AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558

พรหม ลิขิตผิดคิวตอนที่ 17

พรหม ลิขิตผิดคิวตอนที่ 17

หลังจากงานวิวาห์ของแพรวากับธนธรณ์ผ่านไป วีรพลก็กลับมาทำงานตามปกติ ทั้งงานที่โรงพยาบาล งานบริษัทของพ่อเขาที่ได้รับเอกสารทุกสัปดาห์จากผ่องนภา เลขาฯของพ่อเขา กลับมาถึงบ้านก็มาดูงานสวนกล้วยไม้ซึ่งเริ่มเป็นรูปร่างอย่างที่เขาตั้งใจ อยากมี ตอนนี้วีรพลเป็นห่วงอยู่เรื่องหนึ่งคืออาการ
ป่วยของคนรักที่ทั้งหล่อนและ เพื่อนรักไม่ยอมปริปากบอกเลย ถามทีไรก็เลี่ยงไปทุกที เพียงแต่ตอนนี้ก็ไม่ได้กังวลมากนัก เพราะวิภาวรรณก็ไม่ได้มีอาการร้ายแรงอะไร มีแค่วิงเวียนศีรษะและก็เป็นลมบางครั้ง ตอนนี้เขาเลยต้องให้วิภาวรรณมาอยู่ด้วยทุกครั้งที่เขากลับมาบ้าน สรุปก็คือทุกวัน ตอนนี้วิภาวรรณบอกเขาว่างานที่ธนาคารหล่อนสะสางเกือบเรียบร้อยหมดแล้ว อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าถึงวันสิ้นเดือนหล่อนก็จะลาออกพร้อมกับแพรวามาอยู่ บ้านอย่างที่วีรพลขอร้อง ส่วนแพรวาก็จะไปอยู่ช่วยงานที่บ้านใหม่กับธนธรณ์ บ้านเรือนไทยสองหลังบัดนี้กลายเป็นพื้นที่บ้านอันเดียวกันเรียบร้อยไปแล้ว วิภาวรรณก็มาอยู่กับวีรพลอย่างเปิดเผยโดยที่คนงานในบ้านรู้กันหมด จะมีบางครั้งที่หล่อนจะไปนอนเรือนไทยของตน แต่ส่วนใหญ่ก็จะขลุกอยู่กับวีรพลตลอดยามที่เขาอยู่บ้าน วันหยุดวันนี้ก็เช่นกันถึงยามสายวิภาวรรณก็จะอยู่ห้องทำงานกับวีรพลช่วยกัน ดูเอกสารงานบริษัท ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน คนงานในบ้านต่างก็แยกย้ายกันทำงานโดยแทบจะไม่เข้าไปยุ่มยามที่ห้องทำงานของ วีรพล จะมีก็เพียงแต่ปิ่นเท่านั้นที่เข้าไป ปิ่นเองก็รู้ดีว่ามันเป็นห้องส่วนตัวของเจ้านายหากไม่จำเป็นหล่อนจะไม่เข้า ไปเลย เพราะทั้งคู่มักจะแอบมีบทกุ้กกิ้กหวานแหววกันอยู่บ่อยๆ วันนี้ทั้งคู่ก็อยู่ห้องทำงานเช่นเดิม เมื่อช่วยกันตรวจเช็คเอกสารจนหมดแล้วก็แสดงบทรักหวานแหววตามประสาคนรัก วิภาวรรณนั่งบนตักวีรพลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนบุหุ้มหนังเนื้อดีตัว ใหญ่ใกล้กับโต๊ะทำงาน หล่อนกอดคล้องคอเขาฟัดจูบกันอย่างดูดดื่ม วีรพลก็กอดร่างหล่อนไว้หลวมๆ สักพักก็ได้ยินเสียงเคาะประตู แต่ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน ประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามา

“อุ้ยตาย.....ขอโทษคะพี่พล พี่ภา แพรไม่ได้ตั้งใจ” แพรวาเข้ามาเห็นทั้งสองเล่นบทพระบทนางพอดีก็ตกตะลึง ละล่ำละลักขอโทษขอโพยแล้วก็รีบออกไปแล้วปิดประตู วีรพลผละจากวิภาวรรณก็เดินตามออกไป
“แพร....มาถึงนานแล้วเหรอ แล้วธรล่ะ ไม่มาด้วยเหรอ”
“มาคะพี่พล แต่พี่หมอเดินตามช่างไปดูเค้าทำสวนกล้วยไม้น่ะคะ แพรซื้อของทำกับข้าวมาด้วยเลยให้พี่ปิ่นเอาไปเก็บที่ครัวแล้วก็จะไปหาพี่ภา กับพี่พล ฮิฮิๆ.... ไม่นึกว่าจะสวีทหวานกันอยู่ มิน่าล่ะ พี่ปิ่นถึงไม่ยอมพาแพรเข้าไป แพรเลยเข้าไปเอง ฮิฮิๆๆ” แพรวาพูดหน้าระรื่นปนทะเล้นหยอกล้อวีรพล

“งั้นก็ไปหาพี่ภาเค้าสิ คงเดินขึ้นข้างบนไปแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่จะไปหาธรมัน ไปสิ แพร” วีรพลเขินๆ นิดหน่อยแต่ก็ยังตีหน้าขรึม แล้วก็เดินผละจากแพรวาเข้าไปในสวน แพรวาจึงเดินขึ้นไปชั้นบน หล่อนเดาออกว่าวิภาวรรณต้องไปที่ระเบียงที่โปรดของวีรพลแน่ๆ แล้วก็ไม่ผิด เห็นวิภาวรรณยืนหันหลังให้หล่อนอยู่ วิภาวรรณสวมกางเกงวอร์มขายาวสีดำ แต่แนบสัดส่วนโดยเฉพาะตั้งแต่เลยเข่าขึ้นไปยันสะโพก ขาเรียวยาวได้สัดส่วนของหล่อนทำให้ดูสูงยาวเป็นกอง เสื้อก็เป็นเสื้อยืดรัดรูปสีดำเช่นกันแขนยาวเลยข้อศอกไปหน่อย ผมดำขลับยาวตรงเกือบกลางหลัง มองจากข้างหลังแพรวาก็รู้สึกแปลกตาไปนิดที่ปกติวิภาวรรณจะแต่งตัวอยู่กับ บ้านด้วยชุดเสื้อกระโปรงหวานๆ หรือไม่ก็เสื้อกางเกงสีหวานๆ เย็นตา แต่คราวนี้หล่อนแต่งกายแบบกระชากแนวของตัวเองไปเลย ซึ่งนานๆ จะเห็นวิภาวรรณเปลี่ยนลุ้คซะที สงสัยยอมเปลี่ยนสไตล์เพื่อเอาใจหมอหนุ่มแน่ๆ มิน่าล่ะ วิภาวรรณถึงไม่ยอมแก่ตัวเลย ยังคงรูปเค้าความสวยสาวอยู่ได้จนอายุปูนนี้ หน้าหวานๆ ของหล่อนมันช่างอ่อนกว่าวัยซะจนมีคนเดาอายุผิดหมดเลย แพรวาเดินย่องเบาไปข้างหลังวิภาวรรณแล้วเข้าโอบกอดแน่น

“คุณภาครับ เนื้อตัวคุณภานุ่มนิ่มน่ากอดมากเลยครับ ฮิฮิ” แพรวาทำเสียงล้อเลียนทำยังกับว่าเป็นเสียงวีรพล วิภาวรรณสะดุ้งนิดๆ ทั้งๆ ที่หล่อนก็คาดเดาไว้แล้วว่าแพรวาต้องตามมาเย้าแหย่หล่อนแน่ๆ จากที่เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ หล่อนแกะแขนที่แพรวากอดกุมอยู่ออกแล้วก็หันกลับมา

“บ้าน่า แพร เล่นอะไรไม่รู้ จะเป็นแม่คนแล้วนะยังจะมาทำเล่นเป็นเด็กสาวไปได้” วิภาวรรณค้อนแพรวาขวับใหญ่ นัยน์ตาเหมือนจะทำดุ แต่มีประกายยิ้มอายๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะมุมปากหล่อนเหมือนอมยิ้มอยู่ตลอด

“แหม....ทำเป็นอาย ไม่ต้องอายแพรหรอก ดูสิหน้างี้แดงไปหมดแล้วค่า ฮิฮิๆ.... เอ...พี่ภาคะ แพรขอถามหน่อยเถอะ พี่ภาไม่เคยเปลี่ยนที่คาดผมเลยเหรอ เนี่ยแพรเห็นทีไรก็อันนี้ตลอดเลย มันมีความหมายสำคัญอะไรน้า....รู้สึกพี่ภาจะชอบอันนี้ซะเหลือเกิน”

