AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

แก้วกานดา ตอนที่ 2 – บ่วงกาม

แก้วกานดา ตอนที่ 2 – บ่วงกาม

      กานต์ นักศึกษาสาวสวยวัยยี่สิบนั่งรอคอยอย่างเงียบงันอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ร่างงามระหงในชุดนักศึกษานั่งตัวตรงเหม่อมองดูผู้คนที่เดินลงมาจากบันไดเลื่อนอย่างตั้งอกตั้งใจ มีบ้างหลายครั้งที่เธอต้องก้มหน้าหลบสายตาแวววาวของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ด้วยความขัดเขิน กระนั้นเพียงวูบเดียวเธอก็จะเงยหน้าขึ้นสอดส่ายสายตามองหาเช่นเดิม เวลายามเช้าเช่นนี้สถานีรถไฟฟ้าจะมีผู้คนค่อนข้างหนาแน่น การมองหาใครสักคนจึงค่อนข้างยากลำบาก อีกทั้งความสวยโดดเด่นของกานต์ก็เปรียบดั่งแสงไฟที่คอยล่อชายหนุ่มให้เข้าหา เธอต้องพยายามหลบสายตากรุ้มกริ่มของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่รอบแล้วรอบเล่า
หากทว่ากานต์ยังคงนั่งนิ่งรอคอยอย่างอดทน ทั้งที่ความจริงแล้วเธอมีนิสัยขี้อายอย่างยิ่ง กานต์รู้สึกว่าความสวยน่ารักและเซ็กซี่ตามธรรมชาติของเธอนั้นสร้างปัญหาให้เธอเสมอมา เธอชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบให้ผู้คนสนใจ หากทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นตรงกันข้าม ไม่ว่าเธอจะพยายามทำตัวอย่างไร สุดท้ายสายตาของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ก็ยังคงจับจ้องมองดูราวกับจะจับเธอไปกลืนกินทุกครั้งไป เธอพยายามสวมแว่นกรอบหนาเพื่อปิดบังใบหน้า ทั้งที่เธอไม่ได้มีปัญหาทางด้านสายตา แต่นั่นก็ยังไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เธอพยายามเลือกสวมเสื้อผ้าที่มิดชิดเพื่อปกปิดเนื้อตัว เสื้อนักศึกษาของเธอนั้นมีเนื้อหนากว่าปกติเพื่อไม่ให้สามารถมองทะลถึงผิวขาว ๆ ข้างในได้แบบที่ผู้หญิงคนอื่นชอบสวมใส่ เธอชอบเลือกสวมใส่เสื้อและกระโปรงยาวขนาดใหญ่กว่าร่างกายนิดหน่อยเพื่อให้ดูหลวมจนเพื่อนบางคนแซวเธอว่าป้าเฉิ่ม หากทว่าทรวงอกและสะโพกของเธอนั้นก็ยังเด้งชูชันโดดเด่นล้ำหน้าออกมาโดยไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ สุดท้ายเธอจึงได้แต่ยอมแพ้ และพยายามทำใจที่จะเผชิญหน้ากับสายตาหมายมาดของเพศตรงข้ามต่อไป เพียงไม่นานนักภาพเงาร่างของชายคนหนึ่งที่เดินลงบันไดเลื่อนมาด้านล่างก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุก หลังกรอบแว่นสีชมพูอ่อนนั้นดวงตาคู่สวยกระพริบสองสามครั้งเพื่อปรับสายตามองให้แน่ใจว่าเธอมองไม่ผิด และเมื่อหนุ่มหล่อคนนั้นมองสบตากลับมา กานต์ก็รีบก้มหน้าหลบสายตา หัวใจของเธอกลายเป็นเต้นระรัว ใบหน้าของเธอกลายเป็นแดงซ่านขึ้นมา กานต์ยกมือขึ้นกดกรอบแว่นสีชมพูเข้าหาใบหน้า แล้วยกมือขึ้นทำท่าสางผมของตนเองเพื่อปิดบังความประหม่า เธอตั้งใจมารอคอยเขาคนนี้ หากทว่าเมื่อเขาปรากฏตัว เธอกลับไม่กล้าแม้แต่จะสบตา เนื่องจากเธอทราบดีว่าเธอกำลังทำเรื่องที่ไม่สมควร เธอไม่ยอมให้พี่แก้วขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัย เธอเลือกเดินทางเองเพื่อมาเจอเขาคนนี้โดยไม่ได้นัดหมายเอาไว้ก่อน เขาคนที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ แต่เธอทราบว่าเขาผ่านทางนี้ทุกวัน