AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 98

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 98 “ผู้ไม่เคยรักใครอย่างแท้จริง!?” 

“ทำนายโชคชะตา?” “ลองดูมั้ย?” “นั่นเด็กไม่ใช่รึไง?” “คงเป็นลูกหมอดูมานั่งเฝ้าร้านแทนมั้ง?” “แล้วเครื่องมือหนังสือตำราอะไรก็ไม่เห็นมีสักอย่าง” “แต่ไม่เห็นมีใครอีกเลย...กูว่าใช่เด็กคนนั้น” “เอาจริงเรอะ?” “ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร...ให้ทำนายดูว่าช่วงนี้เราจะทำมาค้าขึ้นหรือเปล่าน่าจะดี” “โจรย่องเบาเนี่ยนะ?...มึงก็พูดให้ดูดี” “เหอะน่า--...หนู...ที่นี่รับดูดวงใช่หรือเปล่าจ๊ะ?” “...........................................................” “ทำไมต้องเอาผ้าปิดหัวด้วยวะนั่น?” “ชี่!!” “ท่านเห็นเรา?” “ก็เห็นน่ะสิ...หนูถามแปลกๆนะ” “หามิได้...เราเพียงจะบอกว่าท่านทั้งสองนี้โชคดีแล้ว” “...โชคดี?” “เมื่อท่านทั้งสองเห็นเราก็ถือว่ามีวาสนาอย่างไรเล่า” “พูดแปลกแฮะเด็กคนนี้...ตกลงหนูคือหมอดูใช่มั้ย?”

“..........................................................” “เฮ่ย!!...ข้าว่าโดนเด็กหลอกเล่นแล้วว่ะ...ไปกันเหอะเสียเวลา” “เดี๋ยวๆ” “การที่เราได้มาพบกันนับเป็นโชคชะตาที่มิอาจจะบังเกิดขึ้นอีกในกาลต่อจากนี้เช่นนั้นจงให้เราทำนายหนทางแห่งชีวิตของพวกท่านเถิด” “ได้เลยๆ...แล้วจะทำนายยังไง?” “การทำนายของเราคือท่านจงถามสิ่งที่ต้องการรู้แลเราจะพยากรณ์เหตุการณ์เบื้องหน้า” “โอ้!!...น่าสนุกดี...ถ้าแม่นจริงรับรองจะจ่ายให้อย่างงามเลย” “มึงก็เล่นกับเด็กนี่ได้” “เอาน่ะๆ...ถือว่าฆ่าเวลา” “เชิญ” “ต่อไปเราจะมีเงินทองใช้มากกว่าที่มีอยู่นี้มั้ย?” “หามิได้...ท่านจะมีเพียงเท่านี้” “อ้าว!?” “ทำไมล่ะ?” “เพราะท่านจักมิต้องทำอะไรอีกต่อไป” “มะ...หมายความว่ายังไง?” “ก็ท่านมีทรัพย์สินแก้วแหวนเงินทองมากมายแล้วมิใช่หรือ?” “นี่...นี่หนูรู้ได้ยังไง?” “ถูกต้องใช่หรือไม่?” “ถูก...ใช่เลย” “ทว่าท่านมิอาจใช้ได้หมดดอก” “ฮะๆๆๆ...เพราะมันมากมายไงเล่า” “กูถามมั่ง...แล้วครอบครัวของพี่ล่ะจะเป็นยังไง?” “แม้หาได้มีท่านพวกเขาก็ดำรงชีวิตอยู่ได้...อย่าวิตกไปเลย” “ฟังแล้วมันทะแม่งๆยังไงไม่รู้” “คิดมากไปได้ไม่เห็นจะมีอะไรนี่หว่า!!...หนูจ๋า--...แล้วต่อไปการ...อ่า--...การทำมาค้าขายของพี่จะราบรื่นดีหรือเปล่า?” “เราตอบคำถามนี้แล้ว...ท่านจะทำงานด้วยเหตุใดอีกเล่า?” “อืม--...ถ้าพูดแบบนั้น” “เอ่อ--...แล้ว...” “เมื่อใดที่ท่านจะหยุดประกอบอาชีพแล้วไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข?” “ระ...รู้ได้ยังไงว่าพี่จะถาม?” “รู้ได้อย่างไรท่านมิต้องใส่ใจดอกแต่เราจะตอบให้...อีกมินานต่อจากนี้ท่านจะหาได้มีเรื่องต้องกังวลต่อไปไม่” “........................................................” “จงจากโลกนี้ไปอย่างหมดห่วงเถิด” “เมื่อกี้หนูว่าอะไรนะ?” “เราพูดว่าท่านทั้งสองถามพอแล้ว” “เอ๊ะเดี๋ยวสิ!!!...พี่ยังถามไม่...” “........................................................” “นึกไม่ออกว่ะว่าจะถามอะไร?” “กูก็ด้วย” “อะ...อ้าว!?...หนูน้อยคนนั้นหายไปไหนวะ?” “นั่นสิ” “ว่าจะให้ตังค์ไปกินขนมสักหน่อย” “ทายแม่นเหมือนกันนี่” “อืม--...รู้ด้วยว่าเรามีเงินเยอะ” “แต่เป็นเงินที่เราขโมยของแล้วเอาไปขาย” “พวกคุณ” “หืม?” “คุณสมพรและคุณชลิตใช่มั้ย?” “ตำรวจ!!!” “เหี้ยแล้วไง!!!!” “รีบจับสองคนนั้น!!!” “บ้าเอ้ย!!...ตำรวจมาตามเราได้ไงวะ?” “กูไม่ยอมให้จับหรอกโว้ย!!!” “หาได้มีทางหนีพ้นไม่...