AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2562

น้องผิง ตอนที่ 13

น้องผิง ตอนที่ 13 - ปาร์ตี้ ........................................
Assasin008

 ผมกับไอ้หยงและไอ้เม่านั่งบนโซฟามองดูไปทางเดียวกัน สายตาของพวกเราทอประกายหื่นกระหาย ร่างอวบอิ่มของเชอรี่สาวสวยวัยนักศึกษากำลังสำแดงลีลาการเต้นที่เรียกได้ว่าเปี่ยมพลัง เร่าร้อนรุนแรง และยั่วยวนราคะที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ผมถึงกับรู้สึกว่าตอนที่เธอเต้นนี่แหละ คือช่วงเวลาที่เชอรี่มีเสน่ห์เร้าใจที่สุด ตอนนี้เชอรี่ใส่เสื้อนักศึกษารัดติ้วเนื้อบางเฉียบ แต่ที่พิเศษกว่าปกติก็คือกระดุมเสื้อสองเม็ดบนโดนปลดออกเหลือกระดุมที่อยู่ตรงท้องน้อยแค่เม็ดเดียว แถมสาบเสื้อยังโดนรั้งออกอวดยกทรงสีขาวแบบครึ่งเต้า และเผยให้เห็นความขาวโพลนของสองเต้าจนพวกผมน้ำลายสอ ด้านล่างนั้นชายเสื้อ
โดนมัดเอาไว้อวดเอวคอดกิ่วและสะดือสวย ส่วนที่ต่ำลงไปอีกเป็นกระโปรงนักศึกษาสีดำสั้นเต่ออวดท่อนขาขาวเพรียวจนเห็นกางเกงในสีขาววับแวม ส่วนปลายเท้านั้นเป็นรองเท้าส้นสูงสีดำที่ขับเน้นเสน่ห์ของผู้หญิงออกมาได้อีกส่วนหนึ่ง ผมยกแก้วเหล้าเข้มข้นขึ้นมาดื่มดับความร้อนรุ่มในใจ ขนาดผมเพิ่งจะมีอะไรกับเชอรี่ไปหยก ๆ ยังมีอารมณ์อยากใกล้ชิดเรือนร่างสุดเอ็กซ์ของเธอ แล้วไอ้เพื่อนจอมหื่นทั้งสองคนที่ยังไม่เคยได้ลิ้มลองจะเหลืออะไร ตอนนี้พวกมันถลึงตามองเชอรี่แทบไม่กระพริบตา น้ำลายของพวกมันทำท่าเหมือนไหลย้อยออกมาได้ตลอดเวลา และผมก็เริ่มกังวลว่าถ้าพวกมันเกิดอารมณ์หน้ามืดใช้กำลังปล้ำเชอรี่ขึ้นมา ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้ ไอ้หยงกับไอ้เม่าปรบมือส่งเสียงชมเชอรี่เสียยกใหญ่ตอนที่จบเพลง ส่วนเชอรี่เองก็รู้จักบริหารเสน่ห์ เธอยิ้มน้อย ๆ ชายตามองพวกมันเหมือนจะยั่วเย้า ใบหน้าและเรือนร่างที่มีเหงื่อผุดออกมายิ่งดูเซ็กส์ซี่เร้าใจกว่าเดิม ผมเริ่มจะรู้สึกหึงขึ้นมาแล้วซิเนี่ย สองเพื่อนจอมหื่นรีบยื่นแก้วเหล้าที่เห็นได้ชัดว่าสีเข้มกว่าปกติให้เชอรี่ เจตนาของพวกมันชัดเจนว่ากำลังพยายามมอมให้เธอเมา แต่เชอรี่ก็ยังรับไปดื่มรวดเดียวหมดแก้วโดยไม่อิดออด แถมยังหันมายิ้มใส่ผมอีกด้วยซ้ำ เพลงเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง แต่ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา หัวใจผมกำลังเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้น ใจหนึ่งก็หึงหวงที่ไอ้เพื่อนสองคนนี่พยายามแต๊ะอั๋งเชอรี่ตลอดเวลา แต่อีกใจก็รู้สึกตื่นเต้นมีอารมณ์ตอนได้เห็นเชอรี่โดนคนอื่นลวนลามแตะต้องเนื้อตัว ตอนนี้เชอรี่โดนพวกมันสองคนประกบไว้ตรงกลาง เธอทำท่าเหมือนจะพยายามขยับหนี แต่พวกมันก็เก๋าพอที่จะทำเนียนยื่นมือมาดักไว้ทั้งซ้ายทั้งขวาจนเธอหลบออกจากวงล้อมไม่ได้ แถมยังฉวยโอกาสวางมือทั้งสี่ข้างลงไปลูบบนเอวคอดกิ่วของเชอรี่ด้วยอีกต่างหาก เชอรี่ขมวดคิ้วแสดงสีหน้ารังเกียจ เธอเคยบอกว่าเธอสะอิดสะเอียนรังเกียจพวกผู้ชายยกเว้นผมเพียงคนเดียว เธอหันมามองสบตากับผมแวบหนึ่ง เหมือนจะถามว่าให้หยุดแค่นี้หรือเปล่า แต่ผมกำลังตื่นเต้นก็เลยพยักหน้า เธอจึงหันหน้ากลับไปเต้นส่ายสะโพกโยกเอวต่อ ปล่อยให้พวกมันใช้มือสี่ข้างลูบเอวลูบหน้าท้องและลามไปถึงสะโพกผึ่งผายของแม่พันธุ์ชั้นดี อารมณ์พลุ่งพล่านแปลก ๆ ทำให้ผมต้องขยับขาถ่างออกเล็กน้อยเพราะรู้สึกปวดหนึบที่เป้ากางเกง ผมรู้สึกหึงหวงแต่ก็อยากเห็นเชอรี่เปล่งประกายเสน่ห์ของเรือนร่างและหน้าตาของเธอออกมาให้มากที่สุด ไอ้เพื่อนสองคนก็ดูเหมือนจะใจกล้ากว่าเดิม พวกมันขยับเบียดเข้าไปจากหน้าและหลังจนแทบเต้นไม่ได้ ไอ้หยงที่ประกบอยู่ด้านหลังฉวยโอกาสแอ่นเป้ากางเกงของมันเบียดกับสะโพกผายของเชอรี่แล้วบดคลึงส่ายวนไปมา ส่วนเชอรี่เองก็ใช่จะอยู่นิ่ง เธอมองมาทางผมด้วยแววตายั่วยวนหวานเยิ้มคล้ายจะบอกกับผมว่าถ้าอยากให้เธอยั่วนักเธอก็จะยั่วให้ดู จากนั้นเธอค่อยขยับสะโพกเบียดแก้มก้นเข้าหาเป้ากางเกงของไอ้หยงแบบไม่มีถอยหนี ไอ้เม่าที่ประกบจากด้านหน้าขยับเข้าไปใกล้จนเบียดชนกับเต้านม มันทำหน้าเคลิ้มยื่นหน้าไปกระซิบอะไรบางอย่างบอกกับเชอรี่ที่ข้างหู ตามด้วยการฉวยโอกาสหอมแก้มเธอเบา ๆ ในขณะที่มือทั้งสองข้างของมันขยับเลื่อนขึ้นมาบีบเบา ๆ ที่ฐานเต้าอวบ แต่ยังไม่กล้าจับแบบเต็มไม้เต็มมือ พวกมันสองคนเริ่มแสดงอาการหื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่กระโตกกระตากเกินงาม พวกมันเองก็เก๋าเกมพอที่จะรู้ว่าผมไม่ได้เต็มใจให้พวกมันมีอะไรกับเชอรี่ ถ้าพวกมันรุกมากไปจนผมทนไม่ไหว