AEl5Nk.gif AEl5Nk.gif


เหตุเกิดที่โรงแรมblPdyV.gif
โดย Tom Mm

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
29/07/66

เต้ยกับพี่ติ่ง blPdyV.gif
โดย ตฤษณา

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ผิดที่เมย์เองเลยโดนจับขึงพืดblPdyV.gif
โดย Uratarou

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

ฝึกงานที่บริษัทขายหมู่บ้านจัดสรรblPdyV.gif
โดย 子翔吳

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

พ่อเลี้ยงของหนู EP1blPdyV.gif
โดย Ken Ken

ข้อมูลอัฟเดทล่าสุด
28/07/66

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 10

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 10
โดย saradio

สามสี่วันที่ชาวญี่ปุ่น ตะเวนไปตามเกาะต่างๆชมทะเลอันดามันของประเทศไทย เมื่อถึงรีสอร์ทตามเกาะต่างๆ ก็เข้าพักค้างคืนส่วนผมกับลุงแขกก็นอนรอกันบนเรือ พอวันต่อมาระหว่างที่เรือแล่นอยู่กลางทะเลเพื่อจะไปอีกเกาะหนึ่งกลับเห็นเรือเร็ววิ่งตามหลังมา แล้วก็เร่งขึ้นมาตีคู่ คนบนเรือนั้นนับได้ 5 คนแล้วคนหนึ่งทำสัญญาณมือให้หยุดเรือ ลุงแขกกับผมต่างสงสัย ลุงแขกจึงชะลอเรือลง ผมรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลจับจ้องมองสังเกตตลอด จนเห็นคนบนเรือเร็วนั้น ชักปืนกลมืออูซี่ออกมาแอบแนบข้างตัวรู้ได้ทันทีว่า ไอ้คนบนเรือเร็วไม่ประสงค์ดีแน่ ผมชี้ตะโกนบอกลุงแขก ว่า "พวกมันมีปืน" ลุงแขกตกใจ แต่ยังตังสติได้ดี รีบเร่งเครื่องหนีหักหัวเรือทิ้งโค้ง90 องศา จนลำเรือเอียง คนบนเรือเร็ว

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 9

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 9
โดย saradio

พอหลังจากที่เราตกลงไปทะเลกันอาทิตย์หน้าแล้วทั้งกลางและแอนต่างตื้นเต้นกระดี๊กระด๊ากันอย่างมากต่างก็ไปซื้อชุดว่ายน้ำเล่นน้ำทะเลกันคนละชุด 2 ชุด แต่ละชุดก็แสนจะหวือหวามองแล้วน้ำลายจะไหล พอใส่แล้วอยากจะล่อทั้งคู่ค่าชุดจริงๆก็ติดที่ว่าพวกเธออาทิตย์นี้ต้องทำงานเคลียร์คิวที่จองพวกเธอเอาไว้ให้หมดขืนผมล่อไป 2สาวหมดแรงก็ไม่ต้องไปรับแขกกันพอดี แล้วในที่สุดก็ถึงวันที่เราจะไปทะเลกันทุกคนดูเบิกบานและตื้นเต้นกันมาก โดยเฉพาะ สองสาว วุ่นวายแพ็กเป้กระเป๋ากันแต่เช้าพอเสร็จแล้วก็พากันออกจากบ้านไปสถานีรถไฟ ตอนนั้นเรายังไม่ได้ซื้อรถยนต์เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นในชีวิตประจำวันของพวกเราซึ่งใช้มอเตอร์ไซด์สะดวกกว่า ทีนี้พอจะไปเที่ยวที่ไกลๆก็ต้องอาศัยรถทัวร์ รถไฟรถประจำทางนี่แหละ ก็นั่งจากข่อนแก่นเข้ากรุงเทพต่อจากกรุงเทพลงใต้เพื่อจะไป

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 8

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 8
โดย saradio

หลังจากที่พวกเราลาแยกจากนางชีวิตพวกเรา ผม กลาง และแอน ยังคงเดินต่อไปตามเส้นทางคาวโลกี เพียงแต่เริ่มมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามลำดับเนื่องจากกลางไม่ต้องแบกภาระต่างๆของพี่น้องอีกแล้ว แล้วเธอก็มาช่วยแอนปลดหนี้ให้ครอบครัวจนหมดทั้งสองคนนี้บางทีก็ทะเลาะกันเถียงกัน แต่เอาเข้าจริงก็เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากที่ฝ่าฟันสู้ชีวิตมาด้วยกันและรักกันเหมือนเป็นคนในครอบครัว จนเมื่อกลางช่วยแอนใช้หนี้ให้ที่บ้านได้หมดภาระพวกเธอมันก็หมดไป เหลือเพียงแต่เก็บเงินเพื่อสร้างตัวเองเท่านั้น ซึ่งใจจริงๆ ผมอยากให้พวกเธอเลิกทำด้วยซ้ำเพราะตอนนี้กลางไม่ใช่แค่เมียผมคนเดียว แอนก็เหมือนเมียผมไปด้วยอีกคนแม้ผมจะไม่เคยรักเธอตั้งแต่ที่แรก แต่การที่เธอยอมให้ผมเย็ดได้ทุกครั้งตามที่ต้องการแถมไม่ยอมไปมีแฟนเป็นของตัวเอง มันก็เหมือนยอมเป็นเมียผมแบบกลายๆ นั่น

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 7

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 7
โดย saradio

หลังจากที่ผมปลดปล่อยพันธะทางใจที่มีต่อนางออกไปแล้วผมก็เริ่มปล่อยให้ชีวิตผมเป็นไปตามเส้นทางที่มันควรจะเป็นถ้าชีวิตผมมันถูกลิขิตให้ต้องหากินกับผู้หญิง ผมก็ปล่อยให้มันเป็นไปแต่ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวดวงผมมันก็พาผมไปทางอื่นเอง และที่สำคัญผมเลิกหงุดหงิดเวลาไปส่งกลางให้ลูกค้าเย็ดเพราะผมเริ่มปลงทุกอย่าง และคิดว่า ถ้าชีวิตเธอมันถูกลิขิตให้กลางต้องมาเป็นกระหรี่แล้วถ้าผมจะรักเธอ ผมก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นให้ได้ไม่อย่างนั้นผมก็คิดไม่ตกอยู่เรื่อยๆ เป็นทุกข์ใจเปล่าๆ ตอนนี้ผมก็รอรับกลางอยู่หน้าโรงแรมเธอเดินลงมาพร้อมแขก และหอมแก้มลากัน รอจนแขกไปขึ้นรถเก๋งคันหรู ออกไปก่อนกลางจึงค่อยมาหาผม เธอขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ที่ผมสตาทร์รอเมื่อผมออกตัวเธอก็กอดเอวผมอย่างแนบแน่น สักพักเธอจู่ๆก็หัวเราะเหมือนนึกเรื่องอะไรขึ้นได้ บอกผมว่า "ฮิฮิ ..พี่ใหญ่ แขกเมื่อกี่ให้พิเศษกลางตั้ง พันนึงแหนะ มันบอกว่าไม่เคยเย็ดใครมันส์ขนาดนี้มาก่อนเลย" ผมเลยยิ้มน้อยๆบอกว่า "บอกแล้วผู้ชายชอบแบบนี้ทุกคนแหละ ชอบผู้หญิงมีลีลายั่วยวนปลดปล่อย