ชะตาชีวิตของท่านทั้งสองถูกลิขิตไว้แล้ว” “!?” “จักต้องถึงแก่ความตายเมื่อฟังคำพยากรณ์ของเราจบสิ้น” “เฮ่ยๆๆๆ...คนถูกรถชน!!!!” “โอ้โฮคาที่!!...อีกคนมุดอยู่ใต้ท้องโดนลากไปโน่น” “มันวิ่งข้ามถนนมาไม่ดูเล้ย!!!...รถที่ไหนจะไปเบรกทัน” “อื้อหือ--...แหวะ!!...ดูไม่ได้ๆ” “เขาว่าสองคนนี้เป็นตีนแมวว่ะ...นี่ก็วิ่งหนีตำรวจจนโดนรถชนนะ” “ทรัพย์สินเงินทองล้วนแต่เป็นของนอกกาย...ตายแล้วก็มิอาจเอาติดตัวไปได้” “งั้นก็สาสมแล้ว” “ครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังแม้โศกเศร้าเสียใจแต่พวกเขาก็จะต้องมีชีวิตต่อไป” “หมดเวรหมดกรรม” “ใช่...มิต้องทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างหวาดระแวงใดๆอีกแล้ว” “ช่างเถอะยังไงก็ตายโหงไปแล้ว...คนชั่วตายไปสองแผ่นดินจะได้สูงขึ้น” “เออ!!...มีคนบอกว่าเห็นสองคนนี้ยืนคุยกับใครไม่รู้ก่อนจะถูกรถชน” “ผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหคทั่วหล้า...พญาหงส์ผู้ไร้ซึ่งจิตสำนึก...เทพบดีแห่งการหยั่งรู้...ราชหงส์สุรัมภาคือนามของเรา!!!!” ..................................................................................................................................... “เลิกตามตื้อซะที!” “ไม่!!...จะตามจนกว่าพี่จะหายงอนผม” “ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น...มีแต่จะน่ารำคาญ” “ผมทำเรื่องร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?” “ถามตัวเองจะดีกว่า...ทำมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว” ...ลูกพี่ลูกน้องสาววัย 22 ยังไม่หายโกรธผมจากคดีล่าสุดที่ไปเข้าโรงแรมหรูกับอ๋อมแต่วันนี้ยังดีที่พูดด้วยซึ่งผิดจากเมื่อวานที่แม้แต่หน้าญาติสาวผู้พี่ก็ยังไม่แลกันสักนิด... “นายนี่ชอบทำให้ผู้หญิงโกรธอยู่เรื่อยแต่อย่างว่าแหละนะ...เป็นใครก็โกรธทั้งนั้น” “.............................................................” “ไม่คิดจะแก้ตัวสักหน่อยเหรอ?” “แบบนั้นจะยิ่งแย่ไปใหญ่” “ดีที่คิดได้...แต่...” “อุ๊บ!!” (อานิภากางมือปิดหน้าพร้อมกับแค่นหัวเราะในลำคอ) “ฮึๆๆ...ทำให้ลูกสาวอาโมโหบ่อยๆเดี๋ยวได้ซวยหรอก!!!” “ผมคงไม่โดนซ้อมจนช้ำในตายน่า” “ยังจะมาพูดดีรึ?” “แหะๆ” “เฮ่ย!?...หัวเราะอะไร?...นี่อาก็โกรธอยู่เฟ้ย!!...งั้นกลางวันนายไม่ต้องกินข้าว” “อ้าวๆ...ไหงงั้นล่ะ?” ....................................................................................................................................................... (“...เราทอดไข่กินเองก็ได้” (แต่จะเผื่ออาด้วยดีมั้ยนะ?) ...ไม่ได้ลงมือทำเองนานมากๆเพราะเรื่องการเข้าครัวจะเป็นหน้าที่ของฝนทุกครั้ง...ยังดีที่มือไม่ตก... อายังนอนอยู่ในห้องฝนหรือเปล่า?...ใกล้จะเที่ยงแล้วไปปลุกดีกว่า... “เที่ยงแล้วนะครับ...อื๋อ?” “.......................................................” “ไม่อยู่?” “มีอะไร?...อากำลังจะอาบน้ำ” “ผมจะชวนไปกินข้าว” “นายทำอะไร?” “ไข่เจียวกุ้งสับครับ” “โฮ่~~..ทำเป็นด้วยแฮะ” “อา--...ผมก็ไม่ใช่คุณชายมาจากที่ไหนนะครับ” “เรอะ!!...เออๆ...เดี๋ยวตามไป” “........................................................” (ความคิดอันชั่วช้าแล่นเข้ามาในสมองฉับพลันเชียวนะเจ้าเอกคเชนทร์) “........................................................” (แอบดูอาสาวคนสวยอาบน้ำดีกว่า...วันก่อนเราพลาดไป) “หือ?” (ยกทรงกับกางเกงในของอานิภา) “........................................................” (ทำไมมันบางอย่างนี้แต่หอมมากเลย!?) “วางเดี๋ยวนี้--...