AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

รอยทรงจำ ตอน Project Mint ep12.3

รอยทรงจำ ตอน Project Mint ep12.3
โดย -

บทที่ 12.3

เรื่องซับซ้อนในงานเต้นรำ


โถงรับแขกของรีสอร์ตถูกเปลี่ยนเป็นลานอาหารบุฟเฟ่ต์ มีทั้งเครื่องดื่ม อาหารคาวหวานจัดไว้เป็นถาดๆ สำหรับทุกคน บรรยากาศตอนดึกกับลมทะเลที่พัดเข้าฝัง แสงไปสีนวลจากดวงไฟที่ประดับประดาอยู่ตามต้นไม้ กลิ่นลมทะเลพัดเข้าฝั่ง ใบไม้เอนลู่ไหวตามลมได้ยินเสียงกระทบกันฟังดูคล้ายฝนตก

พวกเพื่อนๆ พากันออกมาร่วมงานเลี้ยงตอนกลางคืน แต่ละคนแต่งตัวในตรีมเที่ยวทะเล ผู้ชายสวมเสื้อฮาวายกับกางเกงขาสั้น ผู้หญิงสวมเสื้อผ้ามัดย้อม บางคนก็สวมเสื้อฮาวายตัวสั้นแล้วมัดปมให้ดูเป็นเกาะอก บางคนเก็บเอาดอกลีลาวดีมาร้อยเป็นสร้อย แต่งตัวตามสไตล์ของแต่ละคน

ขณะที่พวกดาวอย่างมิ้นถูกจัดเสื้อผ้าเอาไว้ให้ด้วยเสื้อเกาะอกมัดย้อมและกระโปรงสั้น แต่ละคนก็แต่ละสีต่างกันไป มิ้นอยู่ในชุดมัดย้อมสีน้ำเงินกรม ที่หน้าอกติดป้ายชื่อเอาไว้ว่า มิ้น

ในลานอาหารขณะที่มิ้นกำลังเริ่มต้นทานเธอแอบชำเลืองเห็น ชัชที่เดินมาโดยมีกาญเดินควงแขนอยู่ข้างๆ ทั้งสองคนที่เหมือนจะเลิกกันไปแต่ทำไมตอนนี้ชัชถึงกำลังควงอยู่กับกาญ แถมยังไปนั่งทานข้าวด้วยกันสองคน ชัชชำเลืองมองเธอครู่หนึ่งก่อนจะละสายตาไป เขาสวมเสื้อฮาวายลายมะพร้าวสีเหลืองดำ กับกางเกงขาสั้นสีขาว เสื้อไม่ได้ติดรังดุมโชว์กล้ามหน้าท้องเป็นลอน มีป้ายชื่ออยู่ตรงหน้าอกว่าชัช ป้ายชื่อจะมีเฉพาะคนที่ประกวดดาวเดือนเท่านั้น

“คู่นั่นไปนั่งด้วยกันอีกแล้ว นี่กะคบสองเลยหรอ มิ้นว่าไง” เก๋ถามขึ้นสายตาอยากรู้อยากเห็น

“ไม่รู้สิ คงไม่ใช่หรอก ทางนั้นไม่ยอมจบกับเค้าพวกแกก็น่าจะรู้อยู่” มิ้นพูดเสียงซึม

“งั้นเราก็น่าจะทำอะไร สักอย่างหรือเปล่า ให้ยัยนั่นรู้ไปเลยว่าควรจะปล่อยมือซะที” ครีมเสนอขึ้น มิ้นมองไปหาคนเสนอความคิด (เห็นดูทำตัวเปิ่นๆ แต่พูดมาที เล่นเอาไม่อยากเชื่อหูร้ายไม่ใช่เล่น)

“ยัยครีมพูดถูก คนบางคนถ้าไม่รู้ตัว ก็ควรจะมีใครไปเตือนนะว่าเป็นของหมดอายุ” เก๋เสริม มิ้นรีบหลบตามามองแจน อีกฝ่ายยิ้มตอบแบบสงบเสงี่ยมบ่ายตาหนีเหมือนกับไม่อยากยุ่งด้วย