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 6

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 6
โดย saradio

ผมเองก็ห่างเหินจากการได้สัมผัสกายผู้หญิงอย่างใกล้ชิดมาเนินนานกลัวตัวเองจะหักห้ามใจไม่อยู่ เลยเอามือออกจากเอวเธอ กลางกลับบอกผมว่า "พี่เอามือออกทำไม กลางกำลังสบายเลย" เธอบอกทั้งทีหลับตานอนหนุนตักผมอยู่ ผมจึงบอกว่า "พอดี พี่ปวดท้อง เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" แล้วขยับตัวเองให้เธอลุกขึ้น กลางก็ไปนอนหนุนหมอน ส่วนผมก็ไปเข้าห้องน้ำไปสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อน ขนาดชักว่าวทิ้งออกไปสามน้ำติดๆกัน น้ำออกมาเป็นถ้วยควยผมยังไม่ยอมสงบต้องนั่งสงบจิตสงบใจในห้องน้ำนานเป็นชั่วโมงพอออกมา กลางก็หลับไปแล้ว เธอหลับยาวจนถึงเย็นโดยมีผมนอนอยู่ข้างๆ เพราะหอผมมันเล็กและก็มีแค่เตียงเดียวแคบๆเธอตื่นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ดัง และพาให้ผมรู้สึกตัวตื่นด้วยผมได้ยินเธอคุยโทรศัพท์เหมือนคุยกับเพื่อนชื่อแอนท่าทีเธอร้อนใจมากก่อนวางโทรศัพท์ เธอเหมือนมีเรื่องยุ่งยาก แล้วตัดสินใจปลุกผมทั้งที่ตอนนั้นผมรู้สึกตัวแล้ว "พี่ใหญ่ ไปกับกลางก่อนได้มั๊ย พอดีแอนมันมีเรื่องหนะ" "เรื่องอะไร" ผมถามอย่าง น้ำเสียงคนเพิ่งตื่น "แขกมันเบี้ยว ไม่ยอมจ่ายค่าตัว แถมกล่าวหาว่ามันขโมยกระเป๋าตังจะทำร้ายมันอีก" ผมเลยต้องรีบลุกขึ้น ไปกับ

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 5

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 5
โดย saradio

การได้กลับบ้านเกิดที่จากมานานๆมันทำให้เราหวนคิดถึงอดีต ตอนที่อยู่ที่นั่นไม่ได้และแน่นอนว่าผมก็มีแอบคิดถึงน้าแก้ว ทั้งที่ผมตังใจไว้ว่า จะไม่ยุ่งกับลูกคนอื่นที่ยังอยู่ในความดูแลของพ่อแม่และผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว ผมต้องสะบัดความคิดที่จะติดต่อหาน้าแก้วทิ้งไปแต่แล้วก็ไม่วายเมื่อผมถึงเชียงใหม่ และกลับไปที่วัดที่อำเภอที่ผมอยู่ หลวงพ่อดีใจที่เจอผมอยู่เหมือนกันทั้งที่คราวก่อนบอกห้ามผมกลับมา แต่นี้เป็นความจำเป็นเพาะต้องมาเกณฑ์ทหารไม่มาก็ไม่ได้ หลวงพ่อก็รู้และเป็นหวงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันกลัวผมไม่กลับมารับเข้าการเกณฑ์ แล้วบอกผมว่า "ไอ้ที่คราวก่อนบอกว่า มึงไม่ต้องกลับมาก็เพราะเป็นห่วงอยู่เรื่องหนึ่ง เอ้า เอาไปดูซะ" หลวงพ่อเดินไปหยิบหนังสือพิมพ์เก่าในตู้ให้ผมดูเล่มหนึ่งก็ประมาณครึ่งปีที่แล้ว ชี้ให้ผมดูข่าว ที่ช่องหนึ่ง หัวข่าวว่า ผัวหึงโหดยิงดับทั้งชู้ทั้ง

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 4

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 4
โดย saradio

ตอนนั้นผมเกิดการลังเลชั่งใจแต่เนื้อแน่นๆที่นอนเบียด และไออุ่นกลิ่นหอมๆอ่อนของสบู่ตรานกแก้ว ก็ทำให้ผมชั่งใจไม่อยู่ เอามือโอบเอวกิ่งไว้ โอ้แม่เจ้า เอวเธอคอดและเนื้อก็แน่นไร้ชั้นไขมันต่างจากน้าแก้ว ลิบลับ มันให้ความรู้สึกใหม่ที่ผมไม่เคยสัมผัสยิ่งระหว่างเอวกับก้น มันให้ความรู้สึกเว้าโค้งดีจริงๆ "กิ่ง แน่ใจเหรอ" ผมกระซิบถามเพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่พอผมทำแล้วเธอดันร้องโวยวายผมก็ฉิบหายกันพอดี กิ่งไม่ได้พูดตอบแต่ผงกหน้าทั้งๆที่คว่ำหน้ากับไหล่อยู่ใจผมเต้นตูมตาม พร้อมกับมือที่รุกล้ำเรือนร่างของกิ่งไปเรื่อย จากเอวลงตูดขย้ำเนื้อตูดที่แน่น เธอสวมใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นตามไสตล์ของเธอทุกวันซึ่งผมรูสึกว่ามันเกะกะ เพราะขย้ำตูดเธอไม่ได้เต็มที เพราะติดเนื้อผ้ากางเกงยีนส์ "ถอดออกดีมั๊ย" ."ก็ถอดเองสิ" "จะถอดยังไงกิ่งนอนทับมือพี่ข้างหนึ่งอ่ะ" กิ่งดันตัวลุกขึ้นทำเป็นหัวเสียเหมือนรำคาญที่ดูเหมือนผมต้องให้เธอเสนอถึงที่สุดก่อนผมถึงจะยอมทำ แต่เธอก็ถอด เธอปลด