“เอ่อ...ก็พลเค้าซื้อให้น่ะ ไม่อยากให้เขาเสียใจว่าเราไม่สนใจของที่เขาให้มาก็เลยใส่ตลอด ว่าแต่วันนี้มีอะไรจ๊ะถึงได้มาถึงนี่”

“แหม....ก็คิดถึงสิคะ อีกหน่อยเราก็คงจะไม่ค่อยได้พบหน้ากันแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไป วันนี้แพรซื้อของทำกับข้าวมาด้วย ให้พี่ปิ่นเอาไปเก็บที่ครัวแล้ว เดี๋ยวเราไปทำกับข้าวให้สองหนุ่มกับพวกคนงานทานกันนะคะพี่ภา”

“ก็ดีจ๊ะ วันนี้มีเพื่อนมาทานข้าวเพิ่มด้วย คงจะสนุกดี แล้วหมอธรไปไหนละจ๊ะ พี่ยังไม่เห็นหน้าเลย”

“พี่หมอเดินไปดูสวนกล้วยไม้น่ะคะ พี่พลก็ตามออกไปแล้ว แพรเลยเดินขึ้นมานี่ อาการพี่ภาเป็นยังไงบ้างคะ”

“ก็ยังเวียนหัวบางครั้งนะจ๊ะ แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงกว่านี้แล้ว”

“แพรว่าพี่ภาบอกพี่พลเค้าไปเถอะ ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน แพรว่าพี่พลจะดีใจด้วยซ้ำที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว ถึงพี่ภาปิดไปก็เท่านั้น ยิ่งนานเข้าอาการมันก็ยิ่งฟ้อง ถึงตอนนั้นพี่พลอาจจะโกรธก็ได้ที่ไม่ยอมบอก”

“แต่พี่ยังไม่มั่นใจนี่นา ถึงจะรู้ว่าตั้งท้องแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องเม็ดเลือดไม่สมบูรณ์อาจจะตั้งท้องไม่ครบกำหนด หรือบางทีอาจจะไม่มีโอกาสได้คลอดก็ได้ พี่กลัวจะเสียลูกไป ถึงตอนนั้นพลเองเค้าก็คงเสียใจมากแน่ๆ พี่อยากให้มั่นใจกว่านี้ว่าพี่จะสามารถมีลูกได้ตามปกตินะจ๊ะ”

“โธ่พี่ภา สามีเป็นหมอนะคะเรื่องอะไรที่เค้าจะยอมให้ภรรยาเป็นอะไรไปโดยที่ไม่คิดหาทาง รักษา พี่ภาบอกพี่พลไปเถอะจะได้คิดหาทางรักษา แพรคุยกับพี่หมอแล้วเค้าก็บอกว่า รักษาได้ไม่ยากหรอกถ้ารีบทำการรักษาแต่เนิ่นๆ พี่เค้าทั้งสองก็เก่งอยู่แล้วพี่ภาจะกลัวอะไรคะ แพรก็อยากให้พี่ภาหายนะคะ และก็ไม่อยากให้พี่พลเค้าต้องมากังวลสงสัย เพราะหลังๆ ที่เจอกันทีไรพี่พลเค้าถามตลอด เหมือนกับว่าไม่เชื่อผลการตรวจที่เราบอกเค้าไป พี่พลคงมองอาการพี่ภาออกแหละคะ นะคะอย่าปิดบังอีกเลย มีแต่จะทำให้มันแย่ลงเปล่าๆ”

“ก็ได้จ๊ะ ขอบใจนะจ๊ะที่แนะนำ ตอนนี้พลเค้าก็ไม่ค่อยเครียดแล้ว เดี๋ยวพี่จะบอกเค้าเอง เราจะได้สบายใจกัน ตกลงมั้ยจ๊ะ”

“คะ แพรดีใจจังจะได้เป็นคุณน้าแล้ว สาธุ...ขอให้หลานของแพรออกมาน่ารักเหมือนคุณพ่อคุณแม่ด้วยเถอะ แพรจะมาหยอกหลานเล่น แล้วพี่ภาจะไม่จัดงานแต่งงานเหรอคะ เดี๋ยวจะสายไปนะคะ ท้องโต จะเป็นเจ้าสาวคงไม่เหมาะแน่ๆ”

