้ที่จริงยังไม่หายอยากกับการทิ่มควยเข้าใส่ร่างงามบาดตาของคันธรสเลย แม้แต่น้อย เขาจะต้องใช้เวลาในห้องนี้อย่างมีความสุขหฤหรรษ์อีกเนิ่นนานนัก “เอาเถอะค่ะ แล้วแต่เสี่ยก็แล้วกัน ตอนนี้พวกนั้นคงดูหนังกันอยู่กว่าจะเลิกก็ประมาณทุ่มกว่ามั้ง ไอซ์ส่งต่อให้กับเสี่ยแล้วนะคะอย่าลืมที่ตกลงกัน” “ได้สิได้ผมไม่ลืมอยู่แล้วจะจัดการไอ้สวะนั่นให้สาสมเลยทีเดียว น้องไอซ์ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้” “คิกคิก อ้อ เผื่อเสี่ยเปลี่ยนใจ เดี๋ยวไอซ์จะส่งรูปไปให้เสี่ยดูนะคะ คิกคิก แค่นี้ล่ะค่ะ” ความจริงเสี่ยคิ้มไม่มีความคิดในหัวเลยแม้แต่น้อย ที่จะละจากแผนการณ์ที่ได้ร่วมกันกับเสี่ยทองในการเคลมสวาทสาวสวยที่กำลังนอน ระริกร่านอยู่บนเตียง ถึงแม้ว่าควยอวบของตัวเขานั้นได้ลิ้มรสความหอมหวานจากโพรงหลืบนั้นไป แล้วอย่างอิ่มเอมก็ตามที หากแต่ด้วยนิสัยแห่งความมากตัณหาราคะ ก็ทำให้เสี่ยนักค้าทองอดที่จะเปิดรูปที่ฐิติพรรณส่งมาให้ไม่ได้ แต่พอได้เห็นภาพโคลสอัพชัดๆ ของวงหน้าหวานสวยที่ยิ้มอายๆ อยู่ตรงหน้า ก็ทำให้ตาของเสี่ยคิ้มเบิกถลนออกมาแทบนอกเบ้า ปากหนาครางออกมาซี๊ดซ๊าด ร้องร่ำอยู่ในใจราวกับบ้าคลั่ง ‘อูย..สวย..สวยเหลือเกินนังเด็กนี่ สวยชิ๊บหาย หวานใสไร้เดียงสา อ่อนขบเผาะ ท่าทางจะหวานไปทั้งตัวเล๊ย..ซี๊ด..ปากแดงโคตรน่าจูบ..แม่งเอ๊ย..เกือบไปไม๊ ล่ะ ดีที่น้องไอซ์ส่งภาพมาให้ดูนะ ของดีๆอย่างนี้ปล่อยให้ไอ้ตี๋กับไอ้ชดได้ไงวะเสียของหมด ฮ่ะฮ่ะ แม่งโชคสองเด้งเลยเว้ยวันนี้ สุดยอดๆๆๆ หลังจากอิ่มอร่อยกับนังรสคนสวย ก็ตบท้ายด้วยของหวานนังหนูเนื้ออ่อนนี่ กร๊ากกๆๆๆๆ’ เสี่ยตัณหากลับแสยะยิ้มอย่างสะใจเหลือกำลัง ครุ่นคิดในใจอย่างครึกครื้น สงสัยจะต้องโด๊ปยาเพิ่มละว่ะ น้ำหมดไม่เป็นไรขอให้ของๆ กูแข็งโด่ได้ทั้งคืนก็เป็นพอ ฮ่าฮ่า มองดูเวลาเสี่ยคิ้มก็รีบโทรศัพท์ออกไป พอทางปลายสายเปิดรับ เสี่ยตัณหากลับก็ส่งเสียงออกไป “ไอ้ตี๋เรอะ” เสี่ยนักค้าทองบอกชื่อศูนย์การค้าชื่อดังแถวรัชดาภิเษก และตำแหน่งที่อยู่ของรถคันงามของศักดาให้กับลูกน้องก่อนจะตบท้าย “เอารถตู้ไป พวกมึงรีบไปซุ่มอยู่แถวๆนั้น กูจะตามไปสมทบ” “ครับ เสี่ยไม่ต้องห่วง” วางสายไปแล้ว เสี่ยค้าทองเดินตัวกระเส่าไปยังเตียงกว้าง ตอนนั้นเสี่ยอ้วนแหงนหน้าแหกปากร้อง กระเด้าควยอวบกระแทกโพรงสวาทที่ฉ่ำแฉะนั้นเสียงดัง ปั่บ ปั่บ ปั่บ ใบหน้าอูมนั้นกำลังบิดเบี้ยวเพราะความเสียวเริ่มไต่ระดับความแรงขึ้นเรี่อยๆ ไขมันอ้วนฉุก้อนกลมใหญ่ตรงหน้าท้องนั้นบดเบียดกดกระแทกลงไปบนหน้าท้องขาว ผ่องแบนราบของหญิงสาวที่นอนระทวยอยู่บนเตียง เสียงดัง หมั่บๆๆๆๆ ร่างงามของคันธรสที่ม้วนตัวหงายโคกสาวอยู่บนเตียงนั้นดิ้นพร่านสุดๆ เพราะความเสียวกระสันที่แผ่ลามมาจากเนินสวาทนั้นกำลังแผ่ซ่านพล่านไปปกคลุม ไปทั่วอณูความรู้สึกของเธออีกคำรบหนึ่งเนื่องจากยาสวาทที่ไหวเวียนอยู่ใน ร่างกายนั้นยังคงกรุ่นไปด้วยด้วยฤทธ์ที่รุนแรงอย่างไม่มีทางจางไปได้โดยง่าย ปากนุ่มของเธอห่อครวญครางเสียงกระเส่าประสานไปกับจังหวะกระเด้านั้นดัง อ๊ะๆๆๆๆๆ สองเท้าที่ม้วนคาชี้ขึ้นไปบฟ้านั้นบิดงอหงิกเกร็งด้วยความเสียวซ่านสุดขีด ส่วนแขนบอบบางของเธอก็ตวัดรัดไปยังหนั่นเนื้อที่หย่อนยานเผละไปด้วยไขมันของ อีกฝ่าย จิกนิ้วที่ตัดเล็บมนเรียวงามเคลือบสีน้ำดอกไม้สดทั้งสิบนั้นลงไปบนเนื้ออูม อวบของเสี่ยอ้วนเป็นการทอนความเสียวกระสันซ่านที่พลุ่งพล่านจนจับจิต เสี่ยคิ้มแสยะยิ้ม ทิ้งตัวลงไปบนเตียงข้างๆ ร่างงามของคันธรส บดปากหนาประกบบดไปยังปากงามของคันธรสที่กำลังอ้าออกร้องร่ำคร่ำครวญ เสียวกระสันซ่านนั้นอย่างรุนแรง ฉกลิ้นเข้าไปดูดความหวานในโพรงปากของสาวสวยอย่างกระหายหิว ครุ่นคิดในใจ น่าจะยังมีเวลาเหลือพอกระเด้าเย็ดคุณรสคนสวยนี่อีกสักยกสองยกว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้ทองแม่งคงเสร็จไวๆๆ นี้แล้ว “เอาเลย เสี่ยทอง..