ผมก็อาจจะหยุดเรื่องงี่เง่านี้ลงทันที ตอนนี้พวกมันก็เลยเล่นตามเกม ค่อย ๆ เล้าโลมสร้างความตื่นเต้นร่วมกัน พวกมันกับผมก็คอเดียวกัน พวกเราต่างก็รู้ดีว่าพวกเรามองหาความตื่นเต้นเร้าใจจากเซ็กส์เสมอ ถ้าหากพวกมันใจเย็นพอ ก็ไม่แน่ว่าผมอาจจะเผลอปล่อยเลยตามเลยอย่างที่พวกมันอยากได้ ต่อให้เชอรี่เก๋าเกมแค่ไหน แต่พวกผมก็เก๋ายิ่งกว่า ผมไม่เชื่อว่าเชอรี่จะไม่มีอารมณ์ร่วมเลยตอนโดนไอ้พวกนั้นเล้าโลมสัมผัสเนื้อตัวอย่างต่อเนื่องแบบนี้ และผมเชื่อว่าผมคิดถูก เพราะตอนนี้เชอรี่กำลังส่งเสียงครางและลูบมือไปตามร่างกำยำของไอ้เม่ากับไอ้หยง เผลอหน่อยเดียวเพื่อนทั้งสองของผมก็ถอดเสื้ออวดหุ่นทรมาณใจสาว ส่วนเชอรี่ก็โดนปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาและดึงหลุดลงไปกองบนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ร่างขาวโพลนสวยงามไร้สิวฝ้าของเชอรี่กำลังโดดเด่นอยู่ใต้แสงไฟ ยกทรงตัวเล็กจิ๋วที่ห่อหุ้มเต้านมไม่มิดสั่นกระเพื่อมเด้งขึ้นลงตลอดเวลา ผมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มดับความร้อนรุ่ม ใจหนึ่งร่ำ ๆ จะบอกให้เธอหยุด แต่อีกใจก็อยากตื่นเต้นต่อ ผมเลยปล่อยเลยตามเลย และผลก็คือเพียงครู่เดียวกระโปรงนักศึกษาสีดำของเธอก็หลุดลุ่ยลงไปกองบนพื้นห้องอย่างรวดเร็ว ส่วนไอ้หยงกับไอ้เม่าก็เหลือแค่กางเกงในตัวเดียวปิดบังความเป็นชายเอาไว้ เชอรี่หันมามองผมส่งสายตายั่วสุดฤทธิ์ เธอหน้าแดงก่ำดูมีอารมณ์ร่วมเต็มที่ ไอ้หยงกับไอ้เม่าก็ฉลาดพอที่จะขยับมือลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของเธอแบบไม่โจ่งแจ้งจนเกิดอาการต่อต้าน ผมเห็นพวกมันลูบนมลูบก้นกันเพลิน แต่ดูเหมือนจะยังไม่กล้าขยำแรง ๆ ส่วนเชอรี่เองก็ตะปบมือลงไปขยำที่เป้ากางเกงในของพวกมันเป็นระยะเหมือนกัน ผมใจหายวาบตอนที่ตะขอยกทรงของเชอรี่โดนปลดจนหล่นลงไปบนพื้น เธอเองก็ดูเหมือนจะไม่ทันรู้ตัว กว่าจะยกมือขึ้นปิดสองเต้าอวบเอาไว้ไอ้พวกนั้นก็ถลึงตามองดูนมเต้าเปลือยเปล่าของเธอจนเต็มตากันไปแล้ว เพียงแต่ปัญหาก็คือตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าควรปล่อยให้ไปไกลกว่านี้ดีหรือเปล่า เสียงเพลงที่หยุดลงพอดีเป็นเหมือนระฆังหมดยกช่วยชีวิตเอาไว้ เชอรี่ที่แสดงท่าทีร้อนร่านรีบฉวยโอกาสหยุดเต้นแล้วแยกตัวออกมาจนไอ้หยงกับไอ้เม่าได้แต่ส่ายหน้าเสียดาย เพราะอารมณ์กำลังมา และหากเพลงไม่จบลงเสียก่อน ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะอยากบอกให้พวกมันหยุดหรือเปล่า เธอเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับเบ้หน้าใช้มือปัดไปตามเนื้อตัวโดยที่ไอ้พวกนั้นไม่เห็น เธอทำเหมือนกับว่าเพิ่งสัมผัสมากับสิ่งสกปรกโสโครกอะไรสักอย่าง และนั่นเป็นสีหน้าท่าทางที่ตรงกันข้ามกับการกระทำของเธอเมื่อครู่ราวกับคนละคนกันโดยสิ้นเชิง ผมจึงเริ่มสับสนเสียแล้วว่าที่เธอเคยบอกผมเรื่องเธอรังเกียจตอนผู้ชายแตะเนื้อต้องตัวเธอนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริง "ถ้าไม่เพราะอยากยั่วพี่กายล่ะก็ หนูไม่ยอมทำแบบนี้เด็ดขาด" เชอรี่ที่เหลือกางเกงในแค่ตัวเดียวรีบโผเข้ามากอดผมและกระซิบบอก เธอจูบผมหนักหน่วงเนิ่นนานซึ่งแปลความได้ว่าถึงจะไม่เต็มใจ แต่เธอก็โดนเล้าโลมจนมีอารมณ์ร่วมไม่น้อย ผมเลยทั้งจูบทั้งกอด และปลอบประโลมอารมณ์ร้อนรักของเธอให้เบาลงก่อน ไอ้หยงกับไอ้เม่ายืนมองผมด้วยแววตาคาดหวัง เหมือนพวกมันจะเชื่อว่าผมคงไม่ใจร้ายพอที่จะไม่ให้พวกมันได้ระบายอารมณ์ ซึ่งความจริงผมเองก็คิดไปทางนั้นอยู่เหมือนกัน เพราะพวกมันกับผมก็สนิทกันพอสมควร เคยแบ่งปันอะไรมาไม่น้อย แต่ผมก็ยังเกรงใจเชอรี่ เธอไม่ใช่เด็กไซด์ไลน์ที่จะมาใช้ร่วมกันได้ง่าย ๆ "หนูแล้วแต่พี่กายเลยค่ะ พี่อยากให้หนูทำอะไร หนูทำได้หมด ขอแค่พี่อย่าทิ้งหนูก็พอ" เชอรี่เหมือนจะอ่านใจผมได้ เธอแอบกระซิบบอกผมเพื่อยืนยันสิ่งที่เธอเคยบอกเอาไว้แล้วหลายครั้ง ตอนนี้ผมเลยตัดสินใจอะไรบางอย่างที่ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ออกไป ผมอยากทดสอบต่ออีกสักหน่อย ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่เชอรี่บอกผมนั้นจริงแท้แค่ไหน "ตกลงกันก่อนนะเว้ยไอ้หยงไอ้เม่า กูยอมแค่ให้เชอรี่ใช้มือกับใช้ปากทำให้พวกมึง ห้ามจูบปาก ห้ามสอดใส่ ถ้ามากกว่านี้กูจะบอกให้หยุดทันที" พวกมันสองคนนิ่งไปพักหนึ่งแล้วหันไปมองหน้ากันเอง ก่อนจะหันมาพยักหน้าเหมือนยอมรับข้อตกลงนี้ จากนั้นพวกมันก็ระเบิดอารมณ์หื่นเดินมาคว้ามือเชอรี่ไปสวมกอดจากด้านซ้ายและขวาต่อหน้าผม ตอนนี้เชอรี่โดนผู้ชายสองคนประกบซ้ายขวา พวกมันแบ่งพื้นที่กันเองโดยไม่ต้องพูดให้มากความ ไอ้หยงเหมาพื้นที่ด้านซ้าย ส่วนไอ้เม่าเหมาพื้นที่ด้านขวา สองเต้าอวบของเชอรี่โดนแบ่งให้มือของพวกมันขยี้คนละข้าง และตอนนี้พวกมันกำลังจูบไซร้ซอกคอของเชอรี่ และแย่งกันหอมแก้มของเธอกันยกใหญ่ เชอรี่ที่เพิ่งบอกผมว่ารังเกียจสัมผัสของผู้ชายคนอื่น ตอนนี้ส่งเสียงครางสะท้าน สองเต้าบิดเบี้ยวไปมาด้วยแรงบีบขยำที่ไม่เท่ากัน เนื้อตัวโดนมือสี่ข้างตะปบเคล้นขยี้ไปมาแทบทั่วทุกตารางนิ้ว เธอหันหน้าซ้ายทีขวาทีสลับกับแอ่นหน้าเอียงคอไปตามรสจูบที่พวกมันสองคนปรนเปรอให้ เพียงแต่ปัญหาก็คือรูเสียวของเธอดูจะโดนแย่งชิงดุเดือดกว่า กางเกงในของเธอหลุดลุ่ยลงไปนานแล้ว ตอนนี้ผมเห็นมือสองข้างเบียดแย่งกันตะปบขยี้ลงไปที่กลีบเสียวของเชอรี่ เธอส่งเสียงสูดปากครางซี้ดซ้าดไม่หยุด ร่างงามแอ่นกระตุกเด้งไปซ้ายทีขวาทีเหมือนจะเสียวสุดฤทธิ์ และเธอก็ระบายความเสียวนั้นด้วยการคว้าดุ้นเอ็นของพวกมันสองคนมารูดซอยยิกจนพวกมันครางอูวเสียวตัวงอไปตาม ๆ กัน เสียงหอบกระเส่าของหนึ่งหญิงสองชายทำให้ผมเริ่มทนไม่ไหว ผมใช้มือลูบลงไปที่เป้ากางเกงแล้วบีบนวดเพื่อคลายความปวดหนึบ แต่นั่นยังไม่สาแก่ใจ ผมเลยต้องปลดกางเกงปล่อยดุ้นเอ็นออกมารูดเล่นเพื่อระบายอารมณ์หื่น เชอรี่มองมาทางผมตาลุกวาว เธอมองดุ้นเอ็นของผมแบบแทบไม่กระพริบตา เหมือนว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดในโลก อารมณ์ของเธอดูจะรุนแรงกว่าเดิมจึงกระตุกมือถี่ยิบจนไอ้เม่ากับไอ้หยงตัวกระตุกเผลอหยุดการเล้าโลมไปครู่หนึ่ง และจังหวะนั้นเองที่เชอรี่รีบปลีกตัวมาจับมือผมให้ลุกขึ้น แล้วพาผมไปนอนหงายบนพื้นห้อง ก่อนจะขยับขึ้นคร่อมขย่มใส่ผมแบบไม่พูดไม่จาสักคำ สาวสวยคนเดียวในห้องโยกสะโพกพร้อมกับส่งเสียงครางสุขสมกระเส่า ผมเองก็ครางอูวด้วยความเสียวสะท้าน เพราะโดนกระตุ้นอารมณ์จนพลุ่งพล่านพร้อมลุยอยู่แล้ว พอเจอลีลาเดือดพล่านของเชอรี่เข้าไปก็ยิ่งหยุดไม่อยู่ต้องตอบสนองใส่ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดเท่าที่มี ขณะที่เชอรี่ทำตัวเป็นจ๊อกกี้สาว ไอ้หยงกับไอ้เม่าก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า พวกมันขยับยืนล้อมด้านซ้ายและขวาของเชอรี่ ให้เธอใช้มือช่วยชักว่าวให้พร้อมกันทั้งสองด้าน และเธอเองก็รู้งานเป็นอย่างดี เพราะเธอหันไปใช้ปากดูดเลียให้คนหนึ่งแล้วก็สลับไปช่วยอีกคนหนึ่งแบบซ้ายทีขวาจนพวกเราทั้งสี่คนส่งเสียงครางระงม เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ลีลาปากที่ยอดเยี่ยมไม่ธรรมดาของเชอรี่ก็ทำเอาไอ้หยงตัวกระตุก มันจับล๊อคหัวของเชอรี่เอาไว้แล้วซอยเอวยิกกระฉูดน้ำเข้าไปในปากของเชอรี่ชุดใหญ่ และเธอยังไม่ทันจะกลืนลงคอได้หมด ไอ้เม่าก็ผลักไอ้หยงออกแล้วจับหน้าเธอหันมายัดของมันเข้าไปซอยยิกจนน้ำเงี่ยนชุดแรกทะลักย้อยลงมาจากมุมปากเชอรี่ ไอ้เม่าซอยยิกไม่นานก็ส่งเสียงคำรามระเบิดน้ำเข้าไปในปากของเชอรี่เป็นชุดที่สอง จากนั้นมันก็ทรุดลงไปนั่งแผ่หราเหนื่อยหอบเหมือนไอ้หยง ตอนนี้เชอรี่ก็เลยสามารถใช้ลีลาโยกขย่มใส่ผมได้อย่างเต็มที่กว่าก่อนหน้า ผมยอมรับเลยว่ายังไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน เชอรี่ดูจะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ เธอทำให้ผมรู้สึกหึงหวงไปพร้อมกับตื่นเต้นท้าทาย เธอทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นพิเศษที่ได้รับชัยชนะเหนือเพื่อน ๆ หากให้เทียบแล้วความสัมพันธ์กับเชอรี่ก็เหมือนกับการขี่รถไฟเหาะในสวนสนุก สัญชาตญานของผมบอกว่า ทุกวินาทีที่อยู่กับเชอรี่คือความหวาดเสียวท้าทาย หากคุณคุมเกมอยู่จะพบแต่กับความสนุกเร้าใจ แต่หากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคุมไม่อยู่ อันตรายก็จะกล้ำกรายเข้ามาหา เธอเป็นเหมือนไฟที่พร้อมจะเผาทำลายทุกสิ่ง "พี่กาย อูยยสสสส เสียวววว พี่กายขา ซี้ดดดสสสสสส หนูชอบของพี่กายที่สุดเลยค่ะ อูยยสสสส" เธอขย่มแรงขึ้นและครางเสียงดังขึ้น ผมรู้สึกได้รูเสียวของเธอกำลังตอดหนุบหนับแรงกว่าเดิม จากนั้นไม่นานเชอรี่ก็ส่งเสียงหวีดร้องตัวกระตุกเฮือกดิ้นพล่านอยู่บนร่างของผม ในขณะที่ผมเองยังไม่เสร็จ ก็เลยพลิกเธอลงไปนอนบนพื้นแล้วจัดการกระเด้าใส่ถี่ยิบอีกราวห้านาที ก่อนจะแอ่นเอวกระฉูดน้ำเข้าใส่ร่องเสียวของนักศึกษาสาวร้อนสวาทแสนสวยคนนี้อีกหนึ่งรอบ ผมนอนกอดทับเชอรี่จากด้านบนนิ่งอยู่แบบนั้น หนึ่งก็เพื่อซึมซับความสุข และสองก็เพื่อประกาศกลาย ๆ ว่าผมขอยุติเรื่องตื่นเต้นเอาไว้แค่นี้ พวกไอ้หยงกับไอ้เม่าก็ดูจะเข้าใจความหมายที่ผมสื่อออกไป