“พี่คิดว่าจะไม่จัดนะจ๊ะ เอาแค่จดทะเบียนแล้วก็เลี้ยงกันเฉพาะคนสนิทก็พอ ตอนนี้พลก็ยังไม่เคลียงานที่บริษัทได้หมด คงต้องรอไปอีกสักระยะน่ะจ๊ะ”


“ว้า....เสียดายจัง งานของแพร พี่ๆ ทั้งสองก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้ พอถึงคราวของพี่ๆ แพรกลับไม่ได้ตอบแทนเลย แต่ก็แล้วแต่พี่ภานะคะ ยังไงแพรก็ต้องมาร่วมให้ได้อยู่แล้ว อย่าลืมน้องคนนี้แล้วกัน”

“จ้า....พี่ไม่ลืมอยู่แล้ว แพรกับหมอธรคือคนแรกที่พี่จะบอกข่าวและเชิญเป็นแขกกิตติมศักดิ์เลยจ้า ไปเถอะ ไปทำกับข้าวกันนี่ก็จะ 5 โมงแล้ว”
สองสาวต่างวัยก็พากันไปที่ครัวช่วยกันจัดแจงอาหารกลางวันโดยมีปิ่นและประกาย เป็นตัวเสริมแรงอีกที สองหนุ่มเพื่อนซี้พากันเดินกลับมายังบ้าน นั่งคุยกันที่ห้องรับแขกด้านล่างตามประสาเพื่อนสนิท คุยกันได้สักพัก ก็เห็นวิภาวรรณพรวดพราดออกจากห้องครัวเข้าห้องน้ำไป แล้วได้ยินเสียงโอ้กอ้าก วีรพลกระโดดลุกจากโซฟาแทบจะทันทีไปหาวิภาวรรณ เห็นหล่อนนั่งคุกเข่าหน้าโถชักโครกที่เปรอะไปด้วยเศษอาหารที่หล่อนอาเจียน ออกมา กระจายไปรอบโถชักโครก สงสัยวิภาวรรณกลั้นไม่อยู่จริงๆ มันถึงได้เรี่ยราดขนาดนี้ หล่อนยังโก่งคอโอ้กอ้ากอยู่หลายที วีรพลเข้าไปลูบหลังให้ด้วยความเป็นห่วงระคนตกใจ พอเริ่มอาการดีขึ้นก็พยุงวิภาวรรณขึ้นบ้วนปากล้างปาก เรียกปิ่นเข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำ แล้วประคองวิภาวรรณไปนั่งที่โซฟารับแขก วิภาวรรณหน้าไร้สีเลือดนั่งคอพับซบกับแผ่นอกเขาอยู่ มีอาการหายใจแผ่วเบา

“เป็นอะไรครับ ..ภา.. ทำไมคราวนี้ถึงกับอ้วกออกมาเลย ดีขึ้นหรือยัง ประกาย..... ไปหายาหอมมาให้คุณภาเร้วววว....ภา...ภา....พูดกับผมสิ” เขาพูดเร็วปรื๋อด้วยความตกใจ เมื่อประกายเอายาดมมาให้ดม และชงยาหอมมาให้หล่อนดื่มจนเริ่มอาการดีขึ้น แต่ดวงตายังเนือยๆ ขอบตามีรื้นน้ำตาอยู่ แพรวาก็เข้ามานั่งใกล้ๆ บีบมือด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยปากบอกกับวีรพล
“พี่ภาเปิดดูหม้อต้มปลาที่กำลังเดือด ไอน้ำมันก็พุ่งเข้าหน้า แล้วพี่ภาก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปเลยคะ พี่พล”

“ภาเหม็นจนเวียนหัวเลยคะ พล มันมีอาการตั้งแต่เริ่มทำกับข้าวแล้วล่ะ รู้สึกแปลกๆ ที่ได้กลิ่นคาวปลา มันพาลจะคลื่นใส้ พอเปิดฝาหม้อได้กลิ่นมันก็กลั้นไม่อยู่” วิภาวรรณบอก สีหน้ายังมีอาการผะอืดผะอมอยู่ ปิ่นทำความสะอาดห้องน้ำเสร็จเข้ามาอยู่กับประกาย อยู่ไม่ห่าง พอได้ยินหล่อนพูดก็เบิกตาโพลงหันไปจ้องมองกับประกาย แล้วก็ร้องออกมาด้วยเสียงที่ตื่นเต้น