เร็วๆหน่อย..คุณรสเขากำลังถึงที่แล้ว” ปากหนากระตุ้นเพื่อน ซึ่งเสี่ยทองก็ไม่ขัดศรัทธาเร่งเครื่องกระเด้าเป็นการใหญ่ เสียงปั่บๆๆๆๆดังถี่ยิบ เสียงครางกระเส่าเสียงร้องร่ำอย่างรัญจวนใจ ดังระงมต่อเนื่องต่อไปในห้องนอนหลังนั้น สายตาของคมศรที่จ้องไปยังร่างไร้ชีวิตของม้าตัวโปรดด้วยแววตาแข็งกร้าว ร่างสูงกำยำของเขาทรุดลงคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ข้างๆ ร่างพ่วงพีดำทมึนที่นอนตายน้ำลายฟูมปากอยู่กับพื้น มือของเขาลูบไปยังแผงคอของเจ้าหมอกอย่างอาลัย โดยที่มีธงชัยองครักษ์ติด ตามตัวเขากับคนอีกกลุ่มใหญ่ยืนรายล้อมด้วยสีหน้าสลด เจ้าของปางห้วยสักมองเจ้าหมอกดำอีกอึดใจใหญ่ ก่อนจะถอนใจหายเบาๆ ผุดลุกขึ้นหันหน้าไปยังคนสนิท “รอยม้านำไปไหน” องครักษ์ของคมศรผู้มีใบหน้าขรึมอยู่เป็นนิจ กล่าวนอบน้อม “อย่างที่คาดครับ ตัดป่าไปยังถิ่นของพวกมัน พวกเราตามไปถึงชายทุ่งผึ้ง ก็ไม่กล้าเข้าไปเพราะยังไม่ได้รับคำสั่งจากพ่อเลี้ยง” คมศรผงกศีรษะ หันไปยังเด็กหนุ่มร่างผอมเกร็งที่ยืนอยู่ข้างๆ ธงชัย แล้วว่า “ป้าง ที่ฉันตามแกมาก็เพราะเรื่องนี้ จากทุ่งผึ้งขึ้นไปบนเขา มีที่ไหนที่แกคิดว่าพวกมันจะเอาตัวคุณอรนุชไปซ่อนไว้...” เด็กหนุ่มวัยประมาณสิบเจ็ดปี มีสีหน้าไม่ค่อยแน่ใจนักเมื่อกล่าวว่า “ผมก็ไม่แน่ใจครับพ่อเลี้ยง ที่ซ่อนของพวกมันมีหลายแห่ง” “พวกมันไม่น่าจะเลือกที่ไกลนัก จุดไหนเป็นจุดที่อยู่ใกล้ที่สุด จากทุ่งผึ้ง” พ่อเลี้ยงปางห้วยสักซักสีหน้าเคร่ง ป้าง เด็กหนุ่มผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเขาและครอบครัวเคยเป็นคนของ”ปางเทพนิมิตร”ซึ่ง บัดนี้แปรพักตร์เข้าหาคมศร เนื่องจากครอบครัวของเขาถูกฆ่าตายหมดเพราะพ่อเลี้ยงอดิศัยโกรธจัด ในคราวที่พ่อของป้างทำงานผิดพลาด จนต้องสูญเสียสินค้าที่มีมูลค่ามหาศาล ความจริงป้างนั้นก็ไม่น่าจะรอด ถ้าเผอิญเด็กหนุ่มไม่ได้อยู่ในบ้านเวลาเกิดเหตุในตอนที่คนของอดิศัยเข้าไป ปลิดชีพคนในครอบครัวเขาจนหมด ป้างวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงฝ่าดงป่าจนหลุดออกจากพื้นที่ของปางเทพนิมิตรเข้า ต่อแนวพื้นที่ของปางห้วยสักมาได้ สมุนของพ่อเลี้ยงอดิศัยที่ข้ามพื้นที่เข้าตามล่าตัวของป้าง เกือบจะปลิดชีวิตของเด็กหนุ่มอยู่แล้ว ถ้าวันนั้นคมศรไม่เผอิญผ่านไป “อะไรกัน!!! ทำไมคุณแต๋วถึงเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ไม่ได้ขนาดนี้ ดูแลน้องนุชกันยังไงถึงปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาได้ แล้วเรื่องสำคัญอย่างนี้จะปิดเป็นความลับได้ยังไงกัน ? ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิด!!!!” เสียงของธนานั้นทั้งกร้าวทั้งดุดัน วาจานั้นเล่าก็แสบสันต์อย่างไม่มีการไว้หน้าใดๆ อันเนื่องมาจากอารมณ์ที่พล่านดาลเดือดอยู่ภายในอกนั้นมันต้องการการระบายออก มา ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มก็คงจะแทบคลั่งใจตายไปเพราะความอัดอั้นตันใจนั้น นับตั้งแต่เขาได้รับทราบจากปากของอีกฝ่ายว่าอรนุชนั้นหายตัวไป จากความรู้สึกยินดีที่มีมาตลอดเวลาในการขับรถมาจากกรุงเทพฯ กว่าหกเจ็ดชั่วโมงนั้นมลายเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเร่าร้อน วิตกกังวล หงุดหงิน งุ่นง่าน โกรธแค้น ทุกอย่างที่ประดังขึ้นมานั้น ชายหนุ่มระบายลงไปกับน้ำเสียงที่พูดกับพี่แต๋วอย่างไม่ไว้หน้า แต่ในเวลานั้นกรองกนกไม่ได้มีความคิดจะไม่พอใจ หรือเอะอะโวยวายกับคำพูดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เพราะความละเหี่ยใจ ความเป็นห่วงในตัวของอรนุชนั้นมันมีมากมายจนเหลือประมาณ เธอยินดีที่จะได้รับฟังคำพูดแดกดันที่เจ็บแสบกว่านั้นอีกเป็นร้อยเท่าก็ได้ ถ้ามันจะแลกมาซึ่งการกลับมาอย่างปลอดภัยของเด็กสาวที่เธอรักเอ็นดูเหมือนลูก หลานคนนั้น กรองกนกตอบเสียงซังกะตาย “ดิฉันก็พยายามตัดสินใจอย่างรอบคอบแล้วนะคะ คุณธนา พ่อเลี้ยงคมศรเขาพูดถูก เรื่องอื้อฉาวออกไปคนที่เสียหายก็คือน้องนุช” ดวงตาของธนาแปรเปลี่ยนไปทันที เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของกรองกนก หวนนึกถึงเด็กสาวแสนสวยถูกคนร้ายจับไปอย่างนั้น ความคิดในแง่ร้าย ความคิดในเชิงลบ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวโหวงเหวง ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือด นี่ถ้าน้องนุช น้องนุช ถูก โอ้ยจะบ้าตายอยู่แล้ววว ชายหนุ่มแทบคลั่งกับมโนภาพที่ผุดขึ้นมาในใจ ร่างกายสั่นเทิ้มออกมาทันที จนเขาไม่กล้าคิดต่อ ต้องยกมือขึ้นกุมไปที่ศีรษะอย่างเจ็บปวด นั่งห่อไหล่อย่างหมดเรี่ยวหมดแรง กรองกนกมองไปยังชายหนุ่มเบื้องหน้าแล้วถามว่า “ตอนนี้คุณธนารู้แล้วมีความเห็นว่าอะไรบ้างล่ะคะ เราจะไปแจ้งตำรวจไหม” ความคิดที่พล่านขึ้นมากระทันหันนั้นราวกับค้อนหนักๆ ที่ทุบไปที่ท้ายทอย ทำให้ธนามึนงงไปหมด คิดอะไรไม่ออก ไม่มีปัญญาแม้จะเอ่ยปากพูดเสียดสีกระทบกระแทกอะไรกับกรองกนกด้วยซ้ำไป ใบหน้าหล่อเหลานั้นได้แต่ส่ายไปมาช้าๆ โธ่ น้องนุช ไม่ควร ไม่ควรเลย ในเวลานั้นธนานั่งกุมหัว ซึมเซาราวกับคนไร้สติ ไร้วิญญาณ หรือความคิดอ่านใดๆ อีกต่อไป กรองกนกเสียอีก ที่ยังคุมสติได้ดีกว่า พอเห็นธนาก็นึกถึงพี่ชายของอีกฝ่ายที่เป็นพี่เขยของอรนุชขึ้นมาได้ อย่างน้อยชายหนุ่มคนนั้นก็เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เด็กสาวมี เพราะพี่สาวนั้นไม่อยู่ไปต่าง ประเทศแล้ว “ลองโทรไปหารือคุณปานเทพดีไหมคะ...คุณธนา” คำพูดของสตรีผู้สูงวัยกว่าทำให้ชายหนุ่มได้คิด รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปทันที ปานเทพกำลังนั่งกุมหัวอยู่ตรงโต๊ะทำงานภายในห้องส่วนตัวของตนเองที่บ้านของ เขา ชายหนุ่มกำลังรู้สึกสับสน วุ่นวายใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้จนหัวหมุนไปหมด บนโต๊ะทำงานมีขวดบรั่นดี และแก้วบางใสในมือที่เขาเพิ่งกระดกน้ำสีอำพันนั้นรวดเดียวเข้าปากหมดแก้ว เรื่องมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?เขาจำได้เพียงว่ากำลังนั่งคุยกับคันธรส เรื่องเกี่ยวกับข้อเสนอทางปาร์มบีชเสนอมา จากนั้นก็รู้สึกมึนๆ แล้วทุกอย่างก็มืดมนไป พอมารับรู้อีกครั้งก็อยู่ในสภาพนั้นกับหญิงสาว ใบหน้าหล่อเหลาของปานเทพซีดเผือด และชายหนุ่มนั้นมีสภาพเช่นนี้มาตลอด นับแต่กระเซอะกระเซิงหนีออกมาจากห้องนอนหลังนั้นตั้งแต่ตอนช่วงเย็นแล้ว เขากลับไปที่รถขับกลับบ้านโดยทันที และหมกตัวอยู่ในห้องจนถึงเวลานี้ ทุกอย่างทำไมกลับกลายไปในสภาพนั้นได้ ชายหนุ่มคิดอย่างหนัก ก็แน่ใจว่ามันมีได้แค่คำตอบเดียว เรื่องนี้ต้องเป็นแผนร้ายของคนพวกนั้นที่ล่อเขาไปติดกับแน่นอน คันธรสคงต้องการแก้แค้นเขา ขณะที่เสี่ยทองคงมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นเกี่ยวกับเรื่องการปรับโครงสร้าง หนี้ ปานเทพยกมือขยี้ผมตัวเองอย่างร้อนใจ ก่อนจะรินเหล้าลงแก้วแล้วกระดกเข้าปากรวดเดียวอีกครั้งด้วยใจที่ว้าวุ่น ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ ชายหนุ่มพยายามสะบัดหน้าแรงๆ สูดลมหายใจลึกๆ เรียกคืนสติกลับมาทบทวน พร้อมกับปลอบใจตัวเอง ยังดีที่เขายับยั้งชั่งใจไม่ให้เผลอตัวไปมากกว่านั้น เขาไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาดเกินกว่าจะแก้ไข ใช่ เขาไม่ต้องกลัวอะไร เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ปานเทพย้ำกับตัวเอง ไม่เป็นไร เรายังไม่ได้ทำผิด ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะเวียนพูดกับตัวเองกี่รอบ ความหนักอึ้งในใจของเขาก็ยังไม่คลายตัวลงไปแต่อย่างใด ทำให้ปานเทพต้องเทบรั่นดี รินลงแก้วยกขึ้นดื่มอย่างอัดอั้นตันใจอย่างต่อเนื่อง ในเวลานั้น เสียงโทรศัพท์มือถือพลันดังขึ้นกังวาน จนปานเทพสะดุ้งขึ้นสุดตัว ใบหน้าซีดเผือด เมื่อความกลัวนั้นวาบลึกเข้ามาว่าจะเป็นเบอร์ของเสี่ยทอง แต่พอเห็นเป็นเบอร์ของน้องชาย ปานเทพก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก พยายามระงับจิตระงับใจที่พลุ่งพล่านก่อนที่จะเปิดเครื่องรับสาย ความโล่งอกนั้นเกิดขึ้นแค่ชั่วแว่บ เพราะความอัดอั้นตันใจนั้นยิ่งเพิ่มพูนความหนักหน่วงขึ้นไปอีกหลายเท่าทวี คูณ เมื่อเขาได้รับทราบข่าวร้ายจากปากของน้องชายที่โทรมาจากลำปาง ใบหน้าของปานเทพซีดขาว ดวงตานั้นเต็มไปด้วยตระหนกตกใจกับเรื่องราวที่เพิ่งได้รับรู้ “พี่เทพ เราจะทำอย่างไรกันดีครับ ผมจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว” เสียงของน้องชายดังมา ปานเทพกุมหัวอย่างมึนงง นี่มันวันอะไร ทำไมมันมีเรื่องประดังเข้ามาจนถึงขนาดนี้? จะอย่างไรชายหนุ่มก็เป็นคนที่มีประสบการณ์ชีวิต และฝึกฝนที่จะใช้สติรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาไม่ใช่น้อย ทำให้เขาพยายามสงบใจ ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกล่าวตอบไปว่า “ใจเย็นๆ ก่อนแล้วกัน แกอยู่ทางนั้นคอยติดตามข่าวกับทางคนของปางก็แล้วกันว่าเขาได้ข่าวของยายนุชแล้วหรือยัง” “ดีเหมือนกันครับ ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมจะไปรอที่ปางเลยดีกว่า” ธนาพูดด้วยน้ำเสียงที่จับต้นชนปลายขึ้นได้บ้าง เพราะพอมีทิศทางให้เขารู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป ไม่ใช่มืดมัวเคว้งคว้างไม่รู้เหนือรู้ใต้เหมือนกับเมื่อครู่นี้ “ก็ดี แกไปสืบทางนั้น ส่วนทางนี้เดี๋ยวพี่จะหาทางดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง” ปานเทพพูดจบ สมองที่วิ่งพล่านอย่างสับสน ทั้งเรื่องตัวเอง และเรื่องใหม่ที่ประดังเข้ามาราวกับน้ำป่าทะลัก ทำให้ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจโทรไปหาภรรยาของเขา มือถือเครื่องนั้น ณ บัดนี้กำลังถูกปิดเครื่องเนื่องจากเจ้าของกำลังอยู่บนเครื่องบิน และอรชาไม่ได้แจ้งให้ใครที่เมืองไทยรู้เลยว่ากำลังจะกลับไป ทำให้ปานเทพร้อนใจหนัก ทำไมอรปิดเครื่อง? ท่ามกลางความวุ่นวายใจสับสนต่อเรื่องราวที่ประดังประเดเข้ามา ชายหนุ่มจ่อมจมอยู่ในสภาพนั้นอีกครู่ใหญ่ จนในที่สุดปานเทพก็ตัดสินใจผุดลุกขึ้น เมื่ออรชาไม่อยู่ เขามีหน้าที่ต้องดูแลน้องสาวของเธอให้ดีที่สุด ตอนนี้เรื่องของอรนุชสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ชายหนุ่มเช็คเวลา ตอนนี้เที่ยวบินสุดท้ายไปลำปาง และเชียงใหม่นั้นผ่านไปแล้ว เขาได้แต่ตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปยังลำปางในค่ำคืนนั้นโดยทันที เสี่ยทองนอนก่ายกอดร่างเปลือยของคันธรสอย่างอิ่มเอมใจ ตอนนี้ไม่มีเสี่ยคิ้มมาคอยแบ่งเวลา เสี่ยร่างอ้วนยิ่งใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการละเลียดร่างงามของหญิงสาว ความสุขที่ตักตวงได้อย่างอย่างเมามันโดยไม่ต้องพะวงกับเสี่ยคิ้มทำให้เสี่ย อ้วนไม่สนใจว่าทำไมอีกฝ่ายจึงผละจากไปแต่กลางคัน แต่ก็เข้าใจว่าคงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่น้อย เพราะไม่เช่นนั้นเสี่ยค้าทองนั่นต้องไม่ทิ้งเนื้อชิ้นงามที่นอนระทวยเสนอ สนองพวกเขาทุกท่าอย่างนั้นเป็นแน่ เสี่ยอ้วนที่นอนอยู่ข้างๆ หญิงสาวที่สลบไสลไม่ได้สติ เพราะเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะรองรับอารมณ์ดิบของเสี่ยทองที่มีมาแบบไม่มีหยุด ตั้งแต่ช่วงเย็น มือข้างหนึ่งของเสี่ยอ้วนไม่ห่างจากการขยำไปตามก้อนเนื้ออวบที่สองเต้านั้น