AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

จอมโจรเริงสวาท 5 จบ

จอมโจรเริงสวาท 5 จบ

“อย่าทำหน้าวิตกยังงั้นสิคะ ทำใจดีๆไว้เหมือนภา แล้วก็หมั่นมาเยี่ยมภาบ่อยๆนะคะ เอ้อ..คุณทั้งสามด้วย..”
“ครับ..ที่รัก ผมจะมาเยี่ยมทุกๆวัน” พินโญตอบหล่อนเสียงแหบแห้ง ทั้งๆที่พยายามจะให้แจ่มใสสักเท่าไหร่ก็ตาม


“อย่าลืมวันชื่นคืนสุขของเราเสียล่ะคะ”
“ผมรับรองครับ ...ไม่มีวันจะลืมได้แน่” เขายืนยันเสียงหนักแน่น
หล่อนเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา แม้จะเห็นเพียงปากขมุบขมิบ เขาก็ได้ยินถนัด
“ภารักคุณค่ะ...รักสุดหัวใจ ถ้าโชคดีเป็นของเราสอง ภาคงจะได้อยู่ร่วมกับคุณ”

วันรุ่งขึ้น...หล่อนเข้าห้องผ่าตัด พินโญกับเมียรักทั้งสามไปนั่งเงียบๆอยู่หน้าห้องผ่าตัด จนหระทั่งการผ่าตัดเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข็นรถนำร่างของหล่อนซึ่งยังหลับด้วยฤทธิ์ยาสลบเข้าห้องฉุกเฉิน ห้ามเยี่ยม ทั้งสี่คนจึงออกมากินอาหารกลางวันที่หน้าโรงพยาบาล แล้วกลับเข้าไปนั่งรอฟังอาการของหล่อนจนพลบค่ำ แล้วก็พากันกลับบ้านด้วยหมดเวลาเยี่ยม
เช้าวันต่อมา.. ทั้งสี่ก็ไปที่โรงพยาบาลอีก และได้แอบถามอาการจากนายแพทย์ก็ได้รับคำตอบเพียงว่ายังไม่ทราบ

วันต่อมา..พินโญและเมียทั้งสามก็มาอีก ก็ได้ทราบจากทางโรงพยาบาลว่าคุณนายจีรภาผู้เป็นเมียรักได้จากไปเสียแล้วอย่างไม่มีวันกลับ เพราะสุดความสามารถของนายแพทย์
อนิจจา!! หล่อนจากไปเสียแล้ว ทิ้งไว้แต่ความรักความอาลัยในหัวใจเขาอีกนานแสนนาน
“ภารักคุณ..รักสุดหัวใจ..” คำพูดแผ่วๆครั้งสุดท้ายของหล่อนยังกังวาลก้องอยู่ในโสตประสาททั้งสองหู ซึ่งมันจำหลักแน่นอยู่ในความทรงจำของพินโญไปตลอดชีวิต
ขณะที่เขาบืนซึมนิ่งคิดและสายตาแน่วอยู่กับร่างอันไร้วิญญาณของเมียรัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ใส่รถเข็นนำห่างออกไปทุกที..นั้น
“คุณคือ..คุณพินโญใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ..” พินโญรับคำ
“ขอเชิญทางนี้หน่อยครับ ผมเป็นทนายของคุณนายจีรภา”

ทนายความได้นำพินโญกับเมียทั้งสามไปยังสำนักงาน พอนั่งกันเรียบร้อย ทนายก็บอกว่า
“คุณได้รับมรดกบางส่วนของคุณนาย คือที่ดินพร้อมทั้งบ้านที่วังแก้ว ซึ่งคุณคงจะรู้จักดีแล้ว และที่ดินริมถนนสายบางนา-ตราดอีกสามไร่ เงินสดสองแสนบาท คุณเซ็นชื่อตรงนี้ครับ...”
พินโญเซ็นชื่อด้วยมือที่สั่นเทาเพราะความตื้นตันใจ น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม
“ทราบไหมครับว่า คุณนายทำพินัยกรรมนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ท่านสั่งให้เตรียมพร้อมไว้ก่อนไปวังแก้ว และเซ็นให้คุณเมื่อเย็นวันก่อนเข้ารับการผ่าตัดครับ”
พอออกมาจาดสำนักทนายความ เขาก็นึกถึงซองหนังสีดำที่หล่อนให้เขาฝากธนาคารไว้ จึงตรงไปยังธนาคาร รับกุญแจไปเปิดออกมาดู ในนั้น...มีเครื่องเพชร ภาพถ่ายที่หล่อนกับเขาถ่ายร่วมกันที่บ้าน พร้อมกับจดหมายฉบับหนึ่ง เขียนว่า...

