AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 99

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 99 “สัญญานแห่งการนับถอยหลัง” 

 “90 วันบนโลกมนุษย์...สำหรับเทพบดีเช่นเราช่างแสนสั้นประดุจลัดนิ้ว” “พญาหงส์กล่าวถูกต้องแล้ว...นั่นคือความจริงแห่งกฎธรรมชาติ” “พวกเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?” “ลบความทรงจำ” “แม้จะลบแต่สมควรเหลือบางสิ่งไว้” “มิเช่นนั้นจะเกิดความโกลาหล” “เหตุการณ์เมื่อยามเที่ยงวันจะยังคงอยู่แต่คำพยากรณ์จักเลือนหาย”) “ฮิๆๆๆๆๆ” “เด็กที่ไหนมาส่งเสียงหัวเราะกลางดึก?...อืม--...คงจะมาเล่นซนกันแหละ” (!?) “เฮ่ย!!!...บ้านเรามีเด็กที่ไหน?” ...ผมลุกออกจากเตียงทันทีเพราะบ้านนี้ไม่มีเด็กเล็กสักคนเดียวแล้วจะมาวิ่งเล่นกันได้ยังไงแถมดึกดื่นป่านนี้!?...พอเดินตามเสียงไปทางด้านหลังบ้านก็สังเกตเห็นกระรอกสองตัวนั่งอยู่บนรั้ว...ตัวหนึ่งสีขาวตัวหนึ่งสีดำมองผมตาแป๋วท่าทางเชื่องไม่น้อยทีเดียว... “น่ารัก...มาจากไหนนี่...ในครัวมีนมมั้ย?” (แต่ค่ำป่านนี้จะกินหรือ?) “หนูไม่กิน” “ไม่กิน” “!!!!” (กะ...กระรอกพูดได้?) “ลืมกัน

แล้วหรืออย่างไร?” “ลืมแล้วหรืออย่างไร?” “ลักษณะการพูดแบบนี้เคยได้ยินที่ไหน?...อ๋า!!...หนูหนึ่งกับหนูสองเหรอ?” ...ไม่อยากเชื่อว่ากระรอกน้อยสองตัวนี้คือหนูหนึ่งกับหนูสอง...น่าประหลาดใจเหลือเกินที่จำแลงร่างมาในโลกมนุษย์...แล้ว...พวกเธอมาทำอะไรกัน?... “หนูมาทำให้ความปรารถนาของพ่อกลายเป็นความจริง” “ความปรารถนาที่ต้องการจะครอบครองซึ่งทุกสิ่ง” “พวกหนูพูดอะไรพ่อไม่เข้าใจเลย?” “แค่ทำตามที่ใจของพ่อมุ่งหวัง” “แลผู้ใดที่ขัดขวางพ่อก็จงทำลายมัน” “ขจัดไปให้พ้นทางด้วยทุกวิธีที่มี” “หนูหนึ่งหนูสอง...พูดน่ากลัวจังเลย” “ยื่นมือทั้งสองมาสิเจ้าคะ” “มือ?” “หงายมือแลจงตั้งสมาธิ” “พ่อต้องการสิ่งใด...จงเอ่ยออกมา” “เอ่อ...พ่อไม่รู้ว่าจะอยากได้อะไร?” “การโกหกมิใช่เรื่องดีนะเจ้าคะ” “เอ๋?” “ทุกคนย่อมมีความฝัน...ความปรารถนา...มิว่าจะดีหรือชั่วด้วยกันทั้งนั้น” “พ่อจะพูดในเรื่องที่ไม่ดีออกไปได้หรือ?” “นั่นคือสิ่งที่พ่อต้องการให้เป็นไป...จงกล่าวออกมาเถิด” (เราต้องการอยู่เหนือทุกคนและไม่ยอมให้ใครมาดูถูก) “นึกในใจมิอาจสัมฤทธิ์ผลได้” “ขอจงเปล่งวาจาออกมา” “!!!!!” (อ่านใจเราได้จริงๆ) “พ่อต้องการที่จะทำตามใจตัวเองไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือไม่ดี...ถ้าพ่อต้องการอะไรแล้วไม่ว่าสิ่งไหนจะเป็นอะไรก็ตามพ่อต้องได้มันมาไว้ในกำมือและหากใครขัดขวางก็จะต้องถูกกำจัดให้พ้นทาง...