“อุ้ยตาย.....อาการแบบนี้....คุณหมอขา....คล้ายกับปิ่นตอนมีท้องเจ้ากล้วย เลยคะ เอ....ปิ่นคิดว่า....สงสัยคุณภาแพ้ท้องแน่ๆ คะ ขอโทษนะคะคุณภา...คุณหมอคะ ปิ่นเห็นคุณภาอ้วกมาสองหนแล้ว ตอนที่งานแต่งคุณแพรก็ครั้งนึง แต่คุณภาสั่งไม่ให้บอกคุณหมอน่ะคะ”

“หา.....!!!! ว่าอะไรนะ แพ้ท้องเหรอ!!!”

วีรพลทวนคำด้วยเสียงดังกว่าปกติ หันไปมองแพรวากับธนธรณ์ที่ตอนนี้ดูไม่ออกว่าปั้นหน้าอย่างไร วีรพลพอคิดได้ว่าวิภาวรรณแพ้ท้อง ก็ใจหายวูบ ดวงตาเริ่มมีแววกังวล ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาคาด ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเสียแล้ว ......คนท้องและมีโรคเลือดจาง........... มันเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากจะคิดต่อไปเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น....!!!!!

“ธร...!! ไหนแกบอกว่าภาเป็นแค่โรคเลือดจาง แกรู้ว่าภาท้อง แล้วทำไมไม่บอกชั้น แกปกปิดชั้นทำไม” แววตาวีรพลดุกร้าว หันไปถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงเกือบจะเป็นตะคอก

“เฮ่ยๆ....ใจเย็นๆ เพื่อน ชั้นไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้น”

“อย่าไปโทษหมอธรเลยคะพล ภาเป็นคนขอร้องหมอธรเองแหละคะ ภาว่าจะเป็นคนบอกพลเองเมื่อถึงเวลา” วิภาวรรณพูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน ก่อนที่ธนธรณ์จะได้พูดอธิบายอะไรต่อ

“แล้วทำไมต้องปิดผมด้วยล่ะ ทำไมต้องรอเวลา”

“คืองี้ พล........ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว.......พี่ภาเค้าท้องจริง แต่มีปัญหาเรื่องเลือดจาง ทีแรกชั้นก็กลัวว่ามันจะเป็นโรคธาลัสซีเมียซึ่งคนท้องอาจจะได้รับผลกระทบต่อ สุขภาพมากพอสมควร แกคงรู้นะว่ามันอาจร้ายแรงขนาดไหน อาจมีผลกระทบไปถึงเด็กในท้อง ดีไม่ดีอาจไม่มีโอกาสได้คลอดด้วยซ้ำ พี่ภาโชคดีที่ไม่ได้เป็นธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงเฉียบพลัน แต่เป็นอานีเมีย(โรคโลหิตจาง)ชนิดขาดธาตุเหล็กยังพอมีทางรักษา ยิ่งถ้าเลือดแกไม่เป็นธาลัสซีเมียที่เป็นพาหะด้วย ก็ไม่น่าห่วงมาก พี่ภากลัวว่าถ้าบอกแกแล้วแกจะต้องมาห่วงกังวลเพราะแกมีงานหลายเรื่องต้อง สะสางในตอนนั้น และพี่เค้าไม่อยากให้ความหวังแกแล้วเสียลูกไปต้องมาเสียใจทีหลัง เค้าอยากให้มั่นใจว่าจะตั้งท้องได้เป็นปกติก่อนถึงจะบอกกับแก ชั้นก็ติดต่อเพื่อนที่กรุงเทพฯ ให้มันเช็คผลเลือดพี่ภาอีกทีจนแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าไม่ใช่ธาลัสซี เมีย ไหนๆ แกก็รู้แล้ว ตอนนี้เราคงต้องตรวจเลือดแกด้วยแล้วล่ะ พี่ภาสบายใจได้แล้วนะครับ ผมมากับแพรวันนี้ก็ตั้งใจจะมาบอกพี่ภาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน”
ธนธรณ์อธิบายให้เพื่อนรักฟังและบอกวิภาวรรณไปในตัว วีรพลตระกองกอดวิภาวรรณแน่นจูบทั้งแก้มและหน้าผากต่อหน้าเพื่อนๆ และแม่บ้านโดยไม่ได้รู้สึกเขินอายแต่อย่างใด ทุกคนที่นั่งรายล้อมอยู่พลอยมีอาการตื้นตันไปด้วย ทีแรกเขารู้สึกจะโกรธทั้งเพื่อนและคนรัก แต่เมื่อฟังธนธรณ์อธิบายแล้วก็เข้าใจความรู้สึกของวิภาวรรณที่มีต่อเขา มิน่าละ... เมื่อวันได้รับผลตรวจวันนั้น หล่อนดูซีดๆ แต่ก็ฉอเลาะอ่อนหวานเอาใจเขาเป็นพิเศษเหมือนจะจงใจปกปิด ตอนนี้เขากลับรู้สึกดีใจเหมือนกับว่ามีอะไรมันพองเข้าไปจนคับอก

“ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ ภา เรื่องสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผมอยู่ทั้งคนยังไงผมก็ต้องรักษาภาให้หาย มันไม่ได้หมดสิ้นหนทางเลยทีเดียว เลือดผมก็ไม่ได้เป็นพาหะด้วย ผมมั่นใจ ผมเคยตรวจเลือดมาแล้ว แต่ผมก็ทำผิดพลาดไปนิดที่ไม่คิดจะตรวจเลือดของภาก่อนจะวางแผนมีลูกกัน แต่ตอนนี้ขอเพียงแค่ภาต้องหมั่นรักษาสุขภาพ ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับบดให้มากๆ ผักสีเขียว และก็วิตามินเสริม โอว....ถือว่าโชคดีมากๆ เลยนะ ที่ไม่ใช่ธาลัสซีเมีย ทีหลังมีอะไรอย่าปิดบังผมอีก เข้าใจมั้ย”

วิภาวรรณพยักหน้ารับทั้งๆ ที่ยังซบแนบอกเขาอยู่ มีเสียงสะอื้นออกมาเบาๆ
“ภากลัวจะมีปัญหาจนถึงขั้นแท้งลูก หรือลูกเป็นโรคบวมน้ำอย่างที่หมอธรบอกเมื่อตอนผลตรวจออกมา ภาไม่อยากให้พลเสียใจนี่คะ”

“โธ่ภา..... ยังไงก็เป็นลูกผม ผมไม่ยอมนิ่งเฉยอยู่แล้ว แล้วนี่ท้องกี่เดือนแล้วล่ะ”

“จะสี่เดือนแล้ว พล ชั้นขอโทษด้วยเพื่อน แต่ตอนนั้นชั้นก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์ ยังหวั่นๆ ว่าพี่ภาจะเป็นธาลัสซีเมีย แต่ตอนนี้เช็คจนแน่ใจแล้วตอนนี้ก็ค่อยเบาใจหน่อย ชั้นขอรับเป็นเคสของชั้นก็แล้วกัน มีอะไรก็จะบอกแกทุกอย่างถ้าชั้นทำคนเดียวไม่ได้ค่อยขอความช่วยเหลือ” วีรพลพยักหน้ารับทราบกับความมีน้ำใจช่วยเหลือของเพื่อนซี้ เขาถอนใจเฮือกใหญ่ทั้งโล่งอกและดีใจตื้นตันที่สุดในชีวิต สวมกอดวิภาวรรณแนบแน่น ความฝันที่จะสร้างครอบครัวของเขาเริ่มจะเป็นความจริงแล้ว ...................


หลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองจะได้เป็นพ่อคน วีรพลสุดแสนจะเห่ออย่างออกหน้าออกตา ไม่ว่าวิภาวรรณจะหยิบจับทำอะไรเป็นต้องห้ามไปหมด ทุกคนที่บ้านก็พากันดีใจไปด้วย โดยเฉพาะปิ่น แม่บ้านคนเก่าแก่ที่สุด เพราะมองออกตั้งนานแล้วว่าวีรพลกับวิภาวรรณต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เป็นแน่ และมั่นใจมากขึ้นเมื่อตอนที่วิภาวรรณบอกเรื่องวีรพลขอแต่งงาน จึงเฝ้ารอลุ้นข่าวดี ปิ่นอาสาทำงานบ้านแทนวิภาวรรณทุกอย่างที่วิภาวรรณเคยทำ เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของนายสาวใหญ่ ตอนนี้ที่บ้านวิภาวรรณและวีรพลก็ถือว่ามีไม่มากเหมือนเมื่อก่อนเพราะมีคนงาน มาเพิ่ม รวมแล้วก็ 7 คน ช่วยผ่อนแรงปิ่นกับโชคได้มาก ถึงแม้จะต้องรับหน้าที่ดูแลสวนอยู่ 2 แปลงก็ตาม ทุกวันวีรพลเลิกงานกลับมาบ้านก็ตรงรี่ไปหาวิภาวรรณก่อนทำเรื่องอื่นทุกครั้ง หมั่นเช็คอาการกับปิ่นที่คอยเฝ้าดูแลตลอด

