รุ่นน้องของสามี ฉบับ side story ep.1
ก่อนอื่น ต้องเรียนให้ผู้อ่านเข้าใจไว้ก่อนครับว่า เรื่องรุ่นน้องของสามีนี้
ฉบับแรกเป็นผลงานการเขียนของ ท่านพงษ์เทพ กระเด้าชำนาญ
ซึ่งท่านเขียนไว้หลายปีแล้ว ผมคาดว่าท่านคงเขียนไว้ไม่จบ
หรือตั้งใจที่จะเขียนเท่าที่ผมอ่านเจอมา
ผมชอบมาก เลยเอามาเขียนต่อ ด้วยสำนวน และจินตนาการของผม
และที่ผมนำมาให้อ่านนั้น เป็นส่วนที่ผมเขียนขึ้นเอง แต่ส่วนแรกของ
ท่านพงษ์เทพนั้น ผมไม่กล้าcopy มาให้อ่านครับ(อาจจะมีแล้วในเวบนี้)
เชิญเพื่อนๆลองอ่านกันครับ มีเพียงแค่สองสามep. เท่านั้นก็จบ
suckzeed...........
.....................................................................
"พี่โอคะ...ดุนี่สิ.." เช้าวันหนึ่งหลังจากที่ผมกลับมาจากต่างประเทศครั้งล่าสุดได้สักหนึ่งเดือน เย็นวันนั้นเมย์ก็เดินเข้ามา
หาผมขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานภายในบ้าน สีหน้าของเมย์ดูสดชื่นตาใสเป็นประกาย แห่งความสุข ยื่นแท่ง
พลาสติคเรียวๆยาวๆ มีป้ายสีเป็นชั้นๆเรียงตามลำดับให้ผมดู
"อะไรจ๊ะที่รัก.." ผมถามกลับไป เพราะไม่รุ้จริงๆว่าสิ่งที่เมียยื่นให้ดูนั้นคืออะไร
"ผลตรวจปัสสาวะค่ะ....ผลออกมาเป็นบวก..." เมย์พูดยิ้มๆ หน้าแดงๆ ตาแวววาวสุกใสเป็นประกาย
"แล้วผลบวกมันเป็นยังไง
จ๊ะ..รีบบอกพี่มาเร็วๆ"
ผมจับไหล่สองข้างของเมย์เขย่าเบาๆ เพื่อเร่งให้เธอบอก แต่เมย์กลับอมยิ้ม ทำท่าเอียงอาย เอนหน้าลงมาซบอกของผม
แล้วตอบอุ๊บอิ๊บเบาๆ
"เมย์ท้องแล้วค่ะพี่โอ...." แม้เมย์จะกระซิบตอบเบาๆ แต่ข้อความที่ผมได้ยินนั้น เหมือนมันยังดังก้องเต็มสองหู
แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมาจน8เดือนแล้วก็ตาม ผมยังจำได้ดีเลยว่าผมกระโดดตัวลอยดีใจขนาดไหน พร้อมกับช้อนร่าง
เพรียวบางของเมย์อุ้มวิ่งไปทั่วบ้านด้วยความดีใจ จนเมย์ต้องร้องเตือนเบาๆว่าระวังหกล้มเดี๋ยวได้แท้งกันพอดี
จนกระทั่งวันนี้ ขณะที่ผมยืนอยู่หน้าห้องคลอดด้วยความกระวนกระวายใจ รอลุ้นว่าเมื่อไหร่เมียผมจะคลอดลูกสาวให้
ผมเสียที ทั้งๆที่เธอถูกเข็นเข้าห้องเตรียมคลอดไปตั้งสามสี่ชั่วโมงแล้ว ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา จนเหมือนกับ
กลัวว่ามันจะหายไปจากข้อมือ และแล้วเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึงเมื่อพยาบาลประจำห้องคลอดเดินออกมาบอกผมว่า