และพวกมันได้ระบายออกมาแล้วหนึ่งน้ำก็เลยไม่มีข้ออ้างที่สมเหตสมผลพอจะขออะไรเพิ่มอีก ปาร์ตี้ของไอ้หยงกับไอ้เม่าจบลงแล้ว หลังจากหายเหนื่อยผมก็เชิญพวกมันออกจากห้องเชอรี่ ในขณะที่ผมเองต้องเปลี่ยนแผนการอยู่บ้าง จากตอนแรกกะจะกลับบ้านไปหาน้องผิง แต่พอผ่านเรื่องตื่นเต้นนี้มาผมก็รู้สึกหวงไม่อยากปล่อยเชอรี่ไว้คนเดียว เชอรี่เองก็ออดอ้อนผมเหมือนกับลูกแมวตัวหนึ่ง ผมก็เลยทำใจผละจากแม่เสือสาวคนนี้ไม่ลง เราสองคนไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว และมีอะไรกันในห้องน้ำอีกหนึ่งรอบ จากนั้นก็ไปต่อกันบนเตียงนอน เชอรี่บอกว่าผมเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอพามาเข้าห้อง เราร่วมรักกันเหมือนหนุ่มสาวในคืนวิวาห์ สรุปว่าคืนนี้ผมก็เลยนอนอยู่ที่คอนโดของเชอรี่ และลืมเรื่องที่จะโทรศัพท์ถามคุณมิ้งแม่ของน้องผิงเรื่องเลื่อนนัดไปเสียสนิท ........................................ วันนี้ผมไปทำงานแบบหาว ๆ เพลีย ๆ อยู่สักหน่อย เพราะเมื่อคืนเล่นจัดหนักจัดเต็มกับเชอรี่นักศึกษาสาวร้อนสวาทจนสลบเหมือดไปตอนเกือบเช้า ยังดีที่งานช่วงบ่ายไม่ค่อยเยอะมากผมเลยงีบหลับในห้องทำงานตอนบ่ายได้ ส่วนเชอรี่น่าจะไม่มีปัญหา เธอบอกว่ามีเรียนตอนบ่ายสองเลยนอนพักผ่อนที่ห้องต่อได้อีกหน่อย เรื่องแปลกก็คือผมพยายามโทรหามิ้งเพื่อนัดชดเชยที่ไม่ได้เจอกันเมื่อคืน แต่ว่าเธอบอกว่ามีงานเร่งด่วนต้องรีบเคลียร์ยังไม่สะดวกมาเจอกับผม ผมก็เลยเปลี่ยนแผนขับรถไปรับน้องผิงตอนเธอเลิกเรียนแทน เพราะถามแล้วเธอบอกว่าวันนี้แม่ของเธอไม่ว่างไปรับ ผมขับรถไปโรงเรียนของน้องผิงกะว่าจะพาเธอไปทานมื้อเย็น แล้วพาเธอกลับบ้านไปนอนพัก เพราะถึงเธอจะไปเรียนหนังสือไหวแล้ว แต่ผมก็ยังคิดว่าเธอน่าจะยังไม่หายระบมเท่าไหร่ ส่วนผมเองก็ได้ปลดปล่อยกับเชอรี่ไปจนหมดก๊อกเหมือนกัน อารมณ์หื่นก็เลยไม่ได้มีอะไรมาก เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยจัดกับน้องผิงจริงจังน่าจะดีกว่า น้องผิงยืนรอผมข้างโรงเรียนตรงที่นัดหมาย เธออยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลายสวยโดดเด่นน่ามองกว่าใครจนหนุ่ม ๆ แถวนั้นแอบมองกันยกใหญ่ ผมเลยแอบภาคภูมิใจอยู่พอสมควร แต่ที่แปลกใจก็คือเธอไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว แต่ยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ใส่ชุดเครื่องแบบเหมือนกันอีกสามคน แถมยังสวยน่ารักกันทั้งสามคนเสียด้วย "เพื่อนของหนูเค้าอยากขอไปด้วย แต่ถ้าพี่กายไม่สะดวกก็ไม่เป็นอะไรนะคะ ไม่ต้องให้พวกนี้ไปด้วยก็ได้" น้องผิงพูดบอกผมตอนที่เธอเปิดประตูข้างคนขับออก ท่าทางของเธอเองก็ดูจะไม่ค่อยเต็มใจให้เพื่อน ๆ ไปด้วยสักเท่าไหร่ แต่ว่าเพื่อนสาวทั้งสามคนของเธอก็ยกมือไหว้ผมอย่างสวยงาม และมองผมด้วยความคาดหวัง ผมก็เลยปฏิเสธเด็กสาวน่ารักน่าฟัดทั้งสามคนนี้ไม่ลง ... บางครั้งผมก็สงสัยนะ ว่าทำไมตอนสมัยผมเรียน ไม่เห็นจะมีเด็กสาวขาวสวยหุ่นดีแลดูน่าฟัดแบบนี้ในชั้นเรียนเลยสักคน แต่เพื่อนของน้องผิงนี่เรียกว่าสวยน่ารักกันมากทีเดียว ถึงจะไม่มีเสน่ห์เท่าน้องผิงก็ตาม "แล้วเพื่อนผิงจะไปไหนล่ะ ถ้าทางเดียวกันก็ไปด้วยกันได้" "พวกหนูว่าอยากจะไปทานข้าวเย็นกับยายผิงด้วยค่ะ งั้นถือว่าไปทางเดียวกันนะคะคุณพี่สุดหล่อ" ผมถามแบบไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ เด็กสาวท่าทางมีความเป็นตัวเองสูงในกลุ่มก็เลยถือโอกาสกล่าวขอบคุณแล้วเปิดประตูรถด้านหลังขยับเข้ามานั่งหน้าตาเฉย จากนั้นสาว ๆ อีกสองคนที่แสดงท่าทีลังเลก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นรถตามแกนนำมาจนหมด ตอนนี้ในรถของผมก็เลยมีเด็กสาววัยมัธยมปลายหน้าตาน่ารักอยู่ถึงสี่คนด้วยกัน คนที่สวยน่าฟัดที่สุดบนรถก็คือน้องผิงเมียเด็กของผมเอง เธอนั่งทำหน้าหงุดหงิดอยู่ตรงที่นั่งข้างผมซึ่งเป็นคนขับ วันนี้เธอนั่งเงียบไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาเหมือนปกติ ส่วนเพื่อนของน้องผิงอีกสามคนที่สวยพอจะเป็นดาราได้นั้นมีชื่อและหน้าตาคล้ายกับตัวละครหนังซีรี่ย์วัยรุ่นในจอทีวีจนผมประหลาดใจ คนที่มีความมั่นใจสูงขึ้นมานั่งที่นั่งด้านหลังของผมก่อนใครนั้นชื่อว่าสไปรท์ เธอไว้ผมทรงหางม้า ใส่ชุดนักเรียนที่รู้สึกจะรัดรึงเนื้อตัวมากกว่าคนอื่นอยู่สักหน่อย ท่าทางของเธอทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเธอน่าจะก๋ากั่นเกินวัยอยู่บ้าง และอะไรสักอย่างทำให้ผมรู้สึกว่าสไปรท์น่าจะผ่านประสบการณ์เสียวมาบ้างไม่น้อย คนที่นั่งแถวหลังตรงกลางนั้นออกจะเงียบ ๆ สักหน่อย ท่าทางเหมือนไม่ค่อยมั่นใจและขี้อาย