AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2562

น้องผิง ตอนที่ 12

น้องผิง ตอนที่ 12 - สอนงาน ...............................................
Assasin008

 "Have a nice day Mr. Smith I look forward to our next call." ผมบอกลาลูกค้าต่างชาติ แล้ววางหูโทรศัพท์ลงด้วยความโล่งใจ คุณสมิธลูกค้าคนสำคัญดูจะไม่รู้ว่าขณะที่ผมโทรคุยกับเขานั้น ผมกำลังมั่วเซ็กส์กับนักศึกษาสาวหุ่นเอ็กซ์ไปด้วย ... คราวนี้ถือว่ารอดไป ผมถอนหายใจแล้วขยับตัวหมุนเก้าอี้หันหน้าไปทางเชอรี่ แม่สาวนักศึกษาหุ่นน่าฟัดยังคงนอนนิ่งอยู่บนพื้นพรมในห้องทำงาน เธอนอนหอบหลับตาพริ้มท่าทางเหมือนกำลังมีความสุขถึงที่สุด ยกทรงกับกางเกงในของเธอโดนเหวี่ยงทิ้งอยู่คนละทิศคนละทาง แต่เสื้อนักศึกษากับกระโปรงยังค้างอยู่บนตัว ... แต่โดนแบะออกกับเลิกขึ้นจนเห็นนมเห็น
หอยได้เต็มตานั่นแหละ ผมมองสองขาขาวอวบที่ถ่างอ้าออกเหมือนหุบไม่ลง นั่งมองดูน้ำเงี่ยนของผมที่ค่อย ๆ เอ่อทะลักออกมาจากรูเสียวของเชอรี่ด้วยความสะใจไปพร้อมกับความไม่สบายใจ เชอรี่เป็นผู้หญิงที่ผมมองว่าไม่สามารถไว้ใจได้ การกระทำของเธอมองไม่ออกว่าเป็นความจริงหรือเป็นแค่การแสดง และผมก็ยังไม่เชื่อว่าเธอจะหลงรักผมจริงอย่างที่เธอบอก แม้แต่พวกเงื่อนไขบ้าบอที่เธอบอกว่าจะจ้างผมเป็นกิ๊ก ผมก็ยังไม่คิดว่าเธอจะหมายความแบบนั้นจริง ๆ ผมยังแอบเชื่อลึก ๆ ว่าจิ้งจอกสาวอย่างเธอน่าจะมีแผนอะไรสักอย่างที่ไม่ดี แต่สุดท้ายผมก็ยังอดหลงเสน่ห์ในเรือนร่างของเธอไม่ได้อยู่ดี อย่างหนึ่งที่ผมรู้ก็คือ เธอจะมีอารมณ์ตอบสนองรุนแรงเป็นพิเศษหากว่าเป็นการใช้กำลังปลุกปล้ำ แล้วรสนิยมความชอบที่ไม่เหมือนใครของเธอมันก็มากระตุ้นสันดานดิบของผมได้เสียด้วย ไม่หรอกผมว่าไม่ใช่แค่ผมหรอก แต่ผมว่าผู้ชายเกือบทุกคนน่าจะมีความรู้สึกของผู้ล่าแบบนี้อยู่บ้าง โดยปกติผมอาจจะไม่เน้นใช้กำลังปลุกปล้ำ แต่ถ้าอีกฝ่ายเรียกร้องแบบนั้น แล้วทำตัวเป็นลูกแกะมายืนอ้อนหมาป่า ผมก็อดไม่ได้ต้องตอบสนองไปตามสันดานดิบของผู้ล่า ก็ในเมื่อเธอยั่ว แล้วเรื่องอะไรที่ผมจะไม่ขย้ำใส่ซะล่ะ ยังไงก็ตาม ผมก็ยังพยายามบอกตัวเองว่าอย่าหลงเชื่อเธอเด็ดขาด ผมยอมรับว่าเชอรี่เป็นสาวแรงสูงที่ผู้ชายยากจะปฏิเสธ ผมก็ปฏิเสธไม่ลง แต่ผมก็ต้องพยายามตั้งกรอบเอาไว้ ระวังตัวให้ดี เพราะไม่รู้ว่าเธอจะแว้งกัดผมตอนไหนหรือเปล่า มาถึงตอนนี้ผมก็ตื่นตัวขึ้นมา ผมสงสัยว่าเชอรี่จะแอบอัดคลิปหรือเสียงอะไรในช่วงที่ผมปล้ำเธอหรือเปล่า ผมก็เลยเดินไปสำรวจรอบ ๆ ดูที่ตัวเธอน่าจะไม่มีอะไร ผมก็เลยเดินไปค้นกระเป๋าถือ ใช้แบรนด์เนมราคาแพงซะด้วย แต่ค้นไปก็ไม่เจออะไรพิเศษนอกจากอุปกรณ์แต่งหน้า และโทรศัพท์มือถือ ... นี่ใส่ชุดนักศึกษามาตั้งใจยั่วอย่างเดียว แต่ไม่ได้กะจะพกหนังสือไปเรียนอะไรเลยใช่มั้ยเนี่ย? หลังจากค้นแล้วไม่เจออะไร ผมก็ขยับมายืนมองหุ่นอวบน่าฟัดของเชอรี่ ถ้าให้ประเมินเป็นคะแนน ผมว่าเชอรี่พอฟัดพอเหวี่ยงกับน้องแอนเมียผม เธอทั้งสองคนเป็นสาวเปรี้ยวมั่นเหมือนกัน เพียงแต่แอนเป็นพวกปากตรงใจตรง ไม่เจ้าเล่ห์เหมือนเชอรี่ ตอนนี้ผมก็ยอมรับนะ ว่ายิ่งมองผมก็ยิ่งตื่นตัวจนควยแข็งขึ้นมาอีกแล้ว เชอรี่ก็มองควยผมตาแป๋วแล้วหัวเราะคิกคัก ทำท่าเหมือนจะเชื้อเชิญให้ผมลงไปฟัดเธออีกรอบ ซึ่งผมก็อยากทำอยู่หรอกนะ แต่รู้สึกเหมือนโดนทำให้ตกเป็นเบี้ยล่างยังไงก็ไม่รู้ เพราะทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปตามที่เชอรี่คุมไว้หมด ไหน ๆ ก็หลวมตัวไปแล้ว ผมเลยแอบตกลงใจอย่างนึง ผมจะกำราบนางจิ้งจอกอย่างเชอรี่ให้สิ้นท่าให้ได้ และการทำแบบนั้นก็ไม่ควรจะเดินเกมไปตามที่เธอวางแผน ผมจะต้องทำอะไรบางอย่างที่เธอคาดไม่ถึง อะไรบางอย่างที่จะกระเทาะเปลือก หรืออะไรก็ตามที่เธอเสแสร้งออกมาให้หมด ผมจะทำให้เธอปลดปล่อยเปิดเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา ผมมองซ้ายมองขวาไปทั่วห้องทำงานแล้วก็นึกอะไรน่าสนุกขึ้นมาได้ ก็เป็นเรื่องที่ผมเคยคิดอยากจะลองทำสักครั้งมานานแล้ว แต่ยังไม่สบโอกาสเพราะไม่เคยพาสาวมาถึงที่ทำงาน ผมยืนคิดอีกครู่หนึ่งแล้วก็หันไปมองเชอรี่ ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ เธอจ้องผมตอบด้วยสายตาสงสัยเหมือนจะถามว่าผมคิดอะไรอยู่ "ดูเหมือนเชอรี่จะตื่นเต้นมีอารมณ์ตอนโดนข่มขืนใช่มั้ย? ... ทำไมล่ะ ทั้งที่เชอรี่บอกว่าเคยเกือบโดนข่มขืน แต่รอดมาได้ น่าจะกลัวมากกว่าไม่ใช่เหรอ?" ผมทรุดตัวลงไปนั่งแล้วค่อย ๆ ประคองเชอรี่ขึ้นมายืนกอด ส่วนเธอนั้นมองผมนิ่ง ๆ เหมือนกำลังคิดว่าจะตอบยังไงดี "ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ... ทีแรกหนูกลัวผู้ชาย ก็เลยคบกับทอม หนูคิดว่าหนูกลัวจะโดนปล้ำ ... แต่วันนั้นพอโดนพี่ปล้ำจริง ๆ แล้ว แทนที่หนูจะเจ็บเหมือนที่เคยกลัวฝันร้าย ... แต่ดันเสียวแล้วก็มีความสุขมาก ... หนูคิดว่าหนูแค่กลัวโดนทำร้ายร่างกายมากกว่า เพราะตอนที่โดนหลอกไปปล้ำตอนโน้น หนูโดนตบหน้า โดนต่อยท้อง พวกมันบอกให้หนูนอนนิ่ง ๆ จะได้ปล้ำง่าย ๆ ... แต่พี่ไม่เหมือนพวกนั้น พี่ไม่ทำร้ายร่างกายหนูเลยสักครั้งเดียว" เธอนิ่งไปพักใหญ่แล้วค่อย ๆ ตอบช้า ๆ ผมพยายามสังเกตกิริยาอาการแล้วก็แววตาก็ไม่รู้สึกว่าเธอโกหก ทั้งยังมองผมด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่านคล้าย ๆ กับที่มิ้งหรือน้องผิงมองผม ผมจึงรู้สึกว่าเธออาจจะพูดจริงก็ได้ เธออาจจะมีปมอยู่ เธอน่าจะเป็นผู้หญิงมีอารมณ์ร่านในระดับหนึ่ง แต่โดนกดไว้เพราะโดนผู้ชายทำร้ายร่างกาย พอโดนผมทะลวงปมนั้นออก อะไรบางอย่างก็เลยหลุดทะลักออกมาจนคุมไม่อยู่ ... นี่อาจเป็นไปได้ ถ้าเธอพูดความจริงอ่ะนะ "อืม แปลกดีนะ แทนที่จะกลัว แต่กลายเป็นแอบชอบลึก ๆ แล้วถ้าคนอื่นข่มขืนแทนล่ะ เชอรี่จะมีอารมณ์ร่วมด้วยหรือเปล่า?" ผมลองถามแหย่ ๆ ดู พร้อมกับหอมแก้มเธอเบา ๆ ฟอดหนึ่ง แล้วผมก็เห็นเชอรี่ทำสีหน้าครุ่นคิดแบบจริงจัง เธอนิ่งไปอีกสักพักแล้วก็โน้มหน้ามาหอมแก้มผมหนึ่งฟอด ก่อนจะตอบออกมาหน้าตาเฉยว่า "... ไม่รู้ซิ แต่ถ้าพี่กายอยากเห็นหนูโดนคนอื่นปล้ำ ก็ตามใจนะ หนูเป็นของพี่แล้วนี่ ขอแค่อย่าทิ้งหนูก็พอ" "เฮ้ย พูดอะไรเนี่ย แน่ใจเหรอ?" "แน่ซิ ก็หนูสัญญากับพี่แล้วนี่นา พี่อยากให้หนูทำอะไรก็แล้วแต่พี่เลย ขอแค่อย่าทิ้งหนู อย่าหลอกหนู แล้วไม่สนใจหนูแบบที่ผ่านมาก็พอ หนูทนรับอะไรแบบนั้นไม่ไหว" เธอพูดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวานพร้อมกับกอดผมจนแน่น ทั้งที่ผมพยายามสร้างเกราะป้องกันตัวเองแล้ว แต่พอเจอไม้นี้เข้าไป ผมก็รู้สึกใจอ่อนยวบขึ้นมาทันที ฟังแล้วผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมเป็นผู้ร้ายยังไงยังงั้นเลยทีเดียว "อืม เชอรี่ทำตัวเป็นไซด์ไลน์มานานแค่ไหนแล้ว? ทำไมถึงยังซิงไม่เคยโดนของผู้ชาย" "... หนูเพิ่งทำได้แค่สี่ห้าเดือนเองแหละ ทีแรกไม่ได้คิดจะทำหรอก แค่เป็นพริตตี้ก็ได้เดือนละสี่ห้าหมื่นเหลือใช้แล้ว แต่มีเสี่ยแก่ ๆ มาเสนอ เห็นว่าได้เงินเยอะดี แล้วหนูก็ตั้งกฎให้ไม่เปลืองตัวมากด้วย แค่ไปเที่ยวด้วย ให้จับโน่นจับนี่นิดหน่อย แล้วหนูก็แค่ใช้ปากทำให้ ก็ได้เงินเยอะแยะเดือนละหลายแสนแล้ว" "แล้วไม่โดนปล้ำบ้างเหรอ? เสี่ยพวกนี้น่าจะไม่ยอมเสียเงินง่าย ๆ มั้ง" "โดนซิคะ แต่ละคนเล่ห์เหลี่ยมเยอะเลยล่ะ แต่หนูก็เอาตัวรอดมาได้เรื่อย ๆ แหละ พอคนไหนเริ่มเล่นหนักเข้า หนูก็เลิกแล้วไปหาคนใหม่" "ตอนโดนล้วงโน่นล้วงนี่ไม่มีอารมณ์บ้างเหรอ?" "ไม่เลยค่ะ หนูขยะแขยงผู้ชายจะตาย ... ยกเว้นก็แต่พี่กายนะ ไม่รู้ทำไมหนูยอมให้พี่แยงนิ้วเข้ามาตั้งแต่ตอนแรกที่เจอ แถมยังมีอารมณ์จนแฉะอีกต่างหาก นึกไปแล้วก็แปลกดี" เธอพูดฉอเลาะพลางอ้าปากงับหูผมเบา ๆ จนผมขนลุกซู่ ตอนนี้ผมยิ่งฟังเธอก็ยิ่งรู้สึกถลำลึกยิ่งผูกพันธุ์มากขึ้น ทั้งที่ไม่รู้ว่าเธอพูดจริงหรือเปล่า แต่ผมก็ยังเผลอคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอน่าจะพูดจริง ... ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ "อืม เอาเถอะ เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกัน ตอนนี้พี่อยากทำอะไรบางอย่าง ชอบโดนข่มขืนใช่มั้ย พี่จะจัดฉากให้เชอรี่ขัดขืนแบบจริง ๆ จัง ๆ เอามั้ย?" "อืมมมม ... พี่จะจัดฉากยังไงล่ะคะ?" ผมยิ้มให้เชอรี่แล้วก้มหน้าลงไปฟัดกับนมเต้าของเธออีกพักใหญ่ เชอรี่ส่งเสียงครางเบา ๆ แล้วแอ่นนมให้ผมดูดแต่โดยดี ตอนนี้ผมจึงแอบหัวเราะในใจด้วยความอยากรู้ว่าถ้าบอกแล้วเธอจะตื่นตกใจแค่ไหน "งั้นก็เริ่มเลยล่ะกัน" "... พี่จะทำอะไรคะ?" เชอรี่เริ่มถามผมด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด แล้วเริ่มฝืนตัวตอนที่ผมลากเธอไปที่หน้าต่างห้องทำงาน เธอคงจะเริ่มเดาออกแล้วผมกำลังคิดจะทำอะไร ผมพยายามออกแรงดึงเธอ แต่เธอฝืนไว้ ผมก็เลยต้องขยับไปรวบเอวแล้วอุ้มยกเธอมาแทน ตอนนี้เชอรี่เริ่มดิ้นและแสดงท่าตกใจออกมาแล้ว เพราะโดนผมอุ้มมายืนหน้าหน้าออกไปทางหน้าต่างในสภาพเกือบเปลือย เสื้อนักศึกษาโดนแบะออกจนนมเด้งออกมา ส่วนกระโปรงก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะปกติก็ร่นจนเห็นกางเกงในอยู่แล้ว กระจกห้องทำงานของผมก็เป็นกระจกในตึกสูงทั่วไปนั่นล่ะครับ คือเป็นกระจกบานใหญ่ทั้งบาน ตอนกลางวันแบบนี้มองออกไปเห็นคนนั่งทำงานในตึกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ชัดเลย น่าจะห่างกันสักร้อยเมตรได้มั้ง "พี่คะเดี๋ยวมีคนเห็น ... เดี๋ยวค่ะ" เชอรี่หันมามองผมหน้าซีดไปเลย เธอเองก็คงมองเห็นคนในตึกฝั่งตรงข้าม ดังนั้นเธอจะต้องกลัวมีคนมองกลับมาเหมือนกัน และเธอคงจะกลัวโดนถ่ายคลิปออกแฉในเนตก็เป็นได้ สมัยนี้เรื่องแบบนี้ดังกันเร็วอยู่แล้วด้วย "ช่างเค้าซิ ต่อให้เห็น ก็เห็นไกล ๆ ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร" ผมสวมบทโจรจอมหื่นดื้อด้าน แล้วผมก็เริ่มตะปบมือล้วงควักปลุกอารมณ์เชอรี่ยกใหญ่ แต่ในใจน่ะกำลังแอบหัวเราะอยู่ เพราะผมก็เป็นระดับผู้บริหารมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ผมไม่กล้าทำเรื่องงามหน้าแบบนี้ให้คนอื่นเห็นออกสื่ออยู่แล้ว ความจริงก็คือ ผมอยู่ห้องนี้มานานจนรู้ดีว่ากระจกตึกนี้ติดฟิล์มค่อนข้างหนา และตั้งมุมสะท้อนแสงได้ดี แถมที่ด้านนอกยังมีสกรีนป้ายโฆษณาไว้อีกชั้น แต่มองจากด้านในจะไม่เห็นสกรีนโฆษณา ผมเคยไปประชุมที่ตึกนั้นแล้ว ผมรู้ดีว่าต่อให้ผมมองเห็นคนในอาคารฝั่งตรงข้ามได้ แต่คนฝั่งตรงข้ามไม่มีทางมองเห็นเข้ามาในห้องผมเด็ดขาด ต่อให้เป็นตอนกลางคืนที่ข้างนอกมืดแล้วเปิดไฟสว่างในห้องก็ตาม อย่าว่าแต่ตอนนี้เป็นตอนกลางวันที่ข้างนอกสว่างจ้า และในห้องผมแค่เปิดไฟนิดหน่อย "อ๊อยยย อย่าค่ะ ไม่เอา ... พี่กาย ... อย่า ... อ๊อยยยยย ซี้ดดดดสสส ... พี่กายอย่านะคะ" เชอรี่ที่ไม่รู้ความจริงข้อนี้ จึงพยายามส่งเสียงร้องห้ามไปพร้อมกับดิ้นรนอยู่ข้างกระจก เธอแข็งแรงดีทีเดียวสมกับการเป็นแม่พันธุ์ให้ผู้ชายอย่างผม แต่ผมแข็งแรงกว่าเยอะ แถมยังมุ่งโจมตีจุดอ่อนไหวของเธอตลอดเวลา แรงดิ้นของเชอรี่ก็เลยไม่ค่อยได้ผล ตอนนี้ผมกอดเธอจากทางด้านหลัง แล้วดันจนร่างเธอแนบกับกระจกหน้าต่าง ยังดีที่กระจกหน้าต่างไม่ร้อนแดดมากเกินไป มันแค่พออุ่น ๆ ร้อน ๆ ผมก็เลยไม่ต้องกลัวว่าผิวเธอจะไหม้ ด้านบนผมระดมจูบซุกไซร้ไปตามซอกคอสลับกับจูบดูดปากเธอเป็นระยะตามจังหวะ มือซ้ายตะปบขยำนมเต้าใหญ่แล้วเคล้นคลึงแรง ๆ ไปพร้อมกับใช้มือขวาขยำสอดนิ้วแหย่รัวใส่เข้าไปในรูเสียวของเธอ เชอรี่พยายามดิ้นรนไปตามเรื่องตามราว แต่ดิ้นไปเท่าไหร่ก็ไม่เกิดผล มีแต่โดนผมล้วงควักแรงขึ้นจนตัวกระตุกน้ำเยิ้มขึ้นมาอีกรอบ "ดูซิ มีคนมองมาพวกเราแล้ว ผู้ชายตั้งสามคนแน่ะ มองมาตาลุกวาวเลย คงอยากเย็ดเชอรี่กันมาก" ผมแกล้งพูดยั่วไปเรื่อยเพื่อให้เธอตกใจกว่าเดิม แต่ความจริงแล้วไม่มีใครที่ไหนมองเห็นหรอก ที่ผมทำแบบนี้ก็เพื่อทำให้เธอตกใจจะได้แสดงนิสัยที่แท้จริงออกมา และที่สำคัญก็คือผมรู้สึกว่ามันตื่นเต้นน่าลองดี เชอรี่สะดุ้งโหยงทันทีที่ได้ยินผมบอกว่ามีคนมองมา เธอพยายามออกแรงดิ้นต่อต้านอีกครั้งพร้อมกับยกมือขึ้นปิดหน้า แต่ผมจับรวบสองมือของเธอมาไพล่หลังไว้ แล้วกระชากเสื้อนักศึกษาของเธอนั่นแหละ รูดลงมามัดมือทั้งสองข้างของเธอจนขยับไม่ได้ เธอแสดงท่าทางตกใจมาก พยายามดิ้นอีกพักใหญ่ แต่โดนผมที่แข็งแรงกว่าดันจนแนบกระจก พอเธอดิ้นมากเข้าเต้านมของเธอก็เบียดถูไปกับกระจกหน้าต่างดังเอี๊ยดเหมือนเวลาเอาฟองน้ำถูกระจก ... อืม นี่มันหนึ่งในฉากในฝันของผู้ชายทุกคนเลยนะเนี่ย ผมแหย่นิ้วเข้าไปแยงใส่อีกพักใหญ่ แล้วปล่อยให้เธอดิ้นรนต่อไปอีกสักพัก ไม่นานนักเธอก็เริ่มหยุดดิ้นแล้วส่งเสียงคราง ร่างของเธอเริ่มร้อนขึ้นแล้วตอบสนองการเล้าโลมของผมมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูท่าจะยอมแพ้แล้ว ผมจับเชอรี่เดินถอยหลังมาหนึ่งก้าว แล้วผลักท่อนบนให้เธอก้มลงไปแนบหน้ากับหน้าต่าง สองขาโดนจับถ่างแยกออกจากกันเพื่อที่ผมจะได้จัดการขั้นสุดท้าย "อ๊อออยยยย ... ซี้ดดดสสสสส ... อูยยสสสส ... พี่กาย ... อ๊ายยยยยย ... พี่กาย .... ซ๊้ดดดสสสส" ผมจัดท่าทางเล็กน้อยแล้วก็จับควยใส่เข้าไปในรูเสียวจากด้านหลังจนเชอรี่ตัวกระตุกเฮือก ด้วยความตื่นเต้นทำให้ผมเก็บอาการไม่อยู่ พอใส่เข้าได้สุดทางก็เริ่มกระเด้าเอวซอยยิกจนเธอร่ำร้องเสียงหลง เสียงเนื้อกระแทกเนื้อปั้ก ๆ ดังสลับกับเสียงเอี๊ยด ๆ ของนมที่ถูไถไปกับหน้าต่าง ผมฟังแล้วก็อยากขยำนมเธออยู่หรอก แต่นึกไปแล้วปล่อยให้มันถูกับกระจกแบบนี้ก็ได้อารมณ์ตื่นเต้นพิลึก ผมสังเกตเห็นว่าตอนนี้เชอรี่อยู่ในสภาพสติหลุดแล้ว ไม่แน่ใจว่าเพราะโดนปล้ำ หรือเพราะตื่นเต้นไปกับความคิดว่าโดนคนอื่นมองอยู่ แต่ผมเดาว่าน่าจะสองอย่าง เชอรี่ร้องครางหนักกว่าสองครั้งก่อนที่โดนผมปล้ำ เธอเด้งสะโพกสู้เป็นระวิง แล้วตอนนี้เธอก็กำลังแลบลิ้นจูบเลียละเลงลงไปบนกระจกหน้าต่างเหมือนสาวร้อนที่อัดอั้นต้องการระบายอารมณ์เสียวออก ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าไม่สนแล้วว่าจะมีใครมอง หรือเธออาจจะคิดว่ากำลังโดนมองก็เลยยิ่งมีอารมณ์รุนแรงกว่าเดิมก็ไม่รู้ "อ๊อยยย อ๊อยยยย พี่กาย ... ซี้ดดดสสส ... เสียว ... อูยยยยสสส พี่กาย" ผมเริ่มลดมือลงมาล๊อคสะโพกเธอไว้แล้วโหมกระแทกสุดแรง เชอรี่ร้องเสียงหลงพร้อมกับแอ่นตัวถูไถไปกับกระจกหน้าต่าง แล้วเธอก็หวีดออกมาเสียงดังตอนที่เสร็จคาควยของผม เธอเสร็จแล้ว แต่ผมยังไม่เสร็จ ผมเลยขยับตัวเล็กน้อยเอื้อมมือไปขย้ำเต้านมบีบแรง ๆ พร้อมกับโยกเอวกระแทกปั้ก ๆ ถี่ ๆ รัว ๆ ผมกระแทกได้อีกไม่นาน เชอรี่ก็เริ่มตัวเกร็งอีกรอบ ร่องเสียวของเธอตอดของผมหนุบหนับแรงมากจนผมทนไม่ไหวต้องกระฉูดน้ำเข้าไปในรู เสียวของเธอเป็นรอบที่สอง ผมดันเธอไปข้างหน้าจนแนบกับกระจกหน้าต่าง ผมกับเธอยืนนิ่งหอบกระเส่าด้วยความเหนื่อยผสมกับความสุข เธอดูจะมีอารมณ์มากเป็นพิเศษจนโพรงสวาทขมิบใส่ควยผมถี่ยิบ ถี่มากกว่าสองครั้งก่อนหน้าที่โดนผมจัดหนักเสียอีก พอพวกเราเริ่มหายเหนื่อยผมก็ค่อย ๆ ประคองมานั่งบนเก้าอี้หนังสีดำประจำตำแหน่งของผม ผมนั่งล่างส่วนเธอนั่งอยู่บนตักทั้งที่ควยผมยังแช่อยู่ในตัวเธอนั่นแหละ ผมเริ่มจูบไซร้ซอกคอที่ชุ่มเหงื่อของเธออีกรอบ ส่วนสองมือก็ล้วงตะปบบีบไปตามเนื้อตัวอวบอิ่มของเธอเรื่อย ๆ เพื่อหล่อเลี้ยงอารมณ์หื่นของเธอเอาไว้ แต่สักพักเชอรี่ก็หยิกมือผมแรง ๆ จนผมสะดุ้งโหยง แล้วส่งเสียงโวยวาย "พี่กายบ้า ... เดี๋ยวก็โดนถ่ายคลิปเป็นข่าวหรอก" "ช่างเค้าซิ ต่อให้เป็นข่าว ก็แค่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้ว่าใคร แค่อย่ายอมรับซะอย่างก็พอ" "ถ้าเค้ารู้ว่าเป็นหนู แล้วหนูโดนไล่ออกจากมหาลัยจะทำยังไงคะ" "ช่างซิ เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้สบาย ไม่ต้องเรียนก็ดี จะได้จับขังไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปโดนผู้ชายคนอื่นมอง" ผมพูดขำ ๆ ไปตามนิสัย จริง ๆ ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าจะเลี้ยงเธอในฐานะเมีย แต่ดูเหมือนว่าคำพูดเล่น ๆ ของผมจะทำให้เชอรี่ดีใจยิ้มแฉ่งจนเก็บไม่มิดเลยทีเดียว "พี่อ่ะ หนูไม่ยอมโดนขังหรอก แล้วไม่ใช่เมียพี่ซะหน่อย พี่มีเมียแล้วไม่ใช่เหรอ พี่เป็นกิ๊กหนูต่างหาก แล้วหนูก็ไม่ให้พี่เลี้ยงด้วย หนูบอกแล้วไงว่าจะเลี้ยงพี่เอง" "แน่ใจนะ? อยากให้พี่เป็นแมงดาหรือไง?" "ตามใจพี่ซิคะ อยากเรียกตัวเองว่าอะไรก็แล้วแต่ เอาเป็นว่าหนูจะไม่รับเงินจากพี่ซักบาทก็แล้วกัน" "หึ หึ ตามใจ ... งั้นตอนนี้ก็ไปนอนพักบนโซฟาก่อนก็แล้วกัน พี่มีงานต้องเคลียร์อีกหน่อย" "ค่ะ" เชอรี่พยักหน้าตอบรับเสียงหวาน เธอเอนหลังลงมาจูบปากกับผมทีหนึ่ง แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินกระเผลกเล็กน้อยไปหยิบชุดชั้นในที่หล่นบนพื้นขึ้นมาทีละชิ้น แต่ว่าผลจากแรงหื่นเมื่อครู่ทำให้เสื้อผ้าของเธอเละเทะหมดแล้วตั้งแต่แรก "อืม ลืมไปเลย เอาไงล่ะเนี่ย เผลอใส่อารมณ์จนเสื้อ ยกทรง แล้วก็กางเกงในขาดหมดแล้ว" "... ยกทรงกับกางเกงในไม่ใส่ก็ได้ค่ะ กระโปรงยังดีอยู่ ... อืม ส่วนเสื้อ ... ก็แค่กระดุมหลุดนิดหน่อย ติดเข็มกลัดใส่ ๆ ไปก่อนก็ได้ ... ส่วนคราวหลังหนูค่อยหยิบชุดสำรองใส่กระเป๋าถือมาด้วยก็แล้วกัน" เชอรี่ขมวดคิ้วหันมาทำหน้าดุใส่ผมหนึ่งครั้งโทษฐานที่ทำเสื้อผ้าเธอขาด แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก เหมือนจะเห็นดีเห็นงามให้ผมกระชากเสื้อผ้าเธออีกงั้นแหละ แต่ก็นะเธอก็ดูจะมีอารมณ์ร่วมจริง ๆ ผมหันไปใส่เสื้อใส่กางเกงของผมเอง แล้วก็มองเชอรี่ใส่เสื้อนักศึกษาในสภาพที่ไม่มียกทรงด้วยความรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาอีกรอบ ผมมองจุกนมของเธอตาลุกวาวอยากเข้าไปฟัดอีกสักรอบ แต่ก็ต้องห้ามใจตัวเองไว้ก่อน เพราะยังมีงานต้องสะสาง เชอรี่หยิบกระดาษทิชชู่ไปเช็ดคราบน้ำกามที่ง่ามขาออก แล้วก็เดินไปนอนตะแคงบนโซฟาหันหน้ามาทางผมตาแป๋ว ผมมองแล้วก็ต้องกัดฟันกรอด เพราะความขาวโพลนของเธอทำให้ผมหื่นขึ้นมาอีกรอบ โชคดีทีเดียวที่หลังจากเชอรี่ไปนอนบนโซฟาได้สักพัก รุ่นพี่ร่วมแผนกก็เดินมาเคาะประตูแล้วเอาเอกสารข้อมูลมาถาม เข้ามาปุ๊บก็ตามคาด รุ่นพี่มองเชอรี่ที่นอนบนโซฟาแบบตาไม่กระพริบ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอหลับจริงหรือเปล่า แต่ยังดีที่เอากระเป๋าถือมาวางบังหน้าอกไว้ ไม่งั้นคงโดนจับได้แน่ว่าไม่ใส่ยกทรง ผมทำเป็นไม่เห็นสายตาของรุ่นพี่คนนี้ แล้วเราก็คุยเรื่องงานไปโดยที่ผมทำเป็นมองแต่หน้าจอคอม รุ่นพี่คนนี้คงไม่รู้ว่าผมแอบมองอยู่ ก็เลยพยายามทำเนียนแอบหันไปมองเชอรี่บ่อยครั้ง ก็คงจะรู้นั่นแหละว่าผมกับเชอรี่น่าจะมีอะไรบางอย่างกัน แต่รุ่นพี่ที่ว่าก็อายุห้าสิบเข้าไปแล้ว และไม่ได้สนิทกับผมด้วย ก็เลยไม่กล้าพูดอะไรออกมามากนัก พอรุ่นพี่เดินออกไป เชอรี่ก็ลืมตาโพลง