เมย์คลอดลูกสาวให้ผมแล้ว สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
"ตอนนี้น้องอยู่ที่ห้องเด็กอ่อนแล้วนะคะ...ถ้าคุณพ่ออยากดูน้องก็ลงไปที่ชั้น3ได้เลยค่ะ.." พยาบาลสาววัยไม่น่าจะเกิน
25พูดยิ้มๆ แล้วเดินจากไป
ผมเลยสาวเท้าก้าวยาวๆอย่างเร่งรีบไปยังลิฟท์แล้วกดไปยังหมายเลข3 ด้วยใจที่เต้นระทึกด้วยความปลาบปลื้มดีใจ อยาก
รุ้นักว่าน้องมายลูกสาวของผมนั้นจะหน้าตาสวยเหมือนเมย์ผู้เป็นแม่ หรือว่าจะหน้าตามาทางผม เมื่อผมไปยืนมองผ่าน
กระจกบานใหญ่ ซึ่งภายในห้องมีทารกแรกเกิด อยู่บนกระบะสี่เหลี่ยมเล็กๆ จำนวน10กว่าคน ผมมองปราดไปทั่วๆ แล้วสาย
ตาก็สะดุดอยุ่ที่ทารกคนหนึ่งที่อยู่ไกลๆด้านขวามือของผม
แม้ผมจะไม่สามารถมองเห็นป้ายชื่อเล็กๆ ที่ผูกตรงข้อมือของเธอว่าเป็นลูกของใคร แต่จากสัญญาติญาณของสายเลือด
และความผูกพัน ผมมั่นใจเลยว่าทารกผู้นั้นต้องเป้นน้องมายลูกสาวของผมกับเมย์อย่างแน่นอน เมื่อพยาบาลประจำห้อง
เด็กอ่อนแรกเกิดมองผ่านมาทางผมที่ยืนอยุ่นอกห้อง ส่งสายตาไปยังทารกแรกเกิดนั้น เธอก็ส่งยิ้มมาให้พร้อมกับเดินตรง
เข้ามาหา
"ลูกสาวหรือลูกชายคะคุณพ่อ..." พยาบาลถามยิ้มๆ แล้วรอคำตอบจากผม
"ลูกสาวครับ น้องมาย...คนนั้นใช่มั๊ยครับ" ผมตอบคำถามของพยาบาล พร้อมชี้นิ้วไปที่ทารกที่ผมหมายตาไว้ เมื่อพยาบาล
เดินกลับไปพลิกป้ายชื่อที่ข้อมือเล็กๆของทารกน้อย เธอก็หันมาส่งยิ้มให้ผม แล้วเข็นกระบะสี่เหลี่ยนที่ใส่ทารกน้อยๆแรก
เกิดเดินกลับมา
"ใช่เสียด้วยค่ะ...คุณพ่อเก่งจัง รู้ด้วยว่าคนไหนเป็นบุตรสาว.." พยาบาลสาวพูดพร้อมกับอุ้มน้องมายขึ้นมาแนบอกหันหน้า
เล็กๆของเธอมาให้ผมดู ผมมองวงหน้าเล็กๆเท่ากำปั้นของลูกสาวแล้วกลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่ไหว ความรุ้สึกรักและผูกพัน
แล่นเข้ามาจับใจ วงหน้าเล็กๆปากนิดจมูกหน่อย แม้จะดูไม่คล้ายกับผม แต่คล้ายกับเมย์ผู้เป็นแม่อย่างกับแกะ
พยาบาลสาวร่างเล็กๆ อุ้มน้องมายให้ผมดูใกล้ๆอยู่สักครุ่ก็วางร่างเล็กๆของเธอลงยังกระบะสี่เหลี่ยมอีกครั้ง ผมได้แต่ส่งสาย
ตามองดูหน้าลูกสาวด้วยความรัก ความผูกพันของสายโลหิต รอยยิ้มเล็กๆกับดวงตากลมๆสีดำขลับนั้นมองจ้องตอบกับผม
เหมือนเธอรับรุ้ความว่าผู้ชายที่ยืนจ้องมองเธออยู่นั้นคือพ่อของเธอ พ่ออันเป็นที่รักของเธออย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย...........
"เมย์..พี่ว่าลาออกจากงานมาเลี้ยงยัยหนูดีกว่านะ..."