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 3

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 3
โดย saradio

ผมมาถึงตัวจังหวัดก็เกือบมืด อ้อ ลืมบอกว่าผมอยู่เชียงใหม่จังหวัดนี้ที่ตัวเมืองก็คึกคักไม่แพ้กรุงเทพหรอก ผมยังไม่รู้จะไปไหนก็เดินเตร็ดเตร่อยู่ตรงท่ารถขนส่ง กะว่าถ้ามืดก็นอนมันแถวนี้ก่อน เช้าค่อยว่ากัน ระหว่างที่ผมนั่ง งงงวย อยู่กับชีวิตเหมือนคนพเนจรไร้ทิศทาง จู่ๆโทรศัพท์ที่น้าแก้วซื้อให้ก็ดังขึ้นผมคิดว่าน้าแก้วโทรมา แต่เบอร์ก็ไม่ใช่ ผมกดรับอย่างสงสัย "สวัสดีครับ" "เออ.. ไอ้ใหญ่เหรอ นี่กูเอง" เสียงหวนๆ ห้าวๆ ที่คุ้นหูอยู่ทักกลับมา แต่ผมยังนึกไม่ออกว่าใครเลยถามไปอย่างซื่อๆ "กู นี่มันใครครับ" "ไอ้ห่า ก็กูไง พี่จันหนะ มึงจำเสียงกูไม่ได้หรือไง" "อ๋อ พี่จัน ครับๆ จำได้ครับ" ผมตอบไปอย่างดีใจ ที่มีคนรู้จัก โทรหาผมในเวลาแบบนี้เพราะตอนนี้ผมเหมือนตัวคนเดียวโดดๆ "เออ เรื่องของมึงกูรู้แล้ว แก้วมันบอก มันขอให้กูเอามึงไปทำงานด้วยตอนนี้ มึงอยู่ไหน กูจะไปรับ" "จะ จริงเหรอครับเออตอนนี้ผมอยู่ขนส่งที่ตัวเมืองครับ

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 2

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 2
โดย saradio

หลังจากอาบน้ำเสร็จประมาณ15 นาที ก็มีคนมาเคาะห้อง น้าแก้วก็ไปเปิดประตู ก็เห็นผู้ชาย อายุประมาณ 30 เศษ รูปร่างผอมเกร็งผิวดำแดง ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตกางเกงยีนส์รัดรูปแบบพวกไสตล์คาวบอยที่พวกขายของเร่ตามตลาดนัดชอบใส่กันแถมหน้าเหี้ยมด้วย พอพี่จันมองมาทางผมที่นั่งอยู่ขอบเตียงนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวอยู่ผมนี่ใจหวั่นปั้นหน้ารับไม่ถูก รีบยกมือไหว้ พูดว่า สวัสดีครับพี่ที่ชื่อจันก็ยิ้มให้แล้วเดินเข้ามา น้าแก้วก็แซวพี่จันว่า แหมรีบมาเลยนะพี่จันก็บอกต้องรีบมาอยู่แล้ว ของงี้รอช้าได้ยังไงแล้วขอตัวไปอาบน้ำเพราะตัวเหม็นเหงื่อ น้าแก้วก็ส่งผ้าขนหนูให้พี่จันก็ไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำ ตอนนั้นผมเหมือนใบ้แดกไม่รู้จะพูดอะไรหรือทำตัวยังไงมันตื่นเต้นไปหมดน้าแก้วก็คงรู้เลยมานั่งข้างๆชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยและเอามือล้วงเข้ามาในผ้าขนหนูกำควยผมเล่น ตอนนั้นพี่จันก็ออกมาจากห้องน้ำเห็นควยผมที่ถูกน้าแก้วกำรูดให้อยู่ ต้องร้องโอ้โห "มันใหญ่จริงนี่หว่า อย่างนี้แก้วก็หีบานเลยสิ" น้าแก้วหัวเราะเหมือนชอบใจ แต่ผมกลับยิ้มแห้งๆ ออกอาการเขินๆแล้วพี่จันก็บอกน้าแก้วว่า "แก้ว อมควยน้องให้พี่ดูหน่อยสิ" น้าแก้วก็ยิ้มอย่างอ่อนหวานตาเยิ้ม แล้วขยับตัวลงไปหว่างขาผมแล้วเริ่มลงลิ้นละเลง ก่อนอมควยผมเข้าปาก ผมทั้งเสียวและใจหายวูบ

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 1

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 1
โดย saradio

เขาว่า คนเราเกิดมาอาจจะมีพรมลิขิตชีวิตมาแต่กำเนิดว่าใครจะดำเนินชีวิตไปตามเส้นทางไหน และในการที่ชีวิตเราจะเดินไปตามลิขิตได้อย่างดีนั้น มันจะมีสิ่งหนึ่งที่มนุษย์มีติดตัวมาแต่เกิดด้วย นั้นคือพรสวรรค์ มันเหมือนเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้คนไปตามลิขิตชีวิตได้ง่าย ตอนแรกผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้หรอก แต่หลังๆ ก็ชักจะไม่แน่ใจ เพราะชีวิตผมบางที่ก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว อะไรประมาณนั้น เริ่มแรกตอนที่ผมเกิด มีคนเอาผมไปทิ้งไว้ที่วัด หลวงพ่อมาเจอผมเข้า ก็สงสารเลยรับเลี้ยงอุปการะไว้ ตอนนั้นหลวงพ่อเห็นผมเป็นเด็กทารกแรกคลอดแต่ดันมีหำใหญ่ที่โดดเด่น ก็เลยหัวเราะเรียกผมเล่นๆ ว่าไอ้หำใหญ่ แต่พอผมโตขึ้นมา จะเรียกผมว่าหำใหญ่ ญาติโยมได้ยินก็จะไม่ดี ก็เลยเปลี่ยนเป็นเรียกเจ้าใหญ่เฉยๆ ไม่มีหำ ผมก็โตมากับวัดเป็นเด็กวัด เรียนโรงเรียนวัด หลวงพ่อมีความตั้งใจจะให้ผม