เจ้าเด็กลามก!!!” “หวา!!!” “นี่แน่ะๆๆ” “โอ้ย~~...เปียกหมดแล้ว” “สมน้ำหน้า!!!...ใครใช้ให้หยิบเล่า?...เด็กนี่--” ...เล่นเป็นเด็กๆเลย...อานิภาเปิดประตูในสภาพนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกถือฝักบัวฉีดใส่ผมจนตัวเปียกไปหมดและยังทำให้ภายในห้องเปียกไปด้วย... “ออกไปนะ!!!...ไม่งั้นอาจะฟ้องแคทกับฝนด้วย” “ฟ้องที่ผมแอบดูอาน่ะเหรอ” “เออสิ!!...คราวก่อนก็จะแอบดูทีนึงแล้วทีนี้ยังจะ...” “?” (ทำไมหยุด?) “หยิบกางเกงในอาจะเอามาสำเร็จความใคร่แบบโจรโรคจิตในข่าวใช่มั้ยห๊ะ?” “ไม่ใช่สักหน่อย” “ฮึๆๆ...เจตนาของนายมันไม่บริสุทธิ์แล้ว...คิดจะทำมิดีมิร้ายกับอาสิท่า?” “กับป้าเอ็มผมยังเอามาแล้วเลยครับ” “แน่ละ!!...แล้วมีอะไรอีกที่นายจะไม่กล้า?” “...........................................................” “อาไม่อยากจะเจริญรอยตามพี่เอ็มที่มีอะไรกับหลานชายแท้ๆของตัวเองหรอกจะบอกให้” “.............................................................” ...อานิภาเปิดประตูเดินออกมานั่งที่เตียงก่อนจะพูดด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความจริงจังอย่างที่ไม่ค่อยเผยให้เห็นบ่อยครั้งนักจากนั้นก็สั่งให้ผมนั่งลง... “นั่ง” “ครับ” “เฮอะ!!...นิดหน่อยก็จะเอานะนาย...ไม่มีทางเห็นหรอกย่ะ!!!” (นั่งไขว่ห้างซะเลย...แหม~~...รู้ทันซะอีก) “ไม่รู้ว่าพี่เอ็มคิดยังไงถึงมีสัมพันธ์กับชายคนอื่นและโดยเฉพาะชายคนนั้นคือหลานแท้ๆของเธอเอง...บอล...อาถามจริงๆนะและขอให้ตอบมาตรงๆตามความรู้สึกด้วย” “ครับ” “เวลาที่บอล...ร่วมเพศกับพี่เอ็ม...มีความสุขมากมั้ย?” “เอ่อ...” “พูดมาเถอะ” “ครับ...มีความสุขมากครับ” “ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยหรือ?...แบบว่านี่ป้าแท้ๆของเรานะอะไรประมาณนี้” “คือ...มันก็มีบ้างแต่เวลานั้นใครจะยั้งใจไหวล่ะครับ?” “จริงน่ะนะ...มันไม่เข้าใครออกใคร” “อาครับ” “หือ?” “ผมก็มีอะไรจะถามและอยากให้อาตอบมาตามตรงเหมือนกัน” “ฮะ...มีคำถามด้วยเรอะ?...อ่ะ!...ถามมา” “อามีอะไรกับอาสนบ่อยมั้ย?” “ช่างกล้าถาม” “............................................................” “...ไม่มีอะไรกันเกือบสี่เดือนแล้ว” “โอ้โห!!...อัดอั้นแย่--...อาเองก็ยังสาวขนาดนี้” “หืมๆ...อาพอจะรู้จุดประสงค์ของเธออยู่” “............................................................” “แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าอาไม่อยากเจริญรอยตามพี่เอ็มเพราะที่เธอทำทั้งหมดเพราะต้องการจะเอาชนะพี่กวางซึ่งอามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว” “สี่เดือน” “?” “เป็นเวลาที่นานนะครับ” “...อืม” “ถ้าเป็นผมทนไม่ไหวหรอก...แค่สามวันก็เต็มที่แล้วต้องหาที่ลง” “นั่นเพราะนายมันบ้ากาม” “ไม่ใช่” “หมกมุ่น” “เรื่องปกติธรรมดาของวัยรุ่นต่างหากครับ” “ยังจะเถียง!!” “ก็จริงนี่ครับ” “ฮะๆๆๆๆ...ฮ่าๆๆ...เรื่องนี้นายไม่ยอมรับเลยให้ตาย--” “...............................................................” “ลงไปรอข้างล่าง...เดี๋ยวอาตามไป” “ครับ” “เอ้าๆ...ปกติก็ปกติ...แต่ว่า...หลานชายที่มีความคิดจะตีหม้ออาแท้ๆของตัวเองมันไม่ปกติโดยสิ้นเชิงนะจะบอกให้...อ๊า!!” “!!!!!!!!!!!” “ตายแล้ว!!!” ...จังหวะที่อานิภากลับเข้าห้องทันใดนั้นผ้าขนหนูก็หลุดออกลงไปกองที่พื้น...ผมงี้ตาแทบถลนเพราะเห็นแผ่นหลังขาวเนียนและบั้นท้ายอันงามงอนเต็มๆ...อาสาวคนสวยรีบหลบเข้าห้องด้วยเรือยร่างที่เปลือยเปล่าพลางโผล่แค่หัวออกมาเอ็ดผม... “มองอะไรห๊ะ?...