เต้ยกับพี่ติ่ง ตอนที่ 2 แรกหลั่ง

เต้ยกับพี่ติ่ง ตอนที่ 2 แรกหลั่ง
โดย ตฤษณา

        ตลอดทางเดินกลับบ้าน เต้ยเดินตามพี่ติ่ง เขาเพิ่งสังเกตสิ่งผิดปกติอีกอย่าง
เป็นวิสัยที่เขาเคยมองพี่ติ่ง นั่นคือบั้นท้ายกลมสองปั้น เห็นชัดใต้ผ้าโชกน้ำจากลำธาร
ทำให้เห็นการพลิ้วไหวทุกย่างก้าว ถึงแม้เขารู้ว่าพี่ติ่งเป็นนักกีฬา
ที่รักษากล้ามเนื้อทุกส่วนสัดให้รัดรึงอยู่เสมอ แต่บั้นท้ายนั้นมันก็คือก้อนเนื้อ
มันมีน้ำหนักเช่นกล้ามเนื้อแห่งอื่นบนร่างกายเหมือนกัน เช่นหน้าอก
หรือก้อนแตงอ่อนของพี่ติ่ง ที่พี่บอกให้เขาจับนั่นอีก

เสียดายเขาเดินข้างหลังจึงไม่ได้เห็นก้อนแตงอ่อนกระเพื่อมไหว
ได้แต่เดินดูบั้นท้ายกลมสองปั้น สั่นพลิ้วตามทุกย่างก้าว
กางเกงกีฬาผ้ายืดที่เปียกน้ำโชกไม่ได้บดบังปั้นเนื้อที่ระริกขึ้นลงแม้แต่น้อย
กระนั้น นอกจากบั้นท้ายคู่ที่สลับพลิ้วไหวทีละก้าวแล้ว ในความจำล้ำลึกสด ๆ วันนี้
เขายังนึกถึงหน้าพี่ติ่งตอนปล่อยน้ำพุพุ่งใส่หน้าใส่ปากเขาด้วย

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ทำให้เขาสังเกตความแปลกประลาดบนร่างกายเขาเองด้วย
จ้อนของเขา ที่เคยนิ่งสงบมาตลอดเกือบสิบสี่ปีย่างสิบห้าที่ผ่านมา จู่ ๆ มันก็แข็งจังก้า
นำหน้าก้าวเดินเขาตลอดทาง และนี่ทำให้เต้ยคิดว่าเขาคงไม่กล้าให้พี่ติ่งเห็นเป็นอันขาด
ฉะนั้น เมื่อพี่ติ่งเดินเข้าบ้านที่ถึงไปก่อน เขาจึงฉับก้าวต่อจะกลับบ้านเขา แต่ก็ช้าไป
เพราะพี่ติ่งหันขวับ ฉวยมือเขาตามเข้าบ้านทันที
“เต้ย พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน”
บ้านพี่ติ่งบ่ายนั้นโล่ง พ่อกับแม่พี่ติ่งยังไม่กลับจากเมือง พี่ติ่งดูจะรู้เวลาดี
เธอจูงมือเขาขึ้นบันได้ไปเข้าห้องนอนเธอชั้นบนทันที
เธอดุนเต้ยให้นั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ ส่วนตัวเธอหยิบผ้าเช็ดตัวจากราว
ก่อนจะปิดประตูห้อง พี่ติ่งทำมือชี้สำทับให้เต้ยนั่งรอตรงนั้น อย่าขยับไปไหน
ห้องน้ำนั้นอยู่ถัดจากบันไดก่อนห้องนอนพี่ติ่ง ผนังติดกันไม่ได้ทึบเก็บเสียง
เต้ยจึงได้ยินเสียงตักน้ำและสาดรดตัว จนนึกภาพออกว่าพี่ติ่งเริ่มจากสระผมฉบับสั้น
ก่อนจะชะล้างเนื้อตัวจากลำธารและร่องรอยปลาสปาสัปดนนั่น
เต้ยดูฝาห้องจากเก้าอี้ที่เขานั่ง กวาดสายตาต่ำลงมาระดับเอว
เห็นปฏิทินเก่าค้างปีพิมพ์กระดาษแข็ง แขวนติดผนังอยู่ ให้สงสัยเป็นกำลัง
ว่าใครเอามาติดไว้ทำไม ตรงนั้นมันไม่ใช่สำหรับดู จึงเอื้อมมือไปค่อย ๆ ดันขอบข้างปฏิทิน