“แกเออ มันจะออกตัวแรงกันเกินไปแล้ว” มิ้นกลายเป็นคนห้ามเพื่อนซะอีก ทั้งที่คนถูกแย่งผัวไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นเธอ

“ไม่เลย” สองสาวตอบแบบพร้อมเพรียงกัน เข้ากันดีเป็นปี่กับขลุ่ย

“เอิ่ม”

“ไม่ต้องเอิ่มแล้ว แก ตักขนมแล้วเอาไปให้ ชัช ป้อนได้ยิ่งดี เดี๋ยวยัยนั่นก็ลุกออกไปเองนั่นแหละ ถ้าไม่ไปก็อ้างไปเลยว่าจะคุยเรื่องประกวดด้วย” เก๋จัดฉากให้ฉอดๆ แปปเดียวมิ้นก็ถูกดันออกมาจากโต๊ะ โดยมีทั้งโต๊ะนั่งมองเป็นสายตาเดียวกัน มิ้นหันกลับไปมองสายตาเพื่อนๆ ที่กำลังยิ้มร่าเป็นกำลังใจ เธอตรงไปตักหวานเย็นใส่ชาม แล้วเดินไปหาชัชที่โต๊ะตามแผน

“ชัช เราเอานี่มาให้” มิ้นวางชามหวานเย็นที่จัดมาเป็นอย่างดีไว้ข้างๆ เขายังไม่กินตอนนี้หรอก พึ่งจะทานข้าวไปครึ่งจานเอง ชัชมองมิ้นตาโต เขาแทบไม่อยากเชื่อว่ามิ้นจะบุกมาหาถึงโต๊ะ โดยไม่แคร์สายตากาญที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ของหวาน มันไม่ดีกับสุขภาพหรอก แถมยังน่ารังเกียจ” กาญพูดลอยๆ

“ใจเย็นๆ นะ” ชัชรีบคว้ามือกาญแต่อีกฝ่ายสะบัดมือออก

“กาญไปหาอะไรกินทางโน้นก่อน ชัชนั่งกับยัยนี่ไปเถอะ” กาญพูดลอยหน้าลอยตา แล้วลุกออกไปพร้อมกับจานข้าวตัวเอง มิ้นได้โอกาสนั่งลงฝั่งตรงข้ามแทนที่

“รู้ตัวไหมทำอะไรลงไป” ชัชรีบเข้าเรื่อง

“อะไร......มิ้นก็แค่....เอาขนมมาให้”

“เค้าแค่อยากกินข้าวกับผมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่ยุ่งกับผมอีก เรากำลังตกลงกันว่าจะไม่ยุ่งกันแล้ว” ชัชตอบ

“ไม่จริงหรอก ยัยนั่นแค่อยากทำให้เหมือนกับว่ากำลังคบกับชัชอยู่ คิดจริงๆ หรอกว่า ยัยนั่นจะยอมปล่อยชัชไปจริงๆ ผู้ชายดีๆ อย่างชัช ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ ซะหน่อย”

“ชัชดีหรอ ดียังไงอ่ะ” เขาถามตาโตยิ้มจนหน้าบาน

“ก็........” มิ้นอ้ำอึ้ง จะให้พูดยังไงละ ข้อดีมีเพียบจนเริ่มไม่ถูก

“เอ๊ะ....... เราไม่ได้มาคุยเรื่องนี้ไม่ใช่หรอ” มิ้นได้สติ

“แล้วคุยเรื่องไหน มิ้นเริ่มเองนะ แต่ผมก็อยากรู้นั่นแหละว่าพวกผู้หญิงมองผมยังไง”

“เชอะ ก็มองว่าหล่อ ไม่เจ้าชู้ มีฐานะ สุภาพ พึ่งพาได้ นิสัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น ใจดี มีเมตตา เป็นมิตร”

“โอ้ เยอะจัง”

“แต่เป็นเกย์นะ”

“หือ ผมยังไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายเลยนะ”