ส่วนอีกข้างกำลังยกหูโทรศัพท์คุยกับเสี่ยโฉด “เป็นไงบ้างล่ะ เสี่ยทอง ผมบอกแล้วใช่ไหมว่ามันคุ้มค่ากับจำนวนหุ้นแค่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เสี่ยให้ผม” เสี่ยเซี้ยงส่งเสียงดังกระหยิ่ม ขณะที่เสี่ยอ้วนแม้กำลังเบิกบานใจแทบตาย และกำลังก่ายกอดร่างงามบาดตาของคันธรสอยู่ ก็อดเสียดายหุ้นที่ตัวเองต้องเสียไปไม่ได้ ทำปากขมุบขมิบด่าอีกฝ่ายอย่างสาดเสียเทเสีย ก่อนจะทำเป็นหัวเราะแล้วว่า “ก็ดี ผมโทรมาขอตัวคุณรสให้ค้างคืนกับผมที่นี่นะ” เสียงเสี่ยโฉดหัวเราะก๊ากดังแว่วมา ก่อนจะบอกว่า “ได้ซี้ เรามันเพื่อนกัน แค่นี้จะเป็นไรไปล่ะ ฮ่าฮ่า” เสี่ยทองหัวเราะกระหายหื่นผสมโรงไปด้วย ก่อนจะตัดบท “แค่นี้แหล่ะนะ เสี่ยเซี้ยง” เสี่ยอ้วนโยนโทรศัพท์ทิ้งไป ก่อนจะคว่ำตัวทาบทับไปยังแผ่นหลังขาวเนียนของคันธรสที่นอนคว่ำเหยียดยาวอยู่ บนเตียง ใบหน้าอวบอูมนั้นเต็มไปด้วยความกระหายหิว ไม่สนใจว่าหญิงสาวจะหลับหรือฟื้น ขณะที่ละเลงใบหน้าเฟ้นฟอนจูบไปตามแผ่นหลัง มือก็อ้อมเข้าไปขยำสองเต้างามของคันธรสที่เบียดอยู่กับเตียง เสียงหัวเราะดังกระเส่าห้อง ‘อูยยยย นุ่มนิ่ม เต็มมือจริงๆ คนสวย ขยำกี่ครั้งก็มันส์ทุกครั้ง ฮ่ะฮ่ะ’ สองขาของเสี่ยอ้วนกระแซะเข้าไประหว่างเรียวขาของคันธรสที่นอนคว่ำอยู่ และแบะขาสองข้างของหญิงสาวให้ถ่างออกมา ก่อนจะใช้หมอนใบใหญ่หนุนไปที่หน้าท้องของเธอทำให้โพรงสวาทที่กลวงอ้าฉ่ำแฉะ ไปด้วยน้ำเมือกลอยแหงนเพริดขึ้นมารอรับการกระเด้าเย็ด “อูยยยย..คนสวย แคมหีของคุณมันร่านระริกๆ อ้อนควยผมอีกแล้วนะ” เสี่ยอ้วนกล่าวเสียงครื้นเครง ก่อนจะกดหัวถอกของตนเองบดเบียดโพรงสวาทของคันธรสเข้าไปอย่างเมามัน อีกด้านหนึ่งเสี่ยเซี้ยงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เมื่อวางหูโทรศัพท์ลง มือก็กดเมาส์คลิกไปยังไอคอนที่เขาซ่อนอยู่ รอประเดี๋ยวหนึ่งหนังวีดีโอที่แสดงภาพของปานเทพนอนเปลือยอยู่กับคันธรสก็ แสดงขึ้นมาจนเต็มจอ ใบหน้าของเสี่ยใหญ่แสยะยิ้มอย่างชั่วโฉด หัวเราะฮ่าฮ่า “ไอ้ปานเทพหน้าโง่ เวลาของแกมันหมดลงแล้วว่ะ ฮ่าฮ่า กูขอรับช่วงเมียคนสวยของแกต่อเองนะ ฮ่าฮ่า” มือหยาบของเสี่ยเซี้ยงคลิกๆต่อไป ก็เปิดโฟลเดอร์ที่เขาดาวน์โหลดภาพในอิริยาบทต่างๆของสาวสวยที่เป็นดาวเด่นใน วงสังคมมาเก็บไว้จนเต็มไปหมด เมื่อภาพที่ช่างภาพเก็บอิริยาบทใบหน้าหวานสวยของของอรชาที่กำลังหันหน้าไป มองทางด้านซ้ายมือ จังหวะนั้นดูเหมือนกำลังมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอแปลกใจและดีใจระคน กัน ใบหน้าสวยเปี่ยมเสน่ห์จับตาจับใจนั้นจึงแฝงไปด้วยรอยยิ้มอันรัดรึง ริมฝีปากที่เคลือบสีชมพูอ่อนนั้นเยื้อนแย้มจนแลเห็นฟันที่ได้รูปขาวราวกับ สายไข่มุก ดวงตากลมโตที่เบิกน้อยๆเต็มไปด้วยประกายวาววับราวกับดวงดาวอันเจิดจรัส เสี่ยโฉดคลิกไปที่ภาพดึงขึ้นจนเต็มจอ จากนั้นนิ้วหยาบๆของเสี่ยเซี้ยงก็จิ้มไปตรงบริเวณริมฝีปากที่ได้รูปงามราว กับกลีบกุหลาบสีสดนั้น แสยะยิ้มอย่างกระหายหื่น กล่าวเสียงเคล้าหัวเราะอย่างชั่วช้าลามก “ปากนุ่มๆของเธอ จะต้องอ้าออกอมควยของเสี่ยเซี้ยงคนนี้แน่ แม่อรชาคนสวย ฮ่าฮ่าฮ่า” สิ้นเสียงปืนที่ดังกึกก้องคับป่าเป็นนัดที่สองนั้น ร่างทมึนของนายแสงที่กำลังพุ่งเข้าจู่โจมอรนุชก็ผงะเหมือนกับถูกมือไร้ สภาพกระชาก ร่างกำยำนั้นแผดร้องราวกับสุกรถูกเชือด ล้มลงนอนดิ้นพราดๆ กลิ่นคาวเลือดโชยตลบอบอวล ท่ามกลางเสียงคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด อรนุชที่ใจหายวาบ ก็แลเห็นร่างสูงใหญ่ของคนที่เธอนึกถึงอยู่แทบจะตลอดทุกลมหายใจตอนที่ถูกขัง อยู่ ใบหน้างามนั้นเบิกตากว้างอย่างยินดีสุดประมาณ ริมฝีปากสั่นระริกเมื่อโพล่งออกไป “นาย นายสิงห์!!!” คมศรที่พรวดเข้ามาราวกับสิงห์ร้ายสมชื่อ ดวงตาสีเหล็กนั้นทอแววร้อนรุ่ม