หลังจากที่เมย์ลาคลอดครบกำหนดแล้ว เธอเตรียมตัวที่จะกลับไปทำงาน ผมจึงปรึกษากับเธอถึงเรื่องนี้ เพราะเป็นห่วงว่าจะ
ไม่คุ้มกัน ถ้าจะจ้างพี่เลี้ยงให้มาคอยดูแลยัยหนูของผม ผมไม่ได้ห่วงเรื่องรายได้หรือค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ที่ห่วงคือสุขภาพ
ของยัยหนูมากกว่า เพราะแกดูไม่ค่อยแข็งแรง โดยไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นเพราะอะไร สามวัดีสี่วันไข้ เป็นอย่างนี้มาตลอดตั้ง
แต่คลอดออกมา หรืออาจจะเป็นเพราะแกไม่ได้ภูมิคุ้มกันจากนมมารดาก็เป็นได้ เพราะเมย์เมียของผม ไม่เคยให้ลูกสาวดูด
นมของเธอเลยสักครั้ง
"ไม่ไหวค่ะพี่โอ..ให้ยัยมายดูดนมทีไรเมย์ขนลุกจักกะจี๋ทุกที...ให้แกกินนมผงนี่แหละดีแล้วค่ะ.."
มันเป็นเหตุผลของเมย์ที่เธอไม่เคยยอมให้ลูกสาวดูดนมจากเต้าแม้สักครั้ง แต่ก็แปลก ทีเวลาโดนผมดูดหัวนมไม่เห็นเธอจะ
จักกะจี๋สักที ผมก็คร้านที่จะสอบถามเอาความจริงจากเมย์ เพราะสังเกตุได้ว่าตั้งแต่เธอคลอดยัยหนุออกมานั้น เธอมักจะหงุด
หงิดอารมณ์เสียบ่อยๆโดยไม่ทราบสาเหตุ............................
ดิฉันยังจำได้ดีถึงท่าทางความดีใจของพี่โอในวันที่เอาผลตรวจปัสสาวะไปบอกให้พี่โอรับทราบว่า ดิฉันกำลังตั้งท้องแล้วนับ
จากวันนั้นพี่โอก็เอาใจใส่ประคบประหงมดิฉันเหมือนไข่ในหิน ไม่รุ้พี่โอไปเอาองค์ความรุ้ผิดๆมาจากที่ไหนว่า ผู้หญิงตั้งท้อง
นั้นห้ามกระทบกระเทือน รวมถึงห้ามไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ เพราะนับจากวันนั้นที่ดิฉันยังตั้งท้องได้เพียงแค่เดือนสองเดือน หน้า
ท้องยังแบนราบไม่ได้บวมป่องออกมาแม้สักนิด
พี่โอก็จับดิฉันไปวางไว้บนหิ้งบูชาเสียแล้ว ไม่เคยแม้จะแตะต้องมีความสัมพันธ์ทางเพศเลยสักครั้ง แรกๆดิฉันก็ทนได้ ไม่ได้
เดือดร้อนต้องการแต่อย่างใด ครั้นผ่านไปสามสี่เดือน ของที่เคยกินเคยใช้ ให้มาอดสนิทเช่นนี้ มันก็ต้องมีหิวมีโหยกันบ้าง
แหละค่ะ และโดยเฉพาะ น้องนนท์ก็กลายมาเป็นคนกระตุ้นความอยากให้ดิฉันอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งๆที่ดิฉันตั้งใจไว้แล้วว่าจะตัด
ขาดไม่มีความสัมพันธ์กับเขาอีกต่อไป
"พี่เมย์ตอนท้องแล้วนี่ยิ่งดูยิ่งสวยยิ่งน่ารักกว่าเดิมอีกนะครับ.." นนท์มักแอบมากระซิบบอกดิฉันเช่นนี้เสมอยามที่ลับตาผู้คน
ต่างกับพี่โอที่ไม่เคยชื่นชม ไม่เคยบอกดิฉันเช่นนี้เลย ทั้งๆที่ใจของดิฉันนั้นอยากได้ยินได้ฟังคำพูดเหล่านี้ออกมาจากพี่โอ
มากกว่า
"ไปไกลๆเลยนนท์... มาทำปากหวานกับพี่....ไม่มีผู้หญิงให้จีบหรือไงจ๊ะ.." ดิฉันพูดยิ้มๆแก้เขินเสียมากกว่า
"ผมพูดจริงๆนะครับพี่เมย์....ไม่ได้แกล้งชมแกล้งยอพี่สักนิด"
นายนนท์พุดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง สายตาจับจ้องมองท้องบวมป่องของดิฉันวาวๆ แล้วเหลียวหน้าเหลียวหลังมองออกไป
นอกห้องทำงานของดิฉัน เมื่อเห้นว่าปลอดคน เพราะเป็นช่วงพักกลางวัน พนักงานในออฟฟิสต่างทยอยออกไปหาอาหาร
กลางวันทานกันหมด ดิฉันก็เช่นกัน ตั้งใจว่าจะเคลียร์งานบนโต๊ะอีกสักครุ่ก็จะออกไปหาออาหารทานเช่นกัน
"นนท์ไม่ไปทานข้าวหรือคะ..." ดิฉันพยายามเปลี่ยนเรื่องสนทนา เพราะรุ้ว่าขืนพูดเรื่องเดิมต่อไป คงเข้าเนื้อขาดทุน โดน
นนท์แทะโลมเป็นแน่
"ผมจะมาชวนพี่เมย์ไปทานข้าวแหละครับ...นะครับพี่..ตั้งแต่..เอ้อ...ผมไม่เคยไปไหนกับพี่เมย์เลยนะครับ.."
ดิฉันรู้ว่านนท์คงอยากจะพูดว่าตั้งแต่เราเย็ดกันครั้งสุดท้ายในวันที่ไปรับพี่โอที่สนามบินแล้ว ดิฉันไม่เคยเปิดโอกาสให้
นนท์เข้ามาใกล้ชิดอีกเลย ดิฉันเงยหน้ามองสบตากับหนุ่มรุ่นน้อง เห้นแววตาออดอ้อนของเขาก้ใจอ่อน เอาเถอะนะแค่
ไปทานข้าวกลางวันกัน คงไม่มีอะไรหรอก ดิฉันพูดปลอบใจตัวเอง แล้วพยักหน้าตอบตกลงไปทานข้าวกับนนท์ ดูเหมือน
นนท์จะดีใจมาก เผลอตัวเข้ามากอดดิฉันเสียแน่นด้วยความลืมตัว
[post]"นนท์..ปล่อยพี่..."
ดิฉันดุเสียงเข้มๆหน้าแดงๆ แม้จะเป้นการกอดด้วยความดีใจ ไม่ใช่ด้วยความรัก แต่อ้อมกอดของนนท์นั้น ก็ทำให้ใจดิฉัน
อุ่นวาบขึ้นมาอย่างประหลาด แต่แทนที่นนท์จะเชื่อคำสั่ง ปล่อยร่างดิฉันออกจากอ้อมกอดของเขา นนท์กลับใช้มือลูบท้อง
บวมๆป่องๆของดิฉันเล่นเบาๆแผ่วๆ
"พี่เมย์ไปอัลตร้าซาวด์มาหรือยังครับว่า..เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง.." นนท์ถามเบาๆ พร้อมกับคลายวงแขนออกจากการกอดรัด
ร่างดิฉัน แต่มือของเขายังคงไล้ลูบเนินหน้าท้องป่องๆของดิฉันอย่างต่อเนื่อง จนใจดิฉันวูบวาบๆ เผลอตัวยืนนิ่งปล่อยให้
เขาลูบไล้ไปมา
"นนท์พอเถอะ...อย่าทำแบบนี้..เดี๋ยวมีคนมาเห็น..." ดิฉันต้องร้องปรามเขาเบาๆ เมื่อเริ่มรุ้สึกว่ามือที่ลุบไล้หน้าท้องของดิฉัน