“ให้หาให้ไหมล่ะ ผู้ชายหล่อๆ ก็เยอะนะ แชมป์ไงไม่สนใจหน่อยหรอ”

“ฮ่าๆ ไอ้แชมป์เนียนะ ไม่เอาละ ผมมีความลับของมันด้วย”

“อะไรละ”

“มันแอบชอบแจนอยู่”

“โอ๊ย....ดีด้าขนาดนั้นความลับอะไรกัน ดูก็รู้แล้ว”

“ฮ่าๆ หรอ ผมมองคนไม่เก่ง แล้วมิ้นละรู้ความลับผมไหม”

“ความลับ......ชัช......มิ้นว่ามิ้นรู้หมดแล้วนะ”

“ไม่หรอกยังเหลืออีกเรื่อง ไม่น่ารู้แน่ๆ”

“อะไรบอกมาเดี๋ยวนี้นะ” อีกฝ่ายยิ้มเจ้าเล่ห์

“ผมชอบ.....มิ้น” เขาตอบมองจ้องกลับมาที่ตาเธอ คำพูดนี้ทำเอาเธอหน้าแดงเป็นลูกตำลึง

“มิ้นเป็นคนสำคัญที่สุดของผมนะ เป็นคนที่เข้าใจผมมากที่สุดแถมยังไม่ได้รังเกียจทั้งที่รู้ว่าผมเป็นยังไง มิ้นเป็นรักแรกของผม เป็นผู้หญิงคนแรกของผมด้วย.....และก็....”

“อุ้ย....พอแล้ว.....เยอะไปแล้ว.....” มิ้นหน้าแดงก่ำ เธอยกมือมากุมไว้บนโต๊ะด้วยความประหม่า

“ผมยังพูดไม่จบเลยนะ”

“พอแล้วรีบกินเถอะเดี๋ยวงานก็จะเริ่มแล้ว” ต่างคนต่างยิ้มมองหน้ากันจนแก้มปริ พวกเพื่อนๆ พากันเดินมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“แหมะ ให้มาส่งขอหวานแปปเดียว ไม่กลับโต๊ะเลยนะ ทำไมกลัวโดนแย่งที่หรอ” เก๋รีบแซว

“บ้า เค้ายังไม่ได้กินของหวานเลยต่างหาก”

“มาๆ เดี๋ยวผมชิมให้ก่อนก็ได้ แฟนอุส่าตักมาให้กินทั้งที” ชัชพูดแล้วก็ตักเฉาก๊วยน้ำแดงใส่ปาก

“อร่อยเนอะ”

“อี๋ เว่อร์ มันก็แค่เฉาก๊วยน้ำแดงธรรมดา เอาใจกันเกินไปแล้ว” แจนว่า

“ไปกันเถอะเหม็นกลิ่นความรัก” จุ๊บแจงแซว แต่ละคนหัวเราะคิกคัก

“เพื่อนมิ้นน่ารักกันจะเลยนะ” ชัชหันมาชมหลังจากพวกสาวๆ เดินไปแล้ว

“ทำไมชัชชอบหรอ คนไหนจะไปบอกให้”

“อืม เอาคนนี้” เขาชี้ใส่มิ้น เล่นเอาเธอเขินยิ้มหน้าบานไปอีกรอบ

“ไอ้บ้า ปากหวานยังกับพวกคนเจ้าชู้ เดี๋ยวนี้ลูกเล่นเยอะนักนะ เมื่อก่อนดูเงียบๆ แต่ตอนนี้จ้อไม่หยุดเลยนะ”

“ใครบอกชัชเงียบ พ่อบ่นจะตายว่าชัชพูดมาก มิ้นแค่ยังไม่รู้จักชัชดีมากกว่า”

“ไม่คุยแล้ว มิ้นแย่งกินดีกว่า” พูดแล้วก็ตักขนมใส่ปากตัวเอง

มันเป็นมื้ออาหารที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีในชีวิตเลย แถมหัวใจยังเต้นตุบๆ แรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ความรู้สึกทั้งหมดนี้ชวนให้มิ้นสงสัยว่ามันเรียกว่าอะไรนะ.........