ยกเอากระเป๋าถือที่วางบังหน้าอกออกไปด้านข้าง เหมือนจะสื่อว่าอยากให้ผมมองคนเดียวอะไรแนวนั้น ผมจึงหัวเราะเบา ๆ แล้วเดินไปทำงานต่อ ตอนใกล้เลิกงานผมยังไม่ทันคิดว่าเย็นนี้จะทำยังไงกับเชอรี่ต่อ คุณมิ้งแม่ของน้องผิงก็โทรมาถามว่าจะนัดเจอกันที่ไหน ผมถึงค่อยนึกได้ว่าเย็นนี้มีนัดกับมิ้ง ... อืม เอาไงดีล่ะ ผมเผลอใช้กระสุนไปกับเชอรี่หลายนัดแล้วด้วยซิ แล้วคืนนี้ผมจะมีแรงรับมือแม่เสือสาวมือใหม่ที่ผมพยายามปลุกปั้นให้ร่านสวาทไหวมั้ยเนี่ย? ............................................... เย็นวันนั้นหลังเลิกงาน ผมขับรถแบบไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่นัก เพราะต้องคอยชำเลืองมองดูเชอรี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับเป็นระยะ เธอนั่งอยู่ในชุดนักศึกษาที่ไม่มียกทรงและกางเกงใน กระดุมเสื้อบางส่วนก็หลุดออกจนต้องอาศัยเข็มกลัดรัดไว้ชั่วคราว ผมก็เลยเห็นเม็ดจุกนมที่ดันเสื้อขึ้นมา ตามด้วยความขาวโพลนของเนื้อสาวผ่านร่องกระดุมเสื้อ เธอคงจะเจตนายั่ว เพราะกระโปรงนักศึกษาของเธอร่นขึ้นไปจนเสมอหอย มองแล้วเห็นท่อนขาขาวโพลนลึกขึ้นไปจนเกือบถึงเนินเสียวรำไร เห็นแบบนี้แล้วถ้าผมไม่ติดว่ามีนัดกับมิ้งล่ะก็ ผมคงจะแวะพาเชอรี่เข้าโรงแรมไปจัดหนักอีกสักยกสองยกให้หายเงี่ยนอย่างแน่นอน เอ๊ะ หรือว่าผมจะเปลี่ยนกำหนดการณ์ดี? ผมเหยียบเบรคจอดรถติดไฟแดง แล้วเงยหน้ามองไอ้เพื่อนร่วมก๊วนหื่นที่ตื๊อตามมาด้วย ตอนนี้พวกมันนั่งอยู่ด้านหลังพยายามส่งสายตากะริ้มกะเหรี่ยแจกขนมจีบใส่เชอรี่กันยกใหญ่ ส่วนเชอรี่เองก็พูดคุยเล่นหัวด้วยอย่างสนุกสนานแบบไม่มีอาการเขินอายให้เห็น ผมล่ะอยากกระทืบไอ้เพื่อนจอมหื่นทั้งสองคนนี่จริง ๆ อ๊ะ ผมลืมเล่าให้ฟังซินะ วันนี้ก่อนผมออกมาจากบริษัท ไอ้หยงกับไอ้เม่าเพื่อนเวรสองคนนี่ก็พากันโผล่หัวเข้ามาในห้องผม พวกมันมองเชอรี่ตาเป็นมัน แล้วพูดหน้าตาเฉยว่ารถพวกมันสองคนบังเอิญเสียพร้อมกัน ก็เลยอยากจะติดรถผมออกไปข้างนอกสักหน่อย ผมด่าพวกมันตรง ๆ ว่าพวกมันตอแหล แต่พวกมันทำดื้อหูทวนลมไม่สนใจ แถมยังหันไปอ้อนใส่เชอรี่ให้ช่วยพูดกับผมอีกต่างหาก ด้านเชอรี่เองก็ไม่รู้นึกสนุกอะไรขึ้นมา เธอเดินมาใช้นมเบียดกระแซะผมแล้วพูดกระซิบข้างหูอ้อนขอให้ไอ้สองคนนี้ไปด้วย ผมก็เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้พวกมันติดรถมาด้วย เท่าที่ผมดู ผมคิดว่าไอ้สองคนนี้มองเชอรี่เป็นนักศึกษาสาวไร้เดียงสาที่โดนผมหลอกฟัน ซึ่งภาพภายนอกของเชอรี่ก็แสดงออกมาแบบนั้น พวกมันมองเห็นแค่ว่าเชอรี่ดูไร้เดียงสาน่าสงสารเหมือนลูกแกะสีขาว แต่มองไม่เห็นความกลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์ของเชอรี่กันเลยสักนิด ... จะว่าไปก็เหมือนผมตอนแรกนั่นแหละ เธอมันเป็นหมาจิ้งจอกหุ้มหนังแกะชัด ๆ "เฮ้ยไอ้เพื่อนเวร ลงไปได้แล้วมั้ง แถวนี้น่าจะหารถแท็กซี่ง่ายแล้ว" "อะไรวะไอ้กาย ไปส่งอีกหน่อยน่า ไม่เคยได้ยินที่เขารณรงค์หรือไง ที่ว่าทางเดียวกันไปด้วยกันน่ะ เนอะน้องเชอรี่สุดสวยเนอะ" ผมส่งเสียงโวยวายใส่ แต่ไอ้หยงยังคงยิ้มกริ่มถือคติด้านได้อายอด มันนั่งอยู่ข้างหลังผม แต่ดันตัวมาด้านหน้ามองสัดส่วนของเชอรี่ตลอดทาง ส่วนไอ้เม่าที่นั่งอยู่ข้างหลังเชอรี่ยิ่งแล้วใหญ่ มันโน้มหน้ามาวางคางบนพนักพิงแล้วสูดลมหายใจแรง ๆ เหมือนจะสูดเอากลิ่นตัวของเชอรี่เข้าไปตลอดเวลา "เออ ก็ได้ แล้วตกลงพวกมึงจะไปไหนวะ จะได้ส่งถูก" "ก็ไปเรื่อย ๆ ก่อนซิวะ เดี๋ยวพอใกล้ถึงพวกกูบอกเองล่ะน่า" ผมมองออกว่าพวกมันอยากรู้ว่าเชอรี่อยู่ที่ไหน ผมเลยพยายามถามให้พวกมันบอกที่จะไป ผมจะได้หลีกเลี่ยงไปส่งพวกมันก่อน แล้วค่อยไปส่งเชอรี่ที่คอนโดของเธอ แต่ไอ้พวกนี้ก็สมกับที่กะล่อนพอกันกับผม มันก็อ่านผมออกเหมือนกันว่าจะกั๊กไว้ พวกมันก็เลยตอบเลี่ยง ๆ ไปเรื่อย ๆ จนผมหงุดหงิด "พวกพี่น่าจะบอกก่อนนะคะ ว่าจะไปไหน พี่กายจะได้ไปส่งถูก เพราะคอนโดของเชอรี่อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง ตรงซอยสาม" แล้วเชอรี่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงใสซื่อเหมือนไม่ทันเกม แต่ผมมองออกว่าเธอรู้ว่าผมพวกไอ้หยงกับไอ้เม่าคิดอะไร และการที่เธอพูดบอกที่พักของเธอออกไปเองแบบนี้ ย่อมจะทำให้พวกมันได้โอกาสบอกผมได้ว่าพวกมันจะลงที่ไหน "โอ้ คอนโดเชอรี่อยู่ซอยสามเหรอ พวกพี่ก็จะลงแถวนั้นพอดี งั้นสรุปว่าไปลงที่นั่นแหละนะไอ้กาย" ไอ้หยงย่อมไม่พลาดโอกาสทองที่จะเกาะไปให้ถึงคอนโดของเชอรี่ มันแอบยิ้มยียวนให้ผม ท่าทางของมันน่าจะมองว่าเชอรี่ไม่ประสีประสา ซึ่งนั่นไม่น่าจะเป็นความจริง แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าเชอรี่จะเปิดโอกาสให้พวกมันไปถึงคอนโดทำไม