จะไม่มีผู้ใดต่อต้านพ่อได้!!!!” “......................................................” “......................................................” (ทำไมเราดูเหมือนเป็นคนชั่วร้ายเหลือเกินและคำขอที่เห็นแก่ตัวอย่างนี้ลูกเราจะยอมรับฟังรึ?) “ความปรารถนานั้นจงสำเร็จทุกประการ” “ขอให้เป็นไปตามที่มุ่งหวัง” ........................................................................................................................................................... (“ช่างเป็นคำขอที่เอาแต่ได้และเทพแฝดก็อำนวยพรให้ตามนั้นเสียด้วย...พวกเจ้าจงดูสิ” “หมายความว่าหากคุณพ่อต้องการทำลายทุกสิ่งก็จะไม่มีใครขัดขวางได้เลย” “แต่หนูเชื่อว่าพ่อไม่ได้มีความคิดอย่างนั้นนะ” “หึๆๆ...พ่อเจ้าคิดแต่จะครอบครองอิสตรีที่หมายปองเท่านั้น” “หยุดพูดมากสักทีเถอะ...พ่อก็เป็นพ่อของเจ้าด้วย” “ฮึ!!” “เทพบดีฝาแฝดรู้ดีอยู่แล้วว่าคุณพ่อจะขออะไรจึงประสาทพรไปอย่างง่ายดาย” “แต่พ่อจะลืมทุกสิ่งไปใช่ไหมคะ?...ไม่ว่าจะเป็นคำพยากรณ์ของราชหงส์สุรัมภาหรือพรที่ได้รับจากสองเทพฝาแฝด” “ถูกต้อง...เมื่อคุณพ่อลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ก็จะจดจำอะไรไม่ได้อีก” “และถือเป็นสัญญาณแห่งการนับถอยหลัง...ข้าจะรอดูเป็นสักขีพยานด้วยล่ะกัน” “แม้คุณพ่อจะได้ครอบครองทุกสิ่งตามใจหวังแต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด” “การถูกหลอกลวง...หักหลังและทรยศ...แต่ว่านะ...ที่มันเกิดขึ้นก็เพราะเจ้านั่นเริ่มต้นก่อนไม่ใช่หรือ?”) .................................................................................................................................................... “ห้องตัวเองมีไม่นอนไปนอนที่ห้องรับแขก” “คือ...ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไปนอนที่โซฟาข้างล่างได้?” “เมื่อเช้าพี่ลงมาเห็นทีแรกนึกว่าขโมย...ไม่งั้นพี่จะปลุกให้รู้ตัวแล้วเหยียบซะ” “โหย--...พี่แคททำผมไม่ลงหรอก” “งั้นรึ?” “ก็พี่ใจดีที่สุดนี่” “ฮึ!...ต่อไปน่าจะต้องใจร้าย” “อ้าว?” “ใจดีแล้วทำตัวเจ้าชู้ชอบนอกลู่นอกทาง” “ฮะๆๆ” “ไม่ต้องหัวเราะและไม่ต้องมากอด!!” “โธ่~~...พี่ครับ” “หงึ!...หวานกันแต่เช้าเชียวนะ...อิจฉา~~” “เหมือนทำอะไรผิดแล้วมาอ้อน” “ใช่...พฤติกรรมไม่น่าไว้ใจ” (ยัยผีเอ้ย!!) “เอ้อตัวเอง!...พี่เซคมาแน่ะ” (มาทำอะไรแต่เช้า?) ...จากที่อารมณ์ดีๆพอรู้ว่าแขกมาเยือนเป็นใครก็กลายเป็นหงุดหงิดขึ้นมาทันที...ไม่รู้จะมาหาเรื่องหาราวอะไรกันอีกแต่เมื่อเช้ามันก็น่าแปลกจริงๆว่าเหตุใดผมจึงไปนอนที่โซฟาในห้องรับรองแขกได้!?...จะว่าละเมอมันก็ออกจะเกินไปหน่อย... (เราออกจากห้องตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไหร่งงชะมัดแถมยังจำอะไรไม่ได้เลย) “...แล้วยังไง?” “เธอบอกอยากจะคุยกับตัวเองอ่ะ” “แต่ฉันไม่มี” (ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องของญาติสาวผู้พี่สุดอันตรายคนนั้นหรอก...เอ--...เมื่อคืนวานพอเราดูทีวีเสร็จก็ไปนอน...