----------------------------------------------------------------------------

“ผู้เข้าประกวดจากห้องที่หนึ่ง น้องแทมแทม หรือน้องแทมของเรานั่นเอง” เสียงประกาศของหนุ่ม(พี่หนุ่ม) ที่ขึ้นไปรับบทเป็นพิธีกรในคืนนี้ ประกบคู่กับโฟกัส สาวรุ่นพี่ที่มีดีกรีเป็นดาวค้างฟ้ามาก่อน ตอนนี้ทั้งสองคนสวมพวงมาลัยดอกไม้แถมยังแต่งหน้าตาจนดูสวยหล่อ มิ้นพึ่งสังเกตว่า เมื่ออยู่ในชุดที่โชว์กล้ามเนื้อหนุ่มดูผอมลงกล้ามเขาดูชัดขึ้นกว่าตอนที่ไปถ่ายแบบด้วยกันซะอีกเขาโปรยยิ้มส่งมาทางมิ้น

“ใช่ค่ะ น่าตื่นเต้นมากเลยนะคะ โฟกัสก็ชักอยากจะรู้แล้วว่าคืนนี้ ใครจะเป็นคู่เด่นในงานเต้นรำ และในคืนพรุ่งนี้ ใครกันนะที่จะคว้าตำแหน่งดาวและเดือนของแผนกเราไปครอง”

หญิงสาวร่างเล็กบาง แต่หน้าอกโต หน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวผ่อง เดินออกมาอยู่บนเวที ความเซ็กส์ซี่ของเธอทำเอาหนุ่มๆ ส่งเสียงเชียร์กันคอแทบแตก ตรงหน้าอกติดป้ายเอาไว้ว่า น้องแทมแทม

หนุ่มต้องยกมือให้ทุกคนสงบลงถึงจะเริ่มประกาศรายชื่อต่อไปได้

“คนที่สองของเรายังคงมาจากห้องหนึ่งนะครับ ยินดีต้อนรับน้องแต๋ม” เขาพูดแล้วผายมือออกไปทางข้างเวที หญิงสาวตัวเล็กแต่อวบกว่าคนแรกเดินออกมา โบกไม้โบกมือ เธอมีปอยผมสีชมพู แต่งหน้าดูสดใสเป็นประกาย ตรงเนื้อตัวทาแป้งผสมกากเพชรให้เป็นเงาวาววับสะท้อนแสงไฟ ตาโตคิ้วเข้มออกไปทางแขกนิดๆ แต่ดูคมและโฉบเฉี่ยวแถมท้ายด้วยความเซ็กส์ซี่ที่ล้มกันไม่ลงกับแทมคนแรก เธอสวมชุดกระโปรงสั้นที่เป็นมัดย้อมสีขาวลายชมพู แต่ผ้าสั้นอยู่แค่ขาอ่อนต่างจาก แทมที่สวมเสื้อผ้าสไตล์เดียวกับมิ้นแต่เป็นสีเขียว

“แต๋มเองค่ะทุกคน เป็นกำลังใจให้แต๋มด้วยนะคะ” เธอพูดอ้อนๆ เสียงหนุ่มๆ ร้องดังกระหึ่ม

อีกด้านของเวที กาญกำลังยืนมองไปทางด้านหลังเวที มิ้นกำลังจะออกจากเวทีเป็นอันดับต่อไป เธอหันไปมองทรายที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ

“แกเดี๋ยวมานะ” กาญพูดจบก็รีบเดินไปด้านหลังเวที เธออ้อมไปจนถึงตัวมิ้นแล้วดึงข้อมือเธอออกมา ทั้งมิ้นกับส้มมองหน้ากัน

“ส้ม ไปแทนก่อน เรามีเรื่องอยากคุยกับมิ้นหน่อย” กาญพูด

ตรงหน้าเวที ส้มเดินออกมาเตรียมรอตามชื่อที่กำลังจะประกาศ หนุ่มหันกลับมามองคนที่ควรมาเตรียมตัวควรเป็นมิ้นแต่ทำไมตอนนี้กลับเป็น ส้ม เขาเดินเข้ามาคุยพอรู้เรื่องว่ามิ้นขอเวลาเพิ่มก็วิ่งกลับไปเตรียมประกาศชื่อส้มก่อน