หรือว่าเธอจะพิศวาสอยากเกาะไอ้พวกนี้ด้วย ซึ่งนั่นก็ไม่แปลกนะ เพราะไอ้สองคนนี้ก็หล่อรวยไม่แพ้ผม "ว่าแต่เชอรี่อยู่กับไอ้กายในที่ทำงานทั้งวันนี่แอบทำอะไรกันจ๊ะ ไอ้นี่มันไว้ใจไม่ได้นะจะบอกให้" ผมขับรถด้วยความหงุดหงิดไปจนถึงคอนโดของเชอรี่ คอนโดของเธอเป็นระดับปานกลางค่อนไปทางหรู ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะคนสวยระดับเธอคงพอจะหาเงินมาซื้อที่พักแบบนี้ได้ พอจอดรถผมกะว่าจะส่งให้เธอขึ้นห้องไป แล้วรอให้แน่ใจว่าไอ้เพื่อนหื่นทั้งสองคนไม่ได้ตามขึ้นไป จากนั้นผมจะแยกตัวไปหามิ้งตามที่ได้นัดหมายไว้ แต่ดูเหมือนว่าไอ้เพื่อนหื่นทั้งสองคนจะวางแผนกันมาเรียบร้อยแล้ว "โอยยย ๆ ปวดท้อง อยากเข้าห้องน้ำ เชอรี่จ๋า พวกพี่ขอแวะเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ยจ๊ะ เนี่ยปวดหนักจะไม่ไหวแล้ว สงสัยอาหารกลางวันทำพิษ" อยู่ ๆ ไอ้หยงกับไอ้เม่าก็ส่งเสียงร้องโอดโอยเอามือกุมท้องไว้ พวกมันทำท่าเหมือนปวดท้องมาก แต่ผมรู้ว่าพวกมันทำเนียนแกล้งแสดง ผมกะว่าจะออกปากไล่พวกมันไม่ให้ขึ้นไปเสียหน่อย แต่เชอรี่ก็ยื่นมือมาจับมือผมไว้ แล้วหันไปแสดงสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย เธอพูดเสนอให้พวกมันขึ้นไปบนห้องของเธอ แถมด้วยออกปากให้ผมไปทำธุระซะอย่างงั้น "ไหวมั้ยคะพี่หยงกับพี่เม่า แย่แล้วทำไงดี ... งั้นขึ้นไปเข้าห้องน้ำในห้องหนูก่อนก็ได้ค่ะ พอทนขึ้นไปข้างบนไหวมั้ยคะ? รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่กายเค้ามีธุระต้องไปที่อื่น" "โอยยย พอไหวครับเชอรี่ พี่ขอรบกวนด้วยนะ โอยยย จะแตกแล้ว ไอ้กายไม่ต้องห่วงพวกกูนะโว้ย ไปทำธุระตามสบายเลย" ไอ้หยงก็สวมบทบาทได้ดีเยี่ยม มันหันไปพูดขอบใจเชอรี่เสียยกใหญ่ แถมด้วยการหันมาไล่ให้ผมไปไว ๆ จะได้ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอพวกมัน พอผมเจอไม้นี้เข้าไป แล้วคิดว่าผมจะยอมปล่อยให้พวกมันได้อยู่กับเชอรี่เหรอครับ ไม่มีทางเด็ดขาด ผมดับเครื่องแล้วเดินคุมพวกมันขึ้นไปบนห้อง รอให้พวกมันเข้าห้องน้ำสักพักก็จะตะเพิดพวกมันออกมา สรุปว่าพวกเรา ชายสาม หญิงหนึ่ง พากันขึ้นไปบนห้องของเชอรี่กันหมด ตอนเดินผ่านยามเฝ้าประตูนี่ ยามมองเชอรี่เสียตาลุกวาว ก็นะใส่ชุดนักศึกษาล่อแหลมน่าปล้ำซะขนาดนั้น จากนั้นยามก็หันมามองพวกผมด้วยสายตาอิจฉา ไม่ต้องเดาก็รู้่ว่ายามคงคิดว่าเชอรี่ต้องโดนพวกผมสามคนรุมเอาแน่ ๆ ห้องของเชอรี่นั้นค่อนข้างสะอาดเป็นระเบียบทีเดียว มีห้องด้านนอกไว้กินข้าวและรับแขก แล้วก็มีห้องนอนสองห้อง มีห้องน้ำสองห้อง พอเข้าไปถึงผมก็ไล่ให้พวกมันสองคนไปแยกย้ายไปเข้าห้องน้ำ แล้วหันไปมองเชอรี่ด้วยอารมณ์ไม่ค่อยพอใจ ผมไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่ผมไม่ชอบที่เธอปล่อยให้พวกนี้ขึ้นมาในห้อง "คิก คิก หึงเหรอคะที่รัก?" พออยู่กันสองคน เชอรี่ก็มองผมแล้วยิ้มหัวเราะคิกคัก แต่ผมไม่มีอารมณ์เล่นด้วย เพราะกำลังไม่พอใจ ผมก็เลยทำเมินไม่คุยกับเธอเสียเลย "แหม ไม่เอาซิคะ อย่าหงุดหงิดนะ หนูขอโทษ หนูก็แค่อยากลองใจพี่กายว่าพี่จะหวงหนูบ้างมั้ยแค่นั้นเอง ตอนนี้เห็นพี่หึงหนูซะขนาดนี้หนูก็ดีใจแย่แล้วล่ะ ขอโทษนะคะที่รัก" พอผมทำเมินเชอรี่ก็เดินมาดักหน้าแล้วกอดผมไว้พร้อมกับพูดอ้อน ผมยอมรับว่าคำพูดของเธอทำให้ผมอารมณ์เย็นลงได้พอสมควร แต่เปลือกนอกนั้นผมยังแสร้งทำเป็นโกรธอยู่ "เปล่าซะหน่อย พี่ไม่ได้หึงเลย ถ้าเชอรี่อยากจะควบไอ้สองคนนั้นก็ตามใจ พี่ไม่ว่าหรอก เดี๋ยวพี่จะไปแล้ว" "พี่อ่ะ ไม่เอานะคะ เชอรี่ขอโทษแล้วไง พี่อยากลงโทษอะไรก็ลงโทษเชอรี่ได้เลยค่ะ แค่อย่าทิ้งหนูไปไหนก็พอ ... ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ในห้องน้ำ เราน่าจะมีเวลาสองต่อสองสักห้านาทีได้นะคะ" เชอรี่พูดอ้อนพร้อมกับเบียดนมกระแซะกับตัวผม ส่วนมือของเธอก็เลื่อนต่ำลงไปลูบเบา ๆ ที่เป้ากางเกงจนผมสยิวควยลุกขึ้นมาทันที ตอนนี้ผมเริ่มมองซ้ายมองขวาแล้วนึกได้ว่าจริงอย่างที่เชอรี่ว่า ไอ้พวกนั้นแกล้งทำเป็นท้องเสียก็สมควรต้องอยู่ในห้องน้ำกันสักพัก และนั่นก็แสดงว่าตอนนี้ผมอยู่ในสถานที่น่าตื่นเต้นอีกแล้ว จัดการเชอรี่แบบไม่ให้พวกมันในห้องน้ำเห็นก็น่าตื่นเต้นใช่ย่อย ... หรือว่านี่คือสิ่งที่เชอรี่เล็งเอาไว้? "... เวลามีน้อยนะคะ ที่รักจะลงโทษเชอรี่มั้ย? ลงโทษแรง ๆ เลยก็ได้นะคะ" เชอรี่โน้มหน้ามางับหูของผมแล้วกระซิบเสียงหวาน ในขณะที่มือด้านล่างก็เริ่มบีบขยำควยผมแรงขึ้น พอเจอไม้นี้เข้าไปผมก็ยอมรับเลยว่าอารมณ์พุ่งกระฉูดขึ้นมาทันที ผมแทบจะลืมเรื่องนัดของผมกับมิ้งไปเสียเลยด้วยซ้ำ ผมกอดร่างอวบอัดของเชอรี่เอาไว้จนแน่น แล้วประกบปากจูบดูดลิ้นของเธอดังจ๊วบ ๆ อารมณ์หงุดหงิดทำให้ผมทำกับเธอแรงกว่าที่ทำกับผู้หญิงคนอื่น แต่ว่าเชอรี่ดูเหมือนจะชื่นชอบ เธอจูบตอบผมด้วยความร้อนแรงไม่แพ้กัน แถมด้วยการใช้มือปลดตะขอกางเกงของผมออกเพื่อประหยัดเวลาเสียด้วย พอกางเกงกับกางเกงในของผมโดนรั้งลงไปด้านล่าง ผมก็ผลักดันจนเชอรี่ถอยไปชนกับผนังห้อง พวกเรากอดจูบกันหน้าห้องน้ำที่ไอ้เม่าอยู่ด้านใน โดยที่มันไม่รู้ ส่วนไอ้หยงนั้นไปเข้าห้องน้ำในห้องนอนก็เลยยิ่งไม่น่าจะรู้เข้าไปใหญ่ พวกเราดูดปากกันแรงน่าดู อย่างที่ว่าแหละ อารมณ์หึงมันทำให้ผมอยากลงมือรุนแรงกับเชอรี่กว่าเดิม ผมดูดปากเธอพลางขยำเต้านมแล้วบิดขยี้ เชอรี่ถึงกับตัวกระตุกด้วยความเสียวเลยทีเดียว แต่ว่าโดนผมประกบปิดปากไว้ก็เลยไม่มีเสียงซี้ดดังออกมา มีแค่เพียงเสียงครางเบา ๆ ในลำคอ ผมจูบเธอได้สักพักเชอรี่ก็ลูบมือไปตามแผ่นหลังและสะโพกของผม เธอเลิกชายกระโปรงขึ้นแล้วตวัดขาข้างหนึ่งขึ้นมารัดไขว้อยู่ที่บั้นเอวของผม พอเห็นแบบนี้ผมก็ลดสองมือลงไปตะปบที่สะโพกของเธอพร้อมกับเดินหน้าสอดใส่เข้าไปในรูเสียวที่เปียกฉ่ำอยู่แล้ว เชอรี่เริ่มส่งเสียงครางในลำคอดังขึ้น เธอจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของผมแรงขึ้น ขณะที่ผมเริ่มเดินหน้าแทรกตัวเข้าไปในร่องหลืบ รอจนผมเข้าได้สุดทางเชอรี่ก็ตวัดขาอีกข้างขึ้นมาพาดบั้นเอวจนพวกเราอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง เสียงฮัมเพลงเบา ๆ ในห้องน้ำของไอ้เม่าทำให้ผมสำนึกตัวได้ว่าเวลามีจำกัด ผมไม่คิดเสียเวลาอะไรอีก ขยับมือจัดแจงท่าทางให้แน่นหนาแล้วเริ่มกระแทกเอวยัดเยียดความเป็นชายของผมวิ่งเข้าวิ่งออกร่องหลืบของเชอรี่เป็นระวิง เราสองคนหอบกระเส่าหายใจแรง แต่ยังคงประกบปากแลกลิ้นกันแบบไม่ยอมปล่อยออก ก็เลยไม่มีเสียงครางหลุดออกมาสักเท่าไหร่ จะมีก็แต่เสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังปั้ก ๆ ถี่ยิบอยู่ด้านนอกห้องน้ำ ผมยอมรับเลยว่ายังไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน เชอรี่ดูจะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ เธอทำให้ผมหงุดหงิดหึงหวง แล้วก็ยั่วใส่เพื่อนผมสองคนจนหื่นจัด จากนั้นก็จัดให้ผมได้เอาเธอในสภาพก้ำกึ่งว่าจะโดนไอ้หยงกับไอ้เม่าเห็น อารมณ์ของผมมันก็เลยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นท้าทาย ผมรู้สึกเหมือนกับได้รับชัยชนะเหนือเพื่อน ๆ ตอนที่ได้แอบเย็ดกับเชอรี่แบบนี้ ผมโหมเร่งกระแทกเอวแรงขึ้น เมื่อได้ยินเสียงกดชักโครกดังมาจากในห้องน้ำ ผมคิดว่าไอ้เม่าคงใกล้ออกมาแล้ว เชอรี่เองก็คงรู้ว่าเวลาใกล้หมดลง รูเสียวของเธอก็เลยตอดหนุบหนับแรงขึ้นจนผมเสียวแปลบปลาบกว่าเดิม ปั้ก ปั้ก ปั้ก เสียงกระแทกดังถี่ระรัว แต่เราสองคนยังคงเก็บเสียงไว้เงียบ ๆ ไม่ปลดปล่อยออกมา รอจนกระทั่งผมโดนตอดรัดจนทนไม่ไหว เชอรี่ก็จิกเล็บลงบนหลังผมอย่างแรง ดูเหมือนว่าเธอเองก็เริ่มใกล้ถึงเต็มที่เหมือนกัน แล้วผมก็ทนไม่ไหวกระแทกเอวปั้กปั้กปิดท้ายแรง ๆ สองสามครั้ง ก่อนจะแอ่นเอวกระฉูดน้ำใส่เข้าไปในร่องเสียวของนักศึกษาสาวร้อนสวาทคนนี้อีกรอบ ส่วนเชอรี่เองก็ตัวกระตุกเฮือกดิ้นพล่านเสร็จคาควยของผมไปอีกหนึ่งรอบ เรากอดกันกลมดิกแล้วจูบปากค้างไว้อย่างงั้นครู่หนึ่ง แต่น่าเสียดายที่พวกเรามีเวลาไม่มากนัก พอผมนึกได้ก็รีบแกะขาทั้งสองข้างของเชอรี่ออก แล้วดึงควยจนหลุดออกมาดังพล๊อก ผมปล่อยให้เชอรี่ยืนพิงอยู่กับผนังห้องในสภาพหน้าแดงก่ำ แล้วรีบใส่กางเกงให้ตัวเอง พอจัดการตัวเองเรียบร้อย ผมก็รีบดึงเสื้อกับชายกระโปรงนักศึกษาของเธอลงมาให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นน้ำเงี่ยนขาวข้นของผมไหลย้อยลงมาตามง่ามขาขาวอวบของเธอ ผมหันซ้ายหันขวามองหากระดาษตั้งใจจะมาเช็ดน้ำเงี่ยนให้ แต่ว่าเชอรี่ยิ้มหวานให้ผมแล้วลากนิ้วลงไปปาดน้ำเงี่ยนจากโคนขาอ่อนขึ้นมาดูดเลียเข้าปากไปต่อหน้าต่อตา โดนยั่วกันซึ่งหน้าขนาดนี้ผมแทบอยากจะจับให้เธอใช้ปากดูดให้ผมอีกสักรอบเสียเลยด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่ไอ้เม่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี ผมทำเนียนมองโน่นมองนี่ ทำเหมือนกำลังสำรวจคอนโดของเชอรี่ ส่วนเธอเองก็ทำเนียนยกมือชี้นั่นชี้นี่เหมือนจะแนะนำห้องตัวเอง แต่ที่ยังทำเนียนไม่ไหวก็คือเธอยังต้องยืนพิงกับผนังห้องเพราะขายังสั่นอยู่ ไอ้เม่าออกมาก็เหมือนจะไม่รู้ว่าผมเพิ่งเย่อกับเชอรี่ในแบบที่มันไม่รู้ตัว คงเพราะมันเองก็โดนผมเขม่นอยู่จนต้องพยายามพูดเพื่อสนับสนุนว่ามันท้องเสียจริง ๆ มันก็เลยไม่ทันสังเกตเห็นว่าเชอรี่อยู่ในสภาพแบบไหน พอรอสักพักไอ้หยงก็เดินออกมาจากห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนของเชอรี่อีกที