ลงไปเลย...บรี่!!” (หรือ...หรือหล่อนจะจงใจทำผ้าหลุดกันแน่!?) “อาๆ...ลืมผ้าขนหนู...โอ๊ย!!”) “.........................................................” “นั่งหลับตรงนี้ไม่ได้นะคะ...ขวางหน้าร้าน” “เอ๊ะ!?...ขอ...ขอโทษครับ” (ฝะ...ฝันไปหรอกเหรอ?) “แต่เหมือนจริงชะมัด...แบบไม่รู้ว่าตกลงอันไหนความจริงอันไหนฝัน...หืม?...นึกออกแล้ว...เราออกมาซื้อของในเมืองนี่นา” (ชักงงตัวเอง...ความฝันอะไรไม่รู้เหมือนจริงเหลือเกิน) “...........................................................” “หนูมีอะไรเหรอ?” “ช่างเป็นความฝันที่น่าสนใจ” “นี่หนูเป็นใคร?” “เรานั้นเป็นเพียงวิหคผู้ต่ำต้อยนามว่าบุหรง” (เป็นชื่อที่ไพเราะอย่างน่าประหลาด) “แล้ว...ยังไงจ๊ะ?” “....................................................” (เด็กหญิงที่มีลักษณะการพูดคล้ายๆพี่ม่อน) “หนูบอกว่าชื่อบุหรง” “โปรดเรียกเราเช่นนั้น” “พ่อแม่ของหนูอยู่ไหน?” “หามีไม่” “อ้าว!?...งั้นหนูมาจากไหนและมากับใคร?...พอจำได้มั้ย?” (ส่ายหน้า) “ท่านมิต้องวิตกดอก...เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราจะกลับเอง” “เอ่อ--...จนป่านนี้พี่ก็ยังไม่เข้าใจว่าหนูพูดอะไร?” ................................................................................................................................................ “นั่นใครนะ?” “ไม่รู้” “แม้กระทั่งพี่รีย์ก็ยังมองไม่ออกว่าเด็กผู้หญิงที่อยู่กับพ่อเป็นใคร...แสดงว่า...” “แต่พี่มั่นใจว่าไม่ใช่อุษณรัศมีหรือสิตลรัศมีเพราะทั้งสองมีพระเวทย์เทียบเท่ากับพี่ซึ่งพี่จะต้องรู้” “หมายความว่าหากพระเวทย์ของอีกฝ่ายเหนือกว่าก็จะไม่รู้สินะคะแล้วผู้ที่มีพระเวทย์เหนือกว่าพี่รีย์...หัสดินเทวนาถ...ไม่!!...พญาคชสารไม่มีทางมาทำอะไรแบบนี้” “...........................................................” “พวกเจ้ายังมองไม่ออกหรือ?” “อชินีสุราลัย” “เจ้าพ้นโทษแล้ว” “น่าเบื่อจริงๆที่ต้องถูกกักตัวในถ้ำที่แสนจะคับแคบอย่างนั้น” “เพราะอาละวาดจนท้องฟ้าปั่นป่วนแผ่นดินพังพินาศไปหมดไง” “สองแฝดก็สมควรถูกลงโทษเหมือนกันแต่กลับไม่เป็นอะไรเลย...เจ้าคิดว่ามันยุติธรรมเรอะ?...วสันตนุจรินทร์” “นั่นเพราะเจ้าเป็นฝ่ายเริ่มต้น” “เฮอะ!!...ข้าไม่เคยทำอะไรดีหรอก” “เรากำลังพูดถึงเด็กผู้หญิงที่สนทนากับคุณพ่ออยู่นะ...ทำไมจะต้องมาโต้เถียงกันเอง?” “จริงด้วย!!...เจ้าดูออกแล้วใช่มั้ย?” “ฮึ!!...ถ้าข้าไม่รู้จักมันเป็นอย่างดีก็คงเหมือนพวกเจ้าที่ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร?” “!?” “อชินีสุราลัย...เจ้าจะพูดว่า...” “มะ...ไม่จริง!!!...เป็นไปไม่ได้!!!!...ก็...ก็เวลานี้นางยังหลับใหลอยู่ไม่ใช่หรือ?” “วสันตนุจรินทร์เอ๋ย!!...เทพบดีแม้จะหลับก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง...แค่ส่งดวงจิตเข้าสู่ร่างผู้อื่นนั้นง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ...เจ้าก็เห็นตัวอย่างจากหัสดินเทวนาถแล้ว” “ไม่เป็นบริวารอะไรทั้งสิ้น...ชื่อบุหรงก็ไม่ใช่” “อะไรกัน?” “น้องดูที่เงาของนาง” “!!!!” “เงาที่ทอดยาวออกไปนั้นปรากฏรูปนกยักษ์สยายปีก” “ก็หมายความว่า...” “นางผู้นั้นแหละคือราชหงส์สุรัมภา!!!!” “นาง!!...นางต้องการอะไรกันแน่คะถึงได้ใช้ร่างเด็กผู้หญิงไปพบกับพ่อ?” “ไม่รู้...ยังไม่รู้อะไรสักนิดเดียว” “แต่ที่แน่ๆไม่ใช่เรื่องดี...ถ้าพวกเจ้ายังจำได้...