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 45

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 45
โดย saradio

เมื่อคนผู้นั้นแนะนำตนให้รู้จัก พลันก็รู้สึกว่า ชื่อ สุมาเต็กโช นั้นรู้สึกคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินมา แล้วพลันนึกออกว่า ว่าน่าจะเป็นนักปราชญ์ที่ผู้คนมักร่ำลือพูดถึงอยู่บ่อยๆ ที่มีฉายาว่า คันฉ่องวารีเป็นแน่ จึงสอบถามย้ำว่า "ท่านคือ อาจารย์ สุมาเต็กโช ฉายาคันฉ่องวารี นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่ผู้คนกล่าวถึงหรอกรึ" สุมาเต็กโช แย้มยิ้มอย่างถ่อมตน พูดว่า "ข้าพเจ้าเป็นนักปราชญ์จริง แต่เพียงแค่สอนหนังสือกับปรัชญาการเมืองการปกครอง คำว่านักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่คงไม่กล้ารับ" ผมเลยรู้ว่าน่าจะใช่คนเดียวกัน จึงชักชวนให้ไปคุยกันที่บ้าน ระหว่างที่เดินไปก็เหลือบสายตาไปสังเกตเด็กทั้งสามคนที่ติดตามสุมาเต็กโชมา เด็กพวกนี้ อายุประมาณสิบเอ็ดถึงสิบสองปีไม่น่าเกินนี้ คนที่ดูเด็กสุดน่าจะเป็นเด็กที่ชื่อจูกัดเหลียง หน้าตาดูน่ารักแฝงความฉลาดเฉลียว และมักกรอกตามองจับจ้องสังเกตุสิ่งต่างๆ อยู่ตลอด ต่างกับอีกคนที่ชื่อบังทอง เด็กคนนี้ตัวดำตาโปน คิ้วดกไมเป็นระเบียบ ดูไม่มีความน่ารักหนักไปทางขี้เหร่เสียมาก ส่วนเด็กที่ชื่อชีซีนั้น กลับมองไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไรแน่ เนื่องเพราะมันหน้าเปอะเปื้อนมอมแมมไปหมด แถมผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 44

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 44
โดย saradio

เมื่อโจโฉยกทัพมาถึงเขตเมืองลกเอี้ยน ก็ได้ยินข่าวว่าพระเจ้าเหี้ยนเต้ หนีลิฉุยกุยกี มาตั้งค่ายพักทัพอยู่ตรงประตูเมืองลกเอี้ยนทางตะวันตก โจโฉจึงรีบเร่งเดินทัพตามไปสมทบ จนได้มาเจอกัน พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงเรียกโจโฉให้เข้าเฝ้า โจโฉจึงคุกเข่าถวายบังคมกราบทูลว่า "ข้าพเจ้า โจโฉ มาอารักขาฝ่าบาทล่าช้า มีโทษสมควรตายแล้ว" พระเจ้าเหี้ยนเต้ ไหนเลยถือโทษโกรธเคือง รีบไปประคองโจโฉให้ลุกขึ้น บอกให้มิต้องคุกเข่า แล้วพูดว่า "ตอนนี้ลิฉุยกับกุยกี กำลังตามหลังเรามา ไม่ช้านานก็คงถึง ท่านก็เร่งคิดอ่านเถิดว่าจะทำประการใด" โจโฉจึงกราบทูลว่า "เรื่องนี้ ฝ่าบาทมิต้องเป็นกังวล ข้าพเจ้าจะจัดการเอง" พลันหันไปสั่งการแม่ทัพ ด้วยน้ำเสียงมีอำนาจเฉียบขาด ว่า แฮหัวตุ้นเจ้าเป็นกองหน้านำทหารไปห้าหมื่น สกัดขวางทางไว้ โจหอง ลิเตียน เจ้าสองคนนำทหารไปคนละสามหมื่น เป็นกองปีกซ้ายและขวา คอยทำการตีขนาบข้าง อิกิ๋ม งักจิ้น พวกเจ้านำทหารไปคนละสองหมื่นคอยเป็นกองหนุน หากทัพใดเพลี่ยงพล้ำให้ทำการเข้าหนุนเสริม โจหยิน เตียนอุน เจ้าสองคนไปกับทัพใหญ่ของข้า ส่วนเคาทู และเทียหยก เจ้านำทหารที่เหลือตั้งค่ายอารักขาพระเจ้าเหี้ยนเต้ไว้" พรเจ้าเหี้ยนเต้พอฟัง โจโฉสั่งการรบ ก็รู้สึกอุ่นใจ พลันตรัสชมว่า "โจ

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 43

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 43
โดย saradio

ทางด้านเอียวฮองกับหันเซียม เมื่อพาพระเจ้าเหี้ยนเต้หนีแยกไปตามทางเส้นทางสู่เมืองลกเอี้ยน ตันสินพ่อตาพระเจ้าเหี้ยนเต้ ที่หนีมาด้วยพร้อมพระมเหสี เห็นว่าที่นี่เป็นเขตเมืองหลวงเก่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองนี้ย่อมมีความจงรักภักดีต่อราชวงค์ฮั่นอยู่มาก จึงหมายหาอาสาสมัครมาเสริมกำลังพล พอผ่านแห่งหนตำบลใด ก็ให้เอียวฮองกับหันเซียม ไปป่าวประกาศ ว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ได้ทรงหนีภัยทรราช ลิฉุยกับกุยกีมา ผู้ใดขันอาสา ช่วยปกป้องพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้พ้นภัย ก็ให้มาเข้าร่วมกับกองทัพ หากการสำเร็จย่อมมีบำเหน็จรางวัลให้อย่างสูง ยามนั้นพลันมีผู้เข้าร่วมอยู่มากหลาย ทั้งชาวบ้านผู้มีใจภักดีต่อราชวงค์ฮั่น ทั้งผู้ยากไร้ที่อดยากหวังมีเพียงข้าวกิน หรือกระทั้งพวกต้องการตำแหน่งลาภยศในภายภาคหน้า ก็พาทยอยกันไปเข้าร่วมกับกองทัพพระเจ้าเหี้ยนเต้ นับจำนวนได้เพิ่มอีกเป็นหลักหมื่น เพียงแต่ตอนนั้นเป็น