นั้น มันค่อยๆเลื่อนลูบต่ำลงมาทุกที จนบางครั้งปลายนิ้วกลางของนนท์ไล้ผ่านเนินสวาทของดิฉันจนรู้สึกวูบวาบๆไปหมด
"พี่เมย์อยากทานอะไรครับ..ติ่มซำดีมั๊ยครับ..ร้านที่เราไปทานกันบ่อยๆน่ะ..." นนท์หาเรื่องคุยซักถาม แต่มือยังคงไม่ปล่อย
จากหน้าท้องป่องๆของดิฉัน ดีแต่ว่าไม่ได้ลูบไล้ต่ำลงไปจนถึงเนินสวาทให้ใจดิฉันวูบวาบเท่านั้น
"ก็ดีค่ะ..พี่ไม่ได้ไปทานตั้งนานแล้ว..ว๊ายยยย...นนท์นี่..ปล่อยเลยนะ..อืยยยยย..." ดิฉันตอบนนท์ไปแล้วก็ไม่ทันได้ระวังตัว
พอเผลอไปแว๊บเดียวมือของนนท์ก็ล้วงลงไปที่หว่างขาของดิฉันแล้วกำบีบเนินสวาทของดิฉันไว้เต็มๆมือ จนตกใจร้องว๊าย
ออกมา แล้วพยายามจะดึงข้อมือของนนท์ออกจากจุดนั้น แต่นนท์กลังดื้อดึงแข็งขืนมือไว้ มิหนำซ้ำยังขยับนิ้วขยุกขยิกกดๆ
คลึงๆตรงร่องสวาทของดิฉันยึกๆ จนดิฉันเผลอตัวร้องครางเสียงกระเส่าออกมา
"อือ.....พี่เมย์เงี่ยนนี่ครับ..ดุสิหอยพี่น้ำเงี่ยนเยิ้มเลย.." แทนที่นนท์จะดึงมืออกมาจากเนินสวาทของดิฉัน เขากลับยิ่งกดนิ้ว
บดคลึงไปมาที่ปากร่องเสียว จนน้ำเงี่ยนของดิฉันไหลทะลักซึมผ่านกางเกงในบางๆกับชุดคล่อมท้อง ติดปลายนิ้วของ
นนท์ออกมา
"บ้าจังนนท์นี่...ซี๊ดดดด..." ดิฉันดุนนท์เบาๆสุ่มเสียงพยายามบังคับไม่ให้สั่นกระเส่า แต่ช่างยากลำบากเสียเหลือเกิน เมื่อ
นนท์ขยับปลายนิ้วไต่ขึ้นมาจนถึงยอดแตด แล้วกดคลึงยึกๆ จนดิฉันตัวอ่อนยวบแทบจะยืนไม่ไหว
"ผมคิดถึงหอยพี่เมย์มากเลยรู้มัยครับ..." นนท์พูดพร้อมกับกรีดนิ้วผ่านรอยแยกของกลีบสวาทสองข้างเบาๆ จนดิฉันต้องขยับ
ขาอ้าถ่างขึ้นร่องสวาทขมิบยวบๆกลั่นน้ำเงี่ยนไหลทะลักออกมาจนรุ้สึกร่องรักฉ่ำแฉะ
"ซี๊ดดดดด..พอแล้ว..นนท์..ยะ..อย่าทรมานพี่แบบนี้สิคะ...ซี๊ดดดดด...ปล่อยพี่สิคะ..อูยยย..ซี๊ดดด" ดิฉันร้องห้ามปรามเสียง
สั่นๆ ไม่ใช่เพราะไม่อยากให้นนท์ทำต่อ แต่ในสถานที่แบบนี้มันเสี่ยงต่อการถูกพบเห็นเป็นอย่างมาก
"พี่เมย์ครับ...นนท์อยากกินหอยพี่เมย์...." นนท์พูดเฉยก็คงไม่กระไรนักหรอก แต่นนท์ไม่เพียงแค่พูด กลับค่อยทรุดตัวลงไป
คุกเข่ากับพื้นห้อง แล้วซบหน้าเกลือกกลิ้งที่ใต้ท้องน้อยป่องๆของเมย์ จูบเน้นๆที่เนินโหนกสวาทของเมย์ฟอดๆ เสียงหอบ
หายใจดังฟืดๆ แม้ว่าดิฉันจะเคยแอ่นหอยอูมๆให้นนท์กินมาหลายครั้งแล้วจนติดใจท่าทางลีลาการกินของเขา แต่นี่มันใน