จากนั้น...) “อย่าเอาแต่ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตจะดีกว่า” “ฮึ!!” “ฉันแค่มีเรื่องจะมาบอกเท่านั้น...เสร็จธุระก็จะกลับ” “............................................................” “ก็ไม่ใช่เป็นความลับอะไรหรอกนะ...บอล...เช้ามืดวันนี้คนไข้ที่ป่วยโรคไตของฉัน...หนูอารยา” (อ้อๆๆ...จำได้ว่าเมื่อวานตอนกลางวันเราพบกับเด็กผู้หญิงชื่ออารยาแต่เธอกลับแนะนำตัวว่าชื่อ “บุหรง” และกำลังป่วยหนัก...ต่อจากนั้น...ต่อจากนั้นพูดอะไรอีกนะ?) “เธอหยุดหายใจ” “!!!!” “หรือว่า!!!” “ฝน...ตอนนั้นพี่ตกใจมากถึงแม้จะเตรียมใจมาบ้างก็เถอะแต่เรื่องที่ไม่น่าเชื่อมันกลับเกิดขึ้น” “หมายความว่าไงครับ?” “ยังไม่ทันที่ฉันจะปั๊มหัวใจช่วยชีวิตหนูอารยาก็มีสติฟื้นขึ้นมาได้เอง” “ฮ้า!!!” “ใบหน้าของเธอค่อยๆหายดำคล้ำเนื่องจากอาการโรคไตและมีเรี่ยวแรงมากขึ้น” “นี่มันอะไรกันคะเนี่ย?” “เคสนี้ทำให้เจ้าหน้าที่แตกตื่นกันไปหมดเพราะว่า...” “อะไรครับ?” “เมื่อไปทำการตรวจไตของหนูอารยา...พบว่าไตของเธอเป็นปกติดีทุกอย่าง” “ปกติดี!?” “ทุกอย่าง!!!!” (ทั้งที่เธอหมดสติไปต่อหน้าเราเนี่ยน่ะเหรอ!?) “นั่นก็คือ...หนูอารยาหายเป็นปกติไม่มีอาการป่วยใดๆเลยยังไงล่ะ...ไตที่ใกล้จะหมดสภาพและถ้าไม่มีการเปลี่ยนเพื่อรักษา...หนูน้อยคนหนึ่งก็จะต้องเสียชีวิตในอีกไม่ช้าแต่แล้วปาฎิหารย์ก็บังเกิดขึ้น” “เป็นไปได้ยังไงกันคะ?” “ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับแต่ว่าเป็นเรื่องดีจริงๆที่หนูน้อยคนนั้นจะมีชีวิตยืนยาวต่อไป” “แกไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือ?” “จะรู้ได้ยังไงครับ?” ...เด็กผู้หญิงป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังและจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแต่แล้วกลับเกิดปาฎิหารย์ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งแต่ว่า...ทำไมผมรู้สึกว่าความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเธอถึงได้ขาดหายไปเป็นช่วงๆไม่ปะติดปะต่อกัน?... “เอาเถอะ...เธอสมควรจะต้องมีอนาคตที่สดใส...พี่ยินดีด้วยนะและต่อไปนี้ขอให้มีความสุขตลอดไป” “คำพูดของเจ้าฟังแล้วมิคล้ายว่าเป็นการสั่งเสียหรือ?” “!?” (พี่ม่อนก็มากับพี่เซคด้วย) “สั่งเสียอะไรกัน?...ผมไม่ได้อยากจะรีบตายนะ” “เช่นนั้นเราคงเข้าใจผิดไป...ขออภัยด้วย” “พี่มีธุระอะไรกับผมครับ?” “เราฟังเรื่องราวของเด็กน้อยอารยาแล้ว...น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก” “ครับ...มันช่างน่าเหลือเชื่อ” “เจ้าแค่คุยกับเธอจริงๆหรือ?” “จริงสิครับ...พี่คิดว่าผมจะทำอะไรอีก?” “..........................................................” (เจอหน้ากัน...แนะนำตัว...รู้อาการป่วย...อยู่เป็นเพื่อน...หมดสติ...ไม่...มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้อีกแต่...นึกไม่ออก) “พี่เซคคงจะประหลาดใจมากเลย” “ถูกต้อง...ตั้งแต่เป็นหมอจนถึงบัดนี้ท่านพี่มิเคยพบเจอเรื่องราวอันน่าพิศวงเช่นเรื่องของหนูอารยามาก่อนนางสนใจมากแลต้องการจะหาคำตอบของเรื่องนี้ให้ได้...เจ้าคือกุญแจสำคัญ” “ก็บอกไปแล้วว่าผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น...ต่อให้คาดคั้นหรือทรมานผมจนตายผมก็พูดไม่ได้เพราะผมไม่รู้” “..........................................................” “..........................................................” “เที่ยงวันนี้เจ้าว่างไหม?” “?” “ไปทานมื้อกลางวันด้วยกัน” (พี่ม่อนชวนเรากินข้าว!!!!...สงสัยฟ้าถล่มดินทลาย...หญิงสาวที่เกลียดขี้หน้าเราอย่างกับอะไรดีเนี่ยนะ!?) “ยังจะถามเรื่องหนูอารยาจากผมอีกเหรอ?...ก็บอกว่า” “เรายังมิได้บอกเจ้าว่าจะสนทนาเรื่องนั้น” “...ที่ไหนครับ?” “ไหมจะเป็นผู้บอกเจ้าเองและเราอยากให้เจ้ามาแต่ผู้เดียวนะ” ...เมื่อหญิงสาววัย 21 เดินจากไปด้วยอาการเหม่อลอยคุณไหมคนสนิทก็เข้ามาบอกผมที่ฟังแล้วช่างขัดแย้งกันสิ้นดีคือหล่อนพูดว่า... “เที่ยงตรงที่ร้านครัวอาหารป่า...แต่ดิฉันขอเตือนว่าอย่าไปจะดีกว่าเจ้าค่ะ” “นี่...พวกคุณเล่นตลกอะไรกันอยู่เนี่ย?” .................................................................................................................................................... “ให้ป้ารอมั้ย?” “ไม่ดีกว่าครับ” “ให้ไปส่งถึงหน้าร้านเลยก็ได้...ไม่เห็นจะต้องเดินไปเลย” “เอาน่ะป้า” “เสร็จแล้วก็โทรมา...ป้าจะพาไปเที่ยวต่อ” (รู้เลยว่า “พาไปเที่ยว” นี่คืออะไร?) ...ช่างเป็นร้านอาหารที่ให้บรรยากาศของชนบทอย่างแท้จริงและดูจะคล้ายบ้านคนทั่วไปมากกว่า...มองไปที่โต๊ะข้างในสุดเห็นพี่ม่อนกำลังนั่งดื่มอะไรสักอย่าง... “ไกลพอดูเหมือนกันนะครับ” “ร้านโปรดของเรา...เงียบสงบแลผู้คนมิพลุ่กพล่าน...เชิญนั่ง” (ชักจะเกร็งแล้วสิ...คุณไหมรินน้ำสีชาใส่แก้วที่เตรียมไว้ก่อนส่งให้เรา) “ขอบคุณครับ” “ดิฉันขอไปที่ห้องครัวนะเจ้าคะ” “..............................................................” (มันคือน้ำชาและดูเหมือนจะมีกลิ่นสมุนไพรหอมๆด้วย) “ชุ่มคอดีจัง” “เจ้าชอบหรือเปล่า?” “ครับ...ผมไม่ได้ดื่มชาแบบนี้บ่อยๆแต่ก็ชอบ” “ดีแล้ว” (ระหว่างที่เราดื่มชาพี่ม่อนมองมาตลอดเลย?...คือเธอไม่ได้ลืมตาหรอกแต่ก็รู้ว่ามองแถมด้วยท่าทีที่จริงจังอีกต่างหาก...เอ๋!?...นั่นหล่อนใส่ยกทรงหรือเปล่าหว่า?) “บางครั้งเจ้าก็แสดงอะไรออกมาชัดเจนดี” “หา?” “เราเชื่อแล้วว่าเจ้าชอบชาสมุนไพรนี้จริงๆเพราะสีหน้าของเจ้ามิได้ดูลำบากใจแม้แต่น้อย” “แต่คงจะไม่ได้ใส่อะไรไว้หรอกนะครับ” “หากเราทำเช่นนั้นจริงเจ้าก็แก้ไขอะไรมิได้เพราะเจ้าดื่มลงคอไปแล้ว...