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 42

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 42
โดย saradio

ในตอนนั้นแม้สถานภาพทางครอบครัวผมมีความสงบรักใคร่กลมเกลียว แต่สถานภาพทางการเมืองของผมเริ่มมีความง่อนแง่น ลิฉุยกับกุยกีนั้น มิได้ให้ความสำคัญกับผมอีกต่อไปแล้ว น้อยครั้งจะเรียกไปร่วมว่าราชการด้วย พอถึงคราวไปมัน ก็หาได้ฟังความคิดเห็นไม่ กลับรับฟังแต่พวกประจบสอพลอมัน และนับวันลิฉุยกับกุยกีก็ยิ่งหลงตัวเองมากขึ้นทุกทีเพราะฟังแต่คำประจบสอพลอ พาให้กำเริบเสิบสานหลบหลู่พระเจ้าเหี้ยนเต้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทั้งยังใช้อำนาจบาตรใหญ่กอบโกยผลประโยชน์เข้าหาตนเองอย่างหน้าด้านๆ โดยไม่สนใจสิ่งใดๆทั้งสิ้น พฤติกรรมนี้สร้างความไม่พอใจให้กับขุนนางผู้ใหญ่ที่จงรักภักดิ์ดีต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้อย่างสุดทน เอียวปิวกับจูฮีขุนนางผู้ใหญ่ผู้ภักดีจึงแอบนำความไปปรึกษาพระเจ้าเหี้ยนเต้ จูฮีคิดอ่านจะโค่นล้มลิฉุยกับกุยกีลง โดยเสนอแผนการ ขอให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ทรงมีราชโองการลับขอความช่วยเหลือไปยังโจโฉ ที่ตอนนี้มีกำลังกล้าแข็งอยู่ทางฝั่งตะวันออก คิดว่าโจโฉเป็นคนมีความสามารถมากอีกทั้งยังปกครองราษฎรได้อย่างดีจนตอนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา เห็นควรจะนำมันมารับใช้ในเมืองหลวง แต่

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 41

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 41
โดย saradio

ภายในห้องตอนนี้ สาวๆ นั่งรอเรียงรายกันอยู่ แต่มองดูแล้วกลับหายไปคนหนึ่ง นั่นคือตูตู้หลุน ด้วยภรรยาเยอะรายล้อม พลันไม่ได้ทันสังเกตว่านางไม่ได้เดินตามมาเสียแต่ทีแรก พอสอบถามหา ก็ได้ความว่า ตูตู้หลุนนั้น วันนี้รางกายหมักหมมมาทั้งวัน อีกทั้งยังดื่มเหล้าไปมาก ดังนั้นจึงขอชำระล้างร่างกายก่อน ผมก็เพียงยิ้มไม่ได้คิดกระไร จึงชักชวนอาเจินให้ขึ้นเตียงไปรวมกับภรรยาคนอื่นบนเตียง เพื่อเริ่มบทเริงรักกัน แต่อาเจินกลับกระซิบบอกผมว่า "หลุนเอ๋อนั้น เป็นคนที่ชอบเสียสละให้ผู้อื่นเสมอและมีน้ำใจกว้างขวางกับทุกคน แถมยังมีภาระงานหนักกว่าภรรยาคนอื่น ถ้าอย่างไร ถึงเป็นเรื่องเล็กน้อยท่านก็อย่าได้มองข้ามเป็นอันขาด ควรรอนางก่อน ดีไม่ดีเรื่องเพียงเล็กน้อย ท่านไม่คิด เราไม่คิด อาจจะสร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้กับนาง" คำพูดของอาเจิน ทำให้ผมได้ฉุกใจคิด เพราะตูตู้หลุนมักจะตามผมทุกอย่าง ผมว่ายังไงนางก็ว่าอย่างนั้น ทำให้บางครั้งผมละเลยความใส่ใจนางไปมากกว่าภรรยาคนอื่น เพราะคิดว่าจะอย่างไรนางก็ไม่มีปัญหาและยืนอยู่เคียงข้างผมตลอด แต่บางที่ความสนิทที่มองนางเป็นเหมือนของตาย ย่อมนำพามาซึ่ง

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 40

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 40
โดย saradio

หลังจากเสร็จศึกกับม้าเท้งแล้ว ผมจึงได้มีเวลากลับบ้าน ขณะนั้นผมอยู่กับตูตู้หลุนที่ค่ายทหาร เพราะยามศึกยามสงครามตูตู้หลุนมักอยู่ข้างกายผมเสมอ เพื่อทำหน้าที่เป็นองครักษ์ โดยนางจะแต่งกายคล้ายบุรุษแล้วคอยติดตามอยู่ข้างกายผมตลอด เมื่อได้เวลากลับบ้าน ผมกับตูตู้หลุน จึงพากันขึ้นม้าควบขี่ออกจากค่าย แล้วให้ม้าวิ่งย่างเยาะๆ ไปตามถนนในเมือง เพื่อมุ่งตรงไปยังจวนของผมที่อยู่ยังใจกลางเมืองเตียนอัน ยามนั้น นึกถึงหวนเตียวตายอย่างไม่สมควร เป็นที่ท้อแท้รันทดนัก เพราะหวนเตียวตามอุปนิสัย ถึงจะเป็นคนดูโผงผาง พูดจาไม่คิด แต่ก็ไม่ใช่คนคิดคดต่อเพื่อนฝูง ยิ่งเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกันมาอย่างพวกลิฉุย กุยกี มีแต่หวนเตียวจะช่วยปกป้อง การที่จะไประแวงมันว่ามันจะคิดทรยศนั้น มองยังไงผมก็คิดว่าเป็นไปได้ยาก แม้กระทั้งครั้งหนึ่ง ผมเคยขอให้มันช่วยดำเนินแผนอุบายเล่นงานตั๋งไป่ เพื่อจะได้ตั๋งไป่มาเป็น

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 39 (อัพเดทตัวละครและขยายรายละเอียด)

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 39 (อัพเดทตัวละครและขยายรายละเอียด)
โดย saradio

อาเจิน ภรรยาหลวงอันดับ 1 - ซ้อใหญ่ตัวเล็กหน้าเด็กตลอดกาล (เวลาในเนื้อเรื่องปัจจุบันอายุ 30ปี) ส่วนสัด 34-24-35 สูง 158 น้ำหนัก 40 กก อาเจิน เป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ที่มีบุคลิกเด่นล้ำกว่าคนธรรมดา เนื่องเพราะนางเป็นคนฉลาดรอบครอบ และมีความคิดสูง อีกทั้งมีความรู้ทั้งด้านการแพทย์ และสมุนไพรเป็นอย่างดี ความรู้หลายอย่างได้รับการถ่ายทอดมาจากกาฮูหยินผู้เป็นแม่ผัว ในอดีต แต่งงานกับกาเหวินเหอหรือกาเซี่ยงตัวจริง ตอนอายุ 15 ส่วนกาเซี่ยงตัวจริงอายุประมาณ 30 พอแต่งงานได้ไม่กี่วัน บังเอิญมีกองคาราวานจะเดินทางไปค้าขายในดินแดนตะวันตก กาเซี่ยงตัวจริงอยากจะไปดินแดนตะวันตก

