AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

รอยทรงจำ ตอน Project Mint ep14.6

รอยทรงจำ ตอน Project Mint ep14.6
โดย -

บทที่ 14.6

เรื่องของปลาดุกกินดาว ตอนที่ 4

ในห้องทำงานอาจารย์เข้ม อาจารย์พิเศษที่เข้ามาทำหน้าที่ชั่วคราวแทนหัวหน้าภาควิชา เขาเป็นถึงศาสตราจารย์ ดร. ที่พ่วงยศทหารเข้าไปจนชื่อยาวเฟื้อย เลิฟนั่งลงตรงหน้า เรียนมาจนปีสี่เวลาทำให้เขาสนิทไปกับอาจารย์ทุกคนรวมไปถึงอาจารย์เข้มด้วย ที่คุยกันถูกคอ และมักคุยกันได้ทุกเรื่องเวลาที่ไปดื่มสังสรรค์กัน

“อันนี้เป็นแผนงานที่ผมเตรียมไว้ว่าจะพาน้องๆ ในภาคเราไป ออกค่ายทำกิจกรรมครับ” เขาพูดแล้วยื่นกระดาษที่จัดเรียงอย่างดีส่งให้ชายอายุราวสี่สิบเศษตรงหน้า ถึงจะมีอายุเยอะแต่หุ่นและรูปร่างไม่ได้ด้อยไปกว่าเด็กวัยรุ่นหนุ่มๆ ผิวสีแทน คิ้วคมเข้มกับใบหน้าหล่อเหลาแบบไทยๆ เขาดูสมบูรณ์แบบเมื่ออยู่ในชุดสูท และความสมบูรณ์นั้นก็รวมไปถึงการที่เขามีเมียและลูกที่น่ารักถึงสองคนด้วย

“ไม่มีใครเค้าไปกันแล้ว ส่วนใหญ่ก็รับกันในมหาลัยทั้งนั้น ไม่ได้ข่าวหรือไง ที่รับน้องกันโหดๆ จนได้รับบาดเจ็บ คุณรู้ใช่ไหมว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น มันทำให้มหาลัยเสียชื่อมากแค่ไหน”

“ผมมั่นใจนะครับว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้น”

“คุณจะเอาอะไรมา รับปากผม ถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้นผมสิที่เป็นคนที่ต้องรับผิดชอบ คุณจะรับผิดชอบไหวหรอ ยังไงผมก็ไม่อนุมัติเรื่องนี้แน่ๆ”

“ไม่ได้นะครับอาจารย์ อนุมัติเถอะครับ พวกน้องเองก็อยากไปกันมาก รีสอร์ทก็เป็นที่รู้จักกัน ทุกอย่างปลอดภัยแน่นอนครับ”

“คุณนี่มันดื้อแพร่ง ผมถือว่าผมเตือนคุณแล้ว”

“ผมสัญญาจะไม่ทำเรื่องเสื่อมเสียแน่นอนครับ ขอร้องละครับ” เลิฟยืนกราน เพราะอีกฝ่ายเริ่มสงสาร ถ้าเป็นคนอื่นขอก็คงไม่มีทางเด็ดขาดแต่เลิฟเป็นศิษย์รักที่ถึงขนาดไปดื่มเหล้าด้วยกันได้ยังไงก็ตัดไม่ขาดทิ้งไม่ลง

“ไม่ๆ ลืมไปได้เลย มหาลัยไม่มีงบประมาณเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก” เข้มยื่นคำขาดแล้วดันเอกสารตรงหน้ากลับไปหาคนเสนอ เลิฟนั่งหน้าจ๋อยเหลือแค่คืบ เล่นยืนกรานแบบนี้ไม่มีทางเลยที่เขาจะยอมอนุมัติอีก เข้มมองดูหน้าผิดหวังของลูกศิษย์คนโปรดยิ่งใจอ่อนกว่าเดิม

“ผมก็ไม่ได้อยากใจร้ายอะไรกับคุณหรอกนะ คุณมันก็เด็กหัวดี มีอนาคต ไอ้กิจกรรมที่คุณจะจัดมันไม่ได้ช่วยสร้างชื่อเสียงอะไรให้คุณ แต่ถ้ามันเกิดเรื่องร้ายขึ้นมาคุณนั่นแหละที่จะมีรอยด่างพร้อยเพราะมัน จำคำนี้ของผมเอาไว้”

“ครับ” เลิฟตอบเสียงเบา

“ถ้าจะจัดก็จัดกันเอง ไปกันเอง ไม่ต้องออกนามมหาลัย ส่วนเรื่องงบ ก็อย่าไปบอกใครว่าผมจะช่วยคุณออก” เข้มพูดต่อ

“หือ.....อาจารย์ ขะ..ออบ..ขอบคุณครับ”

“แต่มีข้อแม้ว่า คุณต้องทำงานกับผมหลังจากเรียนจบ เข้าใจไหม”

“ยังไงก็ได้ครับ ขอบคุณมากครับอาจารย์” เลิฟยิ้มร่าขึ้นมาทันที ยกมือไหว้ปลกๆ

“ผมออกให้ครึ่งเดียวนะ เย็นนี้ผมจะโอนเงินเข้าบัญชีคุณ แล้วแสดงรายรับรายจ่ายให้ชัดเจนด้วย ถ้าเหลือก็เอากลับมาคืนผม และไม่ต้องส่งหนังสือหาผู้ปกครองในนามมหาลัยนะ และห้ามมีการบังคับรุ่นน้อง คุณต้องซื้อใจน้องคุณให้ไปเองไม่ใช่ บังคับกัน แบบนั้นผมจะสั่งห้ามเด็ดขาดถ้าเรื่องถึงหูผม”

“ครับ เข้าใจแล้วครับ”

“อืม งั้นคุณก็ออกไปได้แล้ว ผมยังมีงานต้องทำต่อ” เข้มพูดแล้วหันไปหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะมาเปิดอ่าน ขณะที่เลิฟลุกขึ้นเก็บเก้าอี้ไหว้อีกครั้งก่อนเดินออกไป เขามองหนุ่มอนาคตไกลตรงหน้าแต่ก็อดหวงอยู่ลึกๆ ในใจไม่ได้ นึกสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ไอ้ความอ่อนต่อโลกของเค้าที่หวังดีกับคนอื่นมักจะกลายเป็นปัญหาใส่ตัวเองเสมอ