“คนต่อไปมาจากห้องสองของเรานั่นเอง ปีนี้เป็นสาวไฮโซสุดร้อนแรง ทุกคนอาจจำรถที่มารับส่งเธอไม่ได้เพราะแทบจะไม่ซ้ำกันเลยสักวัน ดีกรีเป็นถึงลูกคุณหนูฝาแฝด น้องส้มนั่นเองครับ” พูดจบแสงไฟก็จับจ้องไปที่เวทีส้มเดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มร่า เธอแต่งหน้าแต่งตัวมาพร้อมเสร็จ แสงไฟพวกนั้นกระทบเสื้อผ้ามัดย้อมสีขาวส้มของเธอที่สวมยาวลงไปเหมือนเสื้อผ้าคุณหนู ก็ทำเอาเสียงร้องชื่นชมดังขึ้น มีผู้ชายหลายคนแอบหมายปองเธออยู่ในคืนนี้ แต่สายตาเธอจับจ้องไปเพียงแค่เขา ชายรุ่นพี่เพียงคนเดียวที่เธอมาดหวังไว้ เขายิ้มร่ามองเธอกลับมาจากเบื้องหลังของแสงไฟ เลิฟโบกมือให้เธอ เธอโบกมือตอบเขาด้วยสายตาเป็นประกาย จ๋าน้องสาวฝาแฝดมองพี่ตัวเองเฉิดฉายอยู่บนเวทีด้วยตาเป็นประกาย

ด้านหลังเวที กาญใช้แป้งกากเพชรตบลงที่แขนและไหล่ของเธอ เช็คความเรียบร้อยบนหน้าให้มิ้นอีกครั้งแล้วทาลิปสติกสีชมพูสดใส มิ้นมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจทำไมถึงมาทำดีทั้งที่เหมือนเธอจะเกลียดขี้หน้ากันจนแทบไม่อยากมอง

“ทำแบบนี้ทำไม” มิ้นถามขึ้น

“ชั้นอยากทำทุกอย่างเพื่อให้เธอแพ้ และแผนการมันก็ดำเนินไปหมดแล้ว” กาญพูดเรื่อยๆ

“หือ...”

“แต่เขาพูดกับชั้นว่า เขาอยากให้เธอชนะ... ทำไมเธอถึงชนะใจเขาได้ง่ายดายนัก ชนะในแบบที่ชั้นเองพยายามมากแค่ไหนก็ทำไม่ได้ และที่ชั้นช่วยเธออยู่ตอนนี้ก็เพื่อทำตามอย่างที่ชัชคิดแค่นั้น ชั้นทนดูเธอแพ้อย่างน่าอับอายไม่ได้ จะแพ้ก็อย่าแพ้แบบโง่ๆ นักละ เดี๋ยวไม่สนุก” กาญตอบเสียงซึม

“ขอบคุณที่ช่วยนะ” มิ้นยิ้มมุมปาก มองหน้ากาญที่ไม่ยอมสบตาเธอ แล้วเดินไปเข้าคิวที่ด้านหลังเวที

กาญมองไปที่มิ้นแล้วหันมองรองเท้าของเธอที่จะต้องใส่ในรอบงานเต้นรำ รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นบนหน้า “ชั้นทำในส่วนที่ต้องทำเพื่อชัชแล้ว อีกส่วนขอทำเพื่อตัวเองแล้วกัน”