เหตุใดจึงเพิ่งพูดในเวลานี้เล่า?” “เพราะผมเชื่อมั่นว่าพี่จะไม่ทำ” “เจ้ามีความมั่นใจอย่างไร?” “ผมได้ยินเรื่องของพี่ม่อนมาก็พอสมควรนะ” “?” “พี่มีพลังจิตและมีความสามารถพิเศษมากมาย...ถ้าจะทำอะไรผมที่เป็นแค่คนธรรมดาก็ไม่จำเป็นต้องใช้กลอุบายอะไรเลย...แค่ใช้พลังจิตยกให้มีดลอยมาปักเข้าหัวใจผมก็จบแล้ว” “..........................................................” “ใช่มั้ยล่ะครับ?” “มิแปลกใจว่าเหตุใดท่านพี่สุรีย์พรรณแลน้องนางหยาดฝนถึงหลงใหลในตัวของเจ้า” (หลงใหลเชียวเรอะ!?) “เจ้ามิรู้หรืออย่างไร?” ...พอผมจะขยับปากพูดต่อแม่ครัวก็ยกอาหารมาเสริฟ์มีไข่เจียว,ผัดกะเพราที่ดูแล้วน่าจะเป็นเนื้อ,ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ,กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา...ล้วนแต่เป็นอาหารพื้นๆทั้งนั้น...คุณไหมตักข้าวสวยใส่จานของเราสองคนแล้วรินน้ำใส่แก้วให้ก่อนทำท่าจะลุกเดินไป... “คุณไหมไม่ทานด้วยหรือครับ?” “เชิญตามสบายเจ้าค่ะ” “มื้อนี้เราอยากทานข้าวกับน้องชายคนเดียวของตระกูลตามลำพัง...เจ้าคงจะมิขัดข้องอะไร” “ผมไม่ขัดข้องหรอกครับ” (มีความรู้สึกเหมือนญาติสาวผู้พี่จะ “โนบรา” ยะ...อย่ามองมากเดี๋ยวซวย) “ดี...ทานไปด้วยสนทนาไปด้วยล่ะกัน” (อร่อยแฮะ...ไม่แพ้ฝีมือฝนเลย) “เมื่อกี้” “?” “พี่ม่อนบอกว่าพี่แคทกับฝนหลงใหลในตัวผม” “ถูกต้อง...เราถามว่าเจ้ามิรู้หรือ?” “ผม...ไม่แน่ใจว่าหลงใหลถึงขั้นไหน?” “...ถึงขั้นที่ต้องการจะมีบุตรกับเจ้า” “!!!!!!” “ผู้หญิงด้วยกันย่อมมองออก...ทีนี้เจ้าจะตอบสนองความรู้สึกของพวกนางอย่างไร?” “...............................................................” “อีกทั้งหญิงสาวบ้านวิชานาถเล่า...เจ้าจะจัดการอย่างไร?” (ไม่ได้คุยเรื่องหนูอารยาแต่กลายเป็นเรื่องของเราล้วนๆ) “หรือว่าเจ้าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ?” “...............................................................” “เช่นนั้นเราฝากไว้ล่ะกัน...เข้าใจว่าเจ้ามิได้เตรียมตัวหรือคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน” (ฟังๆไปเหมือนด่าทางอ้อมว่าเราไม่มีหัวคิด) “ผมสามารถบอกคนอื่นได้มั้ยว่ามากินข้าวกับพี่?” “ตามแต่ใจเจ้า” “ยังไงก็มีอยู่สองคนที่ผมจะไม่บอกนั่นคืออ๋อมกับน้องป้อม” “ตามแต่ใจเจ้า” (ตอบเหมือนตุ๊กตาไขลาน) “เจ้า” “ครับ” “มีอะไรจะถามก็ถามมาอย่าอ้อมค้อม” “พี่ม่อน...ผมถามจริงๆเลยนะครับ” “..............................................................” “ถ้าผมออกไปจากตระกูล...ทุกคนคงจะดีใจใช่มั้ย?” “ทุกคนที่หมายถึงคือใคร?” “พี่เซค...พี่...และก็คนอื่นๆที่ไม่ชอบผม” “เจ้าอยากออกไปจริงๆหรือ?” “เมื่อก่อนน่ะใช่...ผมอยากตัดขาดจากบ้านและไม่ขอกลับไปอีก” “แลปัจจุบันเล่า?” “ผมอยากอยู่กับครอบครัว” “ครอบครัว” “พ่อและก็ญาติพี่น้องทุกคน...ผมต้องการใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขา” “............................................................” “และผมก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับใครทั้งนั้น” “...ท่านพี่หาได้คิดอย่างนี้ไม่” “แบบนั้นมันมีความสุขเหรอ?” “?” “เกลียดชังกันไปมาไม่รู้จักจบสิ้น...ผมเคยบอกคุณปู่ว่าจะตั้งใจเป็นผู้นำตระกูลที่ดีแต่หากมีเหตุที่ไม่สามารถเป็นผู้นำได้ผมก็ขออยู่กับครอบครัวอย่างคนธรรมดา...ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ต้องไปขัดแย้งหรือแก่งแย่งกับใคร” “ทว่า” “?” “หากมีผู้คิดร้ายกับเจ้า?” “ถ้าเลือกได้ผมจะไม่ขอตอบโต้แต่...” “แต่...” “อย่ามาทำร้ายคนที่ผมรัก...จะทำก็ขอให้เป็นผมคนเดียวพอ” “ศัตรูมิได้มีความคิดอ่อนหัดดังที่เจ้าเอ่ยมา...การมุ่งร้ายต่อผู้ใกล้ชิดคือสิ่งที่พวกเขาจะกระทำ” “งั้นก็ต้องข้ามศพผมไปก่อนครับ” “...........................................................” “...........................................................” “ได้เวลากลับแล้ว...เจ้าติดต่อท่านแม่ว่ามิต้องมารับดอก...เราจะไปส่งถึงบ้านเอง” “!!!!” (นี่ไม่ได้สนใจคำพูดของเราเลยหรือไง?...ตัดบทเอาซะดื้อๆ) “แต่เมื่อกี้มีประโยคหนึ่งที่เราฟังแล้วรู้สึกสนใจ” “?” “ข้ามศพเจ้าไปก่อนใช่ไหม?” “...................................................................” ...................................................................................................................................................... (เป็นไปตามที่คิด...ป้าเอ็มไม่ค่อยพอใจนักที่พี่ม่อนจะพาเราไปส่ง) “............................................................” “?” “............................................................” (หลับหรือเปล่านั่น?) “คุณหนูรองหลับเจ้าค่ะ...อย่ารบกวน” (ขึ้นรถมาไม่ทันไรก็หลับเนี่ยนะแถมเพิ่งอิ่มข้าวด้วย!?) “ดิฉันเตือนคุณเอกคเชนทร์แล้วว่าอย่ามา” “ถ้าผมไม่มาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นครับ?” “มิต้องสงสัย...คุณหนูรองจะโกรธมากเจ้าค่ะ” “นั่นไง!!...ผมมีทางเลือกเหรอ?” “สุภาพชนมิสมควรผิดนัดหมาย...คุณเอกคเชนทร์ทำถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ” “อืม” (ละเมอหรือยังไม่หลับกันแน่หว่า?) “ฝันเจ้าค่ะ” “เฮอ!?” ...แปลกคนชะมัดเลยวุ้ยพี่สาวผมคนนี้!!...กินข้าวกลางวันไม่ทันไรนอนหลับปุ๋ยแถมยังฝันอีกต่างหาก...อุ!!!...ตาของผมนี่ก็ดีเหลือเกินที่เหลือบไปเห็นกางเกงในของพี่ม่อนที่ซ่อนเร้นอยู่ในกระโปรงสั้นรัดรูปสีดำ...