ปากร้องตะโกน “ระวัง!!” Hew โพสเมื่อ 2011-2-1 08:18 ด้วยความยินดีที่แทรกขึ้นมาจนทำให้ร่างเล็กบางนั้นสั่นระริก ความตื่นตัวตึงเครียดที่เฝ้าระวังไม่ให้ตัวเองประมาทนั้น ราวกับลูกหนังที่อัดอั้น พอมีรูรั่วเล็กน้อย ลมก็พรั่งพรูออกมา จนทำให้ตอนนั้นมือของเด็กสาวสั่นไม่มั่นคงในการกุมตัวชายหนุ่มที่แข็งแรง กำยำอย่างอดิศัยเหมือนเดิม ซึ่งตัวของพ่อเลี้ยงคู่อริร่วมแดงทั้งคู่นั้นก็รับรู้ได้แทบในเวลาพร้อมๆ กัน ยังไม่ทันสิ้นเสียงของคมศร พ่อเลี้ยงปางเทพนิมิตรก็สะบัดตัวเต็มแรง ร่างพุ่งวาบกลิ้งกลับเข้าไปในกระท่อม ขณะที่เงาร่างทมึนสับสนของนายคำกับพวกกำลังกรูกันออกมาจากห้อง “ฆ่ามัน!!! ไอ้เหี้ยสิงห์ ฆ่ามันให้กู!!! ฆ่าอีห่านั่นด้วย” เสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดดังมาจากภายในกระท่อม ขณะที่อรนุชกำลังยืนงงๆ ที่ตัวประกันหลุดรอดจากการเกาะกุมของตัวเธอไปได้ ร่างสูงใหญ่ของคมศรก็พรวดเข้ามารวบไปที่เอวของเธอ กลิ้งร่างม้วนหลุนๆ ไปจากตำแหน่งนั้นโดยพลัน ปัง ปัง ปัง!!! เสียงปืนดังสนั่น เด็กสาวร่างบางที่กลิ้งไปนั้นรับทราบถึงแรงฝ่าอากาศของกระสุน 9 มม. ที่วิ่งวิ้งๆๆ ผ่านตัวของเธอไปอย่างใจหายวาบ ถ้าเธอยังยืนอยู่เมื่อครู่ก็คงต้องกระสุนปืนกลุ่มนั้นไปแล้ว ร่างของอรนุชที่นอนหงายไปกับพื้น ถูกฉุดให้ลุกขึ้น เด็กสาวผวาจะไปเก็บ Glock ด้ามสีดำทมึนที่เมื่อครู่แรงกระแทกจากคมศรทำให้ปืนนั้นหลุดกระเด็นจากมือของ เธอไป แต่พ่อเลี้ยงปางห้วยสักฉุดไปที่ข้อมือเล็กนั้น พวกเขาไม่มีเวลาแล้ว “ไป” เสียงคำรามของคมศรพร้อมกับแรงฉุดกระชาก ร่างเล็กบางของอรนุชก็ปลิวหวือตามตัวของร่างสูงใหญ่นั้นไปราวกับกองนุ่น ฉับพลันนั้นหางตาของเด็กสาวแลเห็นกลุ่มคนที่ทมึนออกมาจากกระท่อมพร้อมๆ กับอาการใจหายวาบอรนุชรีบวิ่งตามคมศรไปอย่างสุดฝีเท้าโดยทันที เสียงปืนดังแหวกความมืดดังติดต่อถี่ยิบ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง คมศรที่ฉุดร่างเล็กบางวิ่งเตลิดขึ้นไปทางยอดดอยที่เป็นราวป่าที่หนาทึบ ได้แต่หวังอาศัยความมืดกำบังตัวและแนวไม้ หรือถ้าจะมี โชคชะตา ช่วยให้เขาและอรนุชรอดพ้นจากการไล่ล่าจากอดิศัยกับพวก เสียงลูกกระสุนนั้นที่ระดมเข้ามานั้น แลกมาซึ่งเสียงเปรี้ยะๆๆ ที่ดังอยู่รอบตัว เปลือกไม้แตกกระจุย อรนุชที่วิ่งไปยกมือขึ้นกุมศีรษะอย่างหวาดหวั่นไปนั้นใจเต้นกระดอนราวกับจะ ทะลุออกมาจากอก พวกนั้นตั้งใจจะฆ่าเธอกับนายสิงห์จริงๆ ความรักตัวกลัวตายอันมีอยู่ในกลมสันดานของมนุษย์ทุกรูปนาม ทำให้อรนุชนั้นราวกับมีพลังแฝงที่ถูกขุดขึ้นมาใช้อย่างไม่มีความเหน็ดเนื่อย เท้าเล็กๆ ที่วิ่งเต็มที่ติดตามร่างสูงใหญ่นั้นฝ่าทะลุเข้าไปในป่าที่รกเรื้อ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านเนินและหลุมลาดไปกี่เนินแล้วก็จำไม่ได้ เสียงเอะอะโวยวายที่เบื้องหลังก็ยังตามมาไม่ลดละ เสียงของคนกลุ่มนั้นราวกับเสียงของฝูงหมาป่าที่กำลังรุมไล่ล่าเหยื่อ สำเนียงนั้นมันช่างกัดกร่อนในจิตใจความ รู้สึกของอรนุชอย่างเหลือประมาณ เธอผู้ซึ่งเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น ความรักของพ่อแม่พี่น้องที่มีให้อย่างล้นเหลือ และสังคมเพื่อนฝูงที่น่ารัก เธอผู้ที่ไม่เคยประสบพบพานกับเรื่องอันเลวร้ายในสังคมอันทรามอย่างเช่นนี้มา ก่อนเลย สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันช่างบีบเค้นจิตใจของอรนุชจนแทบจะทนต่อไปไม่ไหว ถ้าไม่ใช่มีความอบอุ่นสายหนึ่งถ่ายทอดมาจากมือหนาที่กุมอยู่ตรงข้อมือของเธอ อย่างแนบแน่นนั้นเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจที่กำลังหวาดหวั่นพรั่นพรึง เธอไม่รู้ว่ากำลังจะไปที่ไหน แต่ตอนนี้อรนุชรู้อยู่อย่างเดียวว่าเธอขอมอบชีวิตของเธอไว้ให้กับอุ้งมือ อุ่นๆ หนาหนักที่กำลังกุมไปที่ข้อมือของเธอแนบแน่นนี้ ไม่ว่าเขาจะดึงตัวเธอไปที่ไหน เธอก็พร้อมที่จะไปกับเขา ฐิติพรรณที่กำลังนั่งละเลียดจิบเบียร์สดในลานเบียร์ของศูนย์การค้าชื่อดัง แห่งหนึ่ง ใบหน้างามบาดตาของเด็กสาวที่ตกเป็นเป้าสายตาของคนบริเวณนั้นแปรเปลี่ยนจาก เมื่อแรกเริ่มที่เธอเข้ามาดื่มฉลองความสำเร็จ เป็นเคร่งเครียด ดวงตาคู่งามเป็นประกายวาว เมื่อเธอได้รับสายจากเสี่ยคิ้ม เป็นไปไม่ได้ สันดานอย่างไอ้แมงดานั่นมีหรือจะไม่จัดการนังเด็กหน้าหวานนั้น ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ “น้องไอซ์ จะเอายังไง พวกผมขับรถตามมันมาตั้งนานแล้วนะ ไม่เห็นมีวี่แววว่าไอ้ศักดาจะแวะที่ไหนเลย” เสี่ยของเสี่ยนักค้าทองดังมาจากอีกด้าน ฐิติพรรณสอบถามเส้นทางรถที่กำลังวิ่งอยู่ พอได้คำตอบดวงตาของพริตตี้สาวก็ทอประกายขุ่นแค้น ไม่ต้องสงสัยอะไรอีก เพราะเส้นทางนั้นเธอชำนาญดีเพราะใช้เป็นเส้นทางส่งอรอุษากลับบ้านมาแล้วหลาย รอบ ใบหน้างามของฐิติพรรณบึ้งตึง ผิดคาด แผนการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว ที่เธอรู้สึกชื่นชอบและหลงใหลไปกับความอิ่มเอมกับความสำเร็จเมื่อยามที่เธอ บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่คิดนั้น เธอเคยทำสำเร็จเมื่อคราวที่หลอกรุจิราไปให้แกงค์เด็กนรกรุมโทรม แผนนั้นสำเร็จอย่างงามทั้งช่วยตัวเองได้และลงโทษต่อนังลูกเจ๊กนั่นอย่างแสบ สันต์ คราวนี้ขณะที่เธอกำลังกระหยิ่มว่าแผนกำลังจะสำเร็จ ทั้งได้ทำลายอรอุษาน้องสาวของอรนุชที่เธอเกลียดจับใจ และยังได้แก้แค้นไอ้แมงดานั่นด้วย แต่ตอนนี้ มันดูท่าจะไม่ได้เป็นไปตามแผนที่เธอคิดเอาไว้แล้ว ‘ไม่ยอม ฉันไม่ยอมให้แกหลุดมือฉันไปหรอก ไอ้แมงดา นังเด็กหน้าโง่นั่นด้วย’ พริตตี้สาวครุ่นคิดด้วยเพลิงไฟแห่งความแค้นที่สุมอก สมองครุ่นคิดแผนการเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน “ถ้าอย่างนั้นเสี่ยก็ต้องลงมือแล้วล่ะค่ะ เพราะนายศักดามันกำลังไปส่งนังเด็กนั่นที่บ้านแล้ว” “โอว ตายล่ะ แล้วทำไงดีล่ะครับ” เสี่ยคิ้มอุทานออกมาอย่างร้อนใจ เพราะความกระสันซ่านที่มันพอกพูนอยู่ในอารมณ์นั้นใกล้จะระเบิดมาเต็มที เพราะยิ่งคิดว่าจะได้เคลมสวาทเด็กสาวที่สวยขนาดนั้นเท่าไร เพลิงกระสันที่อยู่ในอกมันก็รุมขึ้นไปเป็นเท่าทวีคูณทุกเมื่อ ดวงตาของฐิติพรรณทอประกายร้อนแรง เมื่อคิดอะไรออกได้ เธอหวนนึกไปถึงแผนการที่ไอ้สวะชิดมันเตรียมไว้จัดการอรนุช ซึ่งก็เกือบจะสำเร็จอยู่แล้วทีเดียว ถ้านังน้องสาวหน้าโง่ไม่เสือกทำเก่งมาขวาง ปากงามของฐิติพรรณจึงประดับไปด้วยรอยยิ้ม ขณะที่ถ่ายทอดแผนการออกไปอย่างร่าเริง เสียงใส เสียงรับคำ อือๆๆๆ ดังมาจากเสี่ยคิ้ม ก่อนที่พริตตี้สาวจะได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นจากเสี่ยนักค้าทอง “เยี่ยมครับ น้องไอซ์ ไม่ต้องห่วง คราวนี้สำเร็จแน่นอน แค่นี้นะครับ” ทางปลายสายตัดไปฐิติพรรณยิ้มอย่างเยียบเย็น ยกแก้วเบียร์สีทองอำพันขึ้นจรดริมฝีปากจิบไปพลางกระหยิ่มใจพลาง ดวงตาคู่งามวาวโรจน์ คมศรที่วิ่งฉุดอรนุชขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกใจหาย เพราะทางบริเวณนั้นเริ่มแคบลง และทางที่วนขึ้นไปนั้นเริ่มเข้าสู่ภูมิประเทศที่หวาดเสียวขึ้น เพราะอีกฟากหนึ่งนั้นคือทางที่ลาดชันลงไป ในความมืดนั้นไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าจะไปส่วนใดของเทือกเขาที่กว้างใหญ่ นี้ เสียงฝีเท้าและเสียงร้องตะโกนไล่หลังมาใกล้เข้าทุกทีๆ เพราเท้าเล็กๆ ของอรนุชนั้นเริ่มเปะปะ และไร้เรี่ยวแรงปะติดปะต่อแล้ว คมศรหันมามองใบหน้าเล็กๆ นั้นที่ซีดขาวไร้สีเลือด และทรวงอกที่สะท้อนขึ้นลงหายใจหอบถี่ราวกับจะขาดใจได้ทุกขณะ ดวงตาสีเหล็กนั้นส่อประกายหนักอึ้ง จะอย่างไรอรนุชก็เป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่ง