เธอชื่อเต้ยเป็นสาวหมวยผิวขาวกว่าใคร รูปร่างแลดูบอบบางน่าทะนุถนอม เธอมักจะแอบมองผมและรีบหลบตาตอนที่ผมมองตอบผ่านกระจกมองหลัง นิสัยขี้อายแบบนี้ผมเดาว่าเธอน่าจะยังไม่มีแฟน และน่าจะยังซิงอยู่ด้วย คนสุดท้ายชื่อขวัญ เป็นเด็กสาวผมสั้นท่าทางเหมือนเด็กเรียน พูดคุยอะไรชอบอ้างหลักวิชาการ และดูเหมือนจะชอบทำตัวเป็นผู้นำของกลุ่มอย่างเห็นได้ชัด เธอคนนี้รูปร่างดูดีเหมือนนักกีฬาสักหน่อย ผมเดาว่าเธอน่าจะยังไม่มีแฟน เพราะนิสัยอวดความเก่งของเธอน่าจะทำให้ผู้ชายที่เข้าหาหมดความมั่นใจได้ โดยสรุปแล้วขวัญ เต้ย และสไปรท์ จัดว่าสวยน่ารักน่าฟัดเลยทีเดียว สวยระดับนี้ถ้าไปเป็นสาวไซด์ไลน์ก็ขึ้นตัวท๊อปราคาแพงได้ไม่ยาก พวกเธอน่าจะอยู่ในระดับเดียวกัน เพราะสวยน่าฟัดคนละแบบ ... อืม ผมก็ช่างเปรียบเทียบซะจริง เอาเด็กนักเรียนมัธยมปลายมาเทียบกับสาวไซด์ไลน์เนี่ยนะ แต่ผมก็ชักจะสงสัยเสียจริง ๆ ว่าถ้าเด็กโรงเรียนนี้มีแต่นักเรียนสวยระดับนี้ ผมคงต้องรีบมาสมัครเป็นครูเสียให้รู้แล้วรู้รอด "พี่กายทำงานอะไรเหรอคะ ท่าทางรวยจัง รถคันนี้ก็หลายล้านแล้วนะเนี่ย" สาว ๆ นั่งคุยกันเองไปสักพักหนึ่ง สไปรท์สาวมากความมั่นใจก็ส่งเสียงเปิดประเด็นถามผม และเธอไม่ถามเปล่า เธอขยับโน้มหน้าข้ามเบาะนั่งมาทางไหล่ขวาของผม แล้ววางคางเกยอยู่บนบ่าจนผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนวูบที่ราดรดใส่ใบหู น้องผิงที่นั่งอยู่ข้างผมถึงกับขมวดคิ้วแต่ก็ยังไม่ได้ส่งเสียงทักท้วงอะไร "อะแฮ่ม พี่ทำงานเป็นผู้บริหารกองทุนน่ะ นั่งดี ๆ หน่อยนะสไปร์ทเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตขึ้นมาจะแย่" ผมตอบพลางพูดห้ามปรามอ้อม ๆ เพราะไม่อยากให้น้องผิงหงุดหงิด แต่ว่าสไปรท์ดูจะไม่สนใจ แถมเธอยังยื่นสองมือมากอดรอบคอของผมไว้จากด้านหลัง แล้วส่งเสียงคุยที่ข้างหูของผมต่อแบบไม่สนใจใครทั้งสิ้น "งั้นหนูขอกอดพี่ไว้ก็แล้วกันนะ จะได้ไม่ล้ม ... อืมมม ... พี่ดูแข็งแรงดีจัง เนื้อแน่นยังกับนักกีฬาแน่ะ แข็งแรง หล่อ รวย ... มิน่าล่ะยายผิงถึงได้หลงพี่ซะจนหัวปักหัวปำขนาดนี้" "สไปร์ท!!!" สไปร์ทพูดพลางลูบมือลงไปบนหัวไหล่และแผงอกของผม แถมยังพูดพาดพิงจนน้องผิงต้องส่งเสียงห้ามออกมา ตอนนี้สไปร์ทถึงค่อยยอมปล่อยมือออกแล้วขยับกลับไปนั่งเหมือนเดิม ผมมองผ่านกระจกมองหลังเห็นสไปร์ทนั่งยิ้มขำ ส่วนเต้ยสาวขี้อายไม่ค่อยพูดหันไปส่งสายตาตำหนิใส่สไปรท์พร้อมกับยื่นมือไปหยิกใส่เบา ๆ จนสไปร์ทสะดุ้งโหยง ในขณะที่ขวัญเด็กสาวมาดมั่นซึ่งวางตัวเองเป็นหัวหน้ากลุ่มก็หันไปตำหนิสไปร์ทเล็กน้อย แล้วหันมามองผมด้วยสายตาสนอกสนใจ "ถ้าพี่กายทำให้ยัยผิงเสียใจ หนูเอาเรื่องแน่คอยดูเถอะ" ขวัญพยายามทำตัวเป็นหัวหน้าขู่ผม แต่ผมกลับมองไม่เห็นความน่ากลัวสักนิด เพราะเธอน่ารักน่าฟัดเสียมากกว่า มันก็เหมือนกับให้ลูกแมวน้อยมาส่งเสียงขู่นั่นแหละ ไม่มีใครกลัว แถมยังรู้สึกเอ็นดูเสียด้วยซ้ำ แต่จะว่าไปตอนนี้ผมชักจะเริ่มสงสัยว่าน้องผิงบอกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเราออกไปมากน้อยแค่ไหน พวกเธอเปลี่ยนไปชวนคุยเรื่องอาหารเย็น และเราก็ได้ข้อสรุปที่ร้านบุฟเฟต์แห่งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนล่ะว่าผมต้องเป็นคนเลี้ยงโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่ผมก็เต็มใจเลี้ยงอยู่หรอก เพราะพวกเธอแต่ละคนสวยน่ารักดึงดูดสายตาจนมีแต่คนมองมาทางผมด้วยความอิจฉา แต่ก็ไม่แน่นะ เพราะว่าผมแก่คราวพ่อของพวกเธอ คนที่มองอาจจะแค่คิดว่าผมมีลูกสาวสี่คนก็เป็นได้ ผมถนัดเรื่องคุยตะล่อมผู้หญิงอยู่แล้ว โดยเฉพาะพวกเธอเองก็ยังเป็นเด็ก และดูจะมองผมเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งก็น่าจะเพราะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องผิงในระดับหนึ่ง แถมแต่ละคนยังคอยจะจ้องเผาอีกคนอยู่เป็นระยะ ผมเลยได้ฟังข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับพวกเธอมาเพียบ และตอนนี้ผมได้รู้แล้วว่าทำไมคนสวยน่ารักระดับตัวท๊อปอย่างพวกเธอสี่คนถึงได้มารวมกลุ่มกันได้ ทั้งที่นิสัยไปกันคนละเรื่อง ขวัญหัวหน้ากลุ่มเด็กเรียนที่มีนิสัยห้าวเล็กน้อย เป็นลูกคนรวยสักหน่อย พ่อกับแม่ของเธอที่เป็นคนรวยแยกกันอยู่ ขวัญเลยต้องเทียวมาเทียวไปอยู่กับพ่อบ้างอยู่กับแม่บ้างตามโอกาส ซึ่งในช่วงแรกไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าตอนนี้พ่อกับแม่ของเธอแต่งงานมีครอบครัวใหม่ ขวัญก็เลยกลายเป็นเหมือนลูกนอกคอกไปโดยปริยาย เต้ยที่มีนิสัยเงียบขี้อาย เธออยู่ในครอบครัวชนชั้นกลาง ชอบดูหนัง