เธอทำเรื่องราวไม่เหมาะสมเหล่านี้เพียงแค่เพราะเรื่องบังเอิญเมื่อราวครึ่งเดือนก่อน เรื่องบังเอิญที่ทำให้เธอรับรู้ถึงรสสัมผัสอันเร่าร้อนน่าหลงใหลของบุรุษเพศ นักศึกษาสาวสวยยกมือขาวเนียนขึ้นแนบอกเมื่อนึกไปถึงเรื่องราวในครั้งนั้น เธอรู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่านร้อนรุ่มไปทั่วร่าง อะไรบางอย่างในร่างกายของเธอกำลังพลุ่งพล่าน มันคืออะไรบางอย่างที่เธอยังไม่เคยสัมผัสมาก่อนนับตั้งแต่จำความได้ และเธอทราบว่าเธอชื่นชอบโหยหาความรู้สึกนั้นอย่างยิ่ง วันนั้นเธอเก็บความรู้สึก และภาพใบหน้าของเขากลับบ้านจนนอนกระสับกระส่ายแทบหลับไม่ลงเสียด้วยซ้ำ กานต์เงยหน้าพยายามบังคับสายตามองไปทางเขา เพื่อให้แน่ใจว่าเขามองเห็นเธอแล้ว และเมื่อมองเห็นสายตาของเขา เธอก็รีบเบือนหน้าหนีแล้วลุกขึ้นเดินไปยืนเข้าแถวขึ้นรถไฟฟ้าอย่างเชื่องช้า เธอไม่ได้ทักทายพูดคุย และไม่ได้สื่อสารอันใด หากทว่าเธอแน่ใจเป็นอย่างยิ่งว่าเขาต้องรู้ว่าเธอกำลังยืนคอยอยู่ด้านหลังของเขา เธอแอบมองดูแผ่นหลังแข็งแรงกำยำของเขา อย่างที่เธอเคยกระทำมาแล้วทุกวันในรอบสองสัปดาห์นี้ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโรคจิต หากทว่าเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชื่นชอบกลิ่นกายของผู้ชาย เธอชอบร่างกายที่แข็งแรงกำยำ เธอไม่ทราบว่าทำไม แต่เธอเริ่มเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาเองตามธรรมชาติของร่างกายที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ช่วงเวลาของการรถคอยรถไฟฟ้าใต้ดินราวกับยาวนานไม่ที่สิ้นสุด กานต์กุมมือเข้าหากันแน่นจนมือชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และเมื่อรถไฟฟ้ากำลังเข้าจอดที่สถานีหัวใจของเธอก็ยิ่งเต้นรัวขึ้นไปอีก สถานีนี้เป็นสถานีต้นทางจำนวนผู้คนจึงไม่มากมาย และมีที่ว่างเหลือค่อนข้างเยอะ หากทว่ากานต์คล้ายมองไม่เห็นพื้นที่ว่าง เธอเดินตามเขาเข้าไปที่หัวขบวน เขาหยุดยืนนิ่งพิงผนังที่มุมข้างหนึ่ง กานต์ตั้งใจเว้นระยะห่างยืนพิงผนังห่างจากชายหนุ่มเพียงไม่กี่ก้าว เธอแอบชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีอีกครั้ง เพราะเขากำลังมองดูเธออยู่ ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรพิเศษในช่วงสถานีแรก แต่เมื่อถึงสถานีที่สองผู้โดยสารก็เริ่มเบียดเสียดเข้ามาจนเต็มพื้นที่ กานต์ก้มหน้างุดค่อย ๆ ขยับร่างไปหาชายหนุ่มทำทีเหมือนเปิดทางให้คนข้างนอกเข้ามา จวบจนกระทั่งเมื่อเข้าไปอยู่ในระยะประชิดเกือบสัมผัสกัน กานต์จึงค่อยหยุดการเคลื่อนไหวลงชั่วคราว เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ก็ไม่ได้ก้มหน้ามากเกินไป เขาสูงกว่าเธออยู่สักหน่อย เมื่อยืนใกล้กันเธอสูงแค่เพียงประมาณคางของเขา ภาพที่เธอเห็นในเวลาจึงเป็นแผงอกแข็งแรงกำยำเหมือนนักกีฬา เธอรู้สึกชื่นชอบผู้ชายที่มีร่างกายแบบนี้ ร่างกายที่ไม่ได้ผอมแห้งไร้กำลัง และไม่ได้มีกล้ามเนื้อเทอะทะน่าเกลียดแบบพวกเล่นกล้าม เธอชอบกล้ามเนื้อของผู้ชายที่ดูแข็งแรงปราดเปรียวเหมือนกับนักล่า นักล่าที่จะตะปบเธอเอาไว้ในอุ้งมือแล้วกลืนกินเธอจนหมดตัว กานต์รู้สึกใบหน้าร้อนวูบเมื่อเผลอคิดจินตนาการไปไกลลิบ เธอพยายามรวบรวมสติยับยั้งสิ่งที่ตนเองกำลังคิดกระทำ หากทว่าอารมณ์ที่ผลักดันจากภายในดูจะรุนแรงยิ่งกว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เมื่อผู้คนเริ่มเบียดเข้ามามากขึ้น กานต์ก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่งเข้าไปหาเขา และการก้าวเท้าเข้าไปเช่นนี้ก็ทำให้ปลายถันที่เด้งชูชันล้ำหน้าล้ำตาสัมผัสเข้ากับแผงอกกำยำของเขาเข้าอย่างจัง สาวสวยเม้มปากและจิกมือเข้าหากระโปรงนักศึกษา ความเสียวแปลบปลาบทำให้ร่างกายสั่นสะท้าน หากทว่าเธอไม่ได้ถอยกลับออกมา ทั้งยังขยับไปข้างหน้าบดเบียดจนเนื้อเต้าเต่งบดบี้ลงไปบนกล้ามเนื้อของเขา และสัมผัสอันเร่าร้อนนี้ก็ยิ่งทำให้สติของเธอขาวโพลนกระเจิดกระเจิงเฉกเช่นทุกครั้งที่เธอกระทำ กานต์พยายามเม้มปากปิดบังเสียงครางที่เกือบหลุดออกมา เธอไม่ได้พูดอะไร หนุ่มหล่อที่เธอไม่ทราบชื่อคนนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เขายืนนิ่งอยู่เช่นนั้นโดยไม่ถอยหนีและไม่ได้จู่โจมเข้าหา เพราะเขาทราบว่ามีกฎข้อตกลงที่ห้ามละเมิด ขบวนรถเคลื่อนที่อีกครั้งไปตามเส้นทาง แรงสั่นสะเทือนทำให้สองร่างขยับเบียดเสียดสีเข้าหากันมากขึ้น ถึงแม้จะมีเสื้อผ้ากั้นอยู่สองสามชั้น หากทว่ากานต์ก็ยังรู้สึกเสียววูบวาบจนสัมผัสได้ว่าปลายถันกำลังแข็งขึ้นมาเป็นเม็ด และเธอก็รู้สึกได้ถึงความชุ่มฉ่ำที่เพิ่มพูนขึ้นทีละน้อยตรงกลางหว่างขา ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กานต์ทำแบบนี้ เธอทำเรื่องน่าอายเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง ครั้งแรกนั้นเป็นแค่เพียงเรื่องบังเอิญ ในสภาพแออัดบนรถโดยสารนั้นเธอโดนผู้โดยสารคนอื่นเบียดมาจากด้านหลัง ทำให้ทรวงอกของเธอเบียดแนบกับแผ่นหลังของเขา เวลานั้นความรู้สึกวูบวาบทำให้เธอไม่ได้ถอยหนีออก และนั่นก็ทำให้เธอเผลอถลำลึกจนต้องมากระทำเรื่องเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า และนี่คือครั้งที่สิบที่เธอแอบทำเรื่องแบบนี้ “อือ ... อืม ... อืม ...” กานต์พยายามเก็บเสียงแห่งความสุขเอาไว้ หากทว่าสุดท้ายก็ยังมีเสียงหลุดออกมาจากลำคอให้ได้ยิน ยังดีที่เสียงนั้นเบาเกินกว่าที่จะให้บุคคลที่สามได้ยิน แต่กานต์แน่ใจว่าเขาจะต้องได้ยินเสียงครางของเธอ เพราะเขาเริ่มขยับเอื้อมมือมาแตะที่เอวคอดกิ่วแล้วกดเข้าหา เขาไม่ได้ออกแรงกดมากนักเหมือนไม่แน่ใจ หากทว่ากานต์กลับโอนอ่อนผวาเบียดเข้าหาจนแนบแน่น ทรวงอกภูเขาไฟของเธอเบียดใส่เขาจนบี้แบน ใบหน้าของเธออยู่ใกล้กับปลายคาง เธอหอบหายใจกระเส่าเมื่อหน้าท้องของเธอเบียดเข้ากับบางอย่างที่แข็งกระด้างและร้อนผ่าว เธอสัมผัสได้ถึงแรงปรารถนาที่ถ่ายทอดออกมาจากร่างกายของเขา และนี่คือครั้งแรกที่เธอได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มมากถึงเพียงนี้ กานต์สัมผัสได้จากการเบียดแนบว่าหัวใจของเขากำลังเต้นระรัวไม่แพ้กัน เธอสัมผัสได้ว่าเขากำลังต้องการเธออย่างยิ่ง และนั่นทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นยินดีไปพร้อมกับความลังเลวิตกกังวล ถึงแม้กานต์จะทำเรื่องเหลวไหลน่าอับอาย หากทว่าเธอขีดเส้นแบ่งเอาไว้อย่างชัดเจน