“คนต่อไปคือน้องมิ้น สาวสุดเซ็กซี่ของเรานั่นเองครับ” มิ้นเดินขึ้นไปบนเวที แต่ไม่ได้เดินออกมาเพียงลำพังเพราะหนุ่มเดินเข้ามาแล้วคล้องพวงมาลัยดอกลีลาวดีลงไปบนคอเธอ เสียงร้องด้วยความอิจฉาของหนุ่มๆ รอบงานดังกระหึ่ม พวกบนเวทีรู้สึกว่านี่คือการแย่งซีนที่กลบทุกคนให้กลายเป็นเพียงตุ๊กตาตัวประกอบซะเฉยๆ มิ้นเดินควงกับหนุ่มออกมาถึงกลางเวที แล้วเดินโบกไม้โบกมือไปต่อ กากเพชรที่กาญทาเอาไว้บนเนื้อตัวเธอต้องแสงไฟระยิบระยับเหมือนแสงอาทิตย์ต้องกระทบผิวน้ำ ผิวดูฉ่ำวาวอิ่มขับให้เธอดูสวยงาม สายตาของหนุ่มๆ ทั้งงานจับจ้องที่เธอ ทั้งรุ่นพี่อย่างเลิฟที่นั่งเกาะกลุ่มก็จ้องตาเป็นมัน ชัชที่มองอยู่ข้างเวทีอย่างหลงใหล และสายตาที่เพ่งมองออกมาจากความมืด ในที่ที่มืดมิดที่ไม่มีใครรับรู้ถึงการมีอยู่ของก้านกับพวก

“สวยมากเลยนะครับ” หนุ่มพูดเสียงเคลิ้ม

“เดี๋ยวสิคะ แล้วเมื่อกี้นี้มันอะไรกันคะ ถึงกับยอมเสียสละดอกไม้คล้องคอกันเลยทีเดียว ลำเอียงหรือเปล่าคะ หรือรู้จักกันเป็นการส่วนตัวคะ”

“แหะๆ นิดหนึ่งครับ น้องผมเอง”

“งั้นชั้นจะถือว่า ชั้นก็ทำแบบนั้นได้บ้าง ว่าแต่จะมีเดือนคนไหนน่าสนใจ น่าจับเป็นน้องบ้างไหมนะ”

“เรากลับมาที่ผู้เข้าแข่งขันสองคนสุดท้ายจากห้องที่สามดีกว่าครับ” หนุ่มพูดต่อ

“ค่ะ”

“น้องจากห้องที่สามคนแรก มาในชุดตรงคอนเซ็ปตามชื่อเธอเลยครับ น้องพิงค์” เสียงประกาศจบลง ผู้หญิงร่างสูงเรียวขายาวสวย หน้าท้องแบนราบหน้าอกอวบตึง เดินออกมาพร้อมชุดมัดย้อมขาว ชมพูบานเย็น เธอถักเปียมัดเล็กๆ เอาไว้ตรงปอยผมด้านหน้าหนึ่งมัด ตั้งแต่ที่แต๋มเริ่มทาแป้งกากเพชรผู้เข้าแข่งขันที่เหลือก็ทากันทั้งหมดเพื่อไม่ให้เสียเปรียบกัน พิงก์มีรอยยิ้มที่อ่อนหวานเวลาที่เธอโปรยสายตามองจ้องใคร คนนั้นจะรู้สึกเหมือนหยุดนิ่งอยู่ในโลกที่เธอสะกดเขาเอาไว้ ชุดกระโปรงมัดย้อมแหวกผ่าขึ้นมาถึงโคนขาอ่อนด้านหน้า จังหวะเดินแต่ละก้าวทำให้เธอดูเซ็กซี่ ชวนหวาดเสียว

“และสาวสวยคนสุดท้ายของค่ำคืนนี้ก็มาถึงแล้วนะครับ สาวเผ็ดร้อนที่สุด ณ ที่แห่งนี้ น้องติ๊ก ครับ” แสงไฟพุ่งจับไปที่เท้าของสาวสวยคนสุดท้าย เสื้อผ้าเป็นเกาะอกส่วนด้านล่างเป็นกระโปรง เพราะอยู่ในมุมมืดๆ เมื่อครู่มิ้นไม่รู้เลยว่าเสื้อผ้าที่เธอสวมคือสีอะไร แต่ตอนนี้มันกำลังสาดแสงออกมายามเมื่อกระทบกับแสงไฟเต็มที่ มันคือสีแดงสว่าง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสีกรมท่าน้ำเงินของมิ้น ติ๊กทาปากสีแดงสด เดินด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจเหมือนเปลวไฟที่พร้อมแผดเผา ทั้งหนุ่มกับติ๊กมองหน้ากันเหมือนจะส่งสายตาเล็กๆ ที่มิ้นรู้เพราะ มันเป็นสายตาของคนที่มีอะไรมากกว่าแค่รู้จักเฉยๆ รูปร่างอวบเล็กน้อย ผมมัดรวบเอาไว้โดยมีปลายผมทำสีแดง ติ๊กเดินกลับเข้ามาประจำที่ เรียงหน้ากระดาน