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 38

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 38
โดย saradio

ย้อนกลับไปกล่าวถึงทางฝ่ายโจโฉ โดยเท้าความไปก่อนหน้านี้ ที่ผมเคยให้ลิฉุยออกราชโองการแต่งตั้งให้โจโฉไปเป็นเจ้าเมืองกุนจิ๋ว เพื่อปราบกบฏโพกผ้าเหลือง โดยกำหนดไว้หากทำสำเร็จจะได้รับพระราชทานยศเป็นขุนพลปราบตะวันออก โจโฉรับราชโองการ ทำตามแต่โดยดี จึงเร่งปราบโจรโพกผ้าเหลืองทางฝั่งตะวันออกให้สำเร็จ แต่ในยามนั้นโจโฉพบว่า โจรผ้าเหลืองที่เกิดในภูมิภาคนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการรวมตัวของราษฎรชาวนาที่ได้รับความแร้งแค้นกดขี่จากเจ้าเมืองฮูโต๋ ตั้งแต่สมัยตั๋งโต๊ะ จนตั๋งโต๊ะสิ้นอำนาจ มาถึงยุคอ้องอุ้นก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงทนไม่ไหว เลยได้รวมตัวกันลุกขึ้นก่อการยึดเมืองฮูโต๋ไว้ และทำการแข็งเมือง บริหารจัดการเอง ประจวบเหมาะเวลานั้น อ้องอุ้นรบติดพันกับพวกลิฉุย กุยกี จึงไม่อาจส่งกำลังไปช่วยเจ้าเมืองฮูโต๋ปราบกบฏ เจ้าเมืองฮูโต๋จึงถูกกลุ่มกบฏชาวนาโค่นล้ม ถูกจับประหาร และยึดการบริหารจัดการไว้ได้ เมื่อพวกกลุ่มกบฏชาวนายึดเมืองฮูโต๋ได้แล้ว ก็รู้ว่าอีกไม่นานก็อาจถูกส่งคนมาปราบ จึงคิดวิธีรวบรวมคนมาป้องกันเมือง จึงนำอุดมการณ์โจรผ้าเหลืองในอดีตมาปลุกระดม เลยสามารถรวบรวมไพล่พลได้จำนวนมาก โจโฉเมื่อทราบดังนั้น จึงวิเคราะห์ว่า โจรผ้าเหลืองกลุ่มนี้ ไม่ได้เป็นกลุ่มโจรผ้า

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 37

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 37
โดย saradio

แล้วไม่นานนักผมกับเตียวสิ้วก็กลับถึงเตียนอัน ยามนั้นกำแพงเมืองหอรบต่างๆ ของเมืองเตียนอัน ถูกจัดเตรียมพร้อมรับศึก ผมเมื่อเข้ามาในเมืองเตียนอันแล้ว ก็รีบไปหาลิฉุย ตอนนั้น ลิฉุย กุยกี หวนเตียวและเตียวเจ ต่างมาประชุมการศึกจัดเตรียมทัพกันอยู่ พอได้รับรายงานว่าผมขอเข้าพบ ก็ให้เชิญเข้ามา ผมเมื่อได้พบกับลิฉุย ก็รายงานสถานการณ์ฝ่ายตรงข้ามพร้อมเสนอแผนการ ว่า ม้าเท้งกับหันซุย รวมกันแล้วมีทหาร ประมาณ 15 หมื่น แต่มีเสบียงกินได้ไม่เกินเดือน วิธีจะเอาชนะ ก็แค่เพียงป้องกันเมืองอย่างแข็งขัน รอพวกมันเสบียงหมด ก็จะล่าถอยไปเอง ถึงตอนนั้น ค่อยส่งทหารไปตามตีเอาชัย ก็สามารถจับ ม้าเท้งกับหันซุยได้โดยง่าย ลิบ้องกับอ่องหอง ที่ร่วมประชุมทัพในขณะนั้นกลับคัดค้านไม่เห็นด้วย บอกว่าสมควรออกไปรบนอกเมือง เนื่องเพราะ ทหารของเตียนอันมีมากกว่า การจัดการกับม้าเท้งไม่ใช่เรื่องยาก สมควรใช้โอกาสนี้ปราบม้าเท้งให้เด็ดขาด เพื่อแสดงแสงยานุภาพ ไม่ให้หัวเมืองอื่นกล้าคิดก่อการอีก ทราบมาว่า กองทัพหน้าเป็นม้าเฉียว บุตรของม้าเท้ง ทั้งลิบ้องกับอ่องหอง จึงขันอาสา นำทหารหมื่นหนึ่งออกไปปราบ

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 36

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 36
โดย saradio

เมื่อไปถึงเรือนหอเจ้าสาว พอเคาะห้อง เสี่ยวจูก็เป็นผู้มาเปิด เมื่อก้าวเข้าไปข้างใน ก็เห็นห้องหับถูกตกแต่งประดับประดาไปด้วยผ้าผวยสีแดงสด และจุดเทียนมงคลเล่มใหญ่ไว้สองเล่ม ส่องแสงสว่างสลัวสร้างบรรยากาศน่าเสียตัวยิ่งนัก บนโต๊ะยังมีสุรามงคลไว้อีกปานหนึ่งพร้อมกลับแกล้ม เมื่อมองไปที่เตียง ก็เห็นเจ้าสาวนั่งสงบเสงี่ยมเรียบร้อยคอยท่าอยู่ เสี่ยวจูเมื่อเปิดประตูให้ผมเข้ามาแล้ว นางก็ขอตัวออกจากห้อง ผมจึงเดินไปหาเจ้าสาวด้วยใจอันตื่นเต้น เจ้าสาวเองก็ดูตื่นเต้นใจไม่แพ้กัน มือทั้งสองของนางขยับมากุมกันไว้ แล้วกำบีบมือตัวเอง พอผมเลิกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก ก็ปรากฏภาพสาวงามวัยแรกรุ่น ที่หน้าตาสวยหมดจรด ดูพริ้มพรายน่าเชยชม ชนิดที่เห็นแล้วต้องตะลึงตาค้าง เพราะไม่คิดว่า นางจะเติบโตเป็นสาวขึ้นมางดงามได้ถึงเพียงนี้ งิวอี้หลางมีอาการเขินหน้าแดงซ่าน แต่ก็ยังบังคับตัวเองให้ดูปกติ พูดเบาๆ ว่าอาจารย์ ผมจึงพูดเหย้าแหย่นางว่า "เจ้ายังเรียกข้าว่าอาจารย์อยู่อีกหรือ ควรเรียก สามีจึงถูกต้อง เมื่อครู่ไยไม่ใช่เรากราบไหว้ฟ้าดินกันแล้ว" งิวอี้หลางก้มหน้ากัดริมฝีปาก ยิ้มอย่างนึกอาย ไม่กล้าเรียกคำนั้นออกมา เลยเบือนหน้า พยายามปั้นหน้าให้ราบเรียบ กล่าวเฉไฉว่า "ท่านอาจารย์ มีภรรยามากหลาย คำนั้นย่อมมีคนกล่าวเรียกอยู่แล้วมิใช่หรือ ข้าพเจ้าไร้ความสำคัญใด ไยต้องให้ข้าพเจ้าต้องกล่าวเรียกอีก" วาจางิวอี้