ทุกครั้งที่เธอทำเช่นนี้กับเขา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามหากเขายื่นมือมาละลาบละล้วงเนื้อตัวของเธอแม้แต่เพียงนิดเดียว เธอก็จะผละถอยหนีแล้วออกไปจากรถไฟฟ้าทันที หากเขาทำตัวเรียบร้อย เธอก็ยินดีที่จะทำเรื่องวาบหวิวกับเขาต่อไปจนกว่าจะถึงมหาวิทยาลัยของเธอ และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะเดินหนีจากเขา ไม่พูดคุย ไม่ถามไถ่ทำความรู้จักหรืออะไรทั้งสิ้น “นางฟ้าคนสวยวันนี้ขอพิเศษหน่อยเถอะนะ ผมจะคลั่งตายแล้ว” หนุ่มหล่อคนนั้นกัดฟันก้มหน้ากระซิบที่ข้างหูของเธอแผ่วเบา หากทว่าบรรยายความพลุ่งพล่านอัดอั้นในใจออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม เขาย่อมเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจว่าสาวสวยขีดเส้นไว้ตรงไหน หากทว่าคนไม่ใช่ก้อนหิน เขาโดนสาวสวยเหมือนนางฟ้ายั่วยวนทุกวันจนเขม็งเคร่งเครียด จะรุกมากกว่านี้อีกฝ่ายก็ถอยหนี จะเอาแต่ยืนนิ่งรอรับก็อัดอั้นเกินไป หรือหากจะให้หนีจากเหตุการณ์นี้เขาก็คงจะกลายเป็นไอ้งั่งไป กานต์ยืนแนบชิดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่ได้ตอบอะไรและไม่ได้ทำอะไรพิเศษ ใบหน้าแดงก่ำด้วยอารมณ์ร้อนรักของเธอเงยขึ้นมองสบตากับเขาแน่วนิ่งเนิ่นนานเป็นครั้งแรก เธอรู้สึกหัวสมองขาวโพลนไปวูบหนึ่ง จากนั้นเธอก็ได้พบว่าดวงตาสีน้ำตาลเปี่ยมเสน่ห์ของชายหนุ่มที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อคนนี้กำลังมองมาด้วยดวงตาเร่าร้อนยิ่งกว่าทุกครั้ง “นะครับ นางฟ้าคนสวย” เขาพูดกระซิบขออีกครั้งที่ข้างใบหู กานต์จึงเริ่มรู้สึกใจอ่อนยวบลง เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างหากทว่าไม่สามารถนึกหาคำพูดออกมาได้ เธอไม่เคยคิดรักหรือชอบผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิต แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อคนนี้เธอก็เริ่มรู้สึกว่ามันคือความเร้าใจ การทำเรื่องบ้าบอแบบนี้ตอบสนองอารมณ์บางอย่างที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าปฏิเสธคำขอของเขา หรือบางทีเธอเองก็ไม่แน่ใจนักว่าที่เธอไม่ปฏิเสธนั้นเป็นเพราะเธอเองก็อยากจะลิ้มลองรสเสียวให้มากกว่านี้หรือไม่ เมื่อไม่มีท่าทีปฏิเสธ หนุ่มหล่อก็ถือโอกาสคิดว่าอีกฝ่ายไม่ขัดขืน เขาจัดการประคองร่างอ้อนแอ้นของกานต์หมุนหันหน้าไปทางมุมของตู้รถไฟฟ้า จากนั้นเขาก็ขยับประชิดแนบกอดจากทางด้านหลัง มือสองข้างสอดลอดราวแขนไปลูบไล้ที่หน้าท้องแบนเรียบจากด้านนอกเสื้อนักศึกษา กานต์ตกอยู่ในสภาวะหัวสมองขาวโพลนไม่ทราบควรทำตัวอย่างไร เธอไม่แน่ใจว่าปล่อยให้เขากระทำมากแค่ไหน หากทว่าเมื่อมือของเขาถือวิสาสะโอบเอวกดหน้าท้องดึงร่างของเธอไปแนบกอดเอาไว้ แทนที่เธอจะรู้สึกโกรธและผลักไสมือของเขาออก อารมณ์ของเธอก็ยิ่งพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่อาจควบคุม “นางฟ้าคนสวยรู้มั้ยผมต้องไปช่วยตัวเองทุกวันเลยนะ ขอให้ผมได้ระบายบ้างเถอะ” ชายหนุ่มพูดกระซิบอีกครั้งที่ข้างหู และครั้งนี้เขาไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือของเขาลูบไล้ไปที่หน้าท้องเรียบเนียนของกานต์ด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่าน ใบหน้าของเขาแนบจนเกือบสัมผัสกับปรางแก้ม ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาทำให้กานต์ขนลุกชัน และที่เหนืออื่นใดก็คือเขากำลังแอ่นบดเบียดความแข็งแกร่งตรงเป้ากางเกงของเขาเข้ากับสะโพกงามงอนของเธออย่างแนบแน่น เธอสัมผัสได้ว่าเขากำลังต้านทานเสน่ห์ของเธอเอาไว้ไม่ได้ สัมผัสเหล่านี้ทำให้กานต์รู้สึกตัวอ่อนระทวย การโดนจับหันหน้าเข้าหามุมทำให้เธอคิดว่าน่าจะปลอดภัยจากสายตาผุ้คนพอสมควร จิตใจจึงปล่อยวาง ร่างกายที่อ่อนแรงยืนพิงกับร่างของเขา เธอตัดสินใจปล่อยให้เขากระทำสิ่งที่เขาอยากกระทำไปก่อน กานต์สัมผัสได้ถึงแก่นกายแข็งแกร่งที่เบียดกดอยู่ตรงสะโพกก้น ความร้อนผ่าวของมันทำให้เธอเสียวแปลบปลาบจนขนลุกซู่ ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาที่ลูบไล้ตรงบริเวณหน้าท้องทำให้เธอรู้สึกเกร็งที่ท้องน้อย บางครั้งเมื่อเขาลูบมือต่ำลงไป เธอเผลอคิดไปเองว่าเขาจะโจมตีส่วนล่าง และนั่นทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบลงไปถึงจุดอ่อนไหวจนต้องหนีบสองขาเข้าหากันด้วยความเร่าร้อน กานต์รู้สึกว่าตรงนั้นของเธอกำลังเปียกฉ่ำแฉะ สาวสวยตาปรือหอบครางหนักหน่วง เธอหลับตาพริ้มไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก เธอหลุดพ้นจากคำว่าเขินอายได้ชั่วคราว เธอเอื้อมมือลงไปกุมที่ข้อมือของเขาแผ่วเบา แล้วยังขยับแอ่นเอียงลำคอขาวผ่องให้ชายหนุ่มด้านหลังซุกไซร้สูดดมความหอมราวกับหญิงร่านสวาท ชายหนุ่มหอบหายใจด้วยความตื่นเต้น เขาก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอของสาวสวยที่คอยยั่วสวาทเขามานานครึ่งเดือนด้วยความกระสัน เขาขบเม้มใส่ฝากรอยแดงจ้ำจนเธอสะดุ้งโหยงส่งเสียงคราง จากนั้นสองมือที่ลูบไล้อยู่ตรงหน้าท้องก็เริ่มขยับขึ้นไปด้านบนทีละน้อยจนนิ้วโป้งกระทบถูกฐานเต้านม กานต์สะดุ้งเฮือกรีบกดมือของเขาเอาไว้ด้วยจริตสตรี เธอดิ้นขลุกขลักเล็กน้อยเมื่อเขาทำท่าจะไปไกลกว่าที่คิดเอาไว้ ด้านชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ฝืนเดินเกมรุกขึ้นไปด้านบน แต่กลับขยับวูบลงต่ำไปจู่โจมใส่จุดสำคัญอีกจุดหนึ่งแทนจนสาวสวยสะดุ้งเฮือกหลับตาปี๋ ฝ่ามือหยาบใหญ่ตะปบลงไปบนกระโปรงนักศึกษาตรงบริเวณจุดอ่อนไหวด้วยความแม่นยำ ถึงแม้ว่าจะมีกระโปรงยาวและกางเกงในขวางกั้นอยู่สองชั้น แต่เมื่อเขากดนิ้วเน้นย้ำลงไปตรงจุดนั้น ความเสียวซาบซ่านก็แล่นพล่านไปทั่วร่างจนกานต์กระตุกสะท้านเฮือก “อย่า ... อย่าค่ะ ... อืม ... อูย ...” กานต์ส่งเสียงกระซิบห้าม หากทว่าเสียงห้ามนั้นกลับยิ่งทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกหื่นกระสันมากยิ่งขึ้น มือขวาที่ตะปบขยี้ตรงเนินเนื้อโหนกนูนนั้นกดแน่วนิ่งไม่ขยับออกแม้แต่เสี้ยววินาที เขาบดบี้ปลุกปั่นอารมณ์จนกานต์สติกระเจิดกระเจิง มือขาวผ่องนุ่มนิ่มที่จับอยู่บนมือขวาของเขาไม่ได้ออกแรงต่อต้านอันใด นอกจากบีบกุมข้อมือของเขาเอาไว้เพื่อระบายความเสียวซ่าน ชายหนุ่มหอบหายใจด้วยความเมามัน เขาแอ่นส่ายสะโพกบดเบียดแก่นกายเข้ากับเนื้อสะโพกของสาวสวยอย่างหนักหน่วง ในขณะที่มือซ้ายซึ่งว่างงานอยู่นั้นก็เริ่มขยับขึ้นมาด้านบนโดยที่กานต์ไม่ทันสังเกตเห็น กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งมือซ้ายของเขาก็ตะปบคว้าหมับเข้าที่เนื้อเต้าเต่งของเธอจนเต็มไม้เต็มมือ ทั้งยังก้มหน้าลงมาจูบไซร้ที่ซอกคอเสียแล้ว “อือออ ... อย่า ... อย่าค่ะ ... อึ๋ย ... อือ” ดวงตาที่หรี่ปรือของกานต์กลายเป็นเบิกกว้างตกใจ การละเล่นในครั้งนี้ดูจะไปไกลกว่าที่คาดคิดไว้ เธอพยายามส่งเสียงร้องห้ามและออกแรงผลักไสมือของเขาออกไป หากทว่าเขากลับฝืนแรงเร่งเร้าใช้นิ้วมือบดบี้ขยี้คลึงเคล้นอย่างหนักหน่วงต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ยิ่งเวลาผ่านเรี่ยวแรงของกานต์ก็ยิ่งหดหาย อารมณ์สวาทกลายเป็นพลุ่งพล่านลุกโชน เธอลืมเลือนเส้นคั่นแบ่งจนหมดสิ้น สองตาของเธอกลายเป็นหลับพริ้ม เธอเม้มปากส่งเสียงครางในลำคอขณะที่สองมือนั้นจิกกำลงที่ไปที่ข้อมือทั้งสองข้างของชายหนุ่มโดยไม่ผลักไสให้ออกห่างอีก ความเสียวซ่านกำลังทำให้สติของเธอเลือนหาย ชายหนุ่มเล้าโลมด้วยความหื่นกระหาย เขาจูบซุกไซร้ซอกคอ แล้วไล้ขึ้นไปหอมแก้มสีชมพูระเรื่อ กระทั่งสุดท้ายริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบกัน เขาเปิดฉากโจมตีด้วยการสอดลิ้นแหย่ระรัวเข้าไปอย่างหนักหน่วง มือซ้ายบีบขยี้ทรวงเต้าจากด้านนอกเสื้อนักศึกษาจนบิดเบี้ยว มือขวาบดบี้เขี่ยที่เนินเนื้อโหนกนูนจากด้านนอกกระโปรงจนสัมผัสได้ถึงความเปียกชุ่ม พร้อมกันนั้นเขาก็ยังแอ่นสะโพกเบียดแก่นกายถูไถเข้ากับกระโปรงนักศึกษาอย่างบ้าคลั่ง สติของกานต์หมุนคว้างเหมือนเรือน้อยท่ามกลางพายุคลั่ง รสชาติความเสียวกระสันอันแปลกใหม่ทำให้เธอลืมสิ้นซึ่งความอาย เวลานี้เธอรู้สึกเหมือนยินยอมให้เขาทำอะไรก็ได้เท่าที่เขาจะพอใจ เธอจึงไม่ได้ต่อต้านขัดขืนแม้แต่น้อยเมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออก แล้วสอดมือเข้าไปถลกยกทรงขึ้นไปด้านบน ก่อนจะทำการขยำขยี้เนื้อเต้าเต่งโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้นอีกต่อไป ชายหนุ่มหอบหายใจกระเส่าให้กับความอวบใหญ่เต่งตึงของเนื้อสาว ท่าทีตื่นเต้นของเขาบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนแจ้งว่าไม่เคยสัมผัสกับทรวงเต้าที่เร้าใจถึงเพียงนี้ เวลานี้เขาเพียงเสียดายที่สถานที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้เขาไม่สามารถก้มหน้าลงไปอ้าปากดูดเลียเต้าภูเขาไฟเนื้อเต่งของสาวสวยคนนี้ได้อย่างที่อยากจะทำ เพียงแค่นี้ก็เริ่มสุ่มเสี่ยงเกินไปแล้ว ชายหนุ่มละปากจากริมฝีปากของสาวสวยแล้วหันหน้ามองซ้ายมองขวาเพื่อดูความปลอดภัย และเมื่อพบว่ายังไม่มีใครสนใจมองเขาจึงกับไปจูบไซร้ที่ซอกคอขาวของสาวสวยต่ออีกรอบหนึ่ง เวลานี้แก่นกายของเขานั้นพองตัวจนตุงเป้ากางเกงแทบแตกระเบิดอยู่รอมร่อ แต่เขาทราบดีว่าคงไม่สามารถทำในสถานที่เช่นนี้ได้ “ไปต่อที่ห้องผมนะคนสวย” เขากระซิบเสียงหื่นพยายามหว่านล้อม พร้อมกันนั้นมือขวาของเขาเร่งเคล้นคลึงบดขยี้ใส่ตรงกลางหว่างขาของนักศึกษาสาวสวย ที่น่าคลั่งแค้นใจก็คือมีกระโปรงนักศึกษายาวถึงข้อเท้าและกางเกงในขวางกั้นอยู่ถึงสองชั้น ทำให้เขาจู่โจมได้ไม่เต็มที่นัก เสียงของเขาสะท้อนก้องในสมองของกานต์ เธอทราบดีว่าแค่เพียงพยักหน้าเธอก็จะได้รับการปลดปล่อย หากทว่าในอีกมุมหนึ่งของความรู้สึกผิดชอบชั่วดีนั้น