อ่านนิยายน้ำเน่า เธอเป็นลูกครอบครัวจีน พ่อกับแม่เสียไปแล้ว จึงต้องอาศัยอยู่กับอาม่าซึ่งทำธุรกิจขายของชำในย่านเยาวราช สไปรท์สาวเปรี้ยวจี๊ดประจำกลุ่มดูจะอยู่ในครอบครัวที่ยากจนสักหน่อย เธออยู่กับแม่ที่มีอาชีพเป็นนักร้องกลางคืน และเท่าที่ผมฟังดูเหมือนว่าแม่ของสไปร์ทน่าจะหาลำไพ่ขายตัวด้วย แต่ที่ผมตกใจก็คือข้อมูลที่ว่าเธอโดนพ่อเลี้ยงข่มขืนเปิดซิงไปเมื่อราวหนึ่งปีที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นเธอก็เริ่มปล่อยตัว ใช้ร่างกายเลือดเนื้อหาเงินเลี้ยงตัวเอง ส่วนน้องผิงน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เธออาศัยอยู่กับแม่ พ่อที่แทบไม่ได้พบหน้ากันทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนฐานะทางด้านการเงินนั้นไม่ถึงกับยากจนแต่ก็ไม่ค่อยพอใข้ สังเกตเห็นอะไรบ้างมั้ยครับ? ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ... ใช่แล้วครับ พวกเธอทั้งสี่คนเป็นเด็กสาวที่ครอบครัวมีปัญหา พวกเธอขาดพ่อหรือแม่ ไม่ก็ขาดทั้งสองอย่าง และผมเชื่อว่าที่สี่นางฟ้าอย่างพวกเธอมารวมกลุ่มกันได้ก็เพราะเรื่องนี้เอง "ว่าแต่พี่กายดูจะไม่ค่อยหื่นอย่างที่ยายผิงเล่าให้ฟังเลยนะ สายตาดูนิ่ง ๆ มาก ไม่เหมือนผู้ชายคนอื่น ๆ" สไปร์ทที่นั่งทางขวามือของผมส่งเสียงทักจนผมตื่นจากภวังค์ความคิด ผมหันไปมองเธอแบบงง ๆ แล้วหันไปมองน้องผิงที่นั่งทางด้านซ้าย เพราะสงสัยว่าเธอเล่าอะไรให้เพื่อนเธอฟังกันแน่ และสิ่งทีผมได้เห็นก็คือน้องผิงแลบลิ้นใส่ผมแล้วทำหน้าเขิน ๆ หันไปทางอื่นทำท่าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ "จริงด้วย ขวัญก็สังเกตมาตั้งแต่แรกแล้วนะ พี่เค้าไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นเท่าไหร่ ไม่ค่อยแอบมอง" ขวัญซึ่งนั่งอยู่ด้านตรงข้ามพูดเสริมขึ้นมา ในขณะที่เต้ยซึ่งนั่งข้างขวัญก็พยักหน้าเหมือนจะเห็นด้วย ยกเว้นก็แต่ผิงที่หันมามองผมทำท่าเหมือนไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้พูดทักท้วงอะไรออกมา คนโดนวิจารณ์อย่างผมก็เลยได้แต่นั่งงง ๆ ถ้าคนอย่างผมไม่หื่น ผู้ชายในโลกก็คงไม่มีใครหื่นแล้ว แต่ว่าวันนี้ก็ไม่แน่ เพราะว่าเมื่อคืนผมได้ระบายอารมณ์หื่นกระหายใส่เชอรี่จนหมดแม็ก ตอนนี้ระดับความหื่นของผมก็เลยอาจจะลดต่ำกว่าปกติอยู่บ้าง ก็เลยไม่ได้แอบมองสัดส่วนเด็กสาวทั้งสี่คนสักเท่าไหร่ "เอ่อ เดี๋ยวนะ ... ว่าแต่ผิงเขาเล่าอะไรให้ฟังเนี่ย" พอผมถามออกไปน้องผิงก็รีบส่งสายตาพิฆาตไม่ให้เพื่อน ๆ บอกออกไป แต่สี่สาวเผากันเองมาเยอะแล้ว กับอีเรื่องแค่นี้ย่อมไม่มีคนยอมปิดให้ และเป็นสไปร์ทที่พูดแฉออกมาให้ผมรู้ "ยัยผิงบอกว่า พี่กายน่ะ แอบดูมันเล่นน้ำ แล้วชักว่าวตลอด พวกหนูก็เลยคิดว่าพี่หื่นมากน่ะซิ แต่เท่าที่ดูวันนี้เหมือนไม่น่าจะใช่" พอโดนแฉปุ๊บ น้องผิงก็หลบสายตาผมมองไปทางอื่น แล้วทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้อีกครั้ง ผมเลยได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง หากจะให้ผมปฏิเสธก็คงถือเป็นการโกหกเกินไป แต่จะให้ยอมรับก็ใช่ที่ ผมเลยแค่ยักไหล่ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธอะไร ตอนนี้เองที่ผมสะดุ้งเบา ๆ เพราะมีมือน้อย ๆ วางแหมะลงบนเป้ากางเกงของผมตรงตำแหน่งใต้โต๊ะแล้วลูบขยำใส่โดยไม่มีใครเห็น ทีแรกผมคิดว่าเป็นมือของน้องผิงที่นั่งข้าง ๆ เลยไม่ได้ว่าอะไร แต่พอสังเกตเห็นว่ามือของน้องผิงกำลังถือช้อนและส้อมอยู่บนโต๊ะก็เริ่มเอะใจ และได้รู้ว่าที่แท้แล้วเป็นมือของสไปร์ทสาวร้อนนั่นเอง ผมหันไปมองเป็นเชิงบอกให้เธอหยุด แต่ว่าเธอไม่มองผมเลยสักนิด หน้าเธอนิ่งมากตอนที่พูดคุยกับเพื่อน ในขณะที่มือของเธอกำลังบีบขยำใส่เป้ากางเกงของผมเหมือนสาวร้อนร่าน จนมันเริ่มตื่นตัวขึ้นมาทีละน้อย ถ้าหากผมไม่ชอบ ผมก็สามารถปัดมือของเด็กสาวออกไปได้ แต่ถามจริงเหอะถ้าเป็นคุณเองเจอแบบนี้ มีสาวน่ารักมาลูบเป้ากางเกงคุณจะเลือกอะไร ระหว่างนั่งเฉย ๆ กับปัดมือเธอออก? ผมเลือกข้อแรกปล่อยให้มือของเธอลูบคลำสะเปะสะปะไปเรื่อยจนของผมพองตัวขึ้นมาเป็นลำยาวใหญ่ สไปร์ทดูจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงขนาดที่ใหญ่เกินคาด จากนั้นผมก็สัมผัสได้ถึงการลูบคลำที่แฝงไปด้วยแรงปราถนามากกว่าเดิม อะไรบางอย่างทำให้ผมเชื่อว่าทีแรกสไปรท์เพียงแค่อยากเล่นสนุก แต่ว่าตอนนี้ผมเชื่อว่าเธอเริ่มมีอารมณ์บ้างแล้ว ตอนนี้เด็กสาวที่เหลือกำลังคุยกันเรื่องละครทีวีเรื่องอะไรสักอย่าง ยกเว้นก็แต่ผมกับสไปร์ทที่ทำท่าเหมือนฟังอยู่ แต่เราสองคนรู้ดีว่าสมาธิของพวกเราอยู่ตรงไหน