สุดที่รัก...
จดหมายฉบับนี้ คุณคงได้อ่านเมื่อภาจากคุณไปอย่างไม่มีวันกลับแล้วแน่นอน เพราะภาเชื่อว่าคุณคงปฏิบัติตามที่ภาสั่งเอาไว้ใช่ไหมคะ? พินโญขา..โปรดให้วิญญาณของภาหมดกังวลและห่วงใยในตัวคุณ โดยคุณต้องหันหลังให้กับอาชีพย่องเบาเสียเถิด บรรดาสิ่งของต่างๆที่ภาให้กับคุณ คงพอจะทำให้คุณดำเนินชีวิตในทางดีงามเช่นคนอื่นได้ ถ้าคุณยังรักและคิดถึงภาอยู่ละก้อ คงจะไม่หวนกลับไปใช้ชีวิตในทางเสื่อมอีกเลยนะคะ...พินโญขา
วิญญาณของภาจะคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆคุณ จะเหนี่ยวรั้งคุณไว้มิให้กระทำความผิดร้ายใดๆ
ลาก่อน..ผัวรัก ลาชั่วนิรันดร
ถ้าชาติหน้า..ภพหน้ามีจริง ภาจะขอเป็นเมียของคุณทุกภพทุกชาติ...
พินโญขา..ภารักคุณ รัดสุดหัวใจ.

จีรภาของคุณ ”





อวสาน




ก็มาถึงตอนท้ายสุดของเรื่องนี้แล้ว เรื่องที่ตอนขึ้นต้นทำท่าจะออกแนว“สนิมสร้อย” [เรื่องเริ่มเปิดฉากด้วยซ่อง]และช่วงกลางเรื่องก็กลับกลายเป็น“สงครามชีวิต”(มจ.อากาศดำเกิง) [ที่หนุ่มไทยโชคดีได้คั่วแหม่มสาว] แล้วมาลงเอยจบเรื่องในแบบซึ้งๆอย่างมรว.กีรติ-“ข้างหลังภาพ” ซึ่งก็ต้องนับว่าผู้ประพันธ์พยายามทำให้มีเนื้อหาและเป็นนิยายที่อ่านในขนาดเล่มหนา(เหมือนจะยั่วล้อพวกนิยายโรแมนซ์ปกแข็งอยู่ในที)

อย่างไรก็ดี เมื่อพิมพ์ต้นฉบับงานแล้วก็เกิดข้อสังเกตว่า เดิมทีเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องขนาดสั้นแบบปกขาวธรรมดา และเป็นเรื่องที่เขียนไว้ในช่วงเวลาก่อนหรือประมาณ“2499 อันธพาลครองเมือง” เพราะช่วงแรกๆของเรื่องยังมีสภาพบรรยากาศย้อนยุคไปก่อนปี 2500 ชัด ซึ่งก็จะมีหลงๆไปตามท้องเรื่องเป็นระยะ แต่พอเข้ากลางเรื่องที่มีบทแหม่มนี่ น่าจะเป็นการมาแต่งต่อเติมเข้ามา หนึ่งให้เรื่องมีขนาดยาวขึ้น สองเป็นการร่วมสมัยที่แต่งต่อเติม ที่น่าจะเป็นยุคประมาณ“ฐานทัพอเมริกา-สงครามเวียดนาม” ที่ความคิดเรื่องเซ็กซ์ของสังคมไทยเราเริ่มรับแบบแผนฝรั่งตะวันตกเข้ามา (จะเห็นที่ผู้ประพันธ์แทรกคำสอนความเห็นเทคนิคเซ็กซ์ต่างๆ)ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการบรรยายฉากมีเซ็กซ์ ที่ในเรื่องนี้...เริ่มมีมากกว่า‘ทิ่มฉีกๆ’แบบที่มีคนเคยตั้งข้อสังเกตกับปกขาวที่ดึกดำบรรพ์กว่า(ที่นำมาโพสไว้ก่อนๆหน้าแล้ว)
นอกจากบรรยากาศเหตุการณ์ประกอบเรื่องแล้ว ภาษาในหลายตอนก็สะท้อนความแตกต่าง แม้บางครั้งจะมีผสมผเสกันเพราะการแต่งแทรกเติมเข้ามาแล้วไม่รู้สึกต้องเกลา ซึ่งที่ผู้คัดลอกออกตัวว่าคงไว้ตามที่ต้นฉบับพิมพ์ไว้ ก็อยากจะยั่วให้ใครที่สันทัดลองจับสังเกตดู (หลังจากที่สำราญจากเรื่องกำหนัดแล้ว ...ฮาฮาฮา)
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อสังเกตเท่านั้น ด้วยไม่สามารถจะค้นคว้าหาปกขาวต้นขั้วจริงๆมาพิสูจน์กันได้ เพราะคงไม่มีห้องสมุดรวบรวมไว้ให้ได้ค้นคว้า

อ้อ! มีเกล็ดอยู่อีกนิดที่เคยได้ฟังมาจากคนวงในของโรงพิมพ์...คงจำได้ว่าพินโญพระเอกของเราหิ้ว‘กระเป๋าเจมส์บอนด์’ (ไม่รู้ว่าหลายคนเกิดทันรุ้จักหรือเปล่า? ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นตอนที่ฌอน คอนเนอรี่หนุ่มเป็นเจมส์บอนด์007 ตอน “Doctor NO” ก็ลองประมาณเวลากันเอาเองนะครับ เพราะเรื่องที่จะพูดถึงไม่ใช่ประเด็นนี้) แล้วเขาเอาหนังสือโป๊สวีเดนใส่ไปพร้อมหนังสือสำคัญไปหาแหม่มมัวรีนอเมริกัน... เกร็ดที่ว่าก็คือยุคนั้นเชื่อว่าพวกเดนมาร์กสวีเดนเป็นดินแดนฟรีเซ็กซ์ มีย่านขายเซ็กซ์รวมทั้งเซ็กซ์ช๊อปถูกกฎหมายก่อนในอเมริกาจะปฏิวัติทางเพศเอาหลังทศวรรษ 1970s เสียอีก หนังสือโป๊ก็ต้องมาจากที่นั่นเท่านั้น ยุคนั้นรู้สึกจะเป็นหัว“COLOUR CLIMAX” คนไทยก็มักจะฝากหรือจ้างพวกนักบินหรือสจ๊วตหรือพวกเด็กนักเรียนนอกให้แอบหิ้วเอาเข้ามา แล้วเอามาปล่อยหรือขายต่อ ทำให้โก่งราคากันได้ถึงราคาเล่มละเป็นพันกว่าบาท แล้วแต่ความกันดารในการหาหนังสือปกขาว แต่การแอบ‘หิ้ว’แบบนี้ได้หนังสือมาไม่พอกับความต้องการ ตอนนั้นโรงพิมพ์แบบอ็อฟเซ็ตเริ่มมีแล้ว จึงมีคนหัวใส เอาหนังสือเอ็กซ์เดนมาร์คนั้นมาถ่ายเพลทก็อปปี้พิมพ์ในไทยทั้งเล่ม แล้วเอาออกขายในราคาเดิมเหมือนเป็นของนอก ตอนนั้นใครได้มาก็เชื่อว่าได้ของชั้นหนึ่งจากนอกเชียว!! ...เรื่องแบบนี้ยังทำกันเรื่อยมาจนถึงยุคหนังสือเอ็กซ์ญี่ปุ่นระบาดเหมือนกัน เรียกว่าหลอกกันมาได้นานนับสิบๆปีทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น