เธอกลับพยายามหักห้ามใจไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวมอบความบริสุทธิ์ผุดผ่องง่ายเกินไป สุดท้ายเธอจึงไม่ได้พยักหน้าตอบ ช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นก็ดูเหมือนจะจบลงเพียงแค่นั้น เพราะว่ามีผู้โดยสารคนหนึ่งหันมาเห็นฉากรักวาบหวิวเข้า ชายหนุ่มจึงต้องรีบปล่อยมือออกจากความนุ่มนิ่มแล้วขยับไปยืนบดบังให้ กานต์ซึ่งกำลังอารมณ์พลุ่งพล่านจนหน้าแดงก่ำยืนงุนงงไปวูบหนึ่ง เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงหยุดเล้าโลม แต่เมื่อเธอหันมาเห็นว่ามีคนกำลังทำท่าจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย สติของเธอก็กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เธอรีบดึงยกทรงลง และติดกระดุมเสื้อนักศึกษาอย่างลวก ๆ แล้วเดินแหวกออกจากขบวนรถทันที และโชคดีเหลือเกินที่รถจอดพอดี ด้านชายหนุ่มนั้น เขาไม่ได้เดินตามออกไป เนื่องจากไม่คิดว่าสาวสวยจะรีบหลบหนีออกไปแบบนี้ กว่าเขาจะทันตั้งตัวประตูขบวนรถไฟฟ้าก็ปิดลงเสียแล้ว กานต์ยืนหน้าแดงก่ำเหม่อมองเข้ามาในขบวนรถ เธอสบสายตากับเขาแวบหนึ่งเหมือนจะกล่าวขอโทษ ก่อนที่ขบวนรถไฟฟ้าจะขยับวิ่งออกจากสถานีจนลับตาไป เธอรู้สึกเสียดายอยู่บ้างเพราะหากเมื่อครู่เขาตามเธอออกมา เธอก็ไม่แน่ใจนักว่าจะยังสามารถยับยั้งชั่งใจได้ ความกระสันที่ยังคุกรุ่นไปทั่วร่างทำให้กานต์เริ่มสับสนว่าเธอทำผิดหรือไม่ เธอยอมรับว่ากำลังมีอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรง หากทว่าอีกวูบหนึ่งนั้นเธอกลับลังเลที่จะเสียความบริสุทธิ์ให้กับผู้ชายที่เธอยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ กานต์ยืนงุนงงสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยายามรวบรวมสติมองหาชื่อสถานี ซึ่งบังเอิญเหลือเกินที่เป็นสถานีใกล้กับมหาวิทยาลัยพอดี เธอจึงขยับไปนั่งพักบนเก้าอี้ในสถานีรถไฟฟ้า หากทว่าอารมณ์อัดอั้นของเธอดูจะไม่ค่อยลดลงไปสักเท่าไรนัก อีกทั้งยังรู้สึกอัดอั้นเพิ่มพูนจนร่างกายร้อนรุ่มเสียด้วยซ้ำ อารมณ์วูบหนึ่งนั้นเธอถึงกับคิดไปว่าเธอคิดผิดที่ไม่ตกลงไปกับชายหนุ่มคนนั้น จากนั้นเธอก็ฉุกคิดขึ้นมาอีกครั้งว่าผู้ชายคนไหนก็น่าจะช่วยเธอได้เหมือนกัน ขอแค่เพียงเธอรู้สึกถูกใจก็น่าจะเพียงพอแล้วมิใช่หรอกหรือ “ขอโทษนะครับ กระเป๋าเงินของกานต์ใช่หรือเปล่า พอดีผมเปิดเห็นชื่อกับรูปในบัตรประชาชน” ขณะกำลังครุ่นคิดนั้นเสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านหน้า กานต์ตื่นจากภวังค์แล้วเงยหน้าขึ้นมองดู สิ่งที่เธอเห็นเป็นอันดับแรกนั้นก็คือกระเป๋าใส่เงินสีชมพูลายการ์ตูนซึ่งเป็นกระเป๋าของเธอเอง กานต์ลืมตาโตรีบล้วงมือลงไปควานหาในกระเป๋าสะพายของตนเอง ก่อนจะพบว่ากระเป๋าเงินของเธอไม่ได้อยู่ในกระเป๋าสะพาย และกระเป๋าเงินที่ชายคนนี้ยื่นให้นั้นก็น่าจะเป็นของเธอจริง ๆ “ขอบคุณค่ะ ... ขอบคุณจริง ๆ นะคะ ... เอ่อ เรารู้จักกันด้วยเหรอคะ ทำไมคุณรู้จักกานต์ล่ะ” กานต์รับกระเป๋าเงินมาและกล่าวขอบคุณด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงค่อยเงยหน้าขึ้นมองดูชายหนุ่มเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้นสงสัย ชายคนนี้อยู่ในวัยนักศึกษาเช่นเดียวกับเธอ เขามีหน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม ร่างกายสีแทนของเขานั้นดูแข็งแรงเหมือนนักกีฬาแบบที่เธอชอบแอบมองดู แต่เธอกลับนึกไม่ออกว่าเขาคือใคร “คนในมหาลัยใคร ๆ ก็รู้จักกานต์กันทั้งนั้นล่ะครับ ไม่รู้จักดาวมหาลัยก็แย่แล้ว ผมชื่อบอลเรียนวิศวะไฟฟ้า อยู่ปีสอง” ชายหนุ่มชื่อบอลพูดเฉลยพร้อมกับสิ่งยิ้มให้ เขาแอบลอบมองสำรวจดาวมหาวิทยาลัยสุดสวยด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใกล้ชิดกับกานต์ ผู้หญิงที่เขาเคยใช้รูปบนอินเตอร์เน็ตเพื่อเอาไปสำเร็จความใคร่ช่วยตัวเองไปหลายต่อหลายครั้ง และเขาก็ได้พบว่าเสน่ห์ของตัวจริงนั้นรุนแรงกว่าภาพแบน ๆ บนหน้าจอเป็นร้อยเป็นพันเท่า บอลแอบกลืนน้ำลายดังอึกเมื่อกวาดสายตาลงไปที่ทรวงอกอวบอิ่มมหาประลัยที่ดันเสื้อนักศึกษาออกมาเป็นก้อนกลม หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อได้จ้องมองหน้าสวย ๆ ของกานต์ในระยะใกล้ ถึงแม้ว่าจะมีแว่นตาเกะกะขัดขวางสายตา แต่ความสวยของเธอก็ยังล้นเหลือจนเขาใจสั่นอยู่ดี ตอนนี้เขากำลังตั้งใจจดจำเรือนร่างของกานต์ เพื่อที่จะได้นำไปช่วยตัวเองให้สาสมใจในเวลาหลังจากนี้ กานต์มองหน้าเขาแล้วก้มหน้างุดด้วยความเขิน เธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์กลัดมันที่สื่อออกมาทางสายตาของเขา และหากเป็นช่วงเวลาปกติ เธอคงจะรีบขอตัวเพื่อหลบหนีสายตาแทะโลมของเขา หากทว่าในช่วงเวลาเช่นนี้เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นพลุ่งพล่านอย่างแปลกประหลาด โดยเฉพาะเมื่อเธอก้มหน้าลงไปมองเห็นเป้ากางเกงที่แข็งขึ้นมาเป็นลำยาวใหญ่ของเขา สาวสวยเม้มปากและหนีบสองขาเข้าหากันด้วยความรู้สึกวาบหวิวพลุ่งพล่าน เธอเผลอจินตนาการไปไกลลิบกับบอลจนร่องเสียวขมิบระรัว เธอรู้สึกว่าบอลน่าจะช่วยเธอได้ ในขณะที่บอลก็กำลังคิดฝันอยากทำแบบเดียวกัน สองหนุ่มสาวนิ่งเงียบกันไปครู่ใหญ่ เธอไม่ได้พูดอะไรเพราะความอาย บอลเองก็ไม่รู้สึกเบื่อที่จะยืนมองนางฟ้าสุดสวยคนนี้ ยิ่งเขาได้ยืนมองเขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นกระสันลุ้นระทึกมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ “บอลพักอยู่ที่ไหน บ้านหรือหอพัก” กานต์ถามขึ้นมาแบบไม่มีเกริ่นนำ บอลจึงอึ้งไปครู่หนึ่งเพราะคาดเดาไม่ถูกว่าดาวมหาลัยคนสวยอยากรู้อะไร แต่สุดท้ายเขาก็เลือกตอบไปตามความเป็นจริง “เราอยู่คอนโดข้างมหาลัยคนเดียว แต่บ้านอยู่ชานเมือง นี่เพิ่งมาจากบ้าน ว่าจะไปเข้าห้องไปอาบน้ำสักหน่อย เดี๋ยวมีเรียนตอนสาย ๆ อีก” เมื่อเขาตอบออกไปกานต์ก็นิ่งเงียบครุ่นคิด เพียงแต่บอลเดาไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จวบจนกระทั่งเมื่อเธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาน่าค้นหาแล้วพูดอะไรบางอย่างออกมา บอลก็กลายเป็นตื่นตะลึงจนแทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองฟังไม่ผิด เขาถลึงตามองกานต์ด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านราวกับภูเขาไฟ เป้ากางเกงที่พองตัวแน่นอยู่แล้วก็ยิ่งขยายขึ้นจนแทบแตกระเบิดอยู่รอมร่อ “กานต์ ... กานต์ขอไปห้องบอลด้วยนะ”

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น