เจ้านั่นมีอีกสมญานามหนึ่ง” ................................................................................................................................................... “หนูดื่มน้ำสักหน่อยนะ” “..................................................... “วันนี้อากาศร้อน...ดื่มสักหน่อยจะได้สดชื่น” “ขอบคุณในความมีน้ำใจของท่าน” ...เด็กหญิงรับมาแล้ววางข้างตัว...ดูไปดูมาใบหน้าของหนูน้อยคนนี้ดำคล้ำซูบซีดราวกับคนป่วยแถมผิวหนังบริเวณแขนก็มีรอยเหมือนเข็มฉีดยาเจาะ... “หนูบุหรง” “?” “ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” “เหตุใดท่านจึงพูดเช่นนี้?” “พี่สังเกตมาพักหนึ่งแล้ว...ก็ไม่ใช่หมอหรอกนะแต่ร่างกายของหนูดูไม่ปกติเลย” “...........................................................” “ถูกมั้ยล่ะ?” “หึๆ...สายตาแหลมคมไม่เบา...ถูกต้องแล้ว...ร่างกายนี้กำลังป่วยหนัก” “หา!?...หนูป่วยเป็นโรคอะไรแล้วทำไมมาอยู่ที่นี่?...พ่อแม่หนูอยู่ไหน?...พี่จะพาไปส่ง” “ท่านรู้รึว่าเราอยู่ที่ใด?” “ไม่รู้แต่พี่จะปล่อยให้หนูที่ป่วยหนักอยู่ตามลำพังได้ยังไง?” “ท่านช่างมีน้ำใจนัก” “ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นนะ!!” “บอกแล้วว่าหาได้ต้องกังวลไปไม่...มินานก็จะมีคนมารับเราเอง” “งั้นพี่จะอยู่เป็นเพื่อนหนูเอง” “เวลาของท่านมีค่าจะมาเสียอยู่กับเราด้วยเหตุใดเล่า?” “เพราะพี่ทิ้งหนูไปไม่ได้” “เรามิเคยรู้จักกันมาก่อน” “ถึงอย่างนั้นพี่ก็ทิ้งหนูไปไม่ได้จนกว่าจะมีคนมารับ” “.............................................................” “.............................................................” “...มิน่า...พวกนางจึงยอมรับแต่เท่านี้ก็หาได้ช่วยให้หลุดพ้นไม่” “เมื่อกี้หนูอะไรนะ?” “น่าสนใจ...เช่นนั้นเราจะตอบแทนในความมีน้ำใจของท่านสักหนึ่งอย่าง” “?” .......................................................................................................................................... “เด็กหายไปทั้งคนทำไมไม่มีใครรู้?” “คุณหมอครับแต่พวกเราตรวจตรากันอย่างเข้มงวดแล้ว” “เข้มงวดจริงแล้วจะหายไปได้ยังไง?...เด็กผู้หญิงและก็ป่วยหนักด้วย...คนนะไม่ใช่หมาหรือแมวที่จะเล็ดลอดออกไปได้ง่ายๆ!!!!” “คุณหมอศรเพทายอย่าเพิ่งโกรธเลย...ผมว่าเรารีบติดต่อให้พ่อแม่เด็กรู้ก่อนดีกว่าครับ” “เรื่องนั้นต้องทำแน่ๆค่ะแต่ก่อนอื่นต้องตามหาหนูอารยาให้เจอ...ดิฉันส่งคนออกไปสืบหาแล้ว...ไม่นานคงได้ข่าว” “ส่วนเจ้าหน้าที่รปภ.รอให้เจอเด็กก่อนแล้วค่อยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนะครับ” “ค่ะ” “คุณหมอคะ!!...เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว...เมื่อสองชั่วโมงก่อนหนูอารยาเดินออกจากห้องไอซียูไปเพียงคนเดียวค่ะ!!!” “บ้า--...บ้าไปแล้ว!!!!...คนป่วยโรคไตวายเฉียบพลันและหมดสติไปเมื่อเก้าโมงเช้าแต่พอตกบ่ายกลับมีแรงลุกเดินไปเองเนี่ยนะ?” “แต่...คุณหมอลองดูนี่ก่อนสิคะ” “..........................................................” “ในภาพเป็นหนูอารยาจริงๆ” “เดินเหินเหมือนคนปกติเลย!!!...นี่...นี่ฉันกำลังดูอะไรอยู่?” “น่าอัศจรรย์เหลือเกิน” “ตรงไหนกันห๊ะ?...หนูอารยาตอนนี้บอกตรงๆว่าถ้าไม่ได้รับการเปลี่ยนไตโอกาสรอดชีวิตก็มีไม่ถึงครึ่ง...ให้ตายสิ!!!...เธอไปอยู่ที่ไหนนะ?” “แบบนี้เราจะตอบคำถามพ่อแม่ของหนูอารยาได้ยังไง...ชื่อเสียงของโรงพยาบาลมีหวังเละก็งานนี้” “กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว...ถ้ารู้ไปถึงหูนักข่าวล่ะก็” “ต้องรีบไปเตรียมจัดแถลงข่าว” “รอดูก่อนน่า!!...คงจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดนั้นมั้ง?” “ฮัลโหลว่าไง?...