ให้มันหมุนตามตะขอขึ้นไป
แล้วเขาก็เห็นรูโหว่ขนาดเหรียญสิบบนผนัง! เขาลังเลเล็กน้อย
จนแน่ใจว่าพี่ติ่งยังอาบน้ำง่วนอยู่ ก่อนจะทรุดตัวลงจากเก้าอี้อย่างเงียบเชียบ
แนบตาเข้าที่ช่องสวรรค์เป็นใจนั้น
ภาพที่เห็นเป็นอีกภาพหนึ่งที่ไม่เคยเห็น และไม่เคยคิดว่าจะเห็นเลย
มันทำให้เขาใจเต้นไม่เป็นส่ำ
พี่ติ่งกำลังใช้ฟองน้ำสีชมพูก้อนใหญ่ชโลมสบู่เหลว ฟอกฟองไล้ตั้งแต่ลำคอหัวไหล่
หน้าอกแตงอ่อนสีเนื้อและลูกพุทราสีน้ำตาลอมชมพู ลงมากลางลำตัว
สลับมือเอื้อมไปฟอกด้านหลังไหล่ ไล่กลับมาลงผืนหน้าท้องเรียบ
ยกเว้นเนินน้อยแนวกล้ามเนื้อหน้าท้องทั้งสองที่ลาดมาตั้งแต่ใต้ฐานนม
ขนาบสะดือสวยลงไปจรดเนินพระศุกร์ เห็นเด่นเป็นเนินหนั่นนูนแทบกลบร่องน้อยแนบสนิท
แล้วพร้อมกันลู่ลงใต้หว่างขา
เต้ยรีบหันหน้าออกจากช่องสวรรค์เป็นใจ
เขากลัวว่าเสียงหัวใจที่เต้นเป็นกลองมโหระทึกเวลาย่ำรัวนั้นมันจะดังข้ามผนังไปให้พี่ติ่งได้ยิน
แต่คิด ๆ แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ เขาจึงแนบตาเข้าไปใหม่
ทีนี้เขาแทบผงะ เกือบจะอุทาน “ไฮ้ พี่ติ่ง” ออกมาดัง ๆ
เหมือนเมื่อตอนเห็นพี่ติ่งรูดกางเกงให้ปลาลงไปตอดโก๊ะ ดีที่เขายกมือมาอุดปากตัวเองทัน
พี่ติ่งกำลังยกขาข้างหนึ่งวางบนม้าเตี้ยนั่งซักผ้า
ทำให้เห็นพี่ติ่งกำลังฟอกเนินสามเหลี่ยมเกือบทุกซอกมุม เธอไม่ได้แค่ไล้ผิว แต่ใช้มืออีกข้าง
สองนิ้วแนบกลีบพูแยกออกเพื่อการฟอกที่หมดจด
พี่ติ่งทำความสะอาดทั้งหน้าและหลังเนินพระศุกร์นานพอสมควร
จนเต้ยสงสัยว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ
แต่นั่น! พี่ติ่งไม่ได้ยกขาลงจากม้าเตี้ย มือข้างหนึ่งกับสองนิ้วยังแนบถ่างกลีบพูอยู่นั่น
พี่ติ่งลดมือข้างที่ถือฟองน้ำ กำด้วยนิ้วโป้งและนิ้วก้อยไม่ให้หลุด โก่งข้อมือไม่ให้แตะสัมผัสเนิน
แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วนางสอดเข้ากลางร่องล้ำลึกของนาง เพื่อชำระภายใน เข้าออกหลายรอบ
แล้วจึงหันหลังตักน้ำราดล้างฟองสบู่ตั้งแต่ต้นคอ หัวไล่ แผ่นหลังลงเอวคอด

สะโพกปั้นบานท้ายพลิ้วไหว และแข้งขา หันกลับมาราดด้านหน้าจนเนื้อตัวเกลี้ยงเกลา
ผิวเนียนบ่มออกสีเนื้ออมชมพูเรื่อ
พี่ติ่งถอนหายใจ ดึงผ้าเช็ดตัวมาซับน้ำ
เต้ยถอนหน้าจากช่องสวรรค์เป็นใจ ขยับปฏิทินกลับไปแขวนเข้าที่เดิม
ลุกไปนั่งบนเตียงที่เก่า
แล้วเขาก็ถอนใจอีกยาว รู้สึกว่าจ้อนของเขามันจังก้ากว่าตอนเดินกลับมาด้วยซ้ำ