สมาธิของสไปร์ทน่าจะกำลังจรดจ่ออยู่กับเป้ากางเกงของผม ในขณะที่ผมเองก็ทำเนียนขยับมือใช้ศอกดันเข้าไปหาเต้านิ่ม ๆ ของสไปร์ทจนเธอสะท้านเบา ๆ นมของสไปร์ทไม่ได้อวบใหญ่ล้นทะลักแบบน้องผิง แต่ก็ถือได้ว่ามีไม่น้อยเลยสำหรับเด็กอายุแค่นี้ ผมเลยใช้ศอกกด ๆ บี้ ๆ จนเพลิน และผมเน้นทำแบบเนียน ๆ ไม่มีใครเห็นแต่ย้ำไปที่ปลายถันจนตอนนี้ผมสัมผัสได้ว่ามันแข็งเต่งขึ้นมาเป็นเม็ดแล้ว อารมณ์ร้อนแรงเปี่ยมด้วยเพลิงไฟแห่งแรงปราถนาของสไปร์ทถูกส่งผ่านมาทางอุ้งมือของเธอ เธอบีบกระชับลำควยของผมหนักหน่วงขึ้น และผมได้ยินเสียงลมหายใจของเธอกระชั้นถี่ขึ้นทีละน้อย จนผมเริ่มลังเลว่าควรจะกระตุ้นเธอต่อหรือเปล่า ผมกลัวว่าหากเธอแสดงอาการมากกว่านี้ เด็กสาวคนอื่นอาจจะเกิดอาการสงสัยขึ้นมา กระนั้นตอนที่ผมกำลังคิดจะหยุดรุกชั่วคราว น้องผิงก็ลุกขึ้นจากที่นั่งไปเลือกหยิบถาดอาหารพอดี แถมน้องขวัญกับน้องเต้ยก็ลุกตามไปด้วย ตอนนี้ที่โต๊ะก็เลยเหลือแต่ผมนั่งอยู่กับน้องสไปรท์ซึ่งกำลังหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ และที่เป็นใจก็คือโต๊ะเราอยู่ด้านในสุดแถมโต๊ะข้าง ๆ ก็ไม่มีคนนั่ง ถ้าจะพูดว่าตอนนี้ไม่มีใครมองเห็นว่าผมทำอะไรกับสไปร์ทก็คงไม่ผิดไปจากความจริงนัก "พี่อยากกินสไปร์ทหรือเปล่า" สไปร์ทดูจะกำลังรอคอยโอกาสแบบเดียวกับผม เธอรีบขยับเอียงมากอดผมไว้ พร้อมกับโน้มหน้ามาหอมแก้มแล้วกระซิบที่ข้างหูของผมด้วยประโยคแฝงอารมณ์ร้อนแรง ในขณะที่ด้านล่างนั้นเธอจับฝ่ามือของผมไปวางแหมะตรงกลางกางเกงในสีขาวจนผมสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มแฉะชื้นตรงกลางร่อง "ก็อยากกินอยู่หรอก แล้วต้องทำไงล่ะ ตอนนี้ดูน่าจะไม่เหมาะ" ผมตอบพร้อมกับตะปบมือขยี้ลงไปบนกางเกงในสีขาวจนเธอสะดุ้งเสียงสั่น ลมหายใจของเธอยิ่งมายิ่งถี่กระชั้นและร้อนแรงขึ้นทีละน้อย "เดี๋ยวพี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำซิ แล้วหนูจะตามออกไป แต่พี่พกถุงหรือเปล่า ถ้าอยากกินสไปรท์ต้องใส่ถุงนะ ไม่งั้นอด" สไปร์ทพูดเสียงกระเส่าพร้อมกับล้วงมือเข้าไปในกางเกงของผมแล้วลูบไปตามความยาวใหญ่ ผมฟังที่เธอพูดแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ เธอเองก็ช่างใช้คำพูดเหมือนในละครทีวีที่แปลความได้ว่า ถ้าอยากกินสไปร์ทก็ต้องใส่ถุงยาง ตอนนี้ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าสไปร์ทกำลังเงี่ยนอยากโดนจริง ๆ เพียงแต่ผมก็เกิดความคิดตะหงิดขึ้นมาอย่างหนึ่งว่าสไปร์ทและพวกเด็กสาวกำลังวางแผนทดสอบผมกันอยู่ ไม่งั้นเหตุการณ์คงไม่บังเอิญอะไรขนาดนี้ หากผมอยากเป็นพระเอกทำตัวดี ก็แค่ปฏิเสธสไปร์ทแล้วบอกว่าผมรักน้องผิงคนเดียวเรื่องราวก็ควรจบ แต่ผมรู้สึกว่าหากผมเลือกทางนี้ผมก็เหมือนเป็นฝ่ายแพ้ และอดได้กินสไปร์ท ดังนั้นผมจึงทดลองวิธีอื่นดูก่อน ผมล้วงมือหยิบกระเป๋าใส่เงินออกมา จากนั้นก็หยิบแบงค์พันออกมาหนึ่งใบแล้วยื่นแกว่งไปมาทำท่ายั่วใส่สไปร์ท เพราะผมจำได้ว่าสไปร์ทนั้นมีฐานะยากจนพอสมควร "ถ้าสไปร์ทช่วยพูดเข้าข้างพี่ ก็เอาใบนี้ไปก่อนเป็นสินน้ำใจ" สไปร์ทเจอเงินฟาดหัวแบบตรงไปตรงมาถึงกับชะงักไป เธอมองผมสลับกับมองแบงค์พัน ดูเธอจะหน้าเสียเล็กน้อยและนั่นน่าจะหมายความว่าผมเดาถูกเรื่องที่เธอรับหน้าที่แกล้งยั่วทดสอบผม "ขอสองใบ แล้วหนูจะช่วยสร้างภาพให้" เธอลังเลไปวูบหนึ่งแล้วยกสองนิ้วขึ้นเพื่อต่อรอง ผมจึงยิ้มน้อย ๆ หยิบเอาแบงค์พันอีกใบมาถือเอาไว้ แต่ว่ายังไม่ได้ยื่นให้สไปร์ท "เมื่อกี้ได้ยินเพื่อน ๆ คุยกันว่าสไปร์ทเป็นตัวแรงประจำโรงเรียน แอบช่วยชักว่าวให้พวกนักเรียนผู้ชายในโรงเรียนแลกกับเงิน จริงหรือเปล่า คิดค่าเหนื่อยยังไง" "... ใช้มือคิดสองร้อย ... ใช้ปากห้าร้อย ... ถ้าน้ำไม่แตกหนูให้เอาฟรีแต่ต้องใส่ถุง" สไปร์ทนิ่งไปพักหนึ่งแล้วตอบผมโดยที่ยังมองแบงค์พันในมือผมแทบไม่กระพริบ ตอนนี้ผมเลยเสียดายมากทีเดียว เพราะสวย ๆ แบบสไปร์ทถ้าไปรับงานเป็นชิ้นเป็นอัน เรียกค่าเหนื่อยน้ำละสี่ห้าพันก็คงมีเสี่ยยอมจ่าย แต่นี่ต้องไปรับงานเงินน้อยไม่สมหน้าตา "แล้วโดนเอาฟรีบ่อยหรือเปล่า" "ยังไม่เคย พวกเด็กผู้ชายโดนมือหนูรูดแวบเดียวก็น้ำแตกกันหมดแล้ว พวกนั้นอ่อนจะตาย" "งั้นเอาไปสองพัน แล้วช่วยพูดเชียร์ให้พี่ด้วย แต่สไปร์ทต้องติดหนี้ใช้ปากทำให้พี่เสร็จสองครั้งด้วยนะ" ผมอมยิ้มและยื่นข้อเสนอออกไป แต่สไปร์ทกลับแสดงท่าทีลังเลเล็กน้อยและเจรจาต่อรองกับผมอีกรอบ "ไม่เอาอ่ะ พี่ท่าทางจะอึดน่าดู ถ้าหนูใช้ปากทำไม่เสร็จหนูก็ต้องให้พี่เอาน่ะซิ พี่ได้กำไรชัด ๆ" "อืมนะ รู้จักต่อรอง งั้นเอาไปสี่พัน