----------------------------------------------------------------

“เย้ แบบนั้นก็เยี่ยมไปเลยสิ อย่างน้อยพวกเราก็ได้จัดไม่ใช่หรือไงวะ” หมิงร้องเฮลั่น บรรดากลุ่มเพื่อนในห้องปีสี่ด้วยกันต่างดีใจออกหน้าออกตา เพราะมันเป็นสิ่งที่พวกรุ่นพี่วาดฝันเอาไว้ และมันถูกขัดขวางมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และอาจจะเป็นปีเดียวที่สามารถทำค่ายรับน้องนอกสถานที่ได้

“พวกมึงทุกคนก็ต้องช่วยกูด้วยนะเว้ย งานนี้ จารย์เข้มแกเอาหัวมาเป็นประกัน กูเองก็เกรงใจแกไม่น้อยเลย” เลิฟพูดพลางมองหน้าเพื่อนแต่ละคน ทุกคนพร้อมจะเข้าใจและให้ความร่วมมือ

“เออ ไว้ใจพวกกูได้” หนุ่มรับคำ

“นี่แล้ว เรื่องอีก้านละ ไม่มีใครกลัวมันก่อเรื่องหรอ มีปัญหาทุกปีแค่รับในมอ ก็จะตีกันตาย” โฟกัสแทรกขึ้น

“ไม่มีหรอก ไอ้นี่ถ้าไม่มีใครยุ่งกับมันก็ไม่มีเรื่องหรอก ตอนนี้ รุ่นพี่ที่งัดกับมันก็จบกันไปหมดแล้ว พวกเราก็รู้สันดานมันดี ใช่ไหมไอ้เลิฟ” หมิงเสริม

“ใช่ ไอ้หมิงพูดถูกแหละกัส อย่ากังวลมากเกินไปเลย เรามาสรุปดีกว่าว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แล้วกิจกรรมในงานรับน้องควรจะมีอะไรบ้าง แล้วค่อยสั่งงานลงไปว่า แต่ละปีต้องทำอะไร และใครที่ติดโปรเจ็คจนยุ่งบ้าง ที่จะมาลงกิจกรรมกับพวกเราไม่ได้”

“มันต้องแบบนี้สิวะผู้นำกู” หนุ่มหัวเราะชอบใจ พาเอาทุกคนหัวเราะตาม มีแค่โฟกัสคนเดียวที่ทำหน้าไม่วางใจ เพราะเธอรู้จักก้านดีกว่าใคร ชายที่ไม่มีอะไรคาดเดาได้ และจากนี้จะไม่มีใครหยุดเขาได้อีก เมื่อพวกรุ่นใหญ่กว่าจบกันออกไปหมด ถึงก้านจะอยู่ปีสองแต่ก็ใหญ่พอๆกับปีสี่นะแหละ จากนี้คงไม่มีใครกล้าต่อกรกับเค้าแน่

-----------------------------------------------------------------------

สามสัปดาห์นรกก่อนค่ายรับน้องนอกสถานที่จะเริ่มขึ้น เป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยทรหดสุดๆ หัวไม่ได้วางหางไม่ได้เว้น เลิฟต้องอยู่จัดการเคลียเรื่องงานและประชุมความคืบหน้าจนกลับดึกดื่นทุกคืน ทั้งยังต้องคอยสั่งซ่อมรุ่นน้อง ปีสองกับปีสามที่ทำงานไม่ทันตามกำหนด เลิฟไม่มีเวลามากพอจะไปหาแต๋มกับแทมเลย คืนเร่าร้อนที่โรงแรมนั้นกลายเป็นความทรงจำแสนสวยสุดท้ายที่ยังคงค้างอยู่ในหัว

กำลังนั่งเหม่อมองไปนอกอาคารตอนกลางวัน สาวน้อยร่างเล็กสองคนก็เดินตรงมา แทมกับแต๋มเดินมาพร้อมกับสาวร่างสูงอีกคน ที่ดูสวยพริ้งเหมาะสมที่จะเป็นดาวมากซะยิ่งกว่า เมียทั้งสองของเลิฟอีก

“หวัดดีค่ะพี่เลิฟ” แต๋มกับแทม ยกมือไหว้พร้อมกัน สองสาวส่งสายตายิ้มเยิ้มย่อง เลิฟยกมือรับไหว้แล้วหันไปรับไหว้สาวคนที่สาม

“ครับ มีอะไรกับพี่หรอ”

“นี่ยัยส้มเด็กห้องสองค่ะ พอดีส้มอยากเป็นหลีดอ่ะพี่แต่ว่าตอนนี้หลีดปิดรับสมัครไปแล้ว ก็เลย...” แทมพูดอ้อมแอ้ม จนแต๋มต้องพูดต่อ

“อยากให้พี่เลิฟไปคุย ให้หน่อย ส้มเป็นเพื่อนโรงเรียนเก่ายัยแทมเลยนะ เคยสนิทกันมาก ช่วยหน่อยได้ไหมอ่ะพี่เลิฟนะ นะนะนะ” แต๋มทำเสียงอ้อน สาวๆ สามคนตรงหน้า พากันเข้ามาจับแขนเอาไว้คนละข้างแล้วอ้อนใส่สุดแรงเกิด ขณะที่คนอยากเข้าหลีดตัวจริงได้แต่ยืนอายๆ ทำตาปริบๆ

“ครับๆ เข้าใจแล้ว เอาไว้พี่จะไปพูดให้นะ ให้เขาเปิดรับสมัครอีกรอบ”

“ที่จริงไม่ต้องเปิดอีกรอบก็ได้นะ แค่พี่พาหนูเข้าหลีดได้ก็โอเคแล้วค่ะพี่” ส้มยิ้มร่า ใบหน้าขาวหมวยของเธอเล่นเอาหัวใจเขาเต้นแรง ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่าหน้าตาแบบนี้ก็อยู่ในแผ่นกระดาษรายชื่อผู้สมัครดาวเดือนเหมือนกัน ว้าว ตัวจริงสวยกว่าในรูปโขเลยมิน่าจำไม่ได้

“ครับ มันจะดูแปลกๆ นะ เอาตามที่ว่าแหละ เดี๋ยวคนจะหาว่าเราใช้เส้นสาย”

“ค่ะ แบบนั้นก็ได้ หนูไม่ชอบให้ใครว่าหนูลับหลัง” ส้มโปรยยิ้มส่งตาหวานให้เลิฟ จนชายหนุ่มอดที่จะยิ้มตอบไม่ได้