ทั้งไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับส่วนนั้นตัวเอง เพิ่งรู้ว่าเขาสั่งมันไม่ได้เลย
กว่าจะคิดอะไรได้ พี่ติ่งก็เปิดประตูห้อง ล็อคกุญแจใส่กลอนแน่นหนา
เดินเข้ามาในชุดผ้าเช็ดตัวที่เต้ยรู้ว่า ใต้นั้นพี่ติ่งยังไม่ได้ใส่เสื้อกล้ามหรือกางเกงในสักชิ้น
เพราะเธอไม่ได้หยิบอะไรไปจากห้อง
พี่ติ่งเดินเข้าใกล้จนเต้ยได้กลิ่นหอมของสบู่ เธอจ้องหน้าเต้ยนิ่ง ๆ อยู่พักหนึ่ง
“เรื่องวันนี้ เธอเก็บเป็นความลับได้ไหม” เต้ยสังเกตว่าปกติเคยเรียก “เต้ย” เปลี่ยนเป็น
“เธอ” มันพิกลอยู่ “เธอสัญญากับพี่ได้ไหม ว่าจะไม่บอกพ่อบอกแม่พี่”
“ได้ซีครับ พี่ติ่ง เรื่องปลานั่น...” “เธอลืมเรื่องปลาก่อนได้ไหม พี่จะแจงให้ฟัง
ว่าทำไมมันเกิดอะไรกับพี่” เต้ยพยักหน้า รอฟังพี่ ขณะที่เธอลงไปนั่งขอบเตียง
“ที่พี่ถอดเสื้อให้ปลาตอดนมเนื้อ ๆ นั้น พี่เพียงอยากรู้ว่าปลามันจะทำอะไร
แต่พอมันรุมตอดหัวนมพี่ พี่รู้สึก...รู้สึกเสียว อย่างที่ไม่เคยมาก่อนเลย...
“มันเสียวจากหัวนม ซ่านไปทั้งเต้า แล้วมันลามไหลไปถึงท้องน้อย...
“พี่เลยถอดกางเกง กะจะให้ปลามันไปตอดข้างล่าง เพื่อลดความเสียวหัวนม…
“พี่จะไปรู้ได้ไง ว่า พอถอดกางเกง มันจะรุมกันไปตอดหมีพี่”
“โก๊ะเหรอครับ”
“นั่นแหละ บ้านพี่เรียกหมี ซึ่งพี่ก็ไม่เคยไปยุ่งไปเล่นอะไรกับหมีของพี่มาก่อนเลย
สาบานได้…
“พี่ก็ไม่เคยรู้อีกน่ะแหละ ว่า หมีของพี่มันอ่อนไหว ไวสัมผัสปานนั้น ยิ่งที่มันตอดตรงเม็ดติ่ง
เธอเอ๋ย พี่เสียวแทบเป็นบ้าตาย พี่เสียว เสียวมากเลยเธอ...
“ตลอดช่วงนั้นพี่ก็รู้สึกว่า ข้างในท้องพี่ มันมีน้ำอุ่น ๆ อะไรไม่รู้
เหมือนกับจะล้างความเสียว มันไหลซึมออกมาทางร่องหมี แต่กลายเป็นว่า ยิ่งไหล
ปลาก็ยิ่งตอด กลับพาพี่เสียวจนทนไม่ได้ มันทำให้พี่กระตุกไปเองนะนั่น ทีระลอก ๆ จนสุดท้าย
พี่รู้สึกเหมือนมีฉี่จากความเสียวพุ่งออกมา พี่จึงว่า ไม่ไหวแล้ว ขืนอยู่ในน้ำต่อไป
พี่คงเสียวจนขาดใจตายแน่ ๆ”
พูดจบพี่ติ่งหอบหายใจถี่ เหมือนยังรู้สึกว่าปลายังตอดหมีเธออยู่
“มันคงเป็นเรื่องลี้ลับธรรมชาติผู้หญิงมั้งพี่ เกี่ยวกับเพศหรือเปล่า ตัวเต้ยเองก็ไม่รู้
วันนี้เต้ยได้เห็นอะไรแปลกตั้งหลายอย่าง จากพี่ติ่ง และกับตัวเต้ยเองด้วย”
“เช่นกับจ้อนของเธอที่แข็งจ้องหน้าพี่อยู่นี่ด้วยใช่ไหม”
เต้ยอายหน้าแดงก่ำ ที่พี่ติ่งจับความแปลกบนร่างของเขาได้ จนพี่ติ่งพูดต่อ