หา!?...จะ...เจอแล้ว!!!!” “!!!” “!?” “รีบบอกมาว่าอยู่ไหน?” “..............................................................” “เออรู้แล้วๆ!!” “เจอแล้วใช่มั้ยครับ?” “ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน...ทางนี้เตรียมห้องรักษากับอุปกรณ์ให้พร้อม!!...ไปเตรียมรถพยาบาลเร็วเข้า!!!” “ครับ” “ไอ้เอกคเชนทร์!!!...ทำไมหนูอารยาถึงไปอยู่กับแก?” ........................................................................................................................................................... “อีกสมญานามของผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหค?” “ถูกต้อง” “เหตุที่นางได้รับขนานนามว่าเทพบดีแห่งการหยั่งรู้เพราะ...เพราะ...ใช่แล้ว!” “...สุริยนนุจรินทร์...เจ้านึกออกแล้วสิ” “เทพบดีแห่งการทำนาย...” “อืม” “หยั่งรู้...ทำนาย...สองสิ่งนี้มักอยู่คู่กันเสมอตั้งแต่โบราณกาล” “เมื่อหยั่งรู้ซึ่งทุกสิ่งก็ย่อมถ่ายทอดคำทำนายได้แต่เจ้านั่นกลับมีบางสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า” “คือ?” “ราชหงส์สุรัมภาไม่เคยสนใจต่อความดีหรือความชั่วใดๆ...ผู้ใดที่เจ้านั่นเห็นสมควรก็จะให้คุณหรือให้โทษโดยไม่แยกแยะอะไรทั้งสิ้น” “จะบอกว่าทำตามแต่ใจที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนว่าใครจะดีหรือใครจะเลว?” “ถูกแล้ว...ข้าถึงพูดว่าเจ้านั่นไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอะไรเลยไงเล่า” “อย่างนี้ไม่ถูกต้องแล้วนางจะทำอะไรกับคุณพ่อ?” “หากให้ข้าเดา...นางคงจะให้คำทำนายและมันจะส่งผลให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป” “ทำนาย?” “และที่ผ่านมาก็ไม่เคยผิดพลาดซะด้วย” “บ้าน่ะ!!” “อชินีสุราลัย...ถ้าที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง...คุณพ่อต้องอย่าฟังคำพูดของนางเด็ดขาด!!!!” “ใช่...แบบนี้อนาคตของพ่อต้องเปลี่ยนแน่!!!!” “จะไปห้ามรึ?” “ปล่อยเทพวิหคที่ไร้ซึ่งจิตสำนึกให้คำทำนายบ้าๆกับพ่อไม่ได้!!!” “นางรู้อยู่แล้วว่าพวกเจ้าจะทำอะไร” “ส่วนเจ้าก็จะไม่ทำอะไรบ้างหรือ?” “จะให้ข้าทำอะไรล่ะ?” “เชิญมาเป็นสักขีพยานในคำทำนายแห่งเราเถิด...สุริยนแลวสันต...” “!!” “!?” “เจ้าจะมาด้วยก็ได้...อชินีสุราลัย” “ฮึ!!...โผล่หางออกมาจนได้...เจ้านกปิศาจที่เอาแต่ความสะใจของตนเองและไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ” “ถ้าทำอะไรกับพ่อก็จะได้เห็นดีกัน...ต่อให้สู้ไม่ได้ก็อย่าหวังว่าวสันตนุจรินทร์ผู้นี้จะงอมืองอเท้ายอมให้เจ้าทำตามใจง่ายๆเลย...พญาหงส์!!!!” “.........................................................” ............................................................................................................................................. “ถึงเวลาที่เราจะต้องไปแล้ว” “เอ๋?” “ขอบใจท่านจริงๆ” “จะขอบใจพี่ด้วยเรื่องอะไร?...มันเล็กน้อยมาก” “ท่านดูแลเราเป็นอย่างดีเช่นนี้ก็เห็นทีจะต้องได้รับสิ่งตอบแทนบ้าง” “หนูน้อย...จะตอบแทนอะไรพี่เหรอ?...แต่จริงๆพี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะแค่อยู่เป็นเพื่อนหนูเท่านั้นเอง” “นั่นก็คือ...วาระสุดท้ายแห่งชีวิตของท่านอย่างไรล่ะ?” “โอ้โห!!...ขำไม่ออกนะเนี่ย?...จะเล่นแรงไปหน่อยแล้วมั้ง?” (เด็กเวร!!!...เราอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนแต่กลับพูดอะไรไม่เป็นมงคล..