ต่อให้เก่งแค่ไหน สรีระร่างกายก็สู้ชายฉกรรจ์เต็มวัยเช่นเขา หรือไอ้พวกอดิศัยไม่ได้ เท่าที่วิ่งหนีมาจนถึงนาทีก็ไม่น่าเชื่ออยู่แล้วว่าจะทำได้ ทันใดนั้นเอง ร่างเล็กบางของอรนุชก็สะดุดเข้ากับขอนไม้ที่ตกอยู่ เด็กสาวกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดระคนตระหนกใจ ร่างซุนซวนเซเข่าอ่อน ดีที่ข้อมือของเธอถูกคมศรยึดแน่นอยู่ ชายหนุ่มจึงดึงตัวของเธอเอาไว้ไม่ให้ล้มกลิ้งไปกับพื้น แต่พอจะวิ่งต่ออรนุชก็กัดฟันแน่น ครางออกมาอย่างเจ็บปวด ใบหน้างามนั้นบิดเบี้ยว อาการแปร๊บๆ ที่เกิดขึ้นตรงข้อเท้า ทำให้ร่างเล็กบางนั้นกระตุกเขยกไปตามแรงดึงของคมศร พ่อเลี้ยงปางห้วยสักหันมาแลเห็นอย่างนั้นก็สบถอย่างหัวเสีย อรนุชน้ำตาคลอ กล่าวเสียงเครือสะท้าน “คุณหนีไปเถอะ อย่าเอาตัวฉันไปเป็นตัวถ่วงเลย ฉันวิ่งต่อไม่ไหวแล้ว”คมศรหน้าเกรียม ตวาดเสียงกระด้าง “คุณจะให้ผมหนีไปแล้วทิ้งคุณไว้กับพวกนั้นเรอะ อย่าถูกฆ่าข่มขืนหมกป่านี่หรือไง?!!!” น้ำตาของอรนุชไหลออกมาอย่างเจ็บปวดใจ กล่าวเสียงสั่นสะท้าน “ขอ ขอปืนคุณให้ฉัน ฉันจะยิงตัวเองให้ตายก่อน” “หยุดพูดเหลวไหลซะทีเถอะ!!!” พ่อเลี้ยงป่าห้วยสักส่งเสียงเครียด ตอนนั้นเสียงฝีเท้าไล่ล่านั้นใกล้เข้ามาทุกขณะ จนเขาแลเห็นคนกลุ่มนั้นไกลๆ พร้อมๆ กับเสียงปืนดังกึกก้อง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ดินที่ข้างตัวพวกเขาทั้งสองกระจุยฟุ้ง คมศรสบถออกมาอย่างหงุดหงิดใจ ดึงร่างเล็กบางของอรนุชให้หมอบลงกับพื้น คืบคลานเข้าไปซ่อนตัวใกล้ๆ กับพุ่งไม้กอหนึ่ง ก่อนจะกระชากปืนออกจากซองที่ข้างตัวยิงสวนกลับไป เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงเอะอะโวยวาย พร้อมๆ กับร่างทมึนของคนกลุ่มนั้นหลบวูบวาบไปตามแนวไม้ กระสุนสองนัดนั้น ชายหนุ่มไม่ได้หวังผลอะไรมากไปกว่าเป็นการซื้อเวลาให้เขาใคร่ครวญหาทางออกใน สถานการณ์ฉุกเฉินตึงเครียดนี้ เงาร่างวอบแวบที่เขาเห็น สมุนของพ่อ เลี้ยงอดิศรค่อยๆ คืบคลานหลบเข้ามาตามแนวป่า คมศรพลันตัดสินใจ อยู่ที่นี่ก็ตาย ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า ดังนั้นมือหนาของเขาคว้าไปที่ข้อมือของอรนุช แล้วดึงร่างของเธอเข้ามากอดเอาไว้ เด็กสาวดิ้นรนอย่างตกใจ ร่างเล็กบางอุ่นละเอียดที่ราวกับจะละลายเข้าไปในหน้าอกที่กว้างกำยำของอีก ฝ่ายนั้น ทำให้ใจดวงน้อยๆ นั้นเต้นระทึก “คุณ..คุณจะทำอะไร!!!?” ลมหายใจอุ่นๆ ของคมศรราดรดไปที่ผิวแก้มบางใสของอรนุช ทำเอาร่างเล็กบางนั้นระทวยปวกเปียกราวกับต้องมนต์สะกด เด็กสาวครางออกมา..อื้ออ..ใจสั่น ขณะที่ริมฝีปากที่เข้ามาเคลียตรงใบหูนั้นกระซิบเบาๆ “เราจะกระโดดลงไปตามไหล่ผา คุณพยายามเก็บศีรษะเอาไว้กับตัวของผมนะ” อรนุชเบิกตาโต หน้าแดงอยู่ในความมืด ผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะกล่าวเสียงสั่นๆ “แล้วเราจะลงไปยังไงคะ” “เสี่ยงเถอะ อยู่นี่ก็คงไม่รอดแน่ คุณเตรียมพร้อมนะ” คมศรจ้องไปยังดวงตากลมโตที่เงยขึ้นจับจ้องตัวเขาแน่วนิ่ง ก่อนที่อรนุชจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น “ค่ะ ฉันเชื่อคุณ” พ่อเลี้ยงปางห้วยสักผงกศีรษะนิดหนึ่ง ประคองตัวอรนุชเคลื่อนวาบออกจากที่ซ่อน พยายามใช้ร่างใหญ่กำยำของเขาม้วนเก็บร่างเล็กบางนั้นเอาไว้ให้มากที่สุด เสียงเอะอะโวยวายดังขรม พร้อมๆ กับเสียงปืนระเบิดดังเปรี้ยงปร้างกึกก้องไปทั้งราวป่า เศษดิน เศษหญ้า รวมทั้งเปลือกไม้ในบริเวณพื้นที่นั้นแตกกระจุย ขณะที่ร่างกำยำที่รัดร่างเล็กนั้นกลิ้งม้วนหลุดไถลลงไปตามไหล่ลาดของเชิงเขา จมหายเข้าไปในความมืดมิด นายคำกับพวกที่วิ่งฮือกันเข้ามาในที่สุดก็ต้องหยุดชะงักลง ไม่มีใครหาญกล้าพุ่งตัวตามลงไปแม้แต่คนเดียว

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น