“เห็นไหมล่ะ มาขอพี่เลิฟคนเดียวจบ” แต๋มพูดอย่างภูมิใจ

“น้องส้มเป็นดาวด้วยใช่ไหมพี่คุ้นหน้า คุ้นตาจัง”

“ใช่ค่ะ พี่เป็นคนประกาศชื่อหนูเองนิค่ะ จำไม่ได้หรอ”

“จำได้สิ ก็ถึงได้บอกไงว่าคุ้น ว่าแต่อยู่คนละห้องกับ แทมกับแต๋มไม่ใช่หรอ”

“พี่เลิฟ นี่เรารับน้องจะจบแล้วนะ พี่เค้าจับรวมๆ แยกกลุ่มจนจำหน้ากันได้หมดแล้ว สามห้องตอนนี้รวมเป็นห้องเดียวรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว” แทมแทรก

“เออ นั่นสินะ พี่สั่งเองนี่หวา พี่อยากให้น้องสนิทกัน ดีแล้ว ดีแล้วล่ะ”

“พี่ดูเหนื่อยนะคะ อยากให้พี่พักผ่อนบ้าง ทำแต่งานตลอดเลย” แทมพูดต่อ เธอหมายถึงช่วงที่เขาส่งข้อความกลับมา ตอบมาแต่ละครั้งก็บอกว่าติดงานตลอด ตอนแรกก็นึกว่าเป็นข้ออ้างจนได้มาเห็นสภาพดูโทรมของเขานี่แหละถึงได้รู้ว่าติดงานจริงๆ แต๋มเองก็เข้าใจในแบบเดียวกัน

“ถ้างั้นก็อย่ากวนพี่เค้าเลยเนอะ เอาไว้เจอกันนะคะ” แต๋มพูดพลางดึงข้อมือสองสาวตามไป พวกเธอไหว้เลิฟอีกรอบก่อนจะผละออกมา

“เอาไว้เจอกันที่ค่ายเลยทีเดียวนะ ต้องสนุกแน่” เลิฟยิ้มกว้างยกนิ้วโป้งชูให้ สามสาวพากันยิ้มร่าก่อนจะเดินไป ไม่ลืมส่ง ข้อความให้แทมเป็นพิเศษว่า “เอาไว้เราไปเจอกันที่ห้องพี่ที่ค่ายนะ พี่จะเตรียมของขวัญไว้ให้”

แต๋มมองเห็นเพื่อนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากข้อความเข้าโทรศัพท์ก็อดสงสัยไม่ได้ พยายามเหลือมองดูแต่อีกฝ่ายก็เก็บลงไปซะก่อน

“อะไร ใครส่งมานะ แอบคบกับใคร เป็นเดือนหรือเปล่า”

“ไม่ ไม่ใช่ ข้อความโฆษณา”

“โฆษณาบ้าบออะไรอ่านแล้วยิ้ม เอามาดูสิใครส่งมาเนีย เดี๋ยวนี้มีความลับกับเพื่อนหรอ”

“ไม่มี....โฆษณาจริงๆ อิอิ....ที่ชั้นยิ้มก็ตลกแกไง กระโปรงแกเลอะหน่ะ”

“ว๊าย.........เลอะจริงหรอ น่าเกลียดแย่เลย ต่อหน้าพี่เลิฟด้วย ส้มแกชั้นกระโปรงเลอะหรอ”

“อือ เป็นดวงๆ ไปนั่งอะไรมา”

“ไอติม... ยัยแทม แก แล้วทำไมไม่บอกละ ยัยบ้า” แต๋มดูก็จำได้มันเป็นคราบที่น่าจะเช็ดไปแล้ว แต่เธอก็ลืมจนเผลอนั่งทับไปพูดแล้วก็วิ่งไล่ตีเพื่อนตัวร้าย แทมที่รู้ตัวก็วิ่งหนี สองสาวส่วนสูงเท่าๆ กันวิ่งไล่กันเหมือนเด็กวิ่งเล่น ส้มยิ้มจางๆ บนหน้า มองกลับไปหาเลิฟที่ยังทอดสายตามองไปนอกอาคาร ตรงด้านล่างคู่ปรับที่เธอไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลยกำลังเดินผ่าน มองเห็นเลิฟกำลังจ้องมองดูเธอตาไม่กะพริบ ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาสวย รูปร่างดี ทุกคนพูดกันว่าเธอเป็นตัวเต็งสำหรับดาวประจำปีนี้ ชื่อของเธอคือ “มิ้น”

---------------------------------------------------------------------------------

หลังจากจบงานโหวตการเต้นรำ เลิฟก็จัดการเปลี่ยนสภาพห้องพักตัวเองที่รีสอร์ทให้กลายเป็นสตูดิโออย่างย่อ แล้วเริ่มอธิบายพวกดาวเดือนที่มาร่วมประชุมตามที่เขาบอกไว้ ส่วนคนที่ไม่ได้มาก็คงเอาไว้ตามคุยกันทีหลัง

“ที่พี่เรียกมาก็มีแค่เรื่องถ่ายรูปนี่แหละ เพราะวันนี้ตอนบ่ายพี่ไล่ตามเก็บภาพน้องผู้ชายหมดแล้วดังนั้นไม่น่าห่วงอะไร ส่วนรายละเอียดของวันพรุ่งนี้ พี่อยากให้งานมันออกมาเน้นความสวยงาม น้องผู้หญิงสามารถหาอะไรมาเพิ่มความสวยของชุดได้นะ เพราะเราจะเพิ่มเติมช่วงเดินแบบให้น้องไปด้วย และตอนสุดท้ายพี่คิดว่า เราจะจบด้วยการ ให้ผู้ชนะ เขย่าถังดอกกุหลาบที่จะโปรย ดอกกุหลาบลงมาใส่คู่ดาวเดือนพร้อมรับมงกุฎไป เป็นตัวแทนของภาคที่ต้องเข้าไปแข่งขันในระดับคณะ งานของคณะจะจัดในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า ขอให้ทุกคนทำเต็มที่นะ”

“แปลว่าพวกผมที่ถ่ายแล้ว ก็หมดธุระ”

“ว่างั้นก็ได้ แต่ว่าอย่าลืมนะ เดินแบบมันเดินเป็นคู่ ผู้ชายกับผู้หญิงต้องจับคู่กัน แต่งตัวให้เข้ากันด้วยล่ะ”