ถ้าเป็นเพื่อนกันนี่ตบหัวทิ่มไปนานแล้ว) “ว่าแต่ท่าน...” “?” “มิรู้สึกร้อนหนาวบ้างหรืออย่างไร?” “ร้อน?...หนาว?...เปล่านี่...พี่ปกติดี” “เปลวเพลิง...สายน้ำ...” “นี่หนูพูดอะไร?...พี่ไม่เห็นเข้าใจสักนิด” “........................................................” “จะบอกว่าวาระสุดท้ายของพี่เป็นยังไงไม่ใช่เหรอ?” “ใช่...เราจะบอกท่าน ณ บัดนี้” “น่าสนุก!...จะฟังหน่อยก็ได้...ว่ามาเลย” “ท่านมิพอใจ” “หา?” “สีหน้าของท่านแสดงออกมาเช่นนั้นแต่จงลองฟังดูเถิด” “...ก็พูดมาสิ” “ก่อนหน้าคงมีผู้หนึ่งบอกท่านว่าจะได้รับเคราะห์จนอาจถึงแก่ชีวิต” “เอ๋?” (ผู้ใดที่ว่านั่นคือลูกสาวของเราเอง...แล้ว...แล้วแม่หนูคนนี้รู้ได้ยังไง?) “ถูกต้องใช่หรือไม่?” “ก็...ก็ใช่” (เฮ่ย!?...เด็กคนนี้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหนูน้อยของเรา?...คำพูดที่มีความเชี่ยมโยงจากในฝันสู่เรื่องจริง) “หนู...” “............................................................” (ไม่ใช่!!...ความรู้สึกมันฟ้องว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของเรา) “คำพูดนั้นจะเป็นความจริงอย่างแน่นอน” “อะไรนะ?” “มิว่าจะหลีกหนีหรือระวังตนมากเพียงไรก็หาได้หนีพ้นไม่” “หมายความว่า...มัน...มันจะไม่มีทางแก้ไขหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้เลยหรือ?” (เด็กหญิงส่ายหน้า) “พี่...จะตายหรือนี่?” “มนุษย์ทุกผู้ทุกนามย่อมต้องถึงแก่ความตายเพียงจะช้าหรือเร็ว...ท่านจะกลัวไปไยเล่า?” “แต่มันเร็วไป...แล้วก็” “?” “พี่จะมีลูกก่อนแล้วค่อยตายใช่มั้ย?” “คำถามนอกเหนือจากนี้เรามิขอตอบ” “บอกไม่ได้?” “.........................................................” “ถ้างั้น...พี่จะตายยังไงและ...เมื่อ...เมื่อไหร่?” “หนูอารยา!!!” “!?” ...พี่เซคเข้ามาขัดจังหวะก่อนที่เด็กหญิงจะตอบว่าผมต้องตายเมื่อไหร่...บ้าเอ๊ย!!!...ทำไมไม่มาช้าอีกสักนิด... “หนูอารยาๆ” “พี่เซค...หนูคนนี้ชื่ออารยาหรือ?” “หุบปาก!!...แกน่ะทำไมมาอยู่กับเธอได้?” “ผะ...ผมจะรู้ได้ยังไง?...หนูคนนี้เข้ามาคุยกับผมเองและเธอบอกว่าชื่อบุหรงนะครับ” “บุหรงอะไรกันเป็นไปไม่ได้!!!...หนูอารยาป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังนอนอยู่โรงพยาบาลจะมีเรี่ยวแรงมาคุยกับแกได้หรือ?...แย่แล้ว...หนูอารยาๆๆ...บ้าจริง!!...หมดสติไปแล้ว” “อะไรกัน?...ก็เมื่อกี้เธอยังคุยกับผมดีๆอยู่เลย” .................................................................................................................................................... “มิต้องมองเราด้วยสายตาเคืองแค้นเช่นนั้นแลที่จริงพวกท่านก็หาได้มีสิทธิ์กล่าวโทษเราด้วยซ้ำ” “จะไม่มีสิทธิ์ได้ยังไง?...หากครั้งนี้ข้าใช้ธารน้ำอันเชี่ยวกรากและแหลมคมดุจคมมีดทำร้าย...เจ้าก็จงมีแต่ต้องยอมรับอย่างไม่อาจขัดขืน...พญาหงส์!!!!” “เทพบดีแห่งวารี...เรารู้ว่าท่านกล่าววาจาออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวแต่ท่านจะฟังเหตุผลของเราก่อนเป็นแน่แท้” “อะไรนะ?” “พระเวทของท่านนั้นยังมินำออกใช้ดอก” “อย่างนั้นเจ้าก็ต้องรู้ว่าข้าจะทำอะไรต่อไป” “.............................................................” “!?” “แม้ไม่ใช่ร่างจริงของเจ้าแต่ข้าก็รู้สึกสาแก่ใจนัก...ข้าสามารถหักคอเจ้าได้อย่างง่ายดาย...เจ้านกปิศาจ!!!” “เจ้ามิทำเช่นนั้นดอก...อชินีสุราลัย” “หึ!!” “ท่านหยั่งรู้ไปเสียหมดทุกอย่างก็ย่อมต้องรู้ดีว่าพวกเราจะถามอะไรท่าน?” “เทพบดีแห่งอัคคี...เช่นนั้นจงบอกสหายของท่านให้หยุดกระทำการเสียมารยาทต่อเรา” “เจ้าใจอ่อนอีกแล้ว--” “เปล่า...