แต่สไปร์ทต้องนอนกับพี่คืนนึง" ผมหัวเราะแล้วหยิบแบงค์พันมาเพิ่มเป็นสี่ใบ ราคานี้ถือว่าไม่เยอะเลยสำหรับการซื้อบริการสาวไซด์ไลน์หน้าตาสวยน่ารักแบบสไปร์ท ถ้าคิดราคาแบบปกติแล้วผมว่าราคาเหมาคืนคงต้องจ่ายประมาณหกถึงเจ็ดพันด้วยซ้ำ "หนูขอห้าพัน ... ถึงหนูจะไม่ซิงเหมือนยายผิง แต่หนูเพิ่งเคยโดนเอาแค่ไม่กี่ครั้ง พ่อเลี้ยงปล้ำหนูไปสามครั้งเอง ... แล้วมันก็ผ่านมาปีกว่าแล้วด้วย" สไปร์ทยกห้านิ้วขึ้นมาต่อรอง แถมยังยกเหตุผลประกอบ และผมยอมรับไม่ได้ว่าผมแปลกใจเล็ก ๆ ที่เธอกล้าพูดเรื่องโดนพ่อเลี้ยงปล้ำโดยไม่รู้สึกแย่อะไรมาก ผมเลยยื่นเงินให้เธอห้าพันเป็นการแลกเปลี่ยน "ก็ได้ เอาไปห้าพัน แต่เล่าเรื่องพ่อเลี้ยงให้ฟังหน่อย" "... ก็ไม่มีอะไร ... ครั้งแรกหนูแอบดูพ่อเลี้ยงกับแม่เอากัน ... พ่อเลี้ยงรู้เลยแอบย่องมาปล้ำหนูกลางดึก ตอนนั้นหนูสู้แรงไม่ได้ แล้วก็มีอารมณ์ด้วยแหละ เลยยอม ๆ โดนไปหนึ่งครั้ง ... อีกหลายวันถัดมาพ่อเลี้ยงก็แอบย่องเข้ามาปล้ำอีกสองครั้ง ... แล้วแม่ก็มีผัวใหม่เป็นเสี่ยแก่ ๆ พ่อเลี้ยงก็เลยโดนไล่ออกจากบ้าน อดเอาหนูอีก" "แสดงว่าสมยอม ไม่ใช่ข่มขืนล่ะซิ" "ก็มันเสียวนี่นา จะให้หนูทำไงล่ะ" สไปร์ทยักไหล่ตอบตรงไปตรงมาด้วยใบหน้ายิ่มกริ่มตอนที่เก็บเงินใส่กระเป๋าของเธอ และผมก็ยังแปลกใจอยู่ดีที่เธอมีนิสัยเปิดเผยถึงขนาดนี้ "แล้วหลังจากนั้นล่ะ ไม่มีคนเอาให้ ไม่เงี่ยนเหรอ เห็นบอกว่าผ่านมาเป็นปีแล้ว" "พี่ถามแปลก เงี่ยนก็ตกเบ็ดเอาดิ ให้พวกผู้ชายมันใช้มือช่วยก็ได้ ไม่เห็นต้องเปลืองตัวแบบเสียเปล่า" "อ้าว ถ้าไม่อยากเปลืองตัวแล้วมาตกลงรับงานพี่ทำไม" "ก็หนูชอบพี่อ่ะ หล่อ รวย คุยสนุก ควยก็ใหญ่ แถมให้พี่เอาหนูก็ได้เงินตั้งเยอะ คุ้มจะตาย ตั้งห้าพันแน่ะ แต่อย่าลืมนะพี่ต้องใส่ถุงด้วยล่ะ หนูไม่ให้เย็ดสดแตกในฟรี ๆ แบบไอ้ผิงมันหรอกนะ" ประโยคตรงไปตรงมาเกินเหตของสไปร์ททำให้ผมหัวเราะไม่ออก มันเป็นความแก่แดดผสมกับความไร้เดียงสาจนกลายเป็นสไปร์ทคนนี้ "... โอเค งั้นไว้นัดเจอกัน อย่าเบี้ยวล่ะ เอาเบอร์โทรมาด้วย ผิงน่าจะใกล้กลับมาแล้ว เดี๋ยวพี่จะแกล้งลุกขึ้นเดินหนีไปก่อน รู้ใช่มั้ยว่าควรพูดยังไง" ผมส่ายหน้าแล้วแลกเบอร์โทรของสไปร์ท จากนั้นก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ แสร้งทำเหมือนหนีการยั่วยวนของสไปร์ท และเป็นจังหวะพอดีกับที่พวกผิงเดินกลับมา ผมแกล้งทำเป็นเลือกถาดอาหารอยู่พักใหญ่ พอกลับมาเด็กสาวบนโต๊ะก็มองผมและยิ้มให้ด้วยความชื่นชม โดยเฉพาะน้องผิงที่โผมากอดแขนผมแล้วซุกหน้าทำท่ามีความสุข และนั่นน่าจะหมายความว่าสไปร์ทที่แอบส่งสายตาให้ผมทำหน้าที่ของเธอได้ดีทีเดียว "หนูอยากไปทะเล ... คืนนี้เลย" น้องผิงที่ซบหน้ากับไหล่ผมพูดลอย ๆ แฝงความนัยบางอย่าง ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะอยากสถานที่พลอดรักกับผมแบบไม่ต้องคอยระวังคนเห็น และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์พรุ่งนี้เธอไม่ต้องเรียน และผมก็ไม่ต้องทำงาน "ไปได้เหรอ แม่ให้ไปหรือไง" "หนูจะบอกว่าไปนอนบ้านขวัญ รับรองไม่มีปัญหา ช่วงนี้พ่อกลับมาบ้าน แม่ไม่ค่อยอยากให้หนูอยู่บ้านอยู่แล้วด้วย" น้องผิงพูดพลางหันไปมองขวัญเป็นเชิงขออนุญาตแอบอ้าง แต่ผมกำลังงงว่าทำไมพ่อเธอกลับบ้าน แล้วแม่ของเธอจึงไม่อยากให้กลับบ้าน ... เอ๊ะ จะว่าไป ที่มิ้งแม่ของน้องผิงยกเลิกนัดกับผมมันเป็นเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า ที่แท้สามีของเธอกลับมาจากต่างประเทศนั่นเอง "ได้จ้ะ ไม่มีปัญหา แต่ขวัญไปด้วยคนนะ ทะเลน่ะ" "อะไร ไม่เอา เธอจะไปทำไม แล้วพ่อกับแม่เธอให้ไปเหรอ" "พ่อกับแม่เหรอ พวกเค้าสนชั้นที่ไหนกันล่ะ ชั้นมันลูกนอกคอกนะ ยิ่งไปอยู่ไกล ๆ พ่อกับแม่ยิ่งสบายใจด้วยซ้ำ" ขวัญพูดเสียงเศร้า ๆ จนผมสงสาร เรื่องที่พ่อกับแม่ของเธอแยกทางและแต่งงานใหม่แล้วมีลูกน่าจะเป็นเรื่องจริง "สไปร์ทก็ด้วยค่ะ งานนี้จะพลาดได้ไง เต้ยไปด้วยใช่มั้ย" สไปร์ทหันซ้ายหันขวาแล้วยกมือพูดเสนอตัวว่าจะไปด้วย แถมยังหันไปพูดชวนจนเต้ยพยักหน้า สรุปว่าสี่เด็กสาวตกลงไปเที่ยวทะเลกันแล้วโดยไม่ถามความสมัครใจของผมเลยสักนิด ... แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจากทำหน้าที่สารถีขับรถพาพวกเธอไปเที่ยวทะเลแบบไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ... อืม ก็ไม่เชิงหรอก คือผมก็แอบแวะซื้อเจลหล่อลื่น กับถุงยางกล่องใหญ่มาสำรองเอาไว้ด้วย เผื่อว่าจะโชคดีได้ถอนทุนคืนจากพวกเด็กสาวทั้งสี่คน ........................................

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น