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 35

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 35
โดย saradio

ในยุคสมัย ที่ยึดถืออำนาจเป็นใหญ่ บุคคลใดมีอำนาจแล้วมิรู้จักใช้ก็ถือว่าโง่งม แต่อำนาจมันคือดาบสองคม หากใช้มันให้ถูกวิธีย่อมมีประโยชน์กับตนเอง แต่หากมิรู้วิธีใช้หรือใช้ไม่ถูกต้องย่อมนำมาซึ่งความวิบัติ ผมเองแม้มาจากยุคที่สิทธิมนุษย์เท่าเทียม แต่ต้องหลงมาในยุคที่แบ่งชนชั้นความเป็นมนุษย์ ในช่วงแรกๆนั่น แม้รับไม่ได้ กับอะไรหลายๆอย่างที่พบเห็น และเกินเลยกับคำว่าสิทธิมนุษยชน แต่จนใจไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เมื่ออยู่ไปนานๆ ก็ต้องทำใจและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และบางครั้งการได้เป็นเจ้าคนนายคน ที่สามารถลิขิตชีวิตผู้อื่นได้ มันย่อมปลุกความบ้าอำนาจที่มีอยู่ในทุกผู้ทุกคนให้ตื่นขึ้นมา แม้แต่ผมเองก็ไม่เว้น โดยเฉพาะเมื่อเห็นสาวน้อยพร้อมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย และเรียกผมว่านายท่าน ก็บันดาลให้นึกถึงหนังเอวี เมดกับนายท่าน ขึ้นมาในหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยามนี้ไม่มีใครมาขัดขวาง ย่อมเปิดทางให้ผมเล่นบทรักกับนางได้สมใจ เมื่อพานางถึงห้องแล้ว ก็คัดดานลงกลอนประตู ชวนนางมุดผ้าม่าน ขึ้นไปบน

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 34

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 34
โดย saradio

ฮูหยินรองเมื่อแปรพักตร์มาข้างผมเต็มตัว ค่ำคืนนั้นนางจึงอ่อนหวานออเซาะเอาใจเป็นพิเศษ แม้ปากยังเจ็บมีแผลภายใน ก็มิย่นย่อ ยังเอาอกเอาใจดูดเลียควยผมอย่างมินำพาความปวดแสบในปาก แต่ถึงกระนั้น มันก็มีสะดุดหยุดไม่ต่อเนื่องเพราะความเจ็บแสบ บางครั้งถึงกับแสดงออกผ่านทางสีหน้าออกมาให้เห็น ผมเห็นแล้วแทนที่จะมีอารมณ์ กับรู้สึกเวทนาสงสาร เลยดึงนางขึ้นมากอด มิให้ทำต่อ กระซิบบอกนางว่า "เจ้าอย่าได้ทำต่อเลย หากเจ็บก็อย่าได้ฝืนทน จะทรมานเสียเปล่าๆ" ฮูหยินรองกลับเข้าใจว่าผมรักเป็นห่วงนาง พลันรู้สึกซาบซึ้งใจจนยิ้มกริ่ม แต่รอยยิ้มพลันหดหาย กลายเป็นขุ่นเคือง เมื่อผมพูดต่อไปว่า "ข้าเห็นเสี่ยวจูยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง ไฉนนางจึงไม่เข้ามา หากนางอยู่ด้วยก็อาจช่วยบรรเทาแรงเจ้า" ฮูหยินรองพลันสะบัดตัวลุกขึ้นจากอ้อมกอด สีหน้าขุ่นเคือง พูดแง่งอนตัดพ้อว่า "ทีแรกนึกว่าท่านเป็นหวง หลงดีใจ ที่ไหนได้ ที่แท้ท่านก็หาข้ออ้างให้เสี่ยวจูเข้ามานี่เอง" อากัปกิริยาของ ฮูหยินรองทำเอาผมนึกเอะใจ เลยพลันได้คิดได้ว่า หรือที่เสี่ยวจูไม่ได้เข้ามา เพราะฮูหยินรองไม่อนุญาต อาจเกิดจากการหึงหวง จึงลุกขึ้นนั่งแล้วขยับเข้า

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 33

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 33
โดย saradio

ในตอนรุ่งเช้า เมื่อผมกับม้าเท้งมาเจอหน้ากันในห้องโถงเพื่อรับประทานอาหาร ม้าเท้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังยิ้มแย้มพูดจากับผมเป็นปกติ ผมเห็นมันเดินขากระเผลก คล้ายคนได้รับบาดเจ็บที่ฝ่าเท้า ก็แอบนึกหัวร่อ แต่แสร้งตกใจตีหน้าตายถามว่า "อ้า พี่ม้าเท้ง พี่ได้รับบาดเจ็บมารึ ไม่ทราบว่าไปโดนอะไรมา" ( ก็เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้เดรัจฉาน ) ม้าเท้ง สบถด่าในใจอย่างเคืองโกรธ แต่แย้มยิ้มตอบว่า "อ้อ เพียงโดนก้อนหินบาด เจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก น้องเซี่ยงอย่าได้ใส่ใจเลย" ( ควายแท้ๆเลยมึง เย็ดไม่เสร็จดันเจ็บตัวอีก ) ผมนึกหัวร่อสมน้ำหน้า แต่แสร้งปั้นหน้าเป็นห่วง พูดว่า "เมื่อท่านไม่เป็นอะไรมาก ข้าพเจ้าก็เบาใจ" หลังจากรับประทานอาหารพูดคุยกันสักครู่ มาเท้งก็อ้างว่ามีธุระต้องไปสะสาง จึงจะเดินทางกลับจวน ผมกับฮูหยินรองจึงเดินออกไปส่งที่หน้าประตูตามมารยาท ทันใดนั้นเอง พ่อบ้านก็วิ่งหน้าตาตื่นมาหาฮูหยินรอง แจ้งว่า คุณหนูงิวเกิดไม่สบาย เป็นอันใดไม่ทราบ ดูท่าทางอาการหนัก ให้รีบไปดู ฮูหยินรองแตกตื่นสงสัย จึงรีบเร่งรุดไปดู ยามนั้นม้าเท้งจะกลับแล้ว เพียงแต่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะไปดูด้วย เนื่องเพราะ คุณหนูงิวก็เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ตนเอง ผมเองก็จะตามไปอีกคน ฮูหยินรองไม่