“พลคะ ไม่ต้องห่วงหรอกคะ ภาก็พยายามดูแลตัวเองอย่างดีตามที่พลบอกทุกอย่างแล้ว ไม่เห็นจะต้องมาซักกับปิ่นเลย ภารู้คะว่าพลเป็นห่วงลูกด้วยไม่น้อยไปกว่าภา ยังไงภาจะไม่ยอมให้ลูกเราเป็นอะไรหรอกคะ”

“ก็มันอดห่วงไม่ได้นินา ลูกคนแรกของผม ใครจะไม่ห่วง”

“ค่า....คุณพ่อมือใหม่ แต่ออกจะเวอร์มากไปแล้วคะ จนภาอึดอัดแล้วนะ เนี่ยภาจะเป็นง่อยตายแล้วเนี่ย ทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะคุณพ่อจอมเวอร์เบอร์ห้าบ้าเห่อนี่แหละ ให้ภาอยู่เฉยๆ แบบนี้ลูกจะแข็งแรงได้ยังไง”

“โอเค...ง้านภาอยากทำอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่หนักจนเกินไปนะ พี่ปิ่นก็คอยดูภาให้ดีแล้วกัน ถ้าลูกเมียผมเป็นอะไร พี่ปิ่นเดือดร้อนแน่” เขาหันไปบอกปิ่นด้วยถ้อยคำที่เอาเรื่อง ต่างจากสีหน้าที่บ่งบอกถึงอาการพูดหยอกเล่น

“อุ้ย.....พี่ปิ่นรับรองคะ คุณหมอไม่ต้องห่วงหรอกค่า...”

“เอ้อ...ภา เสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ผมคงต้องไปกรุงเทพฯแล้วล่ะ ทิ้งไว้นานแล้ว ไม่รู้จะได้ความคืบหน้ายังไงบ้าง คุณพ่อก็โทรมาทวงแล้ว ท่านให้รีบไป เพราะท่านจะทำพินัยกรรมแล้ว ให้ผมไปพบกับคณะกรรมการบริษัท และจะประชุมพวกคณะกรรมการด้วย ภายในเดือนสองเดือนทุกอย่างคงจะเรียบร้อยแล้วล่ะ ยัยมีนจอมแก่นแกก็ต่อว่าผมยกใหญ่ที่ผิดสัญญา แต่อีกเดือนเดียวก็จะปิดเทอม ผมจะพาแกมาอยู่เป็นเพื่อนภาด้วยอีกคนนะ”

“คะ พลก็รีบสะสางให้มันเรียบร้อยเถอะคะ ค้างไว้นานเดี๋ยวจะเกิดเรื่องบานปลายกันใหญ่ เท่าที่ช่วยดูนะคะ ภาว่าคนที่ชื่ออรรถพลอะไรนั่น น่าจะอยู่เบื้องหลังแผนงานนี้แน่เลย คุณอรทัยอาจจะเป็นแค่หุ่นเชิดหรือร่วมกันทำอันนี้ภายังไม่ขอสรุป แต่แน่ใจเลยว่าอรรถพลคือหัวเรือเรื่องนี้ พลต้องหาคนที่เสียผลประโยชน์และรับผลกระทบมาช่วยแล้วล่ะ จะได้เป็นพยานมัดตัวเขา จะทำให้เรื่องพินัยกรรมมันง่ายขึ้น ทางนี้พลไม่ต้องห่วงหรอกคะ ภามีปิ่นและประกายคอยช่วยอยู่แล้ว และเรื่องสวนกล้วยไม้ภาจะดูแลให้” วีรพลมองตาภรรยาสุดที่รักอย่างซาบซึ้ง หากไม่มีหล่อนช่วยเค้าก็คงยังมืดแปดด้านอยู่ หาปมเรื่องฮุบหุ้นไม่พบแน่นอน เขาคงต้องรบกับศึกนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว 

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น