“น่าจะเป็นตั้งแต่เธอเห็นนมพี่ เห็นกระทั่งหัวนม แล้วยังตอนที่ปลามันลงไปตอดหมี
พี่เห็นเธอจ้องตาใสในน้ำเลย”
“เอ้อ ครับ พี่ติ่ง เต้ยไม่เคยเห็นของดีผู้หญิงมาก่อน แต่คิดว่า ของ ๆ พี่นี่สวยที่สุดเลยครับ”
“อะไร เธอเคยเห็นเหรอ หรือหลอกชมพี่ หวังจับคลึงหัวนมพี่อีกงั้นเหรอ”
“อย่าพูดอย่างนั้นซีครับ พี่ยิ่งพูด จ้อนเต้ยก็ยิ่งแข็ง”
“งั้นเราคงต้องช่วยกันทำให้มันอ่อนลงแล้วละ”
เต้ยรีบพยักหน้า ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าพี่ติ่งจะทำอย่างไร พี่ติ่งเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
“เอาเลยครับ พี่”

“แต่เธอสัญญานะ ว่าที่เราจะทำกันนี่ ห้ามไปบอกใครทั้งนั้น ไม่ว่าที่บ้านพี่หรือบ้านเธอ”
พี่ติ่งสำทับ รอจนเต้ยพยักหน้าหัวคลอน เธอเดินไปตรวจดูกลอนประตูอีกครั้ง
ว่าลงไว้แน่นหนาแล้ว จึงกลับมานั่งขอบเตียงดังเดิม
ก่อนที่เต้ยจะคิดอะไรออก พี่ติ่งก็คลายปมผ้าเช็ดตัว ปล่อยทั้งผืนหล่นลงบนตัก
เผยก้อนแตงอ่อนสีเนื้อ มีจุกสีน้ำตาลอ่อนอมชมพู ที่เริ่มแข็งตัวจะเป็นไตอีกแล้ว
“ถ้าเธอเงียบ ๆ พี่จะให้จับนมพี่... ขยับมานั่งขอบเตียงใกล้พี่นี่สิ”
เต้ยเหมือนคนเหม่อลอย ขยับไปนั่งตามพี่ติ่งบอกอย่างว่าง่าย
“จับนมพี่ไว้ น้องเต้ย อย่าปล่อยนะ” พี่ติ่งเสียงแหบพร่าเหมือนแรกพูดไม่ผิด
เต้ยยื่นทั้งสองมือไปกุมก้อนแตงอ่อนนั้น
“คีบหัวนมอย่างที่เธอทำตอนนั้นด้วยจ้ะ”
เต้ยจีบนิ้วคลึงหัวนมพี่ติ่ง ไม่วายก้มหน้าเข้าไปจนชิด
เพื่อจะได้เห็นหัวนมเขม็งตัวเป็นไตด้วยตาให้ชัดกว่าตอนที่นมทั้งก้อนอยู่ปริ่ม ๆ น้ำ
นอกจากกลิ่นสบู่แล้ว เต้ยได้กลิ่นเนื้อ ๆ หนั่น ๆ จนอดไม่ได้
เขายื่นหน้าเข้าหว่างสองก้อนแตงอ่อน
“ขอเต้ยหอมนมพี่ติ่งนะครับ”
“เธออยากหอมเหรอ”
มันไม่ใช่คำถาม แต่เป็นคำเชิญชวนเชิงท้าทาย
มีหรือเด็กชายวัยสิบสี่ย่างสิบห้าจะอ่านไม่ออก
เต้ยเอนหน้าซุกหน้าเข้าหว่างเต้าดันให้พี่ติ่งนอนหงายราบไปกับที่นอน
จมูกสูดกลิ่นหอมดอมดมหุบซอกเต็มปอด สูดเข้าเหมือนขาดลมหายใจเพิ่งขึ้นจากดำน้ำลึก
ขณะเดียวกัน มือทั้งสองข้างที่กุมแตงอ่อน ก็ไม่หยุดคีบและจีบคลึงหัวนมไปพร้อม ๆ กัน
ราวกับจะนวดให้มันเหนียวนุ่มแบบลูกชิ้นเอ็นปานนั้น
เต้ยสูดดมหุบซอกจนพอใจแล้ว จึงหันหัวไปหอมก้อนเต้าเนื้อทีละข้างให้ช่ำปอด
ก่อนจะโงหัวขึ้นไปที่ยอดแตงอ่อน เขามองยอดซ้ายที ยอดขวาที
เหมือนหยั่งใจว่าจะลงข้างไหนก่อนดี
“เต้ย ๆ ตัดสินใจเสียที มองอย่างนี้พี่เสียวนะ...”