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 32

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 32
โดย saradio

ผมพลันแย้มยิ้ม ด้วยท่าทางเมามายโง่งม พูดว่า "ฮูหยินรองช่างรู้ใจนัก แต่คล้ายกับขาดไปผู้หนึ่ง เสี่ยวถิงเล่านางมิอยู่ด้วยหรือ" ฮูหยินรอง ตอบว่า "เสี่ยวถิง วันนี้ตอนบ่ายนางตกฤดู จึงยังมิพร้อม รอไว้วันหลังจะให้ท่านได้สมใจกับนาง มาเถอะข้าพเจ้ารอท่านจนย่ำแย่แล้ว" ผมทำเป็นหัวร่อถูกใจ กับคำว่า รอจนย่ำแย่แล้ว เลยรีบลงมือถอดเสื้อผ้าตนเองออกจนหมด แล้วรีบขึ้นไปบนเตียง ครุ่นคิดในใจว่า วันนี้จะสำแดงเดช ให้ไอ้ม้าเท้งได้ประจักเสียบ้างว่า ไผเป็นไผ ฉับพลันนั้นผมก็จับตัวฮูหยินรองพลิกหงายพร้อมช้อนข้อพับหัวเข่าจับดันแบะหว่างขาจนถ่างแยก ให้หีแหกนูนเด่นขึ้นมา ฮูหยินรองตกใจ เนื่องเพราะไม่คาดคิด ว่าผมจะลงมือรวบรัดโดยไม่เล้าโลม พลันรู้สึกหวาดหวั่นกลัวผมเห็นหีแล้วจับได้ เนื่องเพราะหีนางนี้เพิ่งถูกม้าเท้งชำเรามา แม้จะยังไม่ถึงขั้นน้ำแตกในทิ้งไว้เป็นหลักฐาน แต่ความฉ่ำแฉะและรูที่เปิดฉ่ำเยิ้มจากการโดนทะลวงมาก่อนหน้านี้ยังมีร่องรอยให้เห็น จึงหวั่นกลัวว่าจะถูกจับได้ รีบทำเป็นกระดากเอียงอาย ร้องว่า "ท่านอย่าได้ทำอุกอาจเยี่ยงนี้ ข้าพเจ้าอับอายแล้ว" พร้อมกับเสียงร้อง นางพยายามดิ้นตัวจะหุบขาเข้าหากันเพื่อมิให้ผมเห็นหีนางได้ชัด แต่ภายใต้เงื้อมือที่เจตนาถ่างขาแหกหีนางเช่นนี้ ไหนเลยยินยอมให้นางหุบขาเข้าหากันได้ ไม่ว่านางพยายามเกร็งขาหุบเข้าหากันอย่างไร ผมก็ไม่ปล่อยให้นางหุบขาเข้าหากัน ยามนั้นเห็นหีของนางเปียกแฉะ กลีบเนื้อปากรูดูฉ่ำน้ำเป็นมันวาว จึงหัวเราะพูดว่า "เจ้าคงรอจนย่ำแย่แล้วจริงๆ ถึงกับน้ำหีฉ่ำแฉะ จนรูหยาดเยิ้ม โอ้ว เช่นนี้ดียิ่ง นับว่าไม่ต้องเสียเวลา" ฮูหยินรองพอฟัง นึกว่าผม

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 31

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 31
โดย saradio

ตูตู้หลุนพูดจาอากัปกิริยาแบบนี้ ไม่บอกก็คงรู้ ว่าอาเจินคงเล่าให้นางฟังแล้ว เรื่องผมมีอะไรกับฮูหยินรอง ยามนั้นเหลือบตาแลมองดูนาง เห็นนางยามแสดงความหึงหวงนั้นอากัปกิริยากลับน่าดูไม่น้อย จะว่าไป ตูตู้หลุนนั้น ไม่เคยแสดงจริตผู้หญิงมากมายนัก เนื่องเพราะนางเป็นชาวยุทธจักรหยาบกระด้าง เติบโตมากับเหล่าบุรุษ ครั้งเจอนางใหม่ๆ อุปนิสัยบุคลิกในยามนั้น ก็ไม่ต่างจากทอมบอยในยุคปัจจุบัน แต่หลังจากได้นางเป็นเมียแล้ว นางอยู่คลุกคลีตีโมงกับอาเจินมานาน จึงซึมซับความเป็นอิสตรีขึ้นมาบ้าง พลันจะเห็นชัดในตอนนี้ ที่นางแสดงความหึงหวงผ่านทางอากัปกิริยาและคำพูด ผมรู้สึกว่านางดูน่ารัก จนอดไม่ได้ที่จะยิ้มมอง แม้ไม่ได้เห็นสีหน้านาง แต่อากัปกิริยา ก็น่าดูยิ่ง ตูตู้หลุนเข้าใจว่าผม ยังยิ้มหยอกล้อก่อกวน นางมีอารมณ์เง้างอนขุ่นใจอยู่แล้ว พลันนึกโมโหมันไส้ จึงทำเป็นยกกระบี่จะแทงจริงๆ ผมรู้ว่านางเพียงแต่ทำท่าทีข่มขู่ มิกล้าแทงจริง แต่ก็อดหวาดเสียวมิได้ รีบกระโดดถอยให้พ้นรัศมี ร้องห้ามว่า "อย่าได้เล่นแบบนี้ เดี๋ยวผีผลัก เจ้าจะเป็นม่ายเอา" ตูตู้หลุนจึงเก็บกระบี่คืนฝักอย่างเสียมิได้ ยามนั้นผมจึงได้สังเกตเห็น สิ่งผิดปกติบนใบหน้าที่โผล่พ้นผ้าคลุมหน้าของนาง รู้สึกขนคิ้วนางเรียงเป็นรุปสวยกว่าแต่ก่อน ขอบตามีสีสันดังฉาดแต้ม ยามนึกสงสัยจึงเข้าไปกระตุกดึงผ้าคลุมหน้าของนางออก ตูตู้หลุนมิทันได้ระวัง จึงไม่ได้ปัดป้อง พลันได้เห็นหน้าของนางที่เติมแต่งไปด้วยเครื่องสำอางอย่างจัดเต็ม ผมถึงกับปล่อย หัวเราะดังคริก