“เป็นคู่อีกแล้วหรอ งานเต้นรำ อีออโต้ก็เต้นไม่เห็นจะได้เรื่องเลย แล้วนี่ยังต้องเดินแบบอีก หนูไม่อยากตกรอบไปกับมันเลย เปลี่ยนคู่ไม่ได้หรอ” แต๋มบ่น

“ใครไม่ได้เรื่อง เธอนั่นแหละ เต้นก็ไม่เป็น” ออโต้แย้ง

“เอาน่า...มันเป็นเสียงโหวตของทุกคน...เราทำอะไรไม่ได้ ใครจะชอบหรือไม่ชอบ แค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ พี่ไม่อยากเสียเวลามาถ่ายรูปสวยๆ ไว้เรียกคะแนนดีกว่า”

“พี่เลิฟ...งั้นพวกผม กลับกันก่อนนะ” ออโต้ถามกลับ

“อือ ไปได้เลยไม่มีอะไรแล้ว” เลิฟบอกปัด พวกหนุ่มๆ ห้าคนพากันเดินออกจากห้องไป เสียงคุยดังขรมว่าจะไปหาที่กินเหล้ากันต่อเลยว่าจะไปเรียกแชมป์ไปหาสาวๆคุยด้วย ในห้องเหลือก็เพียงสาวๆ ห้าคน

“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า อ่าวมาไม่ครบนิหายไปไหนคนหนึ่ง”

“เอ๊ะมีคนไม่มาหรอคะ” แต๋มพูด ทุกคนมองหน้ากัน แล้วลงความเห็นได้ทันที มิ้นคือคนที่หายไป

“ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าเดี๋ยวแบ่งถ่ายเป็นสองชุด พรุ่งนี้อีกชุดหนึ่ง คงต้องใช้เวลากิจกรรมของวันพรุ่งนี้ ใครจะเสียสละถ่ายพรุ่งนี้บ้างละ”

“หนูเลย วันนี้นั่งรถเมื่อยไปหมดแล้ว แถมยังโดนลากไปเล่นวอล์เล่ย์อีก เพลียโคตร” พิงค์รีบออกตัว เธอไม่ใช่แค่เมื่อยและเหนื่อยหรอกแต่เธอดื่มไปเยอะจนตอนนี้หน้าแดงก่ำ ไม่พร้อมจะถ่ายอะไรทั้งนั้น

“หนูก็ด้วยนะพี่เลิฟ” สาวอีกคนหันมาส่งยิ้ม คนนี้ชื่อติ๊ก เธอมองจ้องเลิฟตาไม่กะพริบ เธอชอบดูลาดเลาแล้วลงมือทีหลังเสมอ

“ให้ถ่ายแบบชุดไหนดีคะ ส้มถ่ายก่อนเลยได้ไหม พร้อมสุดๆ เลย”

“อ๊า ชั้นพึ่งปล่อยผมไปเอง อย่างงี้ก็ยุ่งสิ” แต๋มร้องเธอพึ่งจะคลายผมที่เกล้าเอาไว้แล้ว มัดรวบเป็นหางม้า ตอนนี้มันดูยุ่งเหยิงหยิกๆ ไม่สวย

“พี่เลิฟหนูขอตัวก่อนค่ะ” พิงค์พูดแล้วก็เดินกลับออกไป

“ยัยพิงค์ แกเดินกลับคนเดียวไหวหรอ เดี๋ยวชั้นไปส่ง” แทมพูดพลางวิ่งไปจับแขนเพื่อนสาวที่เดินโซเซ เลิฟเริ่มรู้สึกว่าทุกอย่างมันดูวุ่นวายไปหมด

“อืม...อะไรกันเนีย” เขาบ่นพึมพำ

“พี่เลิฟ ถ่ายงานกับหนูก่อน หนูจะได้รีบกลับไปอาบน้ำนอน เหนียวตัวจะแย่แล้ว น้ำทะเลมันเหนียวนะ” ส้มบ่นอุ๊บ

“อ่า ถ่ายก็ถ่าย แล้วแทมละครับ มาอีกหรือเปล่า” เลิฟมองไปที่สาวน้อยร่างเล็กที่กำลังจับแขนเพื่อนก่อนจะเดินผลักประตูออกไป ขณะที่แต๋มหันไปง่วนอยู่กับติ๊กอ้อนให้อีกฝ่ายทำผมแต่งหน้าให้ใหม่

“ก็ต้องมาอยู่แล้วนิค่ะ หรือพี่ไม่อยากให้แทมถ่ายคือนนี้”

“อยากสิครับ อยากให้น้องแทมถ่ายแน่นอน” เลิฟยิ้มกว้าง แต่สายที่สื่อสารกันมันบอกได้มากกว่านั้นยังไงคืนนี้ก็จะได้เจอกับแทมอีกแน่นอนพอคิดแล้วหัวใจมันก็ชุ่มชื่นกระปรี้กระเปร่าสุดๆ

“ค่ะ”

--------------------------------------------------------------------

ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองที่จ้องมองอยู่ เมื่อผ่านแสงแฟลต แสงไฟ ส้มดูเฉิดฉายโดดเด่นในกล้องสมกับที่เป็นผู้เข้าชิงว่าที่ดาวมาก พอจับประกบคู่กับแต๋มเล่นเอาสาวหน้าแขกดูดรอปลงไปในพริบตา ไม่ว่าจะด้วยสัดส่วนนูนเว้าอวบสวยสมวัย ใบหน้าขาวนวลหมดจดแบบคนเชื้อจีน ความสวยและหมวยที่เหมือนส่งตรงมาจากประเทศแม่ ทำเอาทุกครั้งที่จะกดชัตเตอร์ต้องเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างลำบาก

“ภาพใช้ได้ไหมคะ” ส้มถาม แล้วขยับเข้ามาเกาะแขนเลิฟไว้แน่น ชะเง้อหน้ามองลงในกล้อง

“ใช้ได้เลยครับ สวยมาก น้องส้มสวยเข้ากับเสื้อที่ใส่ จะลองเปลี่ยนเสื้อเป็นตัวที่ใช้ประกวดพรุ่งนี้หรือเปล่า เวลาภาพขึ้นสไลท์คนจะได้ดูเป็นปัจจุบัน”

“ก็ดีค่ะ ตัวนี้มันยาวเกินไปสักหน่อย” ส้มพูดแล้วจับชายกระโปรงมัดย้อมสีส้มสะบัดไปมา

“ครับ เสื้อผ้าอยู่ในตู้ พี่ให้พวกสต๊าปจัดชุดเอามาเตรียมไว้แล้ว น้องส้มเลือกเอาได้เลยนะ เดี๋ยวพี่ขอถ่ายแต๋มต่อเลย” เลิฟพูดพลางกดรูปให้เธอดูคร่าวๆ หญิงสาวรู้สึกว่าผลงานที่ได้ออกมาดีแต่ยังไม่พอ เธอเดินไปเลือกชุดในตู้เสื้อผ้า สะดุดตาเข้ากับเสื้อมัดย้อมตัวสั้นสีม่วง มันโดดเด่นเกินกว่าชุดไหนๆ นึกไปถึงหมวกที่แอบเอามานอนอาบแดดก็ผลิรอยยิ้มขึ้นบนหน้า แล้วรีบเดินกลับห้องไปหยิบ เธอต้องสมบูรณ์แบบที่สุด

“ติ๊กจะถ่ายด้วยไหมครับ” เลิฟหันไปถามคนที่นั่งมองอยู่ ใบหน้าเธออมชมพูหน่อยๆ เพราะเธอถูกพิงค์ชวนกันดื่มไปก่อนจะเข้ามา ช่วงงานเลี้ยงทั้งสองสาวสนุกไปกับการนั่งไล่ชิมค็อกเทลที่พวกรุ่นพี่เอามาฉลองให้พิงค์ ยิ่งเนื้อหอมคนก็ยิ่งตอมเยอะสุดๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูว่าหนูง่วงแล้ว หนูขอตัวกลับไปนอนก่อนดีกว่า” ติ๊กพูดแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู

“กลับไหวป่าวติ๊ก” เลิฟถามอย่างเป็นห่วง

“สบายมากค่า” เธอตอบ

เมื่อต้องอยู่กันตามลำพังสองต่อสองก็อดที่จะเขินกันไม่ได้ แม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันไปถึงไหนต่อไหน แต่พออยู่กับสาวสวยตามลำพังสองคน สายตาเขาก็จ้องคนตัวเล็กบางไม่วาง

“ถ่ายเลยไหมคะเดี๋ยวดึก” แต๋มพูดแล้วเริ่มจับชุดกระโปรงสะบัดโพสท่า

“ครับ พร้อมนะ หนึ่ง สอง สาม สวยครับ สวยดีมากเลย น่ารักมาเลย” เลิฟลั่นชัตเตอร์ลงเป็นจังหวะ ขยับตัวจับภาพหลายมุม สายตาหญิงสาวจ้องมองชายตรงหน้า สายตาเย้ายวน

“พี่เลิฟ ระหว่างแทมกับส้ม พี่เลิฟชอบใครมากกว่ากัน” แต๋มพูดขึ้น เล่นเอาหัวใจตกลงไปอยู่ตรงตาตุ่ม

“หะ”

“นี่หนูซีเรียสนะ ขาวสวยแบบหมวยๆ อย่าง ยัยส้มหรือว่า ชอบแบบ สาวขาวหน้าไทยๆ อย่างยังแทม” แต๋มถามเสียงจริงจัง

“อ่าวแล้วทำไมถึงไม่มี สาวหน้าแขกไปด้วยอีกคนละ” เลิฟได้ทีหยอดน้ำหวานใส่ไปอีกหยด

“พี่เลิฟอ่า”

“ก็สวยหมดแหละ แต่ผู้ชายก็ต้องชอบแบบที่สวยแล้วจับต้องได้ใช่ไหมล่ะ ถามแต่พี่แล้วผู้หญิงเค้าชอบผู้ชายแบบไหนกันนะ พวกเพื่อนเดือนหล่อๆ หลายคนป่านนี้คงลืมพี่ไปแล้วมั้ง”

“ไม่มีใครหล่อเท่าที่เลิฟเลยสักคน ต่อให้หล่อกว่าแต่ปัญญานิ่มใครจะไปชอบลง ไม่ได้เรื่องกันสักคนสู้พี่เลิฟไม่ได้หรอก” แต๋มพูดเรื่อยๆ แล้วโพสถ่ายภาพต่อ

“ทำหน้านิ่งๆสิ เดี๋ยวไม่สวยนะ” เขาตั้งใจยั่ว

“พี่อ่าชวนหนูคุย แกล้งหนู” เธอทำแก้มป่องงอนใส่

“ฮ่าๆ ก็เราถามพี่ก่อนนิ เดี๋ยวนี้ขี้วีนนะเรา ได้และมาดูรูปมา” เลิฟหันมาเลื่อนดูรูปที่ถ่ายไป แต๋มวิ่งเข้ามาใกล้ๆ แต่มือเธอวางจับไปตรงเป้าชายหนุ่มแล้วขยำพอให้รู้ว่าดุ้นในกางเกงเริ่มพองตัวขึ้นมาหน่อยๆ

“อุ๊ย...เล่นแบบนี้เดี๋ยวใครก็มาเห็นเข้าหรอก”

“ไม่มีใครเห็นหรอกพี่ เราอยู่กันแค่สองคน” เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ตอบ เลิฟหันไปจ้องหน้าคมสวยใช้มือลูบเรือนแก้มเบาๆ

“ดื่มไปป่าวเนีย”

“ก็นิดหน่อยค่ะ อิอิ”

“พี่เลิฟตอนนี้หนูเริ่มมี” แต๋มพูดพลางดึงมือเลิฟมาจับที่หน้าอกตัวเอง ให้ความรู้สึกแทนคำพูดที่หายไป เธอกำลังมีอารมณ์แบบสุดๆ ตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขาเธอเอาแต่นึกถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน นึกถึงท่อนเอ็นอันทรงพลังที่พาเธอขึ้นสวรรค์

“เรายังทำงานไม่เสร็จเลยนะ ไปเลือกชุดพรุ่งนี้แล้ว ใส่มาดูสิ พี่จะได้ถ่ายต่อ เดี๋ยว ถ่ายน้องส้มเสร็จพี่จะตบรางวัล”

เลิฟพูดเอามือที่ขยำหน้าอกเปลี่ยนไปลูบหัวเธอเบาๆ

“ค่ะ ชุดต่อไปงั้น โนว์บาร์ โนว์พริตตี้นะคะ” แต๋มพูดแล้วก็ล้วงมือสอดเข้าด้านล่าง รูดชั้นในปลิ้นออกมาเป็นเลขแปด แล้วจัดการถอดชุดกระโปรงออกต่อหน้าต่อตาเลิฟ ปล่อยให้อีกฝ่ายจ้องตาค้าง เลิกกลืนน้ำลายเฮือกๆ แค่เห็นหุ่นสวยๆ กระดอก็ตั้งแข็งเป็นลำตุงกางเกง เธอเดินร่างเปลือยเปล่าเข้ามาแล้วก้มลงจุ๊บลงที่เป้าของเขาเบาๆ

“ขอติดเอาไว้นะคะ” เลิฟขยับสะโพกกระแทกใส่หน้าสวยตรงหน้าเบาๆ

“พี่เลิฟแกล้งหนูอีกแล้ว” หญิงสาวเดินงอนส่ายก้นอ้าดๆ ไปทางตู้เสื้อผ้า

“ก็อยากยั่วที่เองทำไมละ” แต๋มหยิบเสื้อผ้าออกมาจากตู้ตัวหนึ่งแล้วหันมาเหล่เลิฟก่อนจะแกล้งขยำนมตัวเองเล่นเบาๆ

“ลามกนะเรา ไปใส่เสื้อผ้าซะเดี๋ยวคนมาเห็น”

“ไม่ไป พี่เลิฟไม่อยากถ่ายภาพแต๋มที่ไม่มีอะไรใส่บ้างหรอคะ”

“นี่มันกล้องภาคนะ จะบ้าหรือไง”

“หนูหมายถึงกล้องมือถือพี่ต่างหาก” พูดแล้วก็เดินมาใช้มือปาดไปตรงเป้ากางเกงแล้วล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง เลิฟรีบจับมือรั้งเอาไว้ ใช้มือโอบร่างบาง แต๋มรีบหันหลังจะหนีแต่ไม่ทันแล้วเขาตะครุบเธอเอาไว้ได้

“ไม่ให้หนีหรอก”

“ปล่อยนะ เดี๋ยวก็มีคนมาเจอหรอก” แต๋มร้อง

“ไหนเมื่อกี้ยังแกล้งยั่วพี่อยู่เลย ทีงี้มาร้อง”

“ก็พี่ชอบแกล้งแต๋ม....แต๋มก็เลยแกล้งคืน...เราหายกันแล้ว...ตอนนี้พี่นั่นแหละ ปล่อย”

“ไม่หาย...จะหายต้องให้พี่หอมก่อน”

“ไม่เอานะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น เดี๋ยวยัยส้ม มา ยัยแทมมานะ”

“ยังไม่มาตอนนี้หรอก ยอมรับมาก่อน ติดใจควยพี่แล้วใช่ไหมถึงได้กล้าแก้ผ้ายั่วพี่แบบนี้” เลิฟใช้มือจกลงไปกลางร่องเสียวของแต๋มจนเธอสะดุ้งเฮือก

“อ๊า.........พี่เลิฟ....เอามือออกปาย.......” เธอใช้มือตีๆ ตรงแขนเขา

“ยอมรับก่อนสิ” ตรงหน้าห้องมีเสียงรองเท้าเดินใกล้เข้ามา ทั้งสองคนหันมองเป็นทางเดียวกัน

“ยอมแล้ว ใช่หนูติดควยพี่” เธอพูดพอดีกับจังหวะเลิฟปล่อยมือออก แต๋มรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป อีกพักหนึ่งประตูห้องเปิดเข้ามา ส้มเดินกลับมาพร้อมหมวกปีกกว้างใบสวยที่กะเอามาใส่เพื่อถ่ายรูป

หญิงสาวมองเลิฟที่มือดูสั่นๆ กับเป้ากางเกงที่ดูนูนเด่นจนเธอต้องหลบสายตาหันหนี แอบยิ้มเอียงอายที่เห็นเขายืนจ้องกลับมา ไม่คิดเลยว่าแค่เขาเห็นเธอก็จะมีอารมณ์ แบบนี้แผนที่เธอคิดไว้ก็มีหวังสำเร็จ

“ถ่ายภาพกันต่อเลยไหมคะ แล้วนี่ยัยแต๋มหายไปไหนแล้วคะ”

“อ๋อ วิ่งเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด เอ๊ะจะว่าไป นี่สีม่วง อ๋อ ไปเปลี่ยนชุดมาแล้วใช่ไหมครับ”

“ค่ะ”

“โอเคงั้นเรามาถ่ายกันต่อเลยครับ” เลิฟเดินกลับไป ตรงฉากที่เซ็ทเอาไว้ แล้วเริ่มเก็บภาพอีกรอบ ทั้งสองคนถ่ายอยู่นานพักใหญ่จนได้ภาพมากจนน่าพอใจ แต่แต๋มก็ยังไม่ออกจากห้องน้ำ และแทมก็ยังไม่กลับมา

“แต๋มเป็นอะไรหรือเปล่า ส้มเค้าถ่ายเสร็จแล้วนะ ทั้งชุดใหม่ชุดเก่า”

“หนูท้องเสียค่ะ” แต๋มตะโกนตอบ แล้วถึงทำเสียงกดชักโครกแล้วอีกพักก็เดินออกจากห้องน้ำ ความจริงเธอแค่อยากดึงเวลาเพื่อจะได้อยู่กับเลิฟกันแค่สองคนอยากให้ส้มกลับไปก่อนเท่านั้น

หญิงสาวออกมาในชุดกระโปรงสั้นมัดย้อมลายสีแดงเลือดหมู เธอไม่ได้สวมบาร์เอาไว้เลยมองเห็นทรงเต้าดูคล้อยลงไม่ได้นูนเต็มเหมือนเวลาใส่บาร์ เลิฟมองดูช่วงล่างก็พอเดาได้เลยว่าเธอก็คงไม่ได้สวมชั้นในอย่างที่พูดเอาไว้แน่ๆ

พอส้มเห็นแต๋มเดินออกมาในสภาพนั้นก็รีบปรี่เข้าไปลากไปคุยตามลำพัง ก่อนจะเดินกลับเข้ามาหาเลิฟ ส้มมองแต๋มอย่างไม่พอใจเท่าไร อีกฝ่ายก็มองกลับอย่างไม่พอใจเหมือนกัน

“ขอรูปคู่ดูบ้างนะ สองรูปพอ แล้วเดี๋ยวน้องส้มก็ไปพักผ่อนได้เลย พี่จะถ่ายกับแต๋มต่อ” เลิฟตั้งใจส่งยิ้มให้ส้มอีกฝ่ายรีบยิ้มตอบ แต๋มเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก

หลังจากถ่ายจนครบสองรูป เลิฟก็ส่งผลงานในกล้องทั้งหมดโยนลงโน๊ตบุ๊ค เปิดภาพที่ถ่ายไปให้สองสาวพิจารณา

“ดีค่ะ พี่จะเอาไปรีทัชอีกไหม หรือว่าจะให้หนูทำเอง มันต้องเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย”

“เออ.........อืม....งั้นพี่จะให้ไอ้หมิงแต่งให้แล้วกัน”

“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูไม่มั่นใจ ฝีมือคนอื่น เอาเป็นว่า เดี๋ยวพี่ได้รูปครบทุกคนแล้ว พรุ่งนี้หลังเที่ยงหนูจะมารับรูปไปแต่งให้นะคะจะได้ทันใช้ตอนเย็น ใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ หนูถนัดเรื่องนี้” ส้มพูดเรื่อยๆ ท่าทางฉะฉาน

“โอเคงั้นก็ได้ พี่จะถ่ายที่เหลือให้เสร็จก่อนเที่ยง ถ้าจะเอารูปคงไม่ใช่ห้องนี้นะ ไปหาพี่ที่ห้องได้เลย ห้องนี้มันห้องที่พี่เซ็ทเอาไว้เป็นสตูเฉยๆ” เลิฟตอบ

“ห้องพี่หรอคะ”

“อือ เบอร์ 508 ไง หลังใหญ่ๆ ตรงทางไปโซนบ้านพักของผู้หญิง” เลิฟตอบ

“อ๋อ หลังนั้นนี่เอง ที่อยู่ในสุด”

“ครับ”

“งั้นหนูไปนอนพักก่อนนะ วันนี้เหนื่อยมากเลยอะไรนักก็ไม่รู้ ลาละค่ะ ยัยแต๋มชั้นไปก่อนนะ” ส้มพูดแล้วก็เปิดประตูห้องเดินออกไป

สำหรับส้มแล้วเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆ เลิฟมันรู้สึกเหมือนข้างในมันร้อนจนอยากจะระเบิดออกมาทุกครั้ง เธอไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน ไม่ว่าเขาจะพูด มองหรือเดินมาใกล้ เธอจะประหม่ามากจนอยากจะหนีไปไกลๆ คนอะไรแสนจะดูสมบูรณ์แบบอย่างที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน เขาเป็นเหมือนสิ่งที่ตามหามาแสนนานที่มีปัจจัยทั้งหมดครบถ้วน ทั้งเงิน ความฉลาด และรูปลักษณ์ แถมเชื้อชาติยังเข้ากันได้อีก ติดแค่อย่างเดียวคือ เขาคิดอย่างเดียวกับที่เธอคิดหรือเปล่านะ

4 ความคิดเห็น :

  1. ตอนเย็นก็พาหลานเดินเที่ยวแล้วก็กลับมานอน น้องผมหลับไปแล้วเพราะเหนื่อยจากงานผมลุกมาหาน้ำดื่มตอนเดินผ่านห้องหลานเห็นห้องปิดตามปกติแต่ขากลับจากดื่มน้ำเห็นประตูแง้มอยู่เลยเปิดเข้าไปดู แสงสว่างจากไฟด้านนอกผมเห็นหลานนอนหงายหลับอยู่แต่ชุดที่เธอใส่นอนคือเสื้อซับในตัวสั้นๆกับกางเกงชั้นในลายลูกไม้เห็นขนเห็นความโหนกนูนโชว์อยู่ ผมคิดอยู่ในใจว่าเชื้อของตระกูลเรามันแรงจริงๆ ผมรู้ว่าหลานคงอยากยั่วเพราะรู้ว่าผมกับน้องอยู่ด้วยกันฐานะอะไร ทีแรกผมว่าไม่อยากทำอะไรหลานแต่อีกใจก็อยากดูรูปร่างว่าจะสวยงามแค่ไหน ผมไปนั่งที่เตียงล้วงมือเข้าไปจับนมลูบคลำบีบเบาๆแล้วเลิกเสื้อขึ้นก้มลงไปดอมดมใช้ลิ้นดุนไปมา หลานผมยังนอนนิ่งแกล้งหลับอยู่ผมเลยเลื่อนมาดึงกางเกงในลงจิ๋มหลายสาวผมสวยมากขนขึ้นน้อยๆผิดกับของน้องผมตอนอายุเท่ากันหมอยดกมาก ผมเริ่มใช้มือลูบคลำแล้วบอกหลานว่าอารู้นะว่าไม่ได้หลับอาจะเลียแล้วนะหลานไม่ตอบยังแกล้งหลับอยู่ผมจับขาหลานถ่างออกก้มลงไปเลียกลิ่นหอมหวานของเด็กสาวกระตุ้นอารมณ์ให้หวนไปคิดถึงตอนผมเลียของน้องตอนอายุ 12 เลย หลานผมแกล้งหลับไม่ลงร้องครวญครางเสียงดังบอกว่าอาขาหนูเสียวหนูทนไม่ไหวแล้วฮาเอาหนูนะคะ ผมยังไม่ตามใจเธอยังคงเลียจิ๋มหลานอยู่อย่างนั้นจนหลานร้องขออีกเปลี่ยนคำจากคำว่าเอาเป็นอาเย็ดหนูเถอะหนูใจจะขาดแล้ว ผมจับขาหลานมาห้อยที่ขอบเตียงจับของผมยัดใส่ความรู้สึกไม่ต่างจากตอนที่เย็ดกับน้องครั้งแรกเลยของหลานฟิตแน่นตอดแรงมาก ผมซอยท่านี้จนเสร็จแต่ด้วยความประทับใจผมจับหลานท่าหมาอีกรอบ พอเสร็จก็ปล่อยให้หลานนอนพักผมก็กลับห้อง พอล้มตัวลงนอนน้องผมก็พูดขึ้นมาว่า สบายตัวแล้วสิ อย่าลืมซื้อยาคุมมาให้กินล่ะเดี๋ยวนี้ท้องกันง่าย ผมได้แต่หัวเราะจูบไปทีหนึ่ง

    ตอบลบ
  2. เช้าวันเสาร์เราหยุดงานกันเลยตื่นสาย น้องตื่นมาก็ทำงานบ้านให้ผมออกไปซื้อของกิน ผมเข้าไปดูหลานยังไม่ตื่นสงสัยจะเพลียเพราะเมื่อคืน กลับมาซื้อของกินแล้วก็ไปเรียกหลานให้มากินอาหารเช้าหลานอาบน้ำแล้วเดินออกมาด้วยท่าเดินขัดๆคงจะเจ็บจิ๋ม น้องผมแซวว่าเล่นซะหลายเดินไม่ไหวเลยหลานอายน่าแดงไปหมด นั่งกินอาหารเช้าน้องผมถามหลานเป็นอย่างไรบ้างหลานบอกรู้สึกขัดๆนิดหน่อยเวลาเดินกับเหมือนจะไม่สบายจับตัวดูก็เหมือนจะตัวร้อน น้องหันมาแซวอีกเย็ดหลานซะไข้ขึ้นเลย ผมแก้ตัวไปว่าคงเป็นเพราะอากาศมากกว่า ตกลงวันนั้นก็ไม่ได้พาหลานไปเล่นน้ำทะเลให้นอนพักกินยาแก้ไข้ไป ส่วนน้องบอกเดี๋ยวออกไปหาซื้อยาคุมมาให้ส่วนผมให้อยู่ดูหลาน ผมนั่งเฝ้าหลานอยู่ก็หลอกขอดูจิ๋มหลานว่าบวมช้ำแค่ไหน หลานทำท่าอายแต่ยอมให้ผมถอดกางเกงดูเห็นแล้วก็มีแค่รอบแดงๆอยู่นิดเดียวเหมือนจะบวมนิดๆเช่นกัน ดูแล้วก็เกิดอารมณ์ผมเลยเลียอีกหลานถามว่าจะทำอะไรผมบอกว่าต้องซ้ำจะได้หายเจ็บ ตอนนั้นฤทธิ์ยาพาราฯออกแล้วหลานก็ไม่ค่อยเจ็บปล่อยให้ผมลงลิ้นไป คราวนี้ไม่รีบเหมือนเมื่อคืนผมเลียจนหลานเสร็จจากนั้นถึงเย็ดต่อสบายตัวไปหนึ่งที ผมเช็ดตัวให้หลานแล้วต่างคนต่างนอนหลับไป ตอนเย็นผมกลัวน้องจะน้อยใจจัดกับเมียไปหนึ่งดอกก่อนหลับไปด้วยความเพลีย

    ตอบลบ
  3. สายๆวันอาทิตย์ก็พาหลานไปเดินเล่นในห้างฯซื้อเสื้อผ้าชุดว่ายน้ำให้หลานไว้ใส่เล่นน้ำ พอบ่ายสามโมงก็พาหลานไปเล่นน้ำทะเล เธอใส่ชุดว่ายน้ำแต่ใส่เสื้อยืดทับไม่กล้าใส่ชุดว่ายน้ำอย่างเดียวบอกอายเพราะคนเยอะ เธอให้ผมเล่นเป็นน้ำเป็นเพื่อนส่วนน้องผมไม่ลงนอนอยู่บนเปลในร่มเราเล่นกันอยู่นาน พอขึ้นมาพักน้องชวนเดินไปที่ไกลไที่ไม่ค่อยมีคนบอกว่าหลานจะได้กล้าถอดเสื้อยืดออกเดี๋ยวจะถ่ายรูปให้เอาไว้ไปอวดเพื่อน เราเดินออกมาห่างจากจุดที่คนนิยมกันมากพอสมควรจุดนี้แทบไม่มีคนร้านค้าก็ห่างๆ หลานเลยกล้าใส่แต่ชุดว่ายน้ำแล้วก็ถ่ายรูปกันซึ่งรูปร่างหลานดีมากสูงกว่าน้องผมนิดนึง พอค่ำเราก็กลับห้อง หลานเข้าห้องอาบน้ำผมเลยตามไปด้วย อารมณ์ผมครุ่ตั้งแต่ที่ชายหาดแล้วผมฟัดไปทั้งตัวหลานสาวแทบทุกจุดก่อนจะจับไปนั่งบนอ่างอาบน้ำกำลังซอยกันอยู่น้องก็เปิดประตูเข้ามาบอกอยากดูหลานผมอายแต่ครางไม่หยุดส่วนผมยิ่งได้อารมณ์มากขึ้นไม่เคยโชว์ให้ใครดูมาก่อน พอเสร็จน้องผมก็ปลุกให้แข็งใหม่ด้วยปากหลานมองอย่างตื่นเต้นแล้วก็โก้งโค้งให้ผมซอยจนเสร็จ คืนนั้นน้องชวนหลานไปนอนด้วยกันก็นอนคุยถามเรื่องทำไมว่าอา 2 คน ถึงอยู่ด้วยกันได้ทั้งที่เป็นญาติกัน ถามหลานว่าทำไมถึงยอมให้ผมหลานบอกว่าตอนมาเยี่ยมย่าเล่นอยู่แล้วได้ยินย่าเล็กแม่ของน้องสาวกับปู่เล็กคุยกันถึงเรื่องของผมสองคนแกเลยเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้น ก็เลยอยากมาเห็นแล้วก็เลยลองยั่วดูว่าจะเป็นอย่างไร ผมเลยถามว่าแล้วเป็นอย่างไรแกก็บอกสุขสุดๆไปเลย น้องผมบอกเชื้อบ้านเรามันแรง 3 คนที่อยู่บนเตียงนามสกุลเดียวกันหมด หลานผมขอมาอยู่ด้วยได้ไหมผมว่ายังเรียนอยู่ไม่ใช่หรือแล้วกลับไปก็เจอคนใหม่ที่อายุใกล้เคียงกัน หลานบอกว่าอยากมาอยู่ด้วยยอมเป็นเมียผมอีกคน น้องบอกให้กลับไปเรียนให้จบ ม.3 ก่อนแล้วค่อยย้ายมาต่อ ม.4 หรืออาชีวะที่นี่ หลานเลยยอม เธอขออยู่จนเปิดเทอม ผมก็ต้องทำงานบ้านเพิ่มทั้งน้องทั้งหลานจนเปิดเทอมหลานก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญไป

    ตอบลบ
  4. หลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนหลานสาวผมก็ย้ายมาเรียนต่อระดับอาชีวะที่นี่พร้อมกับมาเป็นเมียผมอีกคนจนเธอจบ ปวส ก่อนจะได้ทำงานโรงแรมจนมีฝรั่งมาติดแล้วก็แต่งงานย้ายไปอยู่เมืองนอก แต่ถ้ากลับมาเมืองไทยเธอจะแวะมาหาบอกลืมเรื่องเก่าไม่ได้มันตื่นเต้นดี

    ตอบลบ