ไม่ทันขาดคำ เต้ยก็ก้มลงงับหัวนมทางซ้ายทั้งเม็ด เขาไม่รู้หรอก
ว่าการจูบหัวนมผู้หญิงมันต้องมีลีลาอะไรบ้าง เขาใช้สัญชาติญาณล้วน ๆ
ด้วยริมฝีปากที่กระชับใต้จุกไม่ให้มันดิ้นหลุดปากไปได้
แล้วบรรจงเม้มดูดเหมือนทารกดูดนมแม่ แต่ขณะดูด ลิ้นเขากวาดรอบหัวนม
ไล้ขึ้นลงไม่ให้คลาดแม้แต่อณูเดียว
“ซี้ด... เสียว... พี่เสียว เต้ย” พร้อมกับร่างดิ้นเร่า ๆ
เต้ยโงหัวขึ้น จ้องหัวนมขวาเป็นครู่ จนดูเหมือนมันจะพลิ้วไหวหนีจากสายตา เต้ยไม่รอช้า
ก้มลงงับปมยอดแตงอ่อนขวา และปรนนิบัติให้ไม่ผิดกับหัวนมทางซ้าย
“อู้ย น้องเต้ย พี่ติ่งเสียว จะไม่ไหวแล้วนะ” พี่ติ่งยิ่งดิ้นพล่าน
ผ้าเช็ดตัวจากตักเลื่อนหล่นบนผ้าคลุมเตียง หว่างขาแยก เผยหนั่นเนินพระศุกร์และร่องสวรรค์
เต้ยโงหัว หันมาท้ายเตียง มองเนินสาวพี่ติ่ง แล้วหันกลับไปที่ก้อนแตงอ่อนใหม่
เหมือนยังมีอะไรคาใจกับทางนี้อยู่
คราวนี้ทั้งสองมือกุมสองเต้ามั่น และลงปากละเลงลิ้นกวาดหัวนมที่แข็งเป็นไตอยู่แล้ว
ราวกับจะดูว่ามันจะสู้ลิ้นเขาได้ถึงไหน
“ซี้ด... น้องเต้ย อย่าทารุณกับพี่งี้ซีจ๊ะ มันเสียว...ซี้ด เสียวจ้ะ”

เต้ยไม่ฟังเสียง
เขาลงเม้มปากขบเม็ดมะยมเชื่อมและกวาดลิ้นสลับเต้าจนได้ยินพี่ติ่งหอบหายใจลั่นระคนค
รางไม่ขาดเสียงยิ่งทีห้วงหายใจหอบยิ่งถี่ และแล้ว
“ว้าย...” ร่างส่วนล่างของพี่ติ่งดิ้นกระตุกขึ้นลงไม่หยุด
หัวเข่าถ่างออกเกือบแผ่ราบแนบพื้นฟูก อวดหนั่นเนินพระศุกร์และร่องสวรรค์ที่ยังระริกเร้า
แล้ว พี่ติ่งก็หยุดนิ่ง เงียบ ได้ยินแต่เสียงลมหายใจรวยริน เต้ยโงหัวมองหน้าพี่ติ่ง
เห็นเธอหลับตาพริ้ม ชั่วครู่ พี่ติ่งผกหัวมองที่กลางลำตัวของเธอเอง เต้ยมองตาม และ
มองเลยนั้นไปอีก จึงเห็นว่า ทั้งเนินหน่าว ขาอ่อนทั้งสองข้าง นองเหมือนน้ำเพิ่งรดตัว
และผ้าเช็ดตัวที่หลุดลุ่ยบนที่นอนนั้นชุ่มโชก
“น้ำพุพี่ติ่ง?”