“เอาละ เดี๋ยวเราจะทำการแนะนำเดือนแต่ละคนแล้ว จะขอรบกวนสาวๆ ขึ้นมาบนเวทีอีกรอบนะครับ ตอนนี้ขอเชิญลงไปพักผ่อนกันก่อน” หนุ่มพูดจบ พวกสาวๆ ก็เดินลงจากเวทีไปพร้อมกับเสียงคุยดังกระหึ่มขึ้น ต่างคนก็ต่างเชียร์คนที่ตัวเองชอบ

“เดี๋ยวตอนเปิดพวกเดือน ผมว่าให้ขึ้นมาพร้อมกันหมดเลย แล้วคุณโฟกัสคุณมายืนตรงนี้ ผมจะเรียกชื่อทุกคน แล้วคุณถูกใจคนไหน ก็เอาพวงมาลัยมาคล้องคอดีไหม ผมว่าแบบนี้น่าจะดีกว่านะ”

“จะบ้าหรอ คุณหนุ่มจะเล่นอะไรเนีย”

“เอาตามนี้เลย คุณโฟกัสคุณมายืนตรงนี้ อย่าหันกลับไปมองนะ”

“เอาละ น้องเอิร์ท น้องชัช น้องไปร์ท น้องบิว น้องคิม น้องออโต้เอาละยืนตรงนี้ เรามาลุ้นกันโฟกัสจะเอาดอกไม้ให้ใครดี ฮ่าๆ น่าสนุกดีนะว่าไหม ตอนนี้น้องๆ ยืนกันครบแล้ว โฟกัสคุณพร้อมเมื่อไหร่ก็หันกลับมาได้เลย”

“อีบ้าหนุ่ม เล่นอะไรของแกยะ” โฟกัสที่เอามือปิดหน้าอยู่ตรงด้านหน้าเวที ทุกคนต่างกำลังยิ้มส่งกำลังใจให้เธอ เมื่อเธอหันกลับไป หกหนุ่ม หกสไตล์ก็กำลังส่งยิ้มมองมาที่เธอ จะมีก็แค่เขาที่ยังมองออกไปนอกเวทีอยู่คนเดียว มองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง เขาคือคนป้ายที่หน้าอกเขียนเอาไว้ว่า ชัช โฟกัสเดินไปกระชับเสื้อกับใบหน้าหล่อคมของเขาให้เขาหันมองเธอ

“ทำไมมองไปทางอื่นละ อยู่ตรงนี้ก็ต้องมองพี่สิ เอานี่” พวงมาลัยคล้องลงที่คอของชัชอย่างไม่รู้ตัว

“กรี๊ด..........ชัชได้ด้วยแก เย้..........” เก๋ร้องเสียงหลง ทำลายความเงียบ แล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงดีใจของทุกคน

“ต้องดีใจกับน้องชัชด้วย เอาละ นี่คือ หกหนุ่มของเรา เดือนห้องหนึ่ง น้องเอริ์ทน้องชัช” ทั้งสองคนเดินออกมาโชว์ตัว หันซ้ายหันขวาดูงงๆ คนหนึ่งหน้าไทยตาโตผิวขาว อีกคนหน้าคม คิ้วเข้มผิวสีน้ำผึ้ง ต่างคนต่างโชว์กล้ามท้องเดินไปมาบนเวทีจนมั่วไปหมด แล้วกลับมายืนเรียงแถว คนที่เหลือออกไปผลัดเปลี่ยนเดินแบบกันจนกระทั่งครบแล้วถึงลงไปจากเวที