ออฟฟิส ใครจะรุ้ได้ว่า อาจมีบางคนกลับมาก่อนเวลาก็ได้
"นนท์พอก่อนสิคะ...ยะ..อย่าดื้อ...ซี๊ดดด...พาพี่..ไป....ไปข้างนอกเถอะค่ะ...อืยยยย..ซี๊ดดด..." ดิฉันจำต้องร้องห้ามนนท์
แล้วตัดสินใจบอกให้เขาพาออกไปข้างนอก ซึ่งคงไม่ต้องให้บอกหรอกนะคะว่าไปไหน เพราะขืนไม่พูดออกไปเช่นนี้ คงถูก
นนท์จับถ่างขากินหอยในออฟฟิสเป้นแน่
เพราะตอนนี้เขาถลกกระโปรงชุดคลุมท้องของดิฉันเลิกขึ้นมา แล้วมุดหัวเข้าไปจูบฟัดเล็มเลียหอยอูมๆของดิฉันจนน้ำละทัก
ไหลเจิ่งนองจนเป้ากางเกงในเปียกแฉะ เมื่อดิฉันร้องบอกไป นนท์รีบมุดหัวออกมาจากชุดคลุมท้อง เงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างเจ้า
เล่ห์ แล้วจูงมือดิฉันออกมาจากออฟฟิส
"ไปรถผมนะพี่.. ติดฟิล์มมืดดี..."
ดิฉันยังไม่ทันตอบ นนท์ก็ดึงมือดิฉันไปที่รถเก๋งของเขา ซึ่งติดฟิล์มมืดสนิทตามที่บอกจริงๆ พอนนท์เปิดประตุให้ดิฉันก็
เหลี่ยวมองรอบๆลานจอดรถ เมื่อเห็นว่าปลอดคนก็รีบมุดตัวเข้าไปพร้อมปิดประตุทันที นนท์วิ่งอ้อมไปขึ้นด้านคนขับ แต่
แทนที่จะรีบขับรถออกไปกลับดึงดิฉันเข้าไปประกบปากจูบอย่างเร่าร้อน
ดิฉันสนองตอบสอดลิ้นพัวพันกับนนท์ด้วยใจตื่นระทึก ลืมคิดถึงลูกในท้องและสามีไปเสียสนิท มือไม้ของนนท์สอดเข้ามา
เกาะกุมเนินสวาทของดิฉันบีบคลึงเล่นเบาๆยึกๆ ด้วยมือข้างเดียว แล้วค่อยๆเคลื่อนรถออกไปช้าๆ จนถึงถนนใหญ่ก็เร่งเครื่อง
อย่างเร่งรีบเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางสวรรค์ที่อยู่เบื้องหน้าใกล้ๆ
เมื่อเราทั้งสองเข้าไปถึงในห้องพักของโรงแรมม่านรูด เพียงแค่ปิดประตุลงฉับ นนท์ก็ขยับเข้ามาดันตัวดิฉันจนติดผนัง จาก
นั้นก็ฟัดจูบสองเต้าอวบตึงที่ขยายตัวใหญ่กว่าแต่ก่อน คงเพื่อเตรียมตัวรองรับการมีลูกของดิฉันเป้นแน่
"พี่เมย์ครับ..นมพี่ใหญ่ขึ้นมากเลยนะนี่..." นนท์เงยหน้าจากทรวงอกคัดแข็งขึ้นมาบอก แล้วก้มหน้ากลับลงไปจูบฟัดฟอน
เฟ้นหนักมือขึ้นทุกทีๆ จนดิฉันอดครางเสียวออกมามิได้ สองมือตะปบจิผมของนนท์รั้งไว้ เมื่อเห้นทีท่าว่าเขากำลังค่อยๆ
ทรุดตัวฟอนเฟ้นร่างสาวอวบอัดของดิฉันต่ำลงไปทุกที[/post]
|
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(
Atom
)
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น