ตอนนี้เชอรี่ขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน ไอ้หยงกับไอ้เม่าก็แห่เข้ามาล๊อคคอเค้นถามผมเสียยกใหญ่ และแน่นอนว่าคำถามของพวกมันก็เป็นเรื่องที่เชอรี่ไม่ใส่ยกทรงนั่นแหละ ถ้าพวกมันไม่ถามเรื่องนี้ก็แปลกแล้ว ผมก็ตอบแบบคลุมเครือไปว่าสอนงานให้เชอรีรุนแรงไปหน่อยให้พวกมันตาลุกวาวเล่น จังหวะนั้นพอดีมิ้งโทรมาหาผม เธอบอกว่าขอเลื่อนนัดไปอีกหนึ่งหรือสองชั่วโมงเพราะต้องเคลียร์งาน ผมก็ฉวยโอกาสบอกเธอว่าไม่ต้องรีบ เพราะผมเดาว่าไอ้เม่ากับไอ้หยงคงจะหาเรื่องอยู่ที่ห้องเชอรี่อีกสักพักใหญ่แน่ ๆ ซึ่งผมก็คาดไม่ผิดจริง ๆ รอจนเชอรี่ออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์อวดหุ่นสวยให้พวกมันตาวาวเล่น พวกมันก็ไปนั่งบนโซฟาแล้วอ้างว่ายังปวดท้องไม่หาย ขอนั่งพักในห้องต่ออีกหน่อย แล้วพวกมันก็บอกให้ผมไปธุระก่อน แต่ผมนัดกับมิ้งใหม่แล้วยังพอมีเวลา ก็เลยพูดไปทำนองว่าธุระพอจะรอได้ แต่ตอนนี้ผมต้องดูแลเชอรี่ก่อน แค่นั้นแหละเชอรี่แอบยิ้มกริ่มดีใจ เธอคงเข้าใจว่าตอนนี้ผมยกให้เธอสำคัญกว่ามิ้งนั่นแหละ "น้องเชอรี่จ๋า บอกหน่อยได้มั้ยว่าไปโดนไอ้กายมันหลอกมายังไง ถึงต้องตามง้อมันขนาดนั้น รู้ยังว่าไอ้กายมันมีเมียแล้วนะ แถมเมียยังดุมากด้วย" ระหว่างที่พวกเรานั่งคุยกัน ไอ้เม่ากับไอ้หยงก็แอบมองเชอรี่เป็นระยะ พวกมันแอบส่งสายตาสื่อสารกับผมเหมือนจะบอกว่าอยากสวิงกิ้งแบบชายสามหญิงหนึ่ง แต่ผมทำเป็นไม่เห็น เพราะยังไม่อยากแบ่งของสดใหม่อย่างเชอรี่กับใคร ไอ้เม่าคงหงุดหงิดที่ผมไม่ยอมแบ่งของดีให้มัน มันก็เลยแอบแซวผมผ่านการสนทนา "รู้แล้วค่ะว่าพี่เค้ามีเมียแล้ว แต่ว่าหนูหลงรักพี่เค้าไปแล้วนี่นา จะให้ทำยังไงได้ล่ะคะ" เชอรี่หันไปมองหน้าคนถามอย่างไอ้เม่า แล้วก็หันมาทำตาวิบวับใส่ผม ท่าทางของเธอดูเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสาที่เพิ่งมีรักแรกกับผู้ชายสักคน เรียกได้ว่าเห็นแล้วกระชุ่มกระชวยหัวใจ ทั้งที่ผมรู้ดีว่านั่นเป็นการแสดงอยู่หลายส่วน "หลงรักกันยังไง อีท่าไหนเนี่ย โดนไอ้กายมันวางยาข่มขืนเอาหรือเปล่า?" "รักแรกพบค่ะ ... คืนนั้นหนูไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วก็เจอกับพี่กาย หนูเห็นเขาครั้งแรกก็รู้สึกแปลก ๆ จนต้องดูแบบไม่อยากละสายตา หนูเป็นฝ่ายเดินไปแกล้งทำเป็นสะดุดล้มไปชนพี่กาย เพราะอยากคุยกับพี่เค้า" เชอรี่เล่าพลางแสดงสีหน้าเขินอายอย่างเป็นธรรมชาติ ไอ้เม่ากับไอ้หยงก็ฟังกันจนเคลิ้ม พวกมันคงจะคิดว่านี่เป็นเรื่องจริง เพราะขนาดผมเองยังแทบจะเชื่อไปด้วยซ้ำว่านี่เป็นเรื่องจริง ทั้งที่มันเป็นเรื่องตอแหลที่เชอรี่แต่งสดขึ้นมาเท่านั้น "หนูกับพี่กายนั่งคุยกันพักใหญ่ หนูเขินจนเผลอดื่มเหล้า ทั้งที่ปกติไม่ค่อยดื่ม ... แล้วหนูก็เริ่มเมา ... พอหนูเริ่มเมา หนูก็เผลอทำเรื่องน่าอาย ... หนูเผลอบอกความในใจกับพี่กายว่าพี่เขาเป็นรักแรกพบของหนู" เธอหันมามองผมแบบไม่มีท่าทางชะงักแม้แต่นิดเดียว แล้วเธอก็เล่าต่อ ทั้งแสดงท่าทางเขินอายบิดไม้บิดมือไปมาอย่างเป็นธรรมชาติ เธอเล่าได้น่าฟังราวกับเด็กสาวบริสุทธิ์ใสซื่อที่หลงรักผมเข้าจริง ๆ "... อะไรดลใจก็ไม่รู้ แต่ว่าคืนนั้นหนูไปกับพี่กาย แล้วเราก็ ... ว้าย อายจัง ..." "โธ่ เสียดาย ไอ้กายโชคดีเกินไปแล้วที่เจอสาวสวยเหมือนนางฟ้าอย่างเชอรี่ ... เอ๊ะ แล้วทำไมเชอรี่ต้องตามมาขอโทษไอ้กายมันด้วย ทำอะไรไว้" "เรื่องนี้หนูขอไม่เล่านะคะ เพราะมันเป็นความผิดของหนูทั้งหมดค่ะ" "โอเค งั้นไม่เล่าก็ได้ แต่พอจะเล่าได้มั้ยว่าวันนี้ไปอยู่กับไอ้กายตั้งครึ่งวันนี่ทำอะไรกันบ้าง?" "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูก็แค่ง้อให้พี่กายยกโทษให้แค่นั้นเอง พี่กายก็แค่ลงโทษหนูนิดหน่อย ให้หนูทำความสะอาดพรมในห้อง กับสอนให้หนูถูกระจกหน้าต่าง" เชอรี่ตอบด้วยใบหน้าแดงสดใส คำพูดของเธอไม่ต้องแปลความหมายให้มากความก็พอจะนึกภาพตามออก ไอ้เม่ากับไอ้หยงก็เลยพากันหันมามองผมแล้วแสดงความอิจฉาตาร้อนกันยกใหญ่ ตอนนี้ผมได้ข้อความขอโทษจากมิ้งว่าขอยกเลิกนัดวันนี้ไปก่อน เพราะมีงานด่วน ผมรู้สึกแปลกใจเล็ก ๆ แต่ก็แอบโล่งใจพอสมควร เพราะจะได้อยู่จัดการทางนี้ได้อย่างสะดวกใจกว่าเดิม พอผมแอบกระซิบบอกเชอรี่ว่าผมยกเลิกนัดกับมิ้งไปแล้ว เธอก็ยิ้มแป้นดีใจกว่าเดิม เธอชวนให้พวกเรามีปาร์ตี้กันในห้องของเธอ ไอ้หยงกับไอ้เม่ารีบตกลงกันทันที ผมก็เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลยร่วมปาร์ตี้ไปด้วย เพราะผมเชื่อว่าเชอรี่คงกำลังจะสร้างสถานการณ์ตื่นเต้นให้ผมกับเธออีกแล้ว .....................................

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น