พี่ติ่งพยักหน้า สายตาฉายแววเหนียมอาย ลมหายใจยังแผ่วลึกเช่นเหนื่อยล้า
“ขอเต้ยดูโก๊ะ... หมีพี่ติ่งได้ไหมครับ เมื่อสายเห็นแต่ปลารุม ไม่เห็นอะไรเลย”
พี่ติ่งพยักหน้าอ่อนล้า
เต้ยขยับตัวลุกจากที่นอนมานั่งข้างเตียง ยกขาพี่ติ่งข้างหนึ่งข้ามหัวไปวางบนไหล่
เอาหน้าซบพับในขาอ่อน มือลูบขาที่วางแบะแผ่ราบแนบที่นอนไปจรดที่ซอกขาหนีบ
กอบเอาหยดน้ำมาเข้าปาก ท่ามกลางเสียงคราง “ฮือ... ฮูย...” ของพี่ติ่ง
“เต้ยขา... ธ... ธ... เธอจะทำอะไรพี่อีกคะ”
“เต้ยเปล่าทำครับ จะขอดูหมีพี่ติ่งเท่านั้น”
มือของเต้ย ข้างหนึ่งโอบขาพี่ติ่งบนไหล่ตัว อีกข้างอยู่หว่างขา
แต่ทั้งสองมือตอนนี้วางอยู่หน้าจานจ่าย นิ้วทั้งสิบสั่นไหว ด้วยไม่เคยเห็นของลับผู้หญิงมาก่อน
แล้วทั้งสองมือนั่นก็วางแหมะบนเนินพระศุกร์
หัวแม่โป้งกางอยู่ด้านล่างร่องสวรรค์ระหว่างกลีบพูอิ่มแฉะเยิ้ม
เต้ยเห็นแจ้งแล้วว่า ทำไมปลาสปามันจึงรุมตอดหมีของพี่ติ่ง
เพราะเขาเองตอนนี้ยังอยากตอดเสียเอง ไม่ว่าจะมุมไหน ตั้งแต่ฐานล่างจากฝีเย็บ
ไล่ขึ้นมาตามกลีบพูอวบงามคู่แฝด ที่ทอดเบียดชิดร่องสวรรค์ขึ้นไปจรดเหนือหัวหน่าว
ก่อนที่เต้ยจะทำอะไรต่อไป พี่ติ่งก็ลุกขึ้นนั่ง สองมือโอบหัวน้องเต้ยไว้
“พี่ว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องทำอะไรกับจ้อนของเต้ยแล้วละ” ว่าแล้วเธอก็จับมือเขา
ดึงให้ลุกขึ้นยืนข้างเตียง หันหน้าเข้าหาเธอซึ่งขยับมานั่งขอบเตียง
แล้วดึงกางเกงบอลพร้อมกับกางเกงในบิกินี่ลงไปพ้นหัวเข่า
จ้อนของเต้ยจึงเผยโฉมปฐมทัศน์ มันเด้งผงาดชี้ขึ้นไปกลางหว่างดวงตาของพี่ติ่ง
ตรงดิ่งไม่มีวอกแวกโน้มเอียงซ้ายหรือขวา ออกกลิ่นคาวหอม
พี่ติ่งจังงังกับขนาดสัณฐานของจ้อน เธอไม่รู้หรอก ว่ามันจะทำอะไรให้เธอได้ถึงไหน
เพราะเธอไม่เคย กระนั้น เธอก็รู้สึกสะดุ้งลึกในท้องน้อย อดไม่ได้
ต้องยื่นมือมากุมจ้อนของน้องชาย ซึ่งพาให้มันเต้นตุบ ๆ ในอุ้งมือของเธอ
“ดูสิ ยิ่งที อาการจ้อนของเธอยิ่งกำเริบ”
พี่ติ่งยิ้มซ่อนงำความฉงนกับอวัยวะเพศของผู้ชายอันแรกในชีวิตเธอ
แต่ธรรมชาติดูจะเป็นผู้กำหนดอะไร ๆ ให้เสมอ มือพี่ติ่งกำรอบฐานจ้อนไว้หลวม ๆ และทั้ง
ๆ ที่ไม่รู้จะทำอะไรกับมันดี มือของเธอเริ่มขยับรั้นเข้าออก ไม่ช้านิ้วของเธอรู้สึกมียางใสเหนียว
ๆ ปริ่มรอยผ่าปลายจ้อนทรงหมวกเห็ดฟางตูม เห็นมีเนื้อเยื่อหุ้มอยู่ เธอรูดปลายที่เปิด
มันก็รั้นลงจนพ้นขอบหมวก กลิ่นคาวเข้มขึ้น
พี่ติ่งไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับจ้อน หรือความรู้สึกของน้อง
นอกจากเสียงหายใจของเขาถี่ดังกว่าปกติ เธอลูบยางใสรูดหนังหุ้มปลายขึ้นลงสุดหมวกเห็ด
“อืม์... พี่ติ่งครับ เบาครับ เบา”

แล้วเต้ยก็พ่นน้ำข้นเหนียวออกมาเต็มมือพี่ติ่ง!!! ----