ฉันไม่ได้ใจอ่อน” “ฮึ!!” “ทั้งที่อยู่ต่อหน้าฉันและน้องสาว...ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าเพราะเหตุใดท่านจึงพูดกับพ่อของฉันอย่างนั้น?” “เห็นแก่ที่ท่านเป็นผู้มีเหตุผลมากที่สุด...เราจะบอกท่าน” “นะ...นี่เจ้าหลอกด่าข้า!!!” “ใช่...เจ้าบังอาจหมิ่นข้าว่าเป็นผู้ไร้เหตุผลรึ?” “ทั้งสองเงียบสักที!!” “ฮึ่ย!!!” “พี่!!” “ห๊ะ?...เมื่อกี้เจ้ายังมองเย้ยหยันข้า” “อชินีสุราลัย...เจ้าพอได้แล้ว!!...ไม่มีใครมองเจ้าอย่างนั้น” “เจ้าไม่เห็นน่ะสิ!!...ไม่เห็นเจ้านกบ้านี่มองข้าด้วยแววตาหยามเหยียด...ปัทโธ่เว้ย!!...ข้าไม่รู้ด้วยแล้ว!!!” “ราชหงส์สุรัมภา...คำพยากรณ์ของท่านนั้น” “เราขอถามว่าคำพยากรณ์นี้ต่างจากที่พวกท่านรู้มาหรือไม่?” “...ไม่” “หมายความว่าหาได้มีสิ่งใดผิดเพี้ยนไปแม้แต่น้อย...บุรุษผู้นั้นจะถึงแก่ความตายภายใน 90 วันของโลกมนุษย์ซึ่งเป็นไปตามชะตาชีวิตของเขาแลตรงตามที่พวกท่านรู้” “เจ้ามีจุดมุ่งหมายอะไรถึงมายุ่งเกี่ยวกับพ่อของข้า?” “เรามีความสนใจว่าพวกท่านที่ดำรงฐานะเทพบดีเหตุใดจึงให้ความสำคัญต่อบุรุษผู้นั้นที่เป็นเพียงมนุษย์?...แม้กระทั่งอุษณรัศมีแลสีตลรัศมีก็เช่นเดียวกัน” “ไม่เกี่ยวกับข้า!!!” “แต่สำหรับเรานั่นคือสิ่งที่มิสมควรจะเกิดขึ้น...เราหยั่งรู้ว่าพวกท่านมีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของบุรุษผู้นั้นเพื่อมิให้ถึงแก่ความตาย” “!?” “!!!!” “ใช่แล้ว...นี่คือความตั้งใจที่แท้จริงแต่พวกท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงได้...ความตายของเอกคเชนทร์จักบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอนภายในเวลาเก้าสิบวันของโลกมนุษย์...ด้วยแสงจันทร์” “ท่านก็เลย...ทำให้มันชัดเจนโดยใช้พลังอำนาจของเทพบดีแห่งการพยากรณ์” “เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเราเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของพ่อ” “ในนามผู้เป็นใหญ่แห่งหมู่วิหค...เราขอเตือนพวกท่านด้วยความปรารถนาดีว่าอย่าพยายามกระทำการที่ไร้ประโยชน์อีกต่อไปเลย” “ดวงจิตหายไปแล้ว!!” “ตอนนี้ที่อยู่ต่อหน้าเราก็เป็นได้เพียงนกตัวหนึ่งเท่านั้น” “เราจะทำยังไงดีคะพี่?” “...........................................................” “พวกท่านหมดหนทางจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมแล้ว” “ใช่...ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง” “เจ้าแฝดนรก...สหายของพวกเจ้าเพิ่งมุดหัวหนีไปเมื่อกี้นี้ไงเล่า!?” “เสียมารยาทจริง” “เสียมารยาทนัก” “ข้ากำลังอารมณ์ไม่ดี...จะมาหาเรื่องอีกใช่มั้ย?” “เราไม่ได้มาหาเรื่องใครทั้งนั้น” “ไม่ได้มาหาเรื่อง” “พวกท่านมาด้วยเหตุใด?” “การจะปล่อยให้พ่อมีความทรงจำนี้เหลืออยู่ไม่ใช่เรื่องดี” “ไม่ใช่เรื่องดีอีกต่อไป” “จงทำให้ลืมไปเสียเถอะ” “ลืมไปเสียเถอะ...แม้กระทั่งแม่ของท่านด้วย...สุริยนนุจรินทร์” “.............................................................” “เพราะจะมีแต่ทุกข์ทรมานใจเปล่าๆ” “ทุกข์ทรมานใจเปล่าๆ” “แลอันที่จริงมนุษย์ไม่ควรล่วงรู้จุดสิ้นสุดของตน” “ไม่ควรล่วงรู้จุดสิ้นสุดอันเป็นข้อห้ามแห่งกฎธรรมชาติ...เราสองพี่น้องจะเป็นธุระให้เอง” “และต่อไปนี้เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขที่สุด” “ท่านทั้งสามคงจะยินดีนะ” “ก็บอกแล้วว่าข้าไม่เกี่ยว...อยากทำอะไรก็เชิญเถอะ!!!” .....................................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น