มิหนำซ้ำเจ้าหล่อนไม่ได้สวมยกทรงจริงๆด้วยเพราะคราวนี้เห็นหัวนมดันเสื้อออกมาชัดแจ๋วเลย... (กางเกงในสีขาวบริสุทธิ์เหมือนผ้าคลุมหลังของสาวเจ้า) “.............................................................” (แต่นั่งข้างคนขับนี่เหลียวมองมากไม่ได้แฮะ) “อยากจะคอหักหรืออย่างไรเจ้าคะ?” “!!!” “ผู้ชายก็เป็นซะอย่างนี้...มิต้องหันมองคุณหนูรองนะเจ้าคะ!!” (ดันรู้อีก) “งั้นก็ปลุกพี่ม่อนสิครับ” “มิสมควรอย่างยิ่ง...คุณหนูรองเวลาตื่นนอนเพราะถูกรบกวนจะอารมณ์หงุดหงิดแลอาจทำร้ายผู้อื่นได้” “................................................................” “แลจะฉุนเฉียวมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามีชายแอบมองกางเกงชั้นในของเธอ” “คุณไหมอย่าบอกพี่ม่อนนะครับ...ผมไม่ได้ตั้งใจ” “.................................................................” “นะครับ” “ดิฉันมิพูดดอกเจ้าค่ะเพราะหากคุณเอกคเชนทร์เป็นอะไรไปตอนนี้นางพญาเสือต้องมิละเว้นคุณหนูรองเป็นแน่” “.................................................................” “แต่อย่างไรเวลาอยู่ต่อหน้าคุณหนูรองก็อย่าทำกิริยารุ่มร่ามมิเหมาะสมนะเจ้าคะ” “สัญญาครับ” “แลดิฉันก็จะขอร้องมิให้คุณเอกคเชนทร์บอกผู้ใดว่ามาทานข้าวกับคุณหนูรองในวันนี้ด้วยเช่นกันเพราะมิอยากให้เกิดเรื่องใหญ่” (แต่ป้าเอ็มพาเรามานะ!?) “ได้ครับ” “เช่นนั้นก็ถือว่าหายกันเจ้าค่ะ” “หา?” (หายกัน!?) ...................................................................................................................................................... ...เอาเข้าจริงผมไม่ได้มีความคิดจะบอกพี่น้องสองเสือเลยสักนิดแต่ดันรู้กันเสียนี่!!...ป้าเอ็มต้องเป็นคนบอกแน่ๆเลย... “ไปกินข้าวกับคนที่ฉันเกลียดเนี่ยนะ?” “พี่ชายใจร้ายไม่บอกกันเลยสักคำ!!...รู้มั้ยคะว่ามันอันตรายแค่ไหน?” “พี่รู้...” “แล้วยังจะไปพบมันเรอะ?” “ใจเย็นก่อน...ฉันแค่ไปให้จบๆ” “คิดว่าจะจบมั้ย?” “ฉันไม่อะไรกับพี่ม่อนหรอกน่า--...เธอไม่ใช่สเปคอยู่แล้ว” “ขอให้จริงเหอะ!!...นายจะไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนฉันไม่ว่าแต่อย่าไปข้องเกี่ยวกับศรมุกดา...แค่ยัยนี่คนเดียวเท่านั้น!!!” “อ๋อม...เธอพูดบ้าอะไร?” “ฉันไม่ได้บ้าหรือไร้เหตุผลนะโว้ย!!!” “เพราะพี่ชายจะจบชีวิตยังไงล่ะ...ลำพังแค่ไปมีอะไรกับแม่เอ็มก็มีโทษถึงตายอยู่แล้ว” “ใช่...แค่ศรมุกดาสะกดจิตนายได้ความลับก็แตก...ไม่มีคำถามไหนที่นายจะไม่ตอบเมื่อตกอยู่ใต้อำนาจของมัน” “แต่ดีนะที่เธอยังไม่สงสัย” “หรือมันคิดไว้แต่สบโอกาสลงมือก็ไม่รู้” “.............................................................” “จำไว้ให้ดีๆ...อย่าไปพบหรือคุยกับยัยนี่ตามลำพังเด็ดขาดถ้ายังรักชีวิตตัวเองอยู่” “เหตุใดเอกคเชนทร์จะพบกับฉันมิได้?” “หือ?” “พวกเจ้าสามคนมีสิ่งใดปกปิดอยู่รึ?” “ว้ากกกกกกก~~” ...ทางนี้ตกใจกว่าว้อย!!!...นอกหน้าต่างชั้นสองปรากฏร่างของพี่ม่อนยืนกอดอก...เดี๋ยวสิ!!!!...ตรงนั้นมันไม่มีระเบียงยื่นมานะแล้วเธอไปอยู่ได้ยังไงและที่สำคัญได้ยินอะไรไปถึงไหนบ้างก็ไม่รู้!?... (หญิงสาววัย 21 ยังแต่งกายชุดเดิมที่ไปกินข้าวกลางวันกับเรา...ผ้าคลุมสีขาวปลิวไสวยามต้องลมเวลาพลบค่ำนั่นเหตุใดเห็นแล้วจึงมีความรู้สึกที่แปลกอย่างบอกไม่ถูกกันนะ?) “หล่อนเป็นผีไปแล้วหรือไงวะถึงได้มาลอยอยู่ที่นี่?” “น่ากลัวที่สุด!!!” “ผีที่ไหนจะหน้าตาสวยเช่นนี้?” (!?) “แหวะ!!!...ฉันจะอ้วก~~...ชมตัวเองได้หน้าตาเฉย...ไปขอส่วนบุญที่อื่นเลยไป๊ไม่ต้องมาล่องลอยอยู่แถวนี้!!” (แต่ก็สวยจริงๆนะ) “เธอสั่งฉันมิได้” “เอาซี่~~...ถ้าไม่ยอมไปผุดไปเกิดเดี๋ยวฉันจะสาดน้ำมนต์ไล่เอง!!” “!?” ...ว่าแล้วอ๋อมก็กระโจนออกนอกหน้าต่าง!?...ถึงข้างล่างตรงนั้นจะเป็นสระว่ายน้ำแต่ก็อันตรายอยู่ดีและที่ญาติสาวผู้พี่จอมห่ามพุ่งออกไปจะสูงแค่สองชั้นก็เถอะ...ผมกับป้อมรีบวิ่งไปดูก็เห็นทั้งสองสาวตกลงไปในสระว่ายน้ำสภาพเปียกปอนดูไม่ได้... “สมน้ำหน้าแก--...ตกลงมาด้วยกันนี่ล่ะ!!!” “ฮึ!!” “เสียงเอะอะครึกโครมอะไรกัน?...เอ๋?...หนูม่อนกับหนูอ๋อมทำไมไปอยู่ในสระน้ำอย่างนั้นล่ะ?” “พี่อ๋อม!?” “น้องม่อน!!” (ฝนกับพี่แคทรีบออกไปช่วยทั้งสองคนแต่อ๋อมปฎิเสธแล้วกระโดดขึ้นมาได้เอง) “มันเกิดเรื่องอะไรกันอีกห๊ะ?...บอกแม่มา!!” “คือฉัน” “ท่านแม่เจ้าคะ...ลูกจะมาหาท่านแม่แต่โดนรังแก” “หนอย~~” “พ่อบอลเล่ามาซิ” “เอ่อ--...ผมก็มองไม่ทันครับ” “คืองี้น่ะแม่...พี่อ๋อมโดดออกไปกะจับตัวพี่ม่อนแต่พี่ม่อนจะหลบ” “โดด...จากที่ไหน?” “ชั้นสองหน้าต่างห้องบอล” “พี่ม่อนไปทำอะไรตรงนั้นคะ?” “มันจะมาแอบดูน่ะสิ” “แล้วไง?” “พอฉันไล่ก็ไม่ไปเลยจะสั่งสอน...หึ!!...ยัยนี่คิดว่าหลบพ้นแต่ฉันมือไวจับผ้าคลุมทันก็เลยพามันร่วงลงสระน้ำด้วยกัน...ฮ่าๆๆๆๆ” “แม่ไม่ขำด้วยนะ!!!...ทั้งสองคนนี่ทำแต่เรื่องบ้าๆบอๆให้แม่กลุ้มใจอยู่เรื่อย” “โธ่แม่~~...ยัยนี่หาเรื่องพวกฉันก่อน...มันมายั่วบอลด้วย!!” “ยั่วอะไรกัน?” “เราสามคนคุยกันอยู่ดีๆแต่ยัยนี่โผล่มาจากไหนไม่รู้คิดจะมาแอบฟัง...เสียมารยาทมากๆ...ใช่มั้ยบอล?” “..........................................................” “มองอะไรของนาย?” “กรี๊ด~~...พี่ม่อนรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลยนะ...เห็นนมหมดแล้ว!!” “มายั่วบอลจริงๆด้วยแม่เห็นมั้ย?...ยัยซกมกแอบจิตหน้าไม่อายนี่ยกทรงก็ไม่ใส่...ทุเรศ!!!” “อีตาบ้านี่ก็มองตาไม่กระพริบเชียว!!...เจ๊พาพี่ม่อนเข้าบ้านเร็ว” “อืม--” “โอ๊ย!!!” “อะไรอีกล่ะ?” (โดนฝนกับพี่แคทเหยียบตีนกับหยิกที่เอว) “พี่เอ็มจะต้องจัดการอะไรสักอย่างแล้วล่ะนะ” “ปวดหัว...ลูกสาวฉันแต่ละคน” ............................................................................................

3 ความคิดเห็น :