“เรากำลังจะเข้าสู่ช่วงงานเต้นรำของคืนนี้แล้ว เราจะมีดอกไม้เอาไว้ให้ทุกคน และเมื่องานเต้นรำจบ ทุกคนจะทำการมอบดอกไม้ให้กับคนที่ชอบ และเราจะประกาศผลว่าใครคือคู่ที่น่าอิจฉาที่สุดในคืนนี้ ใครจะเป็นคู่เต้นรำที่เคมีเข้ากันได้ดีที่สุด ฮ่า น่าสนุกใช่ไหมล่ะครับ หลังจบเพลงนี้เราจะมาพบกัน” หนุ่มพูดแล้วเสียงเพลงคลอก็ดังขึ้น ไฟบนเวทีดับลง ทุกคนต่างตื่นเต้นอยากรู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ดาวเดือนบางคนที่ยังไม่ได้จับคู่กันต่างรีบไปคุยกัน

ชัชกับมิ้นเดินมาหากันหลังจากพอเห็นโอกาสที่ผละออกจากเพื่อนได้ ต่างคนต่างมองหน้ากันแล้วยิ้มเขิน เพราะมีพวงมาลัยด้วยกันทั้งคู่ แถมยังบังเอิญมาคู่กันอีก

“ตื่นเต้นดีเนอะ” มิ้นพูดขึ้น

“อือ”

“คืนนี้ ชัชหล่อมากเลย กากเพชรนี่ที่ตัวชัช ใครทาให้เนีย”

“อืม...กาญหน่ะกาญดูเรื่องเครื่องแต่งตัว พวกห้องสาม เลยเอามาให้ชัชด้วย”

“อย่างงี้นี่เอง ห้องมิ้นไม่มีแบบนั้น มิน่าพวกดาวเดือนห้องสามถึงแต่งตัวสวยหล่อกันทั้งนั้นเลย”

“กาญบอกว่า ชัชอยากให้มิ้นชนะ”

“ใช่ ชัชบอกเค้าไว้เองแหละ ว่าอยากให้เขาแต่งตัวให้มิ้นบ้าง”

“เค้าทำตามที่พูดด้วยนะ กากเพชรพวกนี้เค้ามาทาให้มิ้น”

“หรอ....ดีจังเลยนะ”

“หือ...มันทำให้มิ้นรู้สึกแปลก เค้าเกลียดขี้หน้ามิ้นยังกับอะไร”

“กาญเค้าเป็นคนดี แค่ขี้หวงไปหน่อย ถ้ามิ้นได้รู้จักเขาดีๆ ไม่ใช่ศัตรูกันแบบนี้เขาจะเป็นเพื่อนมิ้นที่ดีคนหนึ่งเลยละ”

“ชัชมองคนในแง่ดีไม่เปลี่ยนเลยนะ”

“เอาละครับ สำหรับงานเต้นรำในค่ำคืนนี้ ดาวของเราจะต้องสวมรองเท้าส้นสูง ที่เราเตรียมเอาไว้ ซึ่งมันทำให้การเต้นรำเป็นไปได้ยากมากๆ คู่เต้นรำจะต้องมีทักษะระดับหนึ่งเลยทีเดียว ไม่งั้นคงเหยียบเท้าฝ่ายชายกันร้องลั่นแน่ๆ และใครที่เหยียบเท้ากันจนเต้นเป็นลิงเป็นค้างก็ถือว่าตกรอบไปนะครับ จะถือว่างานเต้นรำนี้เป็นเกมก็ได้ แต่ว่า.... แต่เราก็ไม่ได้จะคัดใครออกนะครับ ขอแค่เต้นให้จบเพลงให้ได้ก็พอ”

“ถ้าพร้อมกันแล้ว สาวๆจ๋ามาเปลี